“ท…ทำไมกัน?” หมี่เจิ้นกล่าวถามขึ้นอย่างเจ็บใจ
เฉียเอ้อนั้นตอบกลับไป “เหตุผลง่ายๆ เพราะว่าตอนนี้เจ้าหมดประโยชน์แล้ว แทนที่จะเสียแรงไปเอาแก่นเลือดจากร่างมัน ข้าเอาแก่นเลือดจากร่างเจ้ามาจะง่ายกว่านัก”
ตอนนี้ในมือของเฉียเอ้อนั้นมันมีก้อนเลือดทรงพลังลอยอยู่
นี่คือแก่นเลือดของหมี่เจิ้น!
พริบตาที่ผ่านมานี้เฉียเอ้อได้โจมตีหมี่เจิ้นและดูดเอาแก่นเลือดในร่างของเขาออกมากว่าครึ่งในคราเดียว
“ข้า…ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!” หมี่เจิ้นนั้นคับแค้นสุดหัวใจ
แต่เขานั้นก็ไม่อาจจะขยับตัวได้แล้ว
เฉียเอ้อนั้นไม่คิดเกรงกลัวความแค้นของหมี่เจิ้นและหันไปพูดกับหมี่เทียนด้วยรอยยิ้มแทน “ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะอยู่กับไอ้เด็กนั่นมาตลอด! ไอ้เด็กนี่มันเป็นหายนะของข้าจริงๆ ทำเรื่องข้าเสียแผนมาหลายครั้งและสุดท้ายครั้งนี้ก็พลาดเพราะมือของมันอีก!”
หมี่เทียนขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “หากมิใช่เพราะเจ้าลงมือกับเขาในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดข้าเองก็คงยังไม่รู้เรื่องราวจนถึงตอนนี้ ข้าเองก็ไม่คิดฝันว่าร่างแยกของเจ้าบนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างมันจะตื่นขึ้นมานานแสนนานแล้ว! ดูท่าแผนของเจ้านั้นคงเริ่มจากสวรรค์ของข้าเป็นที่แรกๆ แน่!”
เฉียเอ้อนั้นยิ้มตอบกลับไป “สวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นมันเป็นฐานหลักของสี่เผ่าภูตแท้สี่ทิศ ข้านั้นได้เลือดของสามเผ่าที่เหลือมาแล้ว เหลือแค่เผ่ามังกรเจ้าเป็นเป้าหมายสุดท้ายเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าสุดท้ายข้าจะต้องมาเสียแผนเพราะไอ้เด็กเวรนี่อีกจนได้ ครั้งนี้ข้าอยากจะสังหารมันลงเสียจริงๆ แล้ว!”
หมี่เทียนหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยิน สามจากสี่เผ่า!
มันหมายความว่าอีกสามเผ่าที่เหลือนั้นตกอยู่ในมือของศัตรูไปแล้ว!
ใช่แล้ว เฉียเอ้อนั้นมันก็คือร่างแยกของศิลาโลหิตโกลาหลอย่างไม่ต้องสงสัย!
แน่นอนว่าเขายังเป็นหนึ่งในมือสังหารที่ลงมือสังหารหมี่เทียนด้วย
มันหมายความว่าเฉียเอ้อคนนี้ได้สติตื่นขึ้นมานับแสนๆ ปีแล้วแน่นอน
เขานั้นวางแผนอย่างแยบยลทำให้ทั้งสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างตกอยู่ในกำมือของตน
เดิมทีแล้วหมี่เทียนยังไม่รู้ถึงตัวตนของเฉียเอ้อจนเขาได้ไปเจอกับร่างแยกศิลาโลหิตโกลาหลบนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นที่คิดสังหารเย่หยวนทำให้เขาได้นึกออกในที่สุด
คลื่นพลังของคนที่วางแผนสังหารเขานั้นมันช่างเหมือนกับศิลาโลหิตโกลาหลนี้!
แต่เช่นนั้นทุกอย่างมันก็ดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที
หมี่เจิ้นนั้นสมคบคิดกับเฉียเอ้อ ขายเขาให้ศัตรู
แต่หมี่เจิ้นนั้นไม่ได้รู้เลยว่าคนที่เขาร่วมมือด้วยนั้นมันเป็นวายร้ายที่ทรงพลังแค่ไหน!
เฉียเอ้อนั้นเป็นแค่ร่างแยกของศิลาโลหิตโกลาหล!
ขนาดร่างแยกยังมีพลังระดับล้ำสวรรค์ได้ เช่นนั้นแล้วร่างจริงจะทรงพลังแค่ไหน!
บางทีแล้วเขาอาจจะใกล้เปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้เต็มที!
“เจ้าลืมเรื่องนั้นไปได้เลย! ต่อให้ข้าต้องแลกชีวิตกับเจ้าวันนี้ข้าก็จะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าเข้าถึงเย่หยวน!”
หมี่เทียนประกาศกร้าวขึ้น
เฉียเอ้อยิ้มตอบกลับมา “เจ้าไม่ต้องเครียดขนาดนั้นหรอก ให้พูดตรงๆ ข้าอยากจะสังหารมันลงจริงๆ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เจ้ารู้ไว้เถอะว่าวันนั้นมันใกล้จะมาถึงเต็มทีแล้ว ที่สำคัญไปกว่านั้นข้ายังได้เลือดของสี่เผ่าสี่ทิศของพวกเจ้ามาแล้วด้วย สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือนำเลือดทั้งสี่เผ่านี้กลับไปให้คลื่นกำเนิดร่างต้นของข้าบรรลุขั้นสุด!”
หมี่เทียนนั้นจ้องมองอีกฝ่ายด้วยจิตสังหารหนักหน่วง
เฉียเอ้อยิ้มขึ้น “ทำไม? เจ้าคิดจะสู้กันจริงๆ? เจ้าน่าจะรู้นะว่าข้าเองก็ได้ประโยชน์จากตัวหมี่เจิ้นมาไม่น้อย
ตอนนี้ข้าไม่ได้มีพลังเท่าตอนที่ข้าสังหารเจ้าหรอก! ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็พัฒนาขึ้นไปมากแต่อย่างมากเราก็คงแค่เสมอกัน
เจ้ารั้งข้าไว้ไม่ได้ เอาล่ะ ไว้คุยกันใหม่วันหน้า ข้าขอปล่อยให้พี่น้องเจ้าได้พูดคุยกันต่อแล้ว ลาก่อน”
พูดจบเฉียเอ้อนั้นก็หายตัวไปทันที
หมี่เทียนนั้นไม่ขยับและไม่กล้าจะลงมือต่ออีกฝ่ายจริงๆ
เพราะแค่ร่างแยกยังทรงพลังขนาดนี้ หมี่เทียนไม่อาจจะจินตนาการได้เลยว่าร่างจริงของศิลาโลหิตโกลาหลนั้นมันจะทรงพลังแค่ไหน!
“พวกเจ้าพูด…เรื่องอะไรกัน?” หมี่เจิ้นถามขึ้นมาด้วยเสียงเบาๆ ใกล้หมดลม
หมี่เทียนหันไปมองและถอนหายใจยาว
เจ้าบ้านี่มันโง่เง่าอย่างไร้ที่สิ้นสุด!
เขานั้นเล่าเรื่องราวของศิลาโลหิตโกลาหลออกมาให้หมี่เจิ้นฟังจนเขานั้นต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายและวิญญาณ
ตอนนี้ความอับอายและความคับแค้นสุมขึ้นในใจของเขา
หมี่เจิ้นนั้นเป็นคนไม่ยอมคน
แน่นอนว่าเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเป็นแค่หมากในกระดานของคนอื่นเช่นนี้มานานนับแสนๆ ปี
เขาย่อมแทบอยากจะปลิดชีวิตตัวเองทิ้งให้มันสิ้นๆ ไป
“พี่ข้า ข้า…ข้าผิดไปแล้ว!”
ผู้ปกครองสวรรค์ เจ้าโลกล้ำสวรรค์คนนี้กลับร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง
…
ไม่นานจากนั้นสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างก็ตกสู่ความวุ่นวายอย่างหนักหน่วงไฟสงครามลุกลามไปทุกหย่อมหญ้า
สี่เผ่าจตุรทิศนั้นต่างตกสู่สภาวะสงครามภายใน
แทบทุกวันมันจะมีข่าวการตายลงของเจ้าโลกเกิดขึ้นเสมอๆ
ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นบรรพบุรุษของสามเผ่าที่เหลือไม่เคยปรากฏตัวออกมาควบคุมสถานการณ์
เป็นเวลานั้นเองที่คนทั้งหลายได้เข้าใจว่าสถานการณ์นี้มันไม่ปกติ
หมี่เทียนเองก็ทุ่มกำลังคนไปมากมายในการไล่ล่าเนื้อร้ายในเผ่ามังกรฟ้า
คนทั้งหลายนั้นถูกเย่หยวนหมายหัวไว้แต่แรกแล้ว
เย่หยวนนั้นมีคลื่นกำเนิดเลือดแน่นอนว่าย่อมสามารถมองออกได้ง่ายดาย
เผ่ามังกรนั้นกลับมีเจ้าโลกกว่าหนึ่งในสามตกอยู่ในการควบคุมของเผ่าเลือด!
ศึกนี้มันจึงทำให้เผ่ามังกรฟ้าเสียกำลังไปอย่างมาก
หลังจากจบเรื่องในเผ่ามังกรลงแล้วหมี่เทียนก็ได้พาคนเผ่ามังกรที่เหลือออกไปช่วยเหลือเผ่าอื่นๆ บนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่าง
หลังจากทำเช่นนั้นแล้วสภาพของสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างมันจึงค่อยๆ สงบลง
แต่ว่าเจ้าโลกของสี่เผ่าใหญ่นั้นมันตายไปมากมายกว่าร้อยคน!
นอกจากนั้นบรรพบุรุษของสามเผ่าที่เหลือยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!
สวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นเสียหายอย่างหนักหน่วงในสงครามครั้งนี้!
หายนะนี้มันกินเวลากว่าสิบปีกว่าที่จะสงบลงจริงๆ
ในคงคานิรันดร์นั้นคลื่นลมยังคงหมุนพัดไม่หยุด
คลื่นจากร่างของเย่หยวนมันปะทุขึ้นรุนแรงจนบรรลุมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นปลายขึ้นมาทันที!
“ฮา…บ่มเพาะกลับมาจนได้! วิญญาณดั่งเดิมเผ่ามังกรของข้าเองก็กลับมาสมบูรณ์อีกครั้งแล้วด้วย
อีกทั้งยังพัฒนาไปกว่าก่อนด้วยซ้ำ! การใช้พลังโกลาหลในคงคานิรันดร์บ่มเพาะนี้เส้นทางของข้ามันคงถูกต้องแล้ว! เพียงแค่ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเส้นทางนี้มันจะพาข้าไปถึงจุดไหนกันแน่…หืม? ทำไมถึงมีข้าคนเดียวในคงคานิรันดร์กัน?”
เย่หยวนเดินขึ้นน้ำมาและพบว่าในคงคานิรันดร์นั้นมันว่างเปล่าไร้เงาคน
คงคานิรันดร์ที่เดิมทีมียอดฝีมือมากมายแช่ตัวอยู่นั้นกลับมีแต่เขาคนเดียวที่เหลืออยู่
แต่ไม่นานเขาก็อดหัวเราะแห้งๆ อย่างรู้สึกผิดออกมาไม่ได้ “เอ่อ ข้าดูดกลืนพลังโกลาหลเช่นนั้นไปมันคงทำให้พวกเขาไม่อาจจะบ่มเพาะได้แน่แล้ว ผู้อาวุโสหมี่เทียนท่านน่าจะฟื้นแล้วมั้ง? ไม่รู้ว่าเรื่องราวภายนอกเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
ได้เห็นเย่หยวนเดินออกมาหลงหมินก็ต้องเบิกตากว้างค้างมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง “เจ้า…เจ้ากลับบ่มเพาะขึ้นมาสูงกว่าเก่า!”
เขานั้นถูกหมี่เทียนใช้งานให้มาเฝ้าเย่หยวนรอให้เย่หยวนออกจากการเก็บตัว
เพียงแค่ว่าหลงหมินเองก็ไม่คิดฝัน นอกจากเย่หยวนจะคืนกลับมาได้แล้วเขายังบรรลุขึ้นมาจากแต่ก่อนอีกด้วย!
ตอนนี้พลังจากร่างของเย่หยวนนั้นมันช่างดูลึกลับและเกินจะหยั่งได้
หรือว่านี่คือพลังโกลาหลจากคงคานิรันดร์?
ตอนนี้หลงหมินได้แต่ต้องรู้สึกอิจฉาเย่หยวนขึ้นมา
เจ้าหมอนี่มันเก่งกาจนัก!
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปเมื่อเห็นสายตานั้น “จริงๆ แล้ววรยุทธบ่มเพาะใหม่ของข้านี้มันก็แค่การพลิกกลับวรยุทธบ่มเพาะเดิมของข้าเท่านั้น การบ่มเพาะกลับขึ้นมาจึงมิใช่เรื่องยากเย็นเกินความสามารถ”
หลงหมินผงะไปทันที “ค…แค่พลิกกลับการบ่มเพาะก็สามารถสร้างปาฏิหาริย์เช่นนี้ได้?”
เย่หยวนพยักหน้ารับส่งๆ ไป “ผู้อาวุโส สภาพด้านนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”
เมื่อเขาได้ยินหลงหมินก็ต้องทำหน้าเครียดขึ้นมาทันที
เขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีในสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนี้ให้เย่หยวนฟัง
เจ้าโลกตายลงไปกว่าร้อยคน มันเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นมาบนสวรรค์ใดๆ นานแสนนานแล้ว
สวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นเรียกได้ว่าเสียกำลังไปเกือบครึ่งในทันที!
นอกจากนั้นแล้วสามบรรพบุรุษของสามเผ่าใหญ่ยังหายสาบสูญไป ดูท่าคงมีโอกาสรอดน้อยเต็มที
เท่านี้แผนการของเผ่าเลือดบนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างมันก็นับได้ว่าสำเร็จไปได้ด้วยดี!
ดูท่าแล้วตอนนี้แม้แต่หมี่เทียนเองก็คงต้องทำงานจนหัวแทบระเบิดแล้วกระมัง?
“อ่า จริงด้วย บรรพบุรุษท่านสั่งข้าไว้ว่าให้มอบสิ่งนี้ให้แก่เจ้า!”
พูดไปหลงหมินก็ส่งขวดใบน้อยสองขวดให้เย่หยวน
สิ่งที่อยู่ในขวดนั้นมันคือแก่นเลือดสีแดงสดของพยัคฆ์ขาวและเต่าดำ!
………………………..