“แม้ว่าพวกเขาจะกลายสภาพเป็นเช่นนี้ มันก็ทำให้เผ่าเลือดเข้าใจถึงสายเลือดภูตแท้ทั้งหลายอย่างลึกซึ้งแล้ว! ตอนนี้เมื่อพวกมันได้แก่นเลือดของเผ่าทั้งสี่ไปมันคงย่นเวลาที่ศิลาโลหิตโกลาหลจะตื่นขึ้นมาได้มากทีเดียว!”
เมื่อตรวจดูร่างกายนักยุทธสายเลือดที่กลืนโอสถลงไปเสร็จเย่หยวนก็ลุกขึ้นมากล่าวต่อ
ก็จริงที่ว่านักยุทธสายเลือดทั้งหลายนี้เป็นผลงานที่ล้มเหลว
แต่กำลังฝีมือในการต่อสู้ของพวกเขานั้นมันยังพัฒนาขึ้นไปมากมายนัก!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวจ้าวเยว่นั้นที่ใกล้เคียงยอดเจ้าโลก!
เรื่องเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีทางทำได้หากไม่มีการวิจัยจริงจัง
หมี่เทียนกล่าวขึ้น “ข้าไม่มั่นใจเลยว่าจะเอาชนะเฉียเอ้อนั้นมันได้!”
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นขึ้น
“แค่ร่างแยกยังทรงพลังขนาดนั้นแล้ว? ผู้อาวุโส ท่านคิดว่ามันจะสามารถก้าวผ่านล้ำสวรรค์ไปได้หรือไม่?”
หมี่เทียนได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “จะผ่านล้ำสวรรค์ไปได้หรือไม่นั้นมันไม่มีใครทราบแน่! มันเคยมียอดฝีมือล้ำสวรรค์คนหนึ่งที่คิดจะผ่านประตูแห่งชีวานิรันดร์ไปแต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นเขาที่ตายตกลงไป! คนทั้งหลายเข้าใจว่าการเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ออกนั้นคือการเข้าถึงอาณาจักรล้ำสวรรค์! แต่นี่มันก็แค่ความเข้าใจผิดของผู้คนเท่านั้น! เพราะมันไม่มีใครเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ออกได้จนสุดจริงๆ! หลุนฮวยเฒ่าเองก็คงใกล้ถึงระดับนั้นเต็มที หากศิลาโลหิตโกลาหลมันตื่นขึ้นมาจริงๆ แล้วข้าว่ามันก็คงอยู่ในระดับนั้นเช่นกัน! ส่วนเรื่องที่ว่ามันจะก้าวผ่านล้ำสวรรค์ไปได้หรือไม่นั้น มันไม่มีทางทราบได้แน่ชัด!”
ยอดฝีมือล้ำสวรรค์นั้นคือเจ้าโลกที่สามารถเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ออกได้!
เมื่อประตูแห่งชีวานิรันดร์เปิดออกมาแล้วเจ้าโลกผู้นั้นก็จะสามารถเชื่อมต่อกับเต๋าสวรรค์และสามารถดึงเอาพลังศักดิ์สิทธิ์ออกมาใช้งาน
เพราะฉะนั้นกำลังของพวกเขามันจึงเหนือล้ำกว่าเจ้าโลกอื่นๆ ไปมากล้ำ
แต่ว่ายอดฝีมือล้ำสวรรค์นั้นก็ไม่ได้เปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้กว้างเท่ากันสิ้น พวกเขานั้นเปิดได้เพียงแค่ด้านเดียว
ประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันเป็นประตูคู่สองบาน คนที่เปิดได้ทั้งสองบานนั้นต่างหากคือคนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดบนสวรรค์!
มีเพียงแค่คนที่ก้าวไปถึงระดับนั้นได้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ไล่ล่าวิชชา
หมี่เทียนในตอนนี้เปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ด้านหนึ่งได้จนสุดทำให้กำลังของเขานั้นมันเหนือล้ำกว่าเจ้าโลกคงเนียและเจ้าโลกยู่เชียน!
“แต่ที่มั่นใจได้เลยคือหากใครสามารถเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้สมบูรณ์แล้วกำลังของพวกเขาเหล่านั้นมันจะพุ่งทะยานล้ำ! ถึงตอนนั้นข้าเกรงว่าแม้แต่หลุนฮวยเฒ่าเองมันคงไม่อาจจะเอาชนะได้แล้ว!” หมี่เทียนเสริมขึ้น
เย่หยวนถอนหายใจยาวออกมา “ได้รับเลือดระดับโกลาหลของสี่เผ่าไป มันคงไม่มีอะไรจะหยุดมันจากการเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้อีกแล้ว!”
หมี่เทียนได้แต่ต้องหรี่ตาลงถาม “เจ้าเจออะไร?”
พลังสายเลือดปะทุขึ้นจากร่างของเย่หยวนพร้อมคลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ส่งออกมาจากฝ่ามือ
หมี่เทียนร้องลั่นขึ้นมาทันที “พลังศักดิ์สิทธิ์! เจ้า…เจ้ากลับสามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้!”
เมื่อเปิดผนึกแรกออกได้นั้นมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ก็จะสามารถดึงเอาคลื่นพลังจากประตูแห่งชีวานิรันดร์มาต่อสู้กับศัตรู
แต่มันก็แค่เสี้ยวเดียวของพลังจากประตูเท่านั้น
เพราะต่อให้จะเป็นเจ้าโลกทั้งหลายเองมันก็ไม่มีใครสามารถใช้งานพลังศักดิ์สิทธิ์นี้ได้!
เพราะนี่มันคือพลังที่เรียกออกมาจากหลังประตู
มันจึงมีแต่ยอดฝีมือล้ำสวรรค์ทั้งหลายเท่านั้นที่จะใช้งานพลังศักดิ์สิทธิ์ได้!
แต่เย่หยวนที่เป็นแค่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์นั้นกลับสามารถใช้งานพลังศักดิ์สิทธิ์ได้
มีหรือที่หมี่เทียนจะยังทำใจเย็นได้อีก?
หลงเจี้ยนที่ได้ยินนั้นก็ต้องร้องขึ้นมาตาม “อะไรนะ? นี่มัน…มันคือพลังศักดิ์สิทธิ์? ข้าก็นึกไปว่า…”
หมี่เทียนพยักหน้ารับ “แม้ว่ามันจะอ่อนแออย่างมากแต่มันก็คือพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องสงสัยเลย! สองพลังนั้นมันอาจจะดูเหมือนกันแต่ภายในมันต่างกันสิ้นเชิง ไม่แปลกหรอกที่เจ้าจะมองไม่ออก!”
เมื่อตอนที่เย่หยวนต่อยหลงเหอจนจมดินนั้นหลงเจี้ยนเองก็สัมผัสถึงพลังนี้ได้
ในตอนนั้นเขาก็คิดไปว่าเย่หยวนแค่ดึงพลังจากประตูแห่งชีวานิรันดร์ออกมาใช้ ไม่นึกว่ามันจะเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ของจริง!
เย่หยวนตอบกลับไป “สายเลือดมังกรฟ้าของข้านั้นเพิ่งขึ้นระดับสวรรค์แห้งมาและยังไม่พัฒนาถึงขั้นสุด ทำให้พลังศักดิ์สิทธิ์นี้มันยังอ่อนแออยู่มาก แต่ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นมันได้สายเลือดระดับโกลาหลของทั้งสี่เผ่าไป ดูท่า…พลังของมันคงเหนือล้ำข้าไปอย่างไม่อาจเทียบเคียง!”
หมี่เทียนต้องสูดหายใจลึกพร้อมยิ้มแห้งๆ ออกมา “ใครจะคิดเล่าว่าเมื่อผสานสี่สายเลือดเข้าด้วยกันแล้วมันกลับจะมีผลเช่นนี้ตามมาได้? เช่นนี้มันก็กลายเป็นหายนะแล้วจริงๆ!”
สี่สายเลือดภูตแท้นั้นมันไม่อาจจะผสานเข้าด้วยกันได้!
เพราะฉะนั้นหลายต่อหลายปีที่ผ่านมามันจึงไม่มีใครเข้าใจเรื่องนี้
แต่โลกนี้มันไม่มีอะไรแน่นอน
ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นเองก็เกิดขึ้นมาจากความโกลาหลและยังมีคลื่นกำเนิดแห่งเลือดที่เหนือล้ำเป็นรากฐาน!
มีแค่เขาเท่านั้นที่จะผสานสายเลือดทั้งสี่เข้าด้วยกันได้!
แน่นอนว่าเย่หยวนเองก็เป็นข้อยกเว้นที่สอง
เพราะว่าเขานั้นใช้ดาบเต๋าผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดเลือดและเรียกได้ว่ามีพลังแบบเดียวกับศิลาโลหิตโกลาหล
“เฮ้อ มันไม่มีข่าวคราวของสามเฒ่านั้นเลย ตอนนี้มันยังมีสายเลือดกึ่งโกลาหลปรากฏขึ้นมาอีก ดูท่าแล้ว…พวกมันคงไม่น่ารอดแน่! หากพวกเราทั้งสี่ร่วมมือกันแล้วเราก็อาจจะยังพอต่อต้านศิลาโลหิตโกลาหลได้บ้าง”
หมี่เทียนถอนหายใจยาวออกมา
“มันก็ไม่แน่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!” เย่หยวนกล่าวขึ้นแทรก
หมี่เทียนเบิกตากว้างถามขึ้น “เจ้ามีวิธีตามหาพวกเขา?”
เย่หยวนส่ายหัวออกมา “มิใช่การตามหาแต่ข้ารู้สึกว่าสายเลือดระดับโกลาหลนั้นมันอาจจะไม่ได้สูงส่งจนเกินเอื้อม เพียงแค่ว่าการจะไปถึงนั้นมันยากเย็นยิ่ง! หากมีโอกาสข้าก็อาจจะสามารถพัฒนาสายเลือดทั้งสี่นั้นให้ไปถึงระดับโกลาหลได้!”
“หือ?! ไอ้หนู อาหารนั้นกลืนลงคอได้แต่คำพูดจะกลืนลงคอกลับไปไม่ได้! สายเลือดระดับโกลาหลนั้นมันเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิดเสมอ! เจ้าเอาอะไรมาพูดว่าจะพัฒนาสายเลือดไปถึงระดับโกลาหล?” หลงเจี้ยนขัดขึ้นมาทันที
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “มันไม่เคยมีมาก่อนก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มี! พวกท่านคนใดเคยเห็น
มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์หรือไม่เล่า?”
หลงเจี้ยนนั้นแทบต้องสำลักออกมาเมื่อได้ยิน
ความอวดดีนี้มันทำเอาเขาเถียงไม่ออก
“เรื่องนั้น…เรื่องนั้นมันคนละอย่างกัน! หากมันเป็นตามที่เจ้าว่าจริงๆ แล้วภูตแท้ทั้งหลายก็สามารถพัฒนาสายเลือดไปถึงระดับโกลาหลได้หรือ?” หลงเจี้ยนยังคงไม่คิดยอม
“ในทางทฤษฎีแล้วมันเป็นเช่นนั้น! เพียงแค่ก็อย่างที่ข้าว่าไปว่ามันเป็นสิ่งที่ยากเย็นยิ่ง เผ่าเลือดนั้นทำการวิจัยเรื่องสายเลือดมากกว่าแสนปีบนเกาะมังกรเลือด ในมุมมองของข้านั้นมันก็คงเพราะเรื่องนี้แน่ๆ! นอกจากนั้นแล้วพวกมันคงได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก พวกท่านดูจ้าวเยว่ทั้งหลายนี้เถอะ เพียงแค่ว่านี่เป็นผลงานจากการเสริมพลังต่อสู้เท่านั้น พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องอื่นๆ ที่ตามมา” เย่หยวนกล่าวขึ้น
หลงเจี้ยนและหมี่เทียนนั้นต้องอ้าปากค้างไป แต่พวกเขานั้นก็รู้สึกเชื่อในคำพูดของเย่หยวนขึ้นมาจับใจ
จ้าวเยว่นั้นเดิมทีแล้วเป็นแค่ยอดฝีมือคลื่นกำเนิด ไม่แม้แต่จะเป็นเจ้าโลก
แต่ตอนนี้พลังของเขากลับเทียบเคียงยอดเจ้าโลกได้!
การพัฒนาเช่นนี้มันมิใช่สิ่งที่งานวิจัยปกติทั่วไปจะทำได้
แต่เผ่าเลือดนั้นทำได้มิใช่หรือ?
“เจ้าผสานคลื่นกำเนิดเลือดและยังตรัสรู้ในคงคานิรันดร์ ตอนนี้เจ้ายังมาผสานสี่สายเลือดเข้าด้วยกันอีก บางทีแล้วเจ้าอาจจะเป็นตัวแปรสำคัญในหายนะครั้งนี้จริงๆ! เพราะฉะนั้นเจ้ามีเรื่องอะไรให้ข้าช่วยบอกมาได้ไม่ต้องเกรงใจ”
หมี่เทียนกล่าวขึ้น
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปทันที “ตอนนี้ข้ามีเรื่องต้องขอร้องผู้อาวุโสท่านเรื่องหนึ่งพอดี”
“ว่ามา”
“ผู้อาวุโสโปรดส่งกำลังคนติดตามข้ากลับไปยังสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดด้วย!”
หมี่เทียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะยิ้มขึ้นตอบ “อ่า มันถึงเวลาแล้วสินะ เจ้าควรกลับไปได้แล้ว! หลงเจี้ยน
จัดกำลังตามเย่หยวนไป”
เวลาเดียวกันนั้นเองที่นักยุทธสายเลือดคนนั้นค่อยๆ ลุกขึ้นมามองดูภาพรอบๆ ตัวด้วยความมึนงงๆ
แต่ไม่นานเขาก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้และรีบเดินมาคุกเข่าต่อหน้าเย่หยวนพร้อมน้ำตานองหน้า “นายท่านให้โอกาสข้าได้เกิดใหม่ เจียงเจิ้นหนานจะขอจำมันไปจนวันตาย! จากวันนี้ไปชีวิตของข้าน้อยนั้นขอมอบให้แก่นายท่าน!”
หลงเจี้ยนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนั้นต้องอ้าปากค้าง
เพราะนักยุทธสายเลือดคนนี้กลับได้สติกลับคืนมา!
โอสถสวรรค์ที่เย่หยวนหลอมมันวิเศษได้ปานนั้น?
…………………………