ชายแดนตะวันออก พลบค่ำ
บนกำแพงเมืองสูงนั้นหยางชิงกำลังนั่งไขว่ห้างมองดูภาพตรงหน้าอย่างพร้อมรบ
เพียงแค่ว่าบาดแผลทั่วร่างของเขานั้นมันแสดงให้เห็นชัดเจนว่าศึกที่ผ่านๆ มานี้หนักหน่วงรุนแรงแค่ไหน
“ไอ้เจ้าเวรเย่หยวนนี่มันไปเที่ยวเล่นอยู่ที่ไหนกัน? เฮอะๆ หากมันกลับมาและได้เห็นพลังบ่มเพาะของข้าในตอนนี้มันคงตกตะลึงจนอ้าปากค้างแน่ๆ! ถึงตอนนั้นข้าจะสั่งสอนมันเอง ใครใช้ให้มันมาขวางเวลาข้าจะวางท่าดีนัก! อืม เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน!”
เมื่อนึกจินตนาการถึงภาพเย่หยวนนอนจมกองดินอยู่ตรงหน้าหยางชิงก็อดยิ้มกว้างขึ้นมาไม่ได้
พริบตาเดียวนี้มันก็ผ่านมากว่าร้อยปีแล้ว
พลังบ่มเพาะของเขาในตอนนี้เองมันก็มาถึงมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ขั้นปลายแล้ว!
ความเร็วในการบ่มเพาะระดับนี้ทั้งสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมันคงเพิ่งมีเขาทำได้คนแรก
ตัวหยางชิงในตอนนี้ได้กลายเป็นแม่ทัพของพันธมิตรสวรรค์แรกไปอย่างเต็มตัว
มหาจักรพรรดิเผ่าเลือดที่ตายลงด้วยน้ำมือเขาคนนี้มันมากมายกว่าร้อยคนเข้าไปแล้ว
มันจึงเรียกได้ว่าเขานั้นสร้างผลงานในสงครามครั้งนี้ไว้อย่างมากล้น!
แต่แน่นอนว่าผลงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นมันก็มีราคาที่ต้องจ่ายสูงล้ำเช่นกัน
ร้อยกว่าปีที่ผ่านมานี้เขาต่อสู้ต่อเนื่องแทบไม่เว้นวัน บาดเจ็บกลับมาแทบทุกครั้งไปก็ถึงขั้นตายลงไปก็มี
“เฮอะ แค่เจ้าอะนะ? เจ้าคิดจริงๆ เหรอว่าเมื่อพี่เย่หยวนกลับมาแล้วเขาจะตบหน้าเจ้าจนหันไม่ได้?”
จิงเฟยกล่าวขึ้นมาเสริม
จิงเฟยในตอนนี้เองก็ไม่ธรรมดาเพราะนางนั้นก็บรรลุมหาจักรพรรดิขึ้นมาได้แล้วเช่นกัน
ส่วนต้าหวงนั้นยิ่งมีพลังบ่มเพาะถึงมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นสุดแล้ว
“นังเด็กนี่ เจ้ามันดื้อด้านดีจริงๆ! ข้ายอมรับนะว่าเย่หยวนมันเก่ง มันด้อยกว่าข้าหน่อยเดียวเท่านั้น แต่จะบอกว่าแค่ร้อยกว่าปีนี้มันบ่มเพาะตามข้าทันหรือ? ข้าว่าที่พูดออกมานั้นแม้แต่ตัวเจ้าเองก็ยังไม่เชื่อคำพูดตัวเองเลยมั้ง? ฮ่าๆๆ” หยางชิงหัวเราะเย้ย
จิงเฟยได้แต่ต้องกลอกตาหนี
เพราะการพัฒนาของหยางชิงนั้นมันรวดเร็วจนน่ากลัวจริงๆ
จิงเฟยนั้นไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับความเก่งกาจของอีกฝ่าย
หยางชิงนั้นเป็นคนที่ชอบทำตัวกวนเท้าชาวบ้านเย้ยหยอกคนอื่นเล่นไปทั่วแต่ว่าเขานั้นก็แข็งแกร่งจริง
ตัวตนของเย่หยวนนั้นมันเหมือนแส้ที่ไล่ฟาดให้เขายิ่งต้องพยายามหนักสุดชีวิต
ต่อให้เย่หยวนจะไม่ได้อยู่ด้วยแล้วก็ตาม
“หากนายท่านอยากจะเอาชนะเจ้านั้น ท่านย่อมจะไม่ต้องใช้พลังบ่มเพาะที่เหนือกว่าเจ้าใดๆ เพราะฉะนั้นต่อให้เจ้าจะมีพลังบ่มเพาะสูงกว่ามันก็ไม่มีทางเอาชนะนายท่านได้” ต้าหวงกล่าวขึ้นแทรก
หยางชิงหัวเราะตอบกลับไป “แค่คำพูดนี้มันก็ทำข้าอยากกระทืบเจ้าเย่หยวนให้ลุกไม่ขึ้นแล้ว!”
แต่ในตอนนั้นเองที่มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมาจากด้านหลังคนทั้งสาม
“พวกเจ้าหลอนกันไปหมดแล้ว ไอ้เด็กนั่นมันตายบนสวรรค์อื่นไปนานแล้ว! นอกจากนั้นมันยังเป็นแค่คนทรยศของเผ่าพันธุ์ ต่อให้มันจะกลับมาได้จริงๆ มันก็จะกลับมาในฐานะศัตรูร้าย! ข้านี่แหละจะเป็นคนสังหารมันให้เอง!”
ฟุบ!
หอกยาวของหยางชิงถูกยกขึ้นมาจี้คอของผู้มาถึงทันที “ฉินชาน หากเจ้าคิดรนหาที่ตายก็ลองพูดมาอีกสักคำ!”
ฉินชานนั้นยิ้มตอบกลับไป “มันเป็นคนทรยศ นี่คือคำตัดสินของเจ้าโลกทั้งหลายท่านแล้ว หรือว่าเจ้าจะบอกว่าเจ้าโลกทั้งหลายท่านคิดผิด? ต่อให้เจ้าจะสังหารข้ามันก็ไม่มีทางเปลี่ยนความจริงเรื่องนี้ไปได้!”
“พี่เย่หยวนไม่ใช่คนทรยศ! เขานั้นคือวีรบุรุษของพันธมิตรสวรรค์แรก!” จิงเฟยเถียงขึ้น
“จริง ข้ายอมรับเลยว่ามันสร้างความดีความชอบไว้เกินกว่าจะนับได้! แต่ตอนนี้มันถูกศิลามารดาของเผ่าเลือดควบคุมไปแล้ว มันเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้แล้ว! ต่อให้พวกเจ้าจะไม่อยากยอมรับแต่มันก็คือความจริง”
ฉินชานยักไหล่ตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
ก่อนนั้นฉินชานนั้นถูกเย่หยวนตบหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าในนิกายยาสุดล้ำจนตอนนี้เขาก็ยังไม่ชอบหน้าเย่หยวน
ตอนนี้เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์มันถูกทำลายลงและพันธมิตรสวรรค์แรกกำลังเผชิญหน้ากับหายนะ ตัวเขาจึงต้องออกมาสู้แนวหน้าด้วยเช่นกัน
เมืองที่พวกเขาประจำอยู่นี้คือเมืองตะวันประจิม เป็นฐานที่มั่นของเผ่ามนุษย์
สิบปีก่อนนั้นเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ถูกทำลายลงพร้อมความตายของเจ้าโลกมากมายตอนนี้พันธมิตรสวรรค์แรกจึงกำลังตกอยู่ในสภาวะวิกฤต
สิบปีมานี้พันธมิตรต่างต้องถอยร่นกลับเข้ามาเรื่อยๆ จนแทบไม่มีที่ให้ตั้งหลักต่อสู้อีกต่อไป
เมืองตะวันประจิมนี้เรียกได้ว่าเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายแล้ว
วินาทีนั้นเองมันก็ปรากฏคลื่นพลังรุนแรงหลายสายพุ่งมาจากขอบฟ้า
หยางชิงหันไปมองพร้อมลดหอกลง “เผ่าเลือดมาแล้ว มีงานต้องทำ! ฉินชาน ขอให้เจ้าโดนเผ่าเลือดมันฆ่าตาย”
ฉินชานยิ้มกลับไป “เจ้าเองก็เช่นกัน!”
หยางชิงหัวเราะลั่นขึ้นมา “ปู่ชิงของเจ้านี้เคยผ่านนรกมาแล้วกี่ครั้ง? แค่ขยะพวกนี้มันก็จะสังหารข้าได้หรือ?
เป็นเจ้านั่นแหละที่อ่อนแอ!”
ฉินชานได้แต่ยิ้มขึ้นแต่ไม่ตอบอะไรไป
เพราะเขารู้ดีว่าหยางชิงนั้นมีฉายาว่าแมลงสาบ
ทุกคนที่คนคิดว่าเขาตายแน่แล้ว เขาจะฟื้นกลับมาได้ทุกครั้งไป!
ตอนที่เขายังเป็นมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์นั้นหยางชิงเคยถูกเผ่าเลือดลอบสังหารด้วยยอดฝีมือมหาจักรพรรดิทาสเลือดกว่าสิบคน
อีกทั้งยังมีมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์นำกองกำลังลอบสังหารนั้นด้วย
ในตอนนั้นผู้คนต่างคิดว่าเขาตายแน่แล้วแต่สุดท้ายเจ้าบ้านี่กลับรอดมาได้พร้อมแผลทั่วร่างและได้หัวทาสเลือดติดมือกลับมาไม่น้อย
หลังจากศึกนั้นเขาก็ยังบรรลุทำลายผนึกแรกลงกลายเป็นมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ขึ้นมา!
ฉินชานนั้นยังจำตอนที่เย่หยวนและหยางชิงมาถึงนิกายใหม่ๆ ได้ พวกเขานั้นเป็นแค่เด็กน้อยในสายตาฉินชาน
พริบตาเดียวหยางชิงกลับมีพลังบ่มเพาะเทียบเคียงตัวเขาได้แล้ว
น่าคับแค้นใจนัก!
จากนั้นมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นบนกำแพงเมืองพร้อมมือไพล่หลังมองดูทัพเผ่าเลือดตรงหน้าอย่างเคร่งเครียด
คนทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นก้มลงคารวะทันที “ขอคารวะเจ้าโลกจ้านเทียน!”
“ในศึกนี้เผ่าเลือดมันได้ส่งกำลังออกมามากล้น เหนือล้ำกว่าเราไปหลายเท่าตัว! ตอนนี้พวกท่านปู้ฉุนเองก็กำลังเจอปัญหาใหญ่เช่นกัน! เบื้องหลังเมืองตะวันประจิมไปนี้มันคือชีวิตนับล้านๆ เราจะถอยไม่ได้แล้ว พวกเจ้าพร้อมที่จะสู้จนตัวตายกันหรือยัง?” เจ้าโลกจ้านเทียนถามขึ้น
“สู้จนตัวตายไม่คิดถอย!”
“สู้จนตัวตายไม่คิดถอย!”
“สู้จนตัวตายไม่คิดถอย!”
…
ทหารทั้งหลายที่ด้านหลังนั้นร้องลั่นขึ้นมาสุดใจ
เจ้าโลกจ้านเทียนคนนี้มันคือเฟิงเสี่ยวเถียนอดีตเจ้ามหานครฉีใต้ในตอนนั้น!
ตอนที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์พังทลายลงนั้นเขาได้บรรลุเต๋าในที่สุดและก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าโลกคนใหม่!
ตอนนี้เขาได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำของพันธมิตรสวรรค์แรกแล้ว
“เอาล่ะ ข้าจะไปก่อนแล้ว! ที่เหลือพวกเจ้าจัดการต่อด้วย!” เฟิงเสี่ยวเถียนกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะพุ่งตัวหายไป
คนทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องกัดฟัน
พวกเขานั้นรู้ดีว่าศึกที่เจ้าโลกจ้านเทียนเจอนั้นมันหนักหน่วงกว่าศึกตรงหน้านี้มากมายนัก!
เพราะครั้งนี้มันมีเจ้าโลกเผ่าเลือดถึงสามคนนำทัพมา!
“ฆ่ามัน!”
หยางชิงชี้หอกร้องลั่นขึ้นมาก่อนจะพุ่งตัวนำทัพออกไปจากกำแพงเมือง
เมื่อเขาพุ่งตัวออกไปนั้นเขาก็ปะทะกับกองกำลังมหาจักรพรรดิเผ่าเลือดในทันที
พริบตาเดียวนี้มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ถึงสามคนก็ถูกเขาทำลายร่างตายตกลง!
บนท้องฟ้านั้นมันมียอดฝีมือมากมายจนกลบดวงตะวัน!
แต่ว่าจำนวนของทางพันธมิตรสวรรค์แรกก็ยังด้อยกว่ามาก
กอปรด้วยความตายยากของเผ่าเลือดแล้วพันธมิตรสวรรค์แรกจึงเสียเปรียบลงในทันตา
ตอนนี้มหาจักรพรรดิที่เผ่าเลือดส่งออกมาบุกนั้นมันมากกว่ากำลังป้องกันของพันธมิตรสวรรค์แรกไปมากนัก
แม้ว่าหยางชิงนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่เขาก็ถูกมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์หลายคนเข้าล้อมได้ในที่สุด
“ฮ่าๆๆ แค่พวกขยะอย่างเจ้านี้มันอ่อนแอเกินไป!”
“เบานัก นี่เจ้าจะเกาหลังให้ปู่ชิงหรือ?”
“ฆ่ามัน! ฆ่ามัน! ฆ่ามัน! พวกเจ้าผีดูดเลือด ตายไปให้หมด!”
“ฉินชาน เจ้ามันอ่อนแอแท้ๆ! นี่เพิ่งผ่านไปกี่วินาทีเจ้าก็จะเสียท่าแล้วหรือ? หากข้าเป็นเจ้าข้าคงภาวนาขอให้
เย่หยวนนำกำลังเสริมลงมาช่วยแล้ว! ฮ่าๆๆ หากเย่หยวนมาช่วยเจ้าตอนนี้มันคงเหมือนประชดกัน เจ้าว่าไหม?”
…
หยางชิงนั้นต่อสู้อย่างรุนแรงจนฟ้าดินเปลี่ยนสีสองตาแดงก่ำขยับมือเท้าไม่มีหยุด
ไม่ไกลออกไปนั้นฉินชานก็ค่อยๆ เสียท่าไปเรื่อยๆ
ภายใต้การล้อมโจมตีเช่นนี้ เขาแทบไม่อาจจะตอบโต้ใดๆ กลับไปได้
ในตอนนี้เขาถูกฟันหายไปเกือบครึ่งร่าง เป็นสภาพที่ไม่ต่างอะไรจากศพเดินได้
“ต่อให้ข้าต้องตายข้าก็ไม่ขอให้คนทรยศมันมาช่วยหรอก!” ฉินชานกล่าวขึ้นมาอย่างคับแค้นใจ
…………………………