“นี่มัน…สัตว์ประหลาดอะไรกัน?”
“สัตว์ประหลาดพวกนี้มันโหดร้ายป่าเถื่อนนัก! ร…รีบหนีเร็ว!”
“แข็งแกร่งเกินไป! อ้าก ช่วยข้าด้วย!”
…
ไม่ต้องมีกระบวนท่ารุนแรงถล่มสวรรค์ ไม่ต้องมีวรยุทธเหนือล้ำฟ้าดินใดๆ นักยุทธสายเลือดทั้งหลายนั้นใช้เพียงแค่สัญชาตญาณในการต่อสู้
แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้มันก็ยิ่งดูดุร้ายน่ากลัว
เผ่าเลือดนั้นไม่กลัวตายแต่ตอนนี้พวกเขากลัวภาพตรงหน้าอย่างมาก!
นักยุทธสายเลือดที่เย่หยวนพามาด้วยนั้นมีราวแปดร้อยคนและกว่าห้าร้อยคนเป็นถึงยอดฝีมือคลื่นกำเนิด
กองทัพระดับนี้มันย่อมมากพอจะเอาชนะทุกอย่างใต้อาณาจักรเจ้าโลกลงมา
เพราะฉะนั้นหลังจากพวกเขามาถึงสนามรบคนสวรรค์แรกก็ไม่ต้องต่อสู้ใดๆ อีกต่อไป
ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือคลื่นกำเนิดเผ่าเลือดนั้นเองเมื่ออยู่ต่อหน้านักยุทธสายเลือดทั้งหลายนี้พวกเขาเองก็ต้านทานได้ไม่กี่กระบวนท่าก่อนสิ้นใจลง
ตอนนี้กองทัพสวรรค์แรกนั้นได้แต่ยืนอ้าปากค้างกันไปทั้งแถบ
“ข…แข็งแกร่ง! ที่แท้มันยังต่อสู้เช่นนี้ได้ด้วย!”
“หลายปีมานี้เราต่อสู้กับเผ่าเลือดกันอย่างยากลำบาก! แต่เป็นวันนี้เองที่เราได้รู้ว่าสงครามมันยังสู้เช่นนี้ได้ด้วย!”
“สัตว์ประหลาดทั้งหลายนี้ทำตามคำสั่งของเย่หยวนหรือ? เจ้าบ้านี่มันสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาอีกครั้งแล้ว!”
ฟุบ!
วินาทีที่พูดจบนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาของนักยุทธสายเลือดที่หันต้องกลับมาทางเขาด้วยความดุร้าย
นักยุทธสวรรค์แรกคนนั้นแทบฉี่ราดกางเกงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นคิดอะไรอยู่ในหัว
เมื่อถูกอีกฝ่ายจ้องมองเช่นนี้เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตายลง
เขานั้นไม่ได้รู้เลยว่า ‘สัตว์ประหลาด’ นั้นมันเป็นคำต้องห้าม
“โฮก!”
เจียงเจิ้นหนานคำรามลั่นขึ้นมาทำให้นักยุทธสายเลือดผู้นั้นหันหลังกลับไล่ล่าเผ่าเลือดต่อ
แท้จริงแล้วมันไม่ต้องให้ใครมาสั่งการใดๆ
เพราะนักยุทธสายเลือดทั้งหลายนั้นเกลียดชังเผ่าเลือดอยู่ในสัญชาตญาณ
นอกจากนั้นแล้วพวกเขายังเป็นทหารที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
คิดอยากจะพูดเรื่องพลังฝีมือจริงๆ แล้วพวกเขาคงเหนือล้ำกว่าคนระดับเดียวกันไปเป็นสิบเท่าตัว!
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
เย่หยวนโยนโอสถสวรรค์ออกมาให้คนรอบๆ “รีบๆ กินแล้วฟื้นตัวเสีย!”
หยางชิงและพวกนั้นไม่คิดสงสัยอะไรและกลืนโอสถสวรรค์ลงคอไปทันที
“หึ เจ้าคนทรยศ เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าแค่มาช่วยข้านี้แล้วจะพิสูจน์ตัวเองได้?”
ฉินชานนั้นบีบโอสถสวรรค์ของเย่หยวนลงทิ้ง
เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้น “เช่นนั้นข้าจะพิสูจน์ตัวเองได้อย่างไรเล่า?”
ฉินชานหัวเราะตอบกลับไป “เจ้าต้องขับไล่เผ่าเลือดมันไปเสีย ไม่เช่นนั้นเราก็จะไม่มีทางเชื่อเจ้าได้แน่นอน!”
เย่หยวนพยักหน้ารับทันที “ได้สิ!”
ฉินชานที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปทันทีไม่นึกว่าเย่หยวนจะยอมรับง่ายดายปานนั้น
“ฮ่าๆ เจ้าคิดว่าแค่พาสัตว์ประหลาดพวกนี้กลับมาแล้วเจ้าจะขับไล่เผ่าเลือดไปได้จริงๆ หรือ?” ฉินชานยิ้มเย้ยขึ้น
“โฮ่ก!”
แต่ก่อนที่เสียงของเขาจะทันจางหายมันก็มีเสียงคำรามร้องดังขึ้นมาจากขอบฟ้า
ฉินชานนั้นต้องเบิกตากว้างอย่างตกตะลึงกับภาพตรงหน้า
เพราะว่าวินาทีนี้มันมีสัตว์ประหลาดพุ่งตัวเข้าไปฉีกร่างเจ้าโลกเผ่าเลือดลง!
“จ…เจ้าสัตว์ประหลาดนี้แข็งแกร่งปานนี้ได้อย่างไรกัน?” ฉินชานนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาวที่ไม่รู้ว่ามันซีดเพราะอาการบาดเจ็บหรือว่าซีดเพราะความหวาดกลัวกันแน่
แต่ว่าภาพการฉีกร่างเจ้าโลกลงด้วยมือเปล่านี้มันก็เหนือล้ำจินตนาการจริงๆ
การต่อสู้ของเจ้าโลกนั้นเป็นอะไรที่ยืดเยื้อ
ต่อให้จะเก่งกาจกว่าอีกฝ่ายไปมากแต่คิดจะสังหารกันลงนั้นมันก็มิใช่เรื่องง่ายดาย
แต่ว่าภาพตรงหน้านี้มันกลับทำลายสามัญสำนึกของเขาลงสิ้น!
เมื่อเฟิงเสี่ยวเถียนได้เห็นภาพนี้เขาก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาเช่นกัน
เพราะก่อนหน้านี้เขากำลังเตรียมตัวจะแลกชีวิตศัตรูแต่ใครจะไปคิดว่าเรื่องราวมันจะพลิกผันได้ขนาดนี้?
สัตว์ประหลาดนี้สังหารพวกเฉียนั้วทั้งสามจนไม่อาจจะต่อต้านตอบโต้ใดๆ ได้ภายในการปะทะแค่ไม่กี่กระบวนท่า
แต่ว่าเผ่าเลือดก็ยังเป็นเผ่าเลือด พวกเขาฟื้นกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
เพียงแค่ว่าจ้าวเยว่นั้นก็ไม่คิดจะปล่อยพวกเขาไว้เช่นกัน
เมื่อเห็นใครฟื้นกลับมาจ้าวเยว่ก็ฉีกร่างของคนผู้นั้นลงอย่างไม่รอช้า
เมื่อฟื้นคืนชีพมาได้ก็จะถูกฉีกร่างลงไป ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เฉียนั้วคนนี้ได้แต่ต้องมองดูภาพตรงหน้าด้วยหน้าซีดขาว
หนี!
ตอนนี้เขาคิดได้เพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น
เขาจึงไม่ลังเลหันหลังหนีทิ้งสหายไว้
เขานั้นไม่รู้ว่าเขาต้องหนีเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรชีวิตของเขาก็ยังสำคัญที่สุด
“อ้ากก! เย่หยวน เจ้ามันเป็นมารจากสวรรค์ที่ส่งมาลงโทษข้าหรืออย่างไร? มันกี่ครั้งแล้ว? กี่ครั้งมาแล้วกัน? ทำไมมันเป็นเช่นนี้เสมอ! สวรรค์อย่าได้เล่นตลกกับข้าเช่นนี้!” เฉียนั้วร้องลั่นด้วยความคับแค้นสุมอก
เขานั้นมองเฟิงเสี่ยวเถียนเป็นคู่ปรับตลอดกาลแต่ใครจะไปคิดว่าทุกครั้งที่เย่หยวนโผล่หน้าออกมานั้นเขาจะต้องหนีหางจุกตูดทุกครั้งไป
ทุกครั้งเขานั้นต้องหนีเอารอดได้แค่ชีวิต!
ตอนที่เขาได้ยินว่าสวรรค์แรกทะเลาะกันภายในจนขับไล่เย่หยวนออกไปนั้นเขาแทบจะลุกขึ้นเต้น
ใครจะไปคิดฝันว่าเจ้ามารร้ายนี้มันจะกลับมาได้อีก!
จะกลับมาก็กลับมายังพอว่าแต่กลับมาได้พร้อมกองทัพสัตว์ร้ายทรงพลัง มันจะยังสู้กันอย่างไร?
เขานั้นไม่อาจคาดเดาได้เลยว่ากลับไปจะถูกลงโทษเช่นใด
เขานั้นแอบลอบกลับมามองและโชคดีที่จ้าวเยว่นั้นกำลังไล่เจ้าโลกสองคนที่เหลือไป
เขารอดกลับไปได้ด้วยแค่ชีวิตอีกครั้ง!
ท่ามกลางสายตาของคนทั้งหลายนั้นจ้าวเยว่ได้ฉีกร่างสองเจ้าโลกเผ่าเลือดจนสุดท้ายพวกเขาก็ไม่อาจจะฟื้นคืนชีพกลับมาได้อีก
จากนั้นเขาก็ร่อนตัวลงมานั่งข้างๆ เย่หยวน
นอกจากนั้นเขายังเอาหัวสัตว์ประหลาดนั้นเข้ามาถูตัวเย่หยวนเหมือนกำลังอ้อนเย่หยวนก็ไม่ปาน
มันเหมือนกับว่าคนที่เพิ่งสังหารสองเจ้าโลกเผ่าเลือดอย่างโหดร้ายลงไปนั้นมิใช่เขา
เย่หยวนยิ้มรับและยกมือขึ้นลูบหัวอีกฝ่ายแสดงความพึงพอใจ
จากนั้นจ้าวเยว่ก็ร้องขึ้นมาสองครั้งอย่างดีใจ
เมื่อฉินชานได้เห็นภาพนี้เขาก็ต้องเบิกตาถลนจนแทบหลุดออกจากเบ้า!
สัตว์ประหลาดดุร้ายนี้กลับนั่งเหมือนเป็นลูกหมาน้อยข้างกายเย่หยวน?
“ย…เย่หยวน น…นี่มันสัตว์ประหลาดอะไรกัน?” ฉินชานอดถามขึ้นไม่ได้
“โฮ่ก!”
จ้าวเยว่ร้องขึ้นมาทำให้เครื่องในฉินชานแตกสลายลง
เย่หยวนกล่าวขึ้น “เขานั้นมีนามว่าจ้าวเยว่ อย่าได้เรียกเขาเป็นสัตว์ประหลาดเชียวไม่เช่นนั้นแล้วก็อย่าได้หาว่าข้าไม่เตือน”
ฉินชานนั้นได้แต่ต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ เขารู้สึกเหมือนตัวเองได้ตายลงไปรอบหนึ่งเพราะเสียงคำรามนั้น
“เช่นนี้ข้าจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของเข้าได้หรือยัง?” เย่หยวนถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม
ฉินชานนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกและเงียบปากลงไปทันที
ตอนนี้ความสงสัยใดๆ ของเขามันหายไปแทบหมดสิ้นแล้ว
เจ้าโลกนั้นมิใช่เบี้ยใช้แล้วทิ้งไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน
ตอนนี้เผ่าเลือดเสียสองเจ้าโลกลงไป มันย่อมจะนับเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
ตอนนี้พันธมิตรสวรรค์แรกนั้นกำลังจะพ่ายแพ้เต็มทน
หากเย่หยวนเป็นคนทรยศจริงแล้วมันย่อมจะไม่ต้องทำอะไรแม้แต่น้อย
ตราบเท่าที่เขาเอาสัตว์ประหลาดทั้งหลายนั้นไปช่วยเผ่าเลือดแทน พวกเขาทั้งหมดคงไม่มีใครหนีไปไหนได้รอด
แต่เขาเองก็ทำใจขอโทษเย่หยวนยอมรับความผิดพลาดตัวเองไม่ลง
เขาจึงเลือกที่จะหุบปากแทน
เย่หยวนยิ้มและโยนโอสถสวรรค์ออกมาให้เขาอีกครั้ง
ครั้งนี้ฉินชานไม่คิดปฏิเสธอีกและกลืนมันลงคอไป
และเขาก็ได้พบว่าโอสถสวรรค์ของเย่หยวนนั้นมันทรงพลังกว่าของเขาไปมากมายนัก!
“เย่หยวน เจ้ากลับมาเสียที! เยี่ยมยอดจริงๆ!” ในตอนนั้นเองที่เฟิงเสี่ยวเถียนได้ร่อนตัวกลับลงมา
แม้ว่าตอนนี้ร่างกายของเขาจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ใบหน้าของเขานั้นมันกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความดีใจที่ได้เห็นเย่หยวนอีกครั้ง
เขาและเย่หยวนนั้นถือเป็นสหายร่วมรบกันมา เขาไม่เคยคิดสงสัยเย่หยวนแม้แต่วินาทีเดียว
เย่หยวนนั้นยกมือขึ้นคารวะด้วยรอยยิ้ม “ข้ายังไม่ได้กล่าวยินดีกับพี่เฟิงที่บรรลุเจ้าโลกกลายเป็นเจ้าโลกจ้านเทียนเลย!”
เฟิงเสี่ยวเถียนหัวเราะลั่นขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน “ไอ้เด็กนี่ เจ้าคิดล้อข้าเล่นแล้ว? พี่ชายท่านนี้ที่เจ้าพามาเก่งกาจจนสามารถสังหารข้าได้ด้วยฝ่ามือเดียวแท้ๆ!”
เขานั้นได้ยินคำพูดทั้งหมดจึงระมัดระวังคำพูดของตัวเองอย่างมาก
“โฮ่ก!”
จ้าวเยว่คำรามตอบกลับมาด้วยท่าทางดีใจไม่น้อยที่ได้ยิน
……………………..