ณ ค่ายหลักเมืองตะวันประจิม นักยุทธสายเลือดกว่าแปดร้อยคนกำลังนั่งเรียงอยู่ในลานกว้างอย่างเป็นระเบียบ
สง่างามและทรงพลัง
แต่คนสวรรค์แรกทั้งหลายต่างไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
เพราะว่าคนทั้งหลายนั้นมันน่ากลัวจนเกินไป แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าพวกเขามาเพื่อช่วยเหลือก็ตาม
“เย่หยวน ไอ้หลานเต่า! วันนี้ข้ามหาจักรพรรดิฟ้าครามจะขอย่ำเจ้าให้จมดิน ผงาดขึ้นฟ้าอย่างไร้ผู้ต่อต้าน!”
บนท้องฟ้านั้นหยางชิงพร้อมหอกคู่ใจร้องลั่นชี้หน้าเย่หยวนด้วยท่าทางสุดโอหัง
เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องหัวเราะตอบกลับไป “งั้นก็มาสู้กันดู แต่มันจำเป็นต้องทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ปานนี้ด้วย?”
หยางชิงหัวเราะตอบกลับมา “แน่นอน! เพราะว่าข้านั้นจะเอาชนะเจ้าต่อหน้าทุกผู้คน! ข้านั้นรอเวลานี้มาเป็นร้อยปี มีหรือที่จะทำให้มันเป็นเรื่องเล็กๆ ได้? ให้พวกมันได้เห็นว่ามหาจักรพรรดิฟ้าครามผู้นี้คือมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคสมัยนี้!”
เย่หยวนยักไหล่ตอบกลับไป “เช่นนั้นเจ้าก็จงใช้ไม้ตายของเจ้าออกมาเถอะ ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าจะมาบ่นว่าไม่มีโอกาสได้ใช้ทีหลัง”
หยางชิงตอบกลับไปอย่างไม่คิดแยแส “ข้ารู้ว่าเจ้านั้นเก่งกาจขึ้นมาแล้วแต่มันก็เปล่าประโยชน์! เพราะตัวข้าในตอนนี้เองก็มิใช่ตัวข้าในสมัยก่อนแล้ว! วันนี้เจ้าไม่มีโอกาสจะชนะได้แน่!”
หยางชิงนั้นย่อมเห็นว่าเย่หยวนเข้าไปรับการโจมตีแทนฉินชานอย่างไร้บาดแผลใดๆ กลับมา
แต่ว่าเมื่อลองถามใจตัวเองดูแล้ว หยางชิงก็ประเมินว่าหากตัวเขามีสภาพสมบูรณ์พร้อมไม่บาดเจ็บใดๆ เขาเองก็คงรับมันไว้ได้ไม่ยากเช่นกัน
หลังจากกินโอสถสวรรค์ของเย่หยวนไปนั้นแขนที่ขาดก็งอกคืนกลับมา
พลังปราณเทวะที่จางหายไปมันก็กลับมาฟื้นฟูจนเปี่ยมล้น
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้เตรียมสู้กับเย่หยวนอย่างไม่รอช้าหลังจบศึก
นอกจากนั้นแล้วเขายังเที่ยวไปป่าวประกาศทั่วทั้งเมืองตะวันประจิมว่าจะมีการประลองระหว่างพวกเขาทั้งสอง
จริงๆ แล้วต่อให้ไม่ไปเรียกคนมาด้วยตัวเอง ชาวเมืองทั้งหลายก็คงไม่มีทางพลาดการประลองระดับนี้ไปได้
เพราะแม้แต่ตัวเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นเองก็ยังสงสัยมากว่าตัวเย่หยวนตอนนี้พัฒนาไปถึงไหนแล้ว
เพราะเขานั้นรู้สึกว่าไม่อาจจะมองเย่หยวนได้ทะลุปรุโปร่งนัก
เจ้าโลกอย่างเขานั้นกลับไม่อาจจะมองมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ออกได้ มันเป็นเรื่องที่แปลกเสียยิ่งกว่าแปลก
ตอนนี้มหาจักรพรรดิทั้งหลายที่ยังอยู่ในเมืองต่างเดินทางออกมาเพื่อดูการประลองนี้สิ้น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนทั้งสองนี้คือตัวตนที่อยู่สูงที่สุดในเหล่ามหาจักรพรรดิของยุคนี้
นี่มันคือศึกที่จะตัดสินว่าใครคือผู้แข็งแกร่งที่สุด
ต่อให้อยากจะประลองกันเงียบๆ มันก็คงไม่อาจรอดพ้นสายตาผู้คนไปได้
“พวกเจ้าคิดว่าใครจะเหนือกว่ากัน มหาจักรพรรดิฟ้าครามหรือเย่หยวน?”
“เรื่องนั้นยังต้องถามด้วย? แน่นอนว่ามันเป็นมหาจักรพรรดิฟ้าครามแล้ว! หลายปีมานี้มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์กี่คนแล้วที่ตายลงด้วยมือของเขาคนนี้? มันคงมากเกินนับใช่ไหมเล่า? เย่หยวนนั้นอาจจะมีวิธีการมากมายจนเกินจินตนาการก็จริงแต่สุดท้ายก็คงไม่อาจก้าวข้ามหยางชิงในตอนนี้ไปได้”
“อืม ก็จริง! ก่อนนั้นเย่หยวนกระโดดข้ามอาณาจักรต่อสู้กับหยางชิงได้แต่ตอนนี้ในอาณาจักรมหาจักรพรรดิมันคงทำไม่ได้ง่ายๆ แล้ว! มหาจักรพรรดิฟ้าครามตอนนี้คือว่าที่เจ้าโลกปู้ฉุนคนต่อไป กำลังของเขานั้นมันเหนือกว่า
มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์คนใด! เย่หยวนนั้นยังเป็นแค่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ขั้นต้น ต่อให้จะเก่งกาจพอต่อสู้ข้ามขั้นได้มันก็คงไม่มีทางเทียบกับหยางชิงได้แน่!”
“แม้ว่ามหาจักรพรรดิฟ้าครามนั้นจะเก่งกาจแต่เขาก็ชอบโม้อวดตัวเสมอ! เขาคิดมาตลอดว่าเย่หยวนนั้นคือคู่ปรับตลอดกาล วันนี้เขาคงจะได้สมใจหวังแล้ว”
…
การประลองในครั้งนี้คนส่วนมากก็ไม่คิดว่าเย่หยวนจะชนะได้
เพราะว่าหลายปีมานี้ชื่อเสียงของหยางชิงมันได้พุ่งทะยานแผ่ขยายเข้าไปในจิตใจของผู้คน
ไม่ว่าอีกฝ่ายนั้นจะเก่งกาจแค่ไหน เขาก็สามารถเอาชนะมาได้เสมอๆ
เย่หยวนนั้นมีพรสวรรค์แน่นอนไม่ต้องถามถึง แน่มันก็ยังไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะพัฒนาได้เทียบเท่าหยางชิง
ในกลุ่มคนที่มามุงดูนั้นฉินชานหัวเราะขึ้นมา “เฮอะ ไอ้เจ้าโง่ที่ไม่ประเมินตัวเอง! มันคิดว่าหยางชิงยังเป็นหยางชิงคนเดิมหรืออย่างไร?”
เขานั้นไม่ชอบหน้าคนทั้งสองนี้แต่เขาก็รู้ดีแก่ใจว่าหยางชิงแข็งแกร่งแค่ไหน!
แข็งแกร่งจนทำให้เขาแทบคลั่ง!
“เย่หยวน ดูให้ดี! นี่คือไม้ตายสุดยอดที่ข้าสร้างขึ้นมาหลายปีก่อน! กระบวนท่านี้ยังไม่เคยมีใครรับมันไว้ได้!”
จู่ๆ หยางชิงก็แทงหอกยาวออกมาพร้อมด้วยพลังทำลายล้างที่กลืนกินทุกสิ่งอย่างรอบปลายหอกนั้นไป
เขานั้นไม่เคยคิดดูถูกเย่หยวนแม้สักครั้ง
ก็จริงที่ว่าเย่หยวนนั้นมีพลังบ่มเพาะต่ำกว่าเขาไปสองขั้น
แต่การที่เย่หยวนกล้าพูดเช่นนั้นออกมามันย่อมแสดงว่าเย่หยวนมีความมั่นใจในระดับหนึ่ง
แต่หยางชิงเองก็มั่นใจในตัวเองไม่น้อยเช่นกัน
ตัวเขาในตอนนี้มันแตกต่างจากเมื่อก่อนสิ้นเชิง
เหตุผลที่เขานั้นอยากจะสู้ต่อหน้าผู้คนมากมายมันก็เพราะว่าเขามั่นใจในชัยชนะของตัวเองนี้
สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังทำลายล้างนี้เย่หยวนก็ต้องเบิกตากว้าง
แข็งแกร่ง!
“นี่มันหอกล้างหมื่นเต๋า! ไม่นึกเลยว่ามหาจักรพรรดิฟ้าครามจะใช้ไม้ตายสุดยอดออกมาในกระบวนท่าแรกที่ปะทะกัน!”
“พลังของกระบวนท่านี้ไม่เคยมีมหาจักรพรรดิคนใดที่รับไว้ได้มาก่อน! นี่เขาไม่กลัวว่าจะสังหารเย่หยวนลงหรือ?”
“ข้าก็คิดว่ามันจะเป็นการลองมือกันเฉยๆ ไม่คิดเลยว่าจะเอาจริงเอาจังกันขนาดนี้! เย่หยวนตกที่นั่งลำบากแล้ว!”
…
เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นเองก็เบิกตากว้างขึ้นอย่างตกตะลึง
เพราะแม้แต่ตัวเขาก็ไม่นึกว่าหยางชิงจะใช้ท่าไม้ตายออกมาแต่แรกเช่นนี้
กระบวนท่านี้มันเป็นวิชาที่หยางชิงสร้างขึ้นกลางสนามรบ
เรียกว่ามันเป็นสุดยอดวิชาที่หล่อหลอมเต๋าหอกและเต๋าแห่งการทำลายล้างเข้าด้วยกันอย่างลงตัว!
แม้แต่ตัวเฟิงเสี่ยวเถียนเองก็ยังต้องยอมรับในพลังของมัน
ก่อนนั้นเจ้าโลกปู้ฉุนเคยกล่าวไว้ว่ากระบวนท่าวิชานี้มันจะเหนือล้ำกว่าตัวเขาไปเสียด้วยซ้ำ
มันทำให้หยางชิงถูกยกขึ้นเป็นผู้สืบทอดของเจ้าโลกปู้ฉุนและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งพันธมิตรในพริบตา!
แต่คนทั้งหลายต่างไม่มีใครคิดฝันว่าหยางชิงนั้นกลับจะใช้สุดยอดท่าไม้ตายออกมาตั้งแต่กระบวนท่าแรกเช่นนี้!
“ตาย!”
หยางชิงร้องลั่นพร้อมแทงหอกยาวทะลวงฟ้าออกมา
ภายใต้พลังของหอกนี้เต๋าใดๆ มันก็ถูกลบล้างจางหายไปสิ้น!
ยอดเต๋ารอบๆ หอกนั้นมันไม่อาจจะปล่อยพลังใดๆ ออกมาได้เลย!
มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์นั้นไม่อาจจะใช้พลังกฎใดๆ ออกมาหากถูกหอกนี้เล็งเป้าไว้!
นี่มันคือกระบวนท่าที่ผนึกกำลังของศัตรูไว้อย่างสิ้นเชิง
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเก่งกาจขึ้นมาได้ขนาดนี้! หากข้าไม่ได้ไปเจอเรื่องราวที่เกาะมังกรสวรรค์ข้าเองก็คงไม่อาจเทียบเคียงเจ้าได้จริงๆ หยางชิง เตรียมรับหมัดข้าไว้!”
มันไม่มีปราณเทวะรุนแรงใดๆ ปะทุขึ้นมาจากร่างเย่หยวน
มันมีเพียงพลังสายเลือดทั้งสี่ที่ปะทุขึ้นและหลอมรวมกันมาในหมัดเดียว!
หมัดนี้มันมีคลื่นพลังที่สุดแสนศักดิ์สิทธิ์สูงส่ง
เขานั้นไม่ต้องใช้กฎแห่งฟ้าดินใดๆ กฎนั้นเกิดขึ้นมาจากพลังของเขาแทน!
ตูม!
เมื่อหมัดนี้ถูกต่อยออกมาพลังคลื่นทำลายล้างมันก็ถูกลบล้างลงสิ้น!
หยางชิงนั้นต้องกระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรงและร่วงตกลงจมดินไป
หมัดเดียวเอาชนะหยางชิง!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน?” ฉินชานนั้นเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างตกตะลึงสุดใจ
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร! นั่นมัน…พลังศักดิ์สิทธิ์!” เฟิงเสี่ยวเถียนเองก็ต้องอ้าปากค้างขึ้น
ทั้งเมืองตะวันประจิมนั้นแตกตื่นไปพร้อมๆ กัน!
เพราะศึกนี้มันจบเร็วเกินคาดไปมากนัก
พวกเขานั้นคิดว่าสองยอดอัจฉริยะนี้จะต่อสู้กันจนฟ้าดินแหลกสลายไปเสียด้วยซ้ำ
แต่ผลลัพธ์มันกลับปรากฏออกมาในกระบวนท่าเดียว
เย่หยวนนั้นใช้หมัดเดียวนี้เอาชนะมหาจักรพรรดิฟ้าครามผู้ไร้เทียมทานลง!
“ม…ไม่มีทางน่า? มหาจักรพรรดิฟ้าครามอ่อนแอขนาดนี้หรือ?”
“มิใช่ว่ามหาจักรพรรดิฟ้าครามอ่อนแอ แต่เป็นเย่หยวนต่างหากที่เก่งกาจเกินคน!”
“ไม่อาจจะทำใจมองได้แล้ว! หยางชิงอุตส่าห์ไปป่าวประกาศเรียกคนมา สุดท้ายเขากลับไม่อาจจะรับได้แม้แต่หมัดเดียวหรือ!”
“พวกเขาเป็นสหายรักกัน! มันคงแค่จัดฉากให้เย่หยวนได้ชื่อเสียงยิ่งใหญ่กลับมาอีกครั้งเท่านั้น!
เย่หยวนนั้นจะอย่างไรก็ยังคงเป็นเย่หยวนผู้ไร้เทียมทาน!”
…
ครั้งหนึ่งเย่หยวนนั้นเคยถูกยกให้เป็นความหมายของการไร้เทียมทาน
เพียงแค่ว่าเมื่อเขาเดินทางจากไปตำแหน่งนั้นมันก็ถูกแทนที่ด้วยหยางชิงไปอย่างช้าๆ
แต่ศึกในวันนี้มันทำให้ตำแหน่งกลับไปเป็นของเย่หยวนอีกครั้ง
สุดท้ายแล้วคำว่าไร้เทียมทานก็ยังกลายเป็นของเขาอยู่ดี!
“อ่า! ได้ยังไงกัน!? ข้ารับไม่ได้แม้แต่หมัดเดียวของเจ้าหรือ? มันจะบ้าเกินไปแล้ว! ข้ารับไม่ได้!”
หยางชิงพุ่งตัวกลับขึ้นมาชี้หน้าถามเย่หยวนอย่างมึนงง
ความมั่นใจที่สั่งสมมากว่าหลายปีนั้นมันได้ถูกทำลายลงไปในชั่วพริบตา
มันมิใช่ว่าเขานั้นไม่เคยคิดว่าจะแพ้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะแพ้ราบคาบ และรับไม่ได้แม้แต่หมัดเดียวของเย่หยวนเช่นนี้
ที่สำคัญเขายังเห็นชัดเจนว่าหมัดของเย่หยวนนั้นมันเป็นหมัดเปล่าๆ ที่ไม่ได้ใช้กระบวนท่าวิชายุทธใดๆ ออกมา
มันเป็นแค่การใช้พลังสายเลือดต่อยออกมาเท่านั้น
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เพราะหมัดนี้มันไม่ธรรมดา!”
…………………………