บนท้องฟ้านั้นมันมีปราณดาบพุ่งตวัดไปมาอย่างดุดัน!
โฉปู้ฉุนนั้นถือดาบในมือยืนสง่าราวต้นไม้ใหญ่ไม่ไหวลม แต่เขานั้นจะอย่างไรก็มิใช่ต้นไม้ใหญ่
หวังจั่วและเชี่ยคงสองยอดเจ้าโลกเผ่าเลือดนั้นร่วมมือกันจนทำให้เขาแทบไม่อาจจะหายใจได้!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าโลกเชี่ยคงนั้นที่บรรลุเต๋าด้วยคลื่นกำเนิดห้วงมิติ ทำให้พลังต่อสู้ของเขานั้นจึงเหนือล้ำจนเกินบรรยาย ต่อให้ดาบของโฉปู้ฉุนนั้นจะทรงพลังจนทำลายโลกลงได้มันก็ไม่อาจจะทำอันตรายใดๆ เขาคนนี้ได้เช่นกัน
ภายใต้การร่วมมือของคนทั้งสองนั้น โฉปู้ฉุนไม่มีโอกาสที่จะเอาชนะได้เลย
ตูม!
หลังจากปะทะกันไปอีกหลายกระบวนท่าเชี่ยคงก็ได้ทำลายดาบโลกของโฉปู้ฉุนลงด้วยพลังคลื่นกำเนิดกระแทกเข้าร่างของเขาอย่างรุนแรง
โฉปู้ฉุนนั้นกระอักเลือดออกมาพร้อมปลิวไปไกลลิบตา
แล้วมีหรือที่หวังจั่วจะปล่อยโอกาสนี้ผ่านไปได้ง่ายๆ? เขานั้นใช้พลังเลือดพุ่งตัวตามออกไปในทันที
ฟุบ!
ดาบแสงนั้นแทงออกมาจากร่างของโฉปู้ฉุน กระแทกเข้าใส่ร่างหวังจั่วอย่างรุนแรง
หวังจั่วนั้นแตกสลายกลายเป็นแค่หมอกเลือดในพริบตา แต่ไม่นานหมอกมันก็รวมตัวกลับมาเป็นร่างหวังจั่วมองที่มองหน้าโฉปู้ฉุนอย่างคับแค้น
เจ้าหมอนี่มันเป็นตัวปัญหา!
มนุษย์ที่บ่มเพาะฝึกฝนดาบนั้นมันมีมากมายจนเกินกว่าจะนับได้แต่ไม่มีใครสามารถทำได้ถึงระดับของเขาคนนี้เลย ปราณดาบที่บริสุทธิ์และทรงพลังเช่นนี้มันเป็นอะไรที่น่ากลัวอย่างถึงที่สุด
“โฉปู้ฉุน เจ้าไม่มีทางชนะพวกเราได้หรอก! สู้ต่อไปมันก็มีแต่จะตายเปล่า!” หวังจั่วกล่าวขึ้น
“หวังจั่ว เจ้าไม่ต้องเสียเวลาพูดให้มากความหรอก! ก่อนที่คนเราจะฝึกดาบได้นั้นเราต้องฝึกใจตนเองเสียก่อน
ไม่ว่าคำพูดของเจ้ามันจะดูดีสวยหรูแค่ไหนมันก็ไม่มีทางทำให้จิตใจของข้าหวั่นไหวได้! เพราะยังไงคนเรานั้นก็ต้องตาย
ผู้บ่มเพาะนั้นจะยังกลัวตายอีกหรือ?” โฉปู้ฉุนตวาดกลับไป
เพราะตอนนี้หลังผ่านศึกต่อเนื่องยาวนานตัวโฉปู้ฉุนนั้นก็บาดเจ็บอย่างหนักหน่วง แต่ว่าเขากลับไม่ได้อ่อนแอลงมากมายนัก
หวังจั่วและเชี่ยคงนั้นเกรงกลัวเขาอย่างมากคิดจะใช้คำพูดไล่เขาให้หนีไปตั้งหลักที่สวรรค์อื่น แต่โฉปู้ฉุนนั้นไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย
อีกด้านนั้นเจ้าโลกหยุนซานและเจ้าโลกเฮยหยางเองก็กำลังตกที่นั่งลำบากเช่นกัน! เพราะว่าพวกเขาทั้งสองนั้นกำลังถูกเจ้าโลกระดับสูงถึงเจ็ดคนล้อมโจมตี!
แท้จริงแล้วตัวพวกเขาทั้งสองนั้นก็ใกล้ตายเต็มที ถึงตอนนี้พวกเขาได้แต่ต้องพึ่งกำลังใจสู้เท่านั้น
“เฒ่าเฮยหยาง เราต่อสู้กันมาไม่รู้กี่ปี ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายจะได้มาตายด้วยกันเช่นนี้ โชคไม่ดีเสียจริง!”
เจ้าโลกหยุนซานกล่าวขึ้นมาอย่างเศร้าใจ
เจ้าโลกเฮยหยางนั้นแทบต้องกระอักเลือดออกมาเมื่อได้ยิน
เขาร้องลั่นตอบกลับมา “ไอ้ฉิบหายหยุนซาน! เจ้าเฒ่าไม่ยอมตาย ปากเจ้านี่มันเหม็นดีเสียจริงๆ!”
หยุนซานหัวเราะตอบกลับไป “เฒ่าเฮยหยาง เจ้ามีความปรารถนาสุดท้ายอะไรหรือไม่?”
เฮยหยางตอบกลับ “ไม่มีความปรารถนาอะไรหรอก เพียงแค่…เมื่อใกล้ตายเช่นนี้ข้ากลับนึกถึงหญิงที่ข้าได้พบตอนยังอยู่ในภพเบื้องล่าง อ่า…ในที่สุดข้าก็จะได้ไปหานางเสียที!”
หยุนซานนั้นอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “พบกับปู่เจ้าสิ! เจ้าอยู่บนสวรรค์มากี่หมื่นกี่แสนปีแล้ว! นางคนนั้นคงเข้าออกสังสารวัฏเป็นว่าเล่นแล้ว!”
แต่เฮยหยางก็ไม่คิดเถียงและถามกลับมา “แล้วเจ้าเล่า เจ้าเฒ่า?”
หยุนซานนั้นหัวเราะขึ้น “ข้าไม่มีความปรารถนาสุดท้ายใดๆ มีเพียงแค่ความเศร้าใจที่ไม่ได้เห็นวันที่ศิษย์คนเล็กของข้าได้บรรลุถึงจุดสูงสุดเท่านั้น!”
“เฮ้อ เจ้ายังคิดถึงไอ้เด็กนั่นอยู่อีก? ข้ารับประกันให้เลยว่ามันคงถูกศิลาโลหิตโกลาหลควบคุมไปเรียบร้อยแล้ว เลิกคิดเรื่องนั้นเถอะ!” เฮยหยางกล่าวขึ้นอย่างมั่นใจ
“คำพูดเจ้ามันเหลวไหลจริงๆ!”
หยุนซานได้แต่ต้องด่าตอบกลับไปแต่จู่ๆ เขาก็ต้องถอนหายใจยาวออกมา “เฒ่าเฮยหยาง ได้เวลาแล้ว!”
เฮยหยางพยักหน้ารับ “อ่า ถึงเวลาแล้ว! หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเราคงไม่มีโอกาสจะได้ใช้มันด้วยซ้ำ!”
ตูม!
ตูม!
หลังหยุนซานและเฮยหยางนั้นมันปรากฏประตูแห่งชีวานิรันดร์ขึ้นมา
จากนั้นคนทั้งสองก็สละพลังชีวิตของตนแต่พลังปราณในร่างกลับพุ่งทะยานขึ้น!
“พวกมันกำลังสละชีวิตเพื่อแลกกับพลังชีวานิรันดร์! พวกเจ้าระวังด้วย! หลังจากที่พลังชีวิตมันหมดลงแล้วมันคงได้แต่นอนรอความตายแน่!” เจ้าโลกชิงเหยากล่าวขึ้นเตือนเจ้าโลกเผ่าเลือดคนอื่นๆ
“ตายห่าไปเสีย! หลอมให้ข้า!”
บนท้องฟ้านั้นหยุนซานขยายมือตัวเองขึ้นบีบหลอมเจ้าโลกเผ่าเลือดคนหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายนั้นยังไม่ตายและรอดกลับออกไปได้
เมื่อมาถึงระดับนี้แล้วการจะสังหารเจ้าโลกเผ่าเลือดมันย่อมจะเป็นเรื่องยากเย็นยิ่ง
เฮยหยางเองก็ปะทุพลังขึ้นมาทำลายร่างของเจ้าโลกเผ่าเลือดไปอีกคน
แต่น่าเสียดายที่มันยังไม่ถึงตายอยู่ดี!
ไกลออกไปนั้นโฉปู้ฉุนที่ได้เห็นคลื่นพลังนี้ก็กล่าวขึ้นอย่างเจ็บหัวใจ “ลาก่อนผู้อาวุโสทั้งสอง! โฉผู้นี้จะตามท่านไปในไม่ช้าแน่!”
หยุนซานนั้นหัวเราะลั่นขึ้น “เจ้าโลกปู้ฉุน การได้มารู้จักเจ้านั้นมันถือเป็นโชคของหยุนซานผู้นี้จริงๆ!
คนเฒ่าเราทั้งสองขอตัวก่อนล่ะ! ทุกคน พวกเราสองเฒ่าต้องขอลาไปก่อนแล้ว!”
คำพูดนี้มันทำให้บรรยากาศของสนามรบเปลี่ยนแปลงไปทันที
คนทั้งหลายเข้าใจดีว่านี่มันคือคำสั่งลาก่อนตายจาก!
การต่อสู้นี้มันยากลำบากจนเกินไป พวกเขานั้นเหนื่อยอ่อนกันมากแล้ว แม้ว่าคนที่ต่อสู้กับเผ่าเลือดจะเหนื่อยลำบากกันทุกคน แต่คนที่ลำบากที่สุดมันก็คงยังเป็นเจ้าโลกทั้งหลาย เพราะว่าพวกเขานั้นต้องแบกรับภาระมากมายไว้บนบ่า น่าเสียดายแค่ไหนพวกเขานั้นไม่อาจจะทำให้มันสำเร็จได้
“ผู้อาวุโสทั้งสองท่าน รักษาตัวด้วย! เราจะตามไปในไม่ช้าแน่!”
“ผู้อาวุโสทั้งสองลำบากมามากแล้ว!”
…
พวกหยุนซานทั้งสองปล่อยคลื่นพลังรุนแรงล้ำออกมาไล่โจมตีเจ้าโลกเผ่าเลือดทั้งหลาย
พริบตาเดียวเจ้าโลกเผ่าเลือดทั้งหลายก็ต้องถอยร่นไปไกล
แต่คลื่นพลังจากร่างพวกหยุนซานเองก็อ่อนแอลงไปมากเช่นกัน
แม้ว่าการแลกชีวิตกับพลังเช่นนี้มันจะทำให้พวกเขาปลดปล่อยพลังเหนือล้ำออกมาได้ แต่มันก็ทำให้ร่างกายของพวกเขานั้นเสียดายจนเกินเยียวยา
ปัง!
เจ้าโลกชิงเหยานั้นถือโอกาสตอนที่เจ้าโลกหยุนซานอ่อนแอลอบโจมตีทำลายร่างครึ่งล่างของเจ้าโลกหยุนซานลง
คลื่นพลังของหยุนซานนั้นอ่อนแอลงไปอย่างมากเมื่อถูกลอบโจมตี อยู่ในสภาพที่ไม่อาจต่อสู้ได้อีกแล้ว
“เฮ้อ สุดท้ายแล้วข้าก็จัดการพวกมันไม่ได้แม้สักคน น่าอับอายนัก!”
หยุนซานถอนหายใจยาวออกมาเมื่อได้เห็นเจ้าโลกชิงเหยาพุ่งตัวเข้ามาซ้ำ
ครั้งนี้เขาไม่อาจจะปัดป้องใดๆ ได้แล้ว
ความตายอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
ตูม!
แต่ในวินาทีนั้นเองที่ร่างของเจ้าโลกชิงเหยากลับกระเด็นออกไปอย่างรุนแรงราวกระสุนปืน
หยุนซานนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นอย่างมึนงง ‘นี่มันเรื่องอะไรกัน?’
แต่ไม่นานเขาก็ได้เห็นเงาร่างหนึ่งพุ่งตัวผ่านหน้าเขาไป พุ่งเข้าหาร่างของเจ้าโลกชิงเหยานั้น
ร่างนั้นมันดูดิบเถื่อนอย่างมาก
พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีมือของคนผู้หนึ่งรับร่างของเขาไว้ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
“จ้าวเยว่ ฉีกร่างของเจ้ามารร้ายนั้นลงให้เป็นชิ้นๆ!” เย่หยวนสั่งออกมาด้วยกำลังทั้งหมดที่มี
“โฮ่ก!”
จ้าวเยว่นั้นสัมผัสได้ถึงความคับแค้นในหัวใจของเย่หยวน มันเลยทำให้ตัวเขาที่บ้าคลั่งอยู่แล้วยิ่งดุร้ายเข้าไปเป็นสองเท่า
เขานั้นฉีกร่างของชิงเหยาออกเป็นชิ้นๆ
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
คลื่นพลังรุนแรงหลายสายพุ่งขึ้นมาตามๆ กัน!
หวังจั่วนั้นต้องเบิกตากว้างร้องลั่นขึ้นมา “เผ่ามังกรฟ้า! เผ่าหงส์แดง! เผ่าวิญญาณ! นี่…มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”
ตอนนี้หลงเจี้ยน หลวนชิงเหอและบู๋เมี่ย ต่างเข้าร่วมศึกและกดดันหวังจั่วและเชี่ยคงจนไม่อาจโงหัวขึ้นได้ เพราะคนทั้งสามนี้คือยอดเจ้าโลกที่มากชื่อ กำลังฝีมือนั้นเหนือล้ำจนไม่ต้องถามถึง
พวกเขาทั้งสามย่อมจะแข็งแกร่งกว่าหวังจั่วและเชี่ยคงที่เพิ่งบรรลุขึ้นมาได้ไม่นาน
โฉปู้ฉุนนั้นมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา มันราวกับว่านี่คือกองทัพจากสวรรค์ก็ไม่ปาน!
ใครจะไปคิดว่าสามยอดเจ้าโลกนั้นกลับจะมายังสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดเพื่อช่วยพวกเขาต่อสู้เผ่าเลือดกัน?
เรื่องราวเช่นนี้ต่อให้นอนหลับเขาก็ยังไม่กล้าฝันถึง
แต่มันเกิดขึ้นจริงแล้ว
“ฮ่าๆๆ…”
เจ้าโลกหยุนซานนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมา!
เขานั้นดีใจ!
ดีใจอย่างมากที่สุดในชีวิต!
วินาทีที่เขาได้เห็นหน้าเย่หยวนเขาก็รู้สึกว่าสามารถนอนตายตาหลับได้แล้ว!