“เย่หยวน เจ้าบ้านี่มันเก่งกาจนัก! นี่มันแค่อันดับหนึ่งพัน เช่นนั้นแล้วอันดับหนึ่งจะต้องเก่งกาจแค่ไหนกัน?”
หยางชิงร้องขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก
หยางชิงนั้นเป็นคนเย่อหยิ่งในฝีมือของตนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้อยปีมานี้เขาแทบจะทะลุฟ้าขึ้นไป
แต่วันนี้เขาได้มาเจอศัตรูที่คู่ควรแล้ว
ยอดฝีมือแต่ละคนในโถงพันวิญญาณนั้นต่างล้วนแล้วแต่เป็นยอดคนที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์!
“เก่งหรือ? ข้าไม่คิดเช่นนั้นนะ?” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป
หยางชิงที่ได้ยินต้องถอนหายใจยาวออกมาทันที “ไอ้หลานเต่านี่ ข้าไม่น่าเสียเวลามาพูดกับเจ้าเลย!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้ามันเป็นคนที่พัฒนาได้เมื่อถูกกดหัว! ไปทบทวนเถอะ ครั้งนี้เจ้าน่าจะได้ประโยชน์กลับไปมากมายทีเดียว”
หยางชิงพยักหน้ารับและนั่งลงที่มุมโถงใหญ่
คู่ต่อสู้ในโถงพันวิญญาณนี้มันคือสิ่งที่ยอดอัจฉริยะทั้งหลายจะได้พบเจอแค่ครั้งเดียวในชีวิต
ต่อสู้กับคนเช่นนี้มันถึงจะช่วยพัฒนาตัวเองได้อย่างมากมายมหาศาล
แต่ว่าเรื่องเช่นนี้ย่อมจะไม่มีค่ามากมายกับเย่หยวนแล้ว
เขานั้นตกตะลึงกับฝีมือของยอดคนในโถงพันวิญญาณนี้อย่างมากแต่ว่ามันก็แค่ความตกตะลึง
ฝีมือของคนทั้งหลายนั้นมันเหนือล้ำจนไม่อาจจะเอาไปเทียบกับระดับของลานฝึกในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนอกที่เขาเคยไปมาเลย
แต่เย่หยวนนั้นพัฒนาได้มากกว่านัก!
สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือเย่หยวนนั้นสามารถใช้งานพลังศักดิ์สิทธิ์ได้!
ตอนนี้อย่างว่าแต่คนระดับเดียวกับเขาเลย แม้จะเป็นยอดฝีมือที่มีพลังบ่มเพาะเหนือล้ำเขาไปสองถึงสามขั้นมันก็ยังไม่อาจต้านทานพลังศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนได้ เพราะฉะนั้นหยางชิงถึงได้รู้สึกหมดหนทาง
เบื้องหลังเย่หยวนนั้นมันมีคนมากมายที่คิดอยากลอง
ชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งก้าวขึ้นมายืนอยู่หน้าเย่หยวนและกล่าวขึ้น “นักบุญสวรรค์เย่ ข้าอยากจะลองบ้าง!”
เย่หยวนนั้นจดจำเขาคนนี้ได้ เขามีนามว่าหูเกาชาน
บนบันไดสวรรค์ตั้งนั้นเย่หยวนได้เจอยอดอัจฉริยะอยู่ไม่น้อยและหูเกาชานนี้ก็คือหนึ่งในคนที่เย่หยวนหมายตาไว้
แท้จริงแล้วบนโลกหล้านี้มันก็มีคนอีกมากมายที่ไม่อาจจะแสดงพรสวรรค์ออกมาได้อย่างเต็มที่ด้วยเหตุผลต่างๆ
คนเช่นนั้นตราบเท่าที่มีโอกาสได้เฉิดฉายแล้วพวกเขาก็จะกลายเป็นเจ้ามังกรผงาดขึ้นฟ้าไปได้ทันที!
ก่อนจะขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งมานั้นตัวหูเกาชานเป็นแค่เด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง
แท้จริงแล้วเย่หยวนไม่อาจจะแยกคนทั้งหลายนั้นได้เลยว่าใครเก่งกาจอ่อนแอ
แต่หลังจากขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งมาได้พักใหญ่เย่หยวนก็เริ่มเห็นว่ามันมีใครบ้างที่มากพรสวรรค์ในหมู่คนนับล้านนี้
การเข้าใจเต๋าได้นั้นมันคือการพัฒนาที่ดีที่สุด
เย่หยวนอธิบายเต๋าบนบันไดสวรรค์ตั้งมันได้ทำให้หลายคนผงาดล้ำฟ้าขึ้นมาในชั่วพริบตา
แต่ว่าเย่หยวนกลับไม่คิดรับคำของหูเกาชานและยิ้มตอบกลับไป “ข้าจะไปก่อนเอง พวกเจ้าดูไว้ให้ดีเถอะ!
พวกเจ้าจะเข้าใจแค่ไหนนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกเจ้าเองแล้ว! รอบนี้มันคงทำให้คนกว่าครึ่งต้องกลับลงไป!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นมา นี่นักบุญสวรรค์เย่จะสอนสั่งคนอีกแล้ว?
“ขอบพระคุณนักบุญสวรรค์เย่!”
“นักบุญสวรรค์เย่นั้นช่วยเหลือทุกชีวิต เราซาบซึ้งจนแทบหลั่งน้ำตาแล้ว!”
“นักบุญสวรรค์เย่นั้นช่างเป็นนักบุญที่จิตใจกว้างขวางนัก!”
…
หมู่คนทั้งหลายนั้นเริ่มกล่าวสรรเสริญเย่หยวนขึ้นมา พวกเขานั้นรู้ดีแก่ใจว่าหากไม่ได้เย่หยวนแล้วพวกเขาทั้งหลายคงไม่มีทางขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งมาได้แน่นอน เย่หยวนนั้นถูกยกย่องขึ้นเป็นถึงนักบุญสวรรค์แต่เขานั้นกลับไม่ได้หลงตัวเองและช่วยเหลือโลกหล้าอยู่เสมอ คนเช่นนี้มันหาได้ยากยิ่งบนสามสิบสามสวรรค์
พวกเขานั้นไม่ต้องคิดก็เข้าใจได้ว่ายอดอัจฉริยะจากสวรรค์อื่นๆ นั้นสูงส่งแค่ไหน
พวกเขามีหรือที่จะมาเทียบกับมดปลวกอย่างตนได้?
แต่นักบุญสวรรค์เย่นั้นกลับไม่คิดทอดทิ้งพวกเขาและช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถแทน เพื่อช่วยคนทั้งหลายเขานั้นไม่คิดจะขึ้นไปติดรายชื่อรวมสวรรค์ใดๆ เสียด้วยซ้ำ!
มีหรือที่พวกเขาจะยังไม่ซาบซึ้งได้?
คนทั้งหลายนั้นเข้าใจดีว่าหากเย่หยวนคิดลงมือจริงๆ แล้วหยางชิงย่อมจะไม่มีทางได้อันดับหนึ่งไป
เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้น “พวกเจ้าไม่ต้องพูดเช่นนั้นหรอก เพราะของเหล่านี้มันไม่มีค่ามากมายกับข้าแล้ว
เรียนรู้ไปมันก็พัฒนาได้ไม่มาก สู้เอาเวลานั้นมาช่วยให้พวกเจ้าทั้งหลายพัฒนาตัวเองจะดีกว่า เพราะโอกาสเช่นนี้มันไม่ได้จะเกิดขึ้นง่ายๆ เอาล่ะ ข้าจะลงมือแล้ว ดูให้ดีเล่า!”
พูดจบเย่หยวนก็ก้าวขึ้นไปบนค่ายกลต่อสู้
เมื่อโอหยางฟางเต๋อได้เห็นเย่หยวนนั้นเขาก็ต้องผงะไป เพราะแรงกดดันจากร่างของเย่หยวนนั้นมันทำให้เขาแทบไม่อาจหายใจ!
เทียบกับเย่หยวนคนนี้แล้วหยางชิงดูไร้ค่าไปเลย
คนหนุ่มสมัยนี้มันเก่งกาจขนาดนี้กันสิ้น?
ใครๆ ก็สามารถเก่งกาจล้ำฟ้าเช่นนี้ได้?
กับหยางชิงนั้นเขายังพอมีแรงสู้กลับไปบ้าง แต่กับเย่หยวนคนนี้เขารู้สึกไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน
นี่มันคือ…ความรู้สึกที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน!
โอหยางฟางเต๋อคนนี้คือหนึ่งในสุดยอดศิษย์จากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต นิกายอันดับหนึ่งบนสวรรค์!
“ลงมือเถอะ” เย่หยวนกล่าวขึ้น
โอหยางฟางเต๋อกัดฟันแน่นขึ้นมา เจ้าบ้านี่มันโอหังนัก!
เขาจึงได้หยิบเอาปากกาผู้พิพากษาขึ้นมาชี้เข้าโจมตีตัวเย่หยวนอย่างรวดเร็วล้ำ
ตัดสินชีวา!
ปากกาสยบมังกร!
ขุนเขาหมื่นลี้วารีคงคา!
…
โอหยางฟางเต๋อนั้นใช้กระบวนท่าออกมาอย่างต่อเนื่องปะทะเข้ากับเย่หยวนไม่ยั้งมือ
คนทั้งสองนั้นต่อสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร
ระหว่างที่สู้ไปนั้นโอหยางฟางเต๋อก็รู้สึกงงอยู่ไม่น้อย หรือว่าความรู้สึกก่อนหน้าของเขานั้นมันจะผิด? หรือว่าจริงๆ แล้วเจ้าเด็กคนนี้จะไม่ได้เก่งกาจเท่าที่เขาคิด?
หลังปะทะกันไปกว่าร้อยกระบวนท่าสุดท้ายแล้วโอหยางฟางเต๋อก็คิดว่าแม้เย่หยวนจะเก่งกาจแต่ก็ยังอ่อนแอกว่าหยางชิงไปมากมายนัก
เขานั้นได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ ขึ้นมาอย่างอับอาย นี่เขากลัวไปเองแล้ว?
แต่เขาไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าตอนนี้ยอดฝีมือชาวสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดที่ดูอยู่ด้านนอกต่างตื่นเต้นกันยกใหญ่
“อ่า ที่แท้กระบวนท่านี้มันทำลายเช่นนี้ก็ได้!”
“นักบุญสวรรค์เย่มีดาบเต๋าที่ลึกล้ำนัก! แต่ข้าเหมือนจะเข้าใจได้บ้างแล้ว!”
“ตัดสินชีวาของโอหยางฟางเต๋อมันถูกใช้ออกมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ข้าคิดว่าข้าคงสามารถแก้ไขมันได้แล้ว”
…
หลังจากผ่านไปได้ราวพันกระบวนท่าในที่สุดโอหยางฟางเต๋อก็ถูกเย่หยวนรีดวิชาออกมาจนสิ้น
เมื่อวิชานั้นถูกหาทางแก้ไขได้แล้วมันก็ไม่อาจจะใช้ต่อสู้ใดๆ ได้อีก
เป็นตอนนี้เองที่โอหยางฟางเต๋อเพิ่งได้รู้ถึงความเป็นจริง
เจ้าบ้านี่กำลังชำแหละกระบวนท่าของเขา?
ไอ้ฉิบหาย!
“ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้! เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” โอหยางฟางเต๋อร้องขึ้นมาอย่างคับแค้นใจ
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้ามันก็แค่เงาของคนตายที่ฟื้นขึ้นมาด้วยพลังคลื่นกำเนิด จะยังถือเป็นลูกผู้ชายใด? การชำแหละวิชาของเจ้าให้คนได้เรียนรู้นี้ถือเป็นประโยชน์ต่อเผ่าพันธุ์แล้ว”
โอหยางฟางเต๋อกัดฟันตอบกลับไป “เหลวไหล! ข้านั้นจะอย่างไรก็เป็นเจ้าโลกของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต
ตัวตนที่สูงล้ำฟ้า! เจ้าเด็กเวร เจ้ารนหาที่ตายแล้ว!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าโลกนั้นสุดท้ายก็ยังเป็นแค่คนตายได้ หรือว่าตัวจริงของเจ้าจะลุกขึ้นจากหลุมมากสังหารข้าหรือ?”
โอหยางฟางเต๋อนั้นไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร น่าเสียดายที่เขานั้นเป็นได้แค่เครื่องมือ หากเย่หยวนไม่คิดหยุด เขาก็มีแต่ต้องต่อสู้กับเย่หยวนตลอดไป จนถึงวันที่เย่หยวนเบื่อจะเล่นกับเขาแล้วเท่านั้นที่เขาจะได้ตายลง แต่ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าความรู้สึกแรกของเขานั้นมันไม่มีผิดพลาดแม้แต่น้อย!
เจ้าเด็กนี่มันเก่งกาจจนน่ากลัว!
มันเป็นเขาที่อ่อนแอเกินไป จึงไม่อาจจะสัมผัสถึงพลังที่แท้จริงของเย่หยวนได้
เย่หยวนนั้นมีปราณเทวะโกลาหล พลังของเขานั้นมันย่อมจะรุนแรงจนน่าขนลุก เพียงแค่ว่าเย่หยวนยั้งมือไว้เพื่อที่จะชำแหละกระบวนท่าวิชาของโอหยางฟางเต๋อออกมาให้คนทั้งหลายได้เรียนรู้
โอหยางฟางเต๋อในระดับเดียวกันนี้มันอ่อนแอกว่าเย่หยวนอย่างไม่อาจเทียบ ทำให้เขานั้นไม่เข้าใจว่าเย่หยวนต้องการทำอะไรตั้งแต่แรก กว่าจะเข้าใจเขาก็ถูกชำแหละกระบวนท่าออกไปจนสิ้นแล้ว
“เอาล่ะ แค่นี้คงพอ” เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมแทงดาบทะลวงร่างโอหยางฟางเต๋อไป
โอหยางฟางเต๋อตายลง!
แต่ไม่นานร่างของเขาก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในค่ายกลและร้องด่าเย่หยวนออกมา “ไอ้เจ้า…มารนรก!”
เจ้าบ้านี่รังแกผู้คนจนเกินไป!
โอหยางฟางเต๋อนั้นจึงได้แต่ต้องด่าออกมาจากสุดขั้วหัวใจ