“นี่…มันก็ผ่านมาตั้งสามวันแล้ว ปราณเทวะของมันยังไม่แสดงทีท่าจะเหือดแห้งลงเลย!”
“มิใช่แค่ปราณเทวะของมันเท่านั้นที่ไม่แสดงท่าทีจะหมดแต่สภาพวิญญาณของมันเองก็ไม่มีท่าทีลำบาก หนักหนาใดๆ เจ้าบ้านี่มันมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์จริง?”
“หรือว่ามันจะหลอมโอสถสวรรค์ทั้งสองพันเม็ดได้จริง? หากเป็นเช่นนั้นจริงมันคงสร้างประวัติการณ์ได้แล้ว!”
…
สามวันนั้นผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว แต่เรื่องราวมันกลับไม่เป็นไปดั่งที่พวกโจวเซียนเฉินคาดไว้
ความเหนื่อยอ่อนนั้นมันแสดงให้เห็นจริงแต่เย่หยวนกลับไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะหมดแรงใดๆ แม้แต่น้อย
โจวเซียนเฉินนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกขึ้นมา
แต่ยิ่งได้เห็นเขาก็ยิ่งไม่มั่นใจ
“หรือว่าเจ้านี่มันจะทำวางท่าเป็นหลอม? จริงๆ มันเผาสมุนไพรสวรรค์ที่ใช้หลอมโอสถทะลวงผนึกแปดเอกภพจนสิ้นสภาพไปแล้ว? ใช่ ต้องเป็นเช่นนี้แน่!” โจวเซียนเฉินนั้นกล่าวขึ้น
เพราะว่าหากมิเป็นเช่นนี้แล้วมันก็คงไม่มีความเป็นไปได้อื่น
“ใช่ ในความคิดข้านั้นโอสถทะลวงผนึกแปดเอกภพมันคงสิ้นสภาพหมดแล้ว! เจ้าเด็กนี่มันก็แค่จุดไฟไว้เพื่อเอาหน้าเท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยพลังบ่มเพาะของมันมีหรือที่จะทนหลอมมาได้จนถึงตอนนี้?” จินหนานกล่าวขึ้น
จากนั้นคนทั้งหลายก็เริ่มกลับมามั่นใจอีกครั้งและนั่งรอดูเย่หยวนเล่นตลก
วันที่ห้า มันเริ่มมีคนที่ขี้เกียจจะทนรอ
“ไอ้หนู เจ้าจะหลอมมันจนฟ้าดินแตกสลายเลยหรือ?”
“หากทำไม่ได้ก็บอกมาว่าทำไม่ได้! ทำเช่นนี้มันมีแต่จะอับอายขึ้นกว่าเก่าเท่านั้น!”
“หลอมโอสถทะลวงผนึกแปดเอกภพสองพันเม็ดนั้นมันย่อมจะเหนื่อยยากล้ำ แต่เจ้านั้นกลับยังนั่งสบายๆ
เจ้าคิดว่าพวกเราโง่เง่ามากหรือ?”
…
ในตอนนี้คนทั้งหลายล้วนมั่นใจว่าเย่หยวนนั้นแค่ยื้อเวลาเอาหน้า
พวกเขาเชื่อว่าสมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายนั้นมันไหม้เป็นถ่านไปหมดแล้ว
เพราะว่าจนถึงตอนนี้เย่หยวนก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีเหนื่อยล้ามากมายออกมา
การแสดงนี้มันจึงไม่มีความน่าเชื่อถือในสายตาของพวกเขาทั้งหลายเลย
หยางชิงยิ้มตอบกลับไปแทนเย่หยวน “โจวเซียนเฉิน ตอนที่เจ้าหลอมโอสถทะลวงผนึกแปดเอกภพสามร้อยเม็ดนั้นเจ้าเองก็ใช้เวลาถึงห้าวันมิใช่หรือ? เย่หยวนนั้นหลอมทีเดียวสองพันเม็ด แน่นอนว่าเขาต้องใช้เวลามากกว่าเจ้า
ขืนยังร้องต่อไปพ่อเจ้าจะได้แทงหอกใส่อกคนแล้ว!”
โจวเซียนเฉินนั้นหัวเราะตอบกลับไป “ด้วยฝีมือของข้านั้นการหลอมโอสถทะลวงผนึกแปดเอกภพสามร้อยเม็ดมันก็เป็นเรื่องเหนื่อยยากไม่น้อย เจ้าเด็กนี่กลับคิดหลอมสองพันเม็ดแต่ยังไม่ได้แสดงท่าทางเหนื่อยอ่อนใดๆ เจ้าคิดว่ามันจะยังหลอมใครได้?”
หยางชิงยิ้มตอบกลับไป “คนโง่ๆ อย่างเจ้ามันจะเข้าใจวิธีการของยอดอัจฉริยะได้อย่างไร?”
โจวเซียนเฉินนั้นกัดฟันแน่นขึ้นทันที!
เพราะว่าในเต๋าโอสถเขานั้นคือยอดอัจฉริยะที่ถูกยกเหนือหัวทุกผู้คนบนสามสิบสามสวรรค์ เป็นอันดับหนึ่งสุดยอดอัจฉริยะของยุคสมัย
คนเช่นนี้ย่อมจะไม่เคยถูกใครเรียกว่าโง่มาก่อนทั้งชีวิต
หยางชิงนั้นมันช่างรนหาที่ตายได้เก่งจริง!
แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หยางชิงผู้บรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นั้นมันเก่งกาจจนโจวเซียนเฉินไม่กล้าจะเข้าไปใกล้
ในวันที่เจ็ดมันก็เริ่มมีคนหัวเสียเพิ่มมากขึ้น
“ไอ้โกหก พวกเจ้าคิดจะยื้อมันไปจนถึงเมื่อไหร่?”
“ทนไม่ไหวแล้ว ข้าขอรบกวนหน่อยล่ะ!”
“ไอ้หนู ไม่มีฝีมือจริงก็อย่าได้มาอวดอ้างตัวเองสิวะ! ทำเช่นนี้มันมีแต่จะขายหน้าไปกว่าเก่าเท่านั้น!”
…
มันเริ่มมีคนด่าว่าขึ้นมาจากรอบทิศและบ้างก็คิดจะลงมือขัดขวางการหลอมโอสถของเย่หยวน
หยางชิงที่ได้ยินก็ลุกขึ้นพร้อมหอกยาวข้างกาย “ลองดู! แต่เจ้าต้องถามความยินยอมจากหอกของข้านี้ก่อน!”
ได้เห็นเช่นนั้นคนทั้งหลายก็หุบปากลงทันที
เพราะหยางชิงคนเดียวนั้นยังไม่น่ากลัว แต่เบื้องหลังหยางชิงนั้นมันมีคนอีกห้าหมื่นที่พร้อมลงมือ!
ในวินาทีเดียวกันนั้นเองที่เย่หยวนปลดปล่อยพลังรุนแรงขึ้น “ไป!”
เพลิงจุติวิโมกข์นั้นมันดับลงพร้อมด้วยโอสถสวรรค์มากมายพุ่งผ่านอากาศไปยังมือของมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์หลายคน
ก่อนหน้านี้เย่หยวนได้เลือกไว้แล้วว่าคนทั้งสองพันนั้นมันจะมีใครบ้าง
จากด่านบันไดสวรรค์ตั้งและด่านโถงพันวิญญาณนั้นเย่หยวนได้เลือกคนที่หัวไวเข้าใจเต๋าได้รวดเร็ว
คนทั้งสองพันนี้มีพรสวรรค์ หูเกาชานก็เป็นหนึ่งในนั้น
เขานั้นจะอย่างไรก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ขั้นสุดแล้ว แต่เขาเองก็เพิ่งบรรลุและยังไม่ถึงเวลาที่จะบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไป
หากให้พูดแล้วสภาพของเขานั้นมันไม่ได้ต่างจากหยางชิงมาก ยังไม่ถึงเวลาบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์
หากไม่ได้เตรียมตัวให้ดีแล้วการคิดบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์มันย่อมจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงเกินรับ
โอสถทะลวงผนึกแปดเอกภพในมือของเขานั้นมันย่อมจะเป็นระดับต้นกำเนิดอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ต่อให้จะเป็นโอสถระดับต้นกำเนิดมันก็ยังไม่แน่ว่าเขาจะทำได้เช่นกัน เพราะอย่างไรเสียคนทั้งหลายก็มิใช่สัตว์ประหลาดเช่นหยางชิง
แต่ในเวลานั้นเองที่คนจากสวรรค์อื่นๆ ร้องลั่นอย่างแตกตื่นขึ้น เพราะว่าโอสถทะลวงผนึกแปดเอกภพทั้งสองพันเม็ดนั้นมันหลอมจนถึงระดับต้นกำเนิดได้จริง!
คุณภาพของโอสถทั้งหลายนั้นมันไม่ได้ด้อยกว่าโอสถที่โจวเซียนเฉินหลอมเลย
แต่แม้จะเป็นการหลอมโอสถทะลวงผนึกแปดเอกภพสามร้อยเม็ดของโจวเซียนเฉินนั้น เขาเองก็ยังทำพลาดไปบ้าง
แม้ว่าคุณภาพของโอสถที่พลาดมันจะไม่ตกไปต่ำกว่าระดับต้นกำเนิดแต่มันก็ยังด้อยกว่าโอสถเม็ดอื่นๆ
แม้จะเป็นระดับต้นกำเนิดแต่มันย่อมจะมีความแตกต่างกันไป
แต่ว่าโอสถทะลวงผนึกแปดเอกภพทั้งสองพันเม็ดนี้มันกลับมีคุณภาพเทียบเคียงในระดับเดียวกันอย่างสมบูรณ์ และไร้ที่ติใดๆ อย่างสิ้นเชิง!
พวกเขาทั้งหลายนั้นคือยอดฝีมือพวกเขาย่อมจะมองออกได้ว่าโอสถสวรรค์นั้นมันมีคุณภาพแค่ไหน
คนทั้งหลายจึงแตกตื่นกันขึ้นมา
“เขา…เขากลับทำได้จริง! เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
“ทำได้ไง! โอสถสวรรค์สองพันเม็ดนั้นมันกลับไม่มีความผิดพลาดไปแม้แต่น้อย! เช่นนั้นแล้วการหลอมของเขามันต้องสมบูรณ์แบบแค่ไหนกัน?”
“ที่น่าคับแค้นใจที่สุดคือการหลอมสองพันเม็ดของเขานี้ไม่ได้ทำให้เขาเหนื่อยอ่อนจนหมดแรงใดๆ! นายน้อยโจวบอกไว้มิใช่หรือว่าการหลอมเช่นนี้มันต้องใช้ปราณเทวะของอาณาจักรมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุด?”
“ท่าทางสบายๆ ของเขานั้นมันกลับมิใช่ของปลอม! นี่มันจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว!”
…
คนทั้งหลายที่กล่าวว่าเย้ยหยันนั้นต่างรู้สึกอับอายขึ้นมาสุดใจ
พวกเขาทั้งหลายนั้นคิดอยู่หลายตลบแต่ก็ไม่มีใครเข้าใจว่าเย่หยวนทำมันได้อย่างไร!
ต่อหน้าต่อตา!
โจวเซียนเฉินนั้นเองก็ได้แต่ต้องอ้าปากค้างเพราะภาพตรงหน้านี้มันเกินกว่าจะเชื่อถือได้
โอสถทะลวงผนึกแปดเอกภพแต่ละเม็ดในมือคนนับสองพันนี้มันเหมือนถูกผลิตออกมาจากเครื่องจักร
มันไร้ข้อแตกต่างใดๆ
มาถึงระดับของเขาแล้วเขาย่อมจะยิ่งเข้าใจว่าการทำเช่นนี้ได้มันต้องมีการควบคุมพลังและการหลอมที่สมบูรณ์แบบแค่ไหน!
ไม่ว่าจะเป็นปราณเทวะ ทักษะการหลอม วิญญาณดั่งเดิมทุกสิ่งอย่างนั้นมันจะผิดพลาดไม่ได้
ของเช่นนี้อย่าว่าแต่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ ต่อให้จะเป็นเจ้าโลกทั้งหลายเองก็ยังไม่อาจจะทำได้ง่ายๆ
แต่เย่หยวนกลับทำได้!
สัตว์ประหลาดเช่นนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
เห็นได้ชัดเจนว่าโอสถทะลวงผนึกแปดเอกภพของเย่หยวนนั้นมันมีคุณภาพไม่ด้อยไปกว่าโอสถของเขาแม้แต่น้อย
จริงๆ หากให้พูดแล้วมันจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ
แต่เย่หยวนนั้นหลอมมันถึงสองพันเม็ดในคราเดียว!
ความแตกต่างนี้ตราบเท่าที่เขาไม่ได้ตาบอดไปเขาก็ย่อมจะมองมันออก!
“ข้า โจวเซียนเฉินนั้นกลับถูกเด็กที่ไหนไม่รู้มาตบหน้า?” โจวเซียนเฉินนั้นกล่าวขึ้นอย่างมึนงง
จินหนานและชูฟางนั้นเองก็ผงะไปเช่นกัน!
พวกเขานั้นเห็นและตัดสินไปแล้วว่าเย่หยวนนั้นแค่วางท่ายื้อเวลา
แต่การหลอมที่เสร็จสิ้นของเย่หยวนนี้มันตบหน้าพวกเขาจนหัน!
ภาพตรงหน้านี้มันทำให้พวกเขาได้เข้าใจความหมายของคำว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าอย่างแท้จริง!
“ฮ่าๆๆ ตะลึงสิ? ข้าก็บอกแล้วว่าคนโง่ๆ อย่างพวกเจ้ามันไม่มีทางเข้าใจวิธีการของอัจฉริยะได้! เย่หยวนเจ้าบ้านี่มันด้อยกว่าข้าไปแค่เล็กน้อยเท่านั้น แค่การเอาชนะขยะอย่างพวกเจ้ามันต้องทำให้เขาต้องเหงื่อตกด้วยหรือ?”
หยางชิงหัวเราะลั่นขึ้นมา
คนทั้งหลายที่ได้ยินต่างต้องหันมามองหน้ากันอย่างไม่มีใครกล้าเถียง
เพราะว่าคนที่มานี้มันล้วนแล้วแต่เป็นยอดอัจฉริยะของสวรรค์ตนเอง
แต่พวกเขานั้นกลับไม่อาจเทียบเคียงเย่หยวนและหยางชิงนี้ได้เลย!
หยางชิงนั้นเก่งกาจขึ้นครองอันดับหนึ่งทั้งในรายชื่อรวมสวรรค์และรายชื่อพันวิญญาณ กดหัวคนทั้งสามสิบสามสวรรค์ไว้ด้วยตัวคนเดียว
ส่วนเย่หยวนนั้นหลอมโอสถทะลวงผนึกแปดเอกภพสองพันเม็ดพร้อมๆ กันตบหน้ายอดอัจฉริยะด้านการโอสถจากทุกสวรรค์ลงสิ้น!
แม้แต่โจวเซียนเฉินยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งในด้านการโอสถคนนี้เองก็ยังพ่ายแพ้ลงอย่างย่อยยับ!