คนทั้งหลายนั้นรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของการหลอมครั้งนี้อย่างชัดเจน
เพราะแม้ว่าพวกเขาจะมองไม่เห็นถึงเรื่องที่เกิดขึ้นภายในเพลิงจุติวิโมกข์นั้นแต่คลื่นกำเนิดมันก็ปะทุขึ้นมาจากร่างของเย่หยวนอย่างรุนแรงจนทำให้พวกเขาทั้งหลายสัมผัสได้ถึงยอดเต๋า
ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังทำหน้าตาเครียดออกมาด้วย!
เพราะนี่มันคือการหลอมครั้งที่ยากที่สุดของเย่หยวนเช่นกัน!
โอสถรูสวรรค์ร้อยชะตานี้มันเรียกได้ว่าเป็นจุดสุดยอดของโอสถสวรรค์ระดับแปดแล้วก็ว่าได้
การจะหลอมมันนั้นย่อมมิใช่เรื่องง่ายดาย
การหลอมโอสถรูสวรรค์ร้อยชะตาสามร้อยเม็ดนี้มันเรียกว่าเป็นการฝืนตัวเองของเย่หยวนแล้วก็ว่าได้
ความยากของมันนั้นเกินล้ำกว่าจะจินตนาการ!
โดยเฉพาะกับโจวเซียนเฉิน ชูฟางและจินหนาน พวกเขาเข้าใจถึงความยากของโอสถรูสวรรค์ร้อยชะตานี้ดี
“หากเขาทำได้จริงๆ แล้วมันคงจะกลายเป็นประวัติการณ์ สถิติที่ไม่มีทางถูกทำลายได้ในเต๋าโอสถแน่นอน!”
ชูฟางกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“การหลอมเช่นนี้มันเรียกได้เพียงแค่ว่าความสมบูรณ์แบบ! หากหลอมได้จริงๆ แล้วมันคงจะเป็นสิ่งที่กลายเป็นตำนานเล่าขานไปตลอดกาลแน่นอน!” จินหนานกล่าวขึ้นมาด้วยความรู้สึกจุกกลางอกเช่นกัน
เย่หยวนนั้นมีฝีมือที่เหนือล้ำอย่างไม่ต้องสงสัย
หากเป็นปกติแล้วพวกเขาควรจะด่าแช่งเย่หยวนกันยกใหญ่ให้พลาดลง
แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดแต่ตอนนี้พวกเขากลับรู้สึกตั้งตารออยากเห็นความสำเร็จ
โจวเซียนเฉินนั้นมิใช่เป้าหมายของพวกเขา
หรือจะพูดว่าโจวเซียนเฉินนั้นเป็นแข็งแกร่งแต่ก็ไม่ได้สูงล้ำเกินข้ามไป
แต่เย่หยวนนั้นกำลังจะสร้างยอดที่สูงล้ำที่สุดในประวัติศาสตร์!
หากทำได้จริงๆ แล้วพวกเขาจะได้เป้าหมายใหม่ให้ไล่ตามชั่วชีวิต!
โจวเซียนเฉินนั้นกล่าวขึ้นเย้ย “พวกเจ้าสองคนจะบ้าไปแล้วหรือ? โอสถสวรรค์ระดับโอสถรูสวรรค์ร้อยชะตานั้นมันยากแค่ไหนพวกเจ้าก็รู้กันดีแก่ใจ! โอสถรูสวรรค์ร้อยชะตาสามร้อยเม็ดพร้อมกันนี้มันย่อมจะไม่มีใครสามารถหลอมได้แน่นอน!”
จินหนานพยักหน้ารับเมื่อได้ยิน “ข้ารู้ดีว่ามันยากแค่ไหน! แต่ก็เพราะว่าข้ารู้นี่แหละข้าถึงตั้งตารอดูมันนัก!
ในฐานะอันดับหนึ่งนั้นเจ้าไม่คิดอยากจะเห็นวินาทีประวัติศาสตร์บ้างหรือ? หรือว่าตัวเจ้าในตอนนี้คิดว่าตัวเองจะไล่ตามบรรพบุรุษหวู่หยาและบรรลุล้ำสวรรค์ไปได้?”
ชูฟางนั้นกล่าวขึ้นตาม “พ่อเจ้า เจ้าโลกเจิ้นหยางท่านเองก็ไม่ได้ด้อยกว่าเจ้าเลยสมัยหนุ่มๆ แต่ถามว่าท่านเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้หรือไม่? เช่นนั้นเจ้าคิดว่าตัวเองนั้นเก่งกาจกว่าพ่อหรือ? นักหลอมโอสถสวรรค์ในรุ่นเรานั้นมันมีใครบ้างที่ไม่ไล่ตามล้ำสวรรค์? หากเย่หยวนทำได้จริงๆ มันคงจะเป็นเป้าหมายใหม่ที่เปลี่ยนแปลงความคิดของเราไปสิ้น!”
โจวเซียนเฉินนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกาย!
เขานั้นรู้สึกตัวขึ้นมาทันทีว่าเขานั้นกำลังหลงมัวเมากับสิ่งของนอกกายอยู่
ใช่แล้ว เขากำลังสับสนเต๋าของตัวเอง!
เหมือนอย่างที่ชูฟางกล่าวขึ้นมานั้น พ่อของเขานั้นเป็นศิษย์ที่บรรพบุรุษหวู่หยาท่านภาคภูมิใจที่สุด
ทว่าจนถึงวันนี้ก็ยังไม่อาจจะใช้เต๋าโอสถเปิดประตูแห่งชีวิตนิรันดร์บรรลุล้ำสวรรค์ได้!
เช่นนั้นตัวเขาเองก็คงไม่มีทางทำได้เช่นกัน!
เพราะว่าเขานั้นไม่ได้เหนือล้ำกว่าพ่อตัวเองเลย
เส้นทางสู่ล้ำสวรรค์ปิดตายแล้วลงเต๋าของเขาจะยังมีค่าใดมากมาย?
เพราะฉะนั้นหลายปีมานี้เขาจึงสับสนกับตัวเองมาก พร้อมๆ กันนั้นเขาก็หลงไปกับคำเยินยอของคนรอบข้างไปด้วย
การปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนนั้นเป็นเหมือนสายฟ้าผ่าลงกลางหัวเขา ทำให้เขาได้ตื่นกลับขึ้นมาในโลกความเป็นจริงอีกครั้ง!
จินหนานและชูฟางนั้นตื่นแล้ว แต่ตัวโจวเซียนเฉินนั้นยังไม่ตื่นเต็มตาหลงมัวเมาในความสำเร็จน้อยๆ ของตน!
เขานั้นไม่อาจจะยอมรับความจริงที่เย่หยวนเหนือกว่าตัวเองได้และคิดแช่งให้เย่หยวนแพ้
เขาไม่คิดว่าเย่หยวนจะทำได้สำเร็จและไม่รู้เลยว่าหากเย่หยวนทำได้จริงๆ มันจะเป็นวินาทีประวัติศาสตร์แค่ไหน!
ได้ยินเช่นนั้นโจวเซียนเฉินจึงสะดุ้งตื่นขึ้นมาสู่ความเป็นจริง
เขานั้นก้าวเดินออกมาใกล้กับเพลิงจุติวิโมกข์
ตามหลังเขามานั้นมันยังมีจินหนานและชูฟางอยู่ด้วย
หยางชิงที่ได้เห็นนั้นต้องหรี่ตาลงเดินมาขวางคนทั้งสามไว้ “หยุด! พวกเจ้าคิดจะทำอะไร?”
โจวเซียนเฉินก้มหัวลงตอบกลับไป “พี่หยาง โปรดมีเมตตาให้อภัยความโง่เง่าก่อนหน้าของเราด้วยเถอะ!”
หยางชิงต้องผงะไปเมื่อได้ยิน ‘ทำไมกัน? หรือว่าพวกมันจะเปลี่ยนใจแล้ว? มันต้องมีแผนร้ายใดแน่!’
“หากคิดอยากจะขอโทษข้าก็จะรับไว้ให้ จะเดินเข้ามาทำไม? หากยังเข้าไปใกล้กว่านี้ข้าคงต้องลงมือแล้ว!”
หยางชิงขู่ออกมา
โจวเซียนเฉินนั้นกล่าวขึ้นมาอย่างจริงใจ “พี่หยางนั้นเข้าใจผิดแล้ว โจวผู้นี้รู้ดีว่าตัวเองเดิมพันแพ้และไม่มีทางจะชนะท่านได้อีกแน่นอน! อาจารย์เย่ท่านนั้นมีการหลอมโอสถที่อยู่บนยอดของเต๋าโอสถอย่างแท้จริง มันเป็นเรื่องสำคัญกับเราทั้งสามอย่างมาก! เรานั้นอยากจะเห็นมัน! วางใจเถอะ พวกเราทั้งสามนั้นแค่จะเข้าไปดูใกล้ๆ เพลิงจุติวิโมกข์เท่านั้น
ไม่คิดจะรบกวนอาจารย์เย่ท่านแม้แต่น้อย!”
หยางชิงที่ได้ยินก็ต้องผงะไป จะบอกว่าอัจฉริยะที่โอหังทั้งสามนี้กลับยอมรับนับถือเย่หยวนหมดใจจริงๆ?
ไม่ มันต้องมีแผนร้ายแน่!
ศิษย์จากนิกายใหญ่เช่นนี้ต่อให้จะเป็นแค่รุ่นสองรุ่นสามพวกเขาก็โอหังเย่อหยิ่งล้ำฟ้า มีหรือที่จะยอมก้มหัวรับใครง่ายๆ?
คนพวกนี้ต้องมาขวางการหลอมโอสถของเย่หยวนแน่นอน
“ไม่ได้ เจ้าห้ามเข้าไปใกล้กว่านี้!” หยางชิงยกหอกขึ้นกั้น
“ให้พวกเขามาเถอะ” เย่หยวนกล่าวขึ้นแทรก
คนทั้งสามที่ได้ยินต้องหันมามองหน้ากันอย่างตกตะลึง พวกเขานั้นคิดไปว่าเย่หยวนคงกำลังตั้งสมาธิทั้งหมดกับการหลอม พวกเขาไม่นึกฝันว่าเย่หยวนจะยังมีแรงเหลือมาสนใจเรื่องรอบข้าง!
เพราะหากเขานั้นตั้งสมาธิจนสุดตัวแล้วจริงๆ เรื่องที่เกิดขึ้นตรงนี้คงไม่มีทางไปถึงหูเขาได้แน่
แต่การที่เขาพูดออกมาเช่นนี้มันหมายถึงว่าเขานั้นยังมีแรงเหลือ!
ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
หยางชิงเองก็รู้ดีว่าเย่หยวนนั้นกำลังตั้งสมาธิอย่างมากจะถูกรบกวนไม่ได้
แม้ว่าจะรู้สึกกังวลอยู่มากแต่สุดท้ายเขาก็ปล่อยคนทั้งสามผ่านไป
ทั้งสามเดินมาหยุดลงตรงเพลิงจุติวิโมกข์และก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวนก่อนจะกล่าวว่า “ขอบพระคุณอาจารย์เย่!”
คำว่าอาจารย์เย่ของพวกเขานี้เดิมทีแล้วมันมีแต่ความเย้ยหยัน แต่ในตอนนี้มันเป็นคำเรียกที่เปี่ยมด้วยความเคารพ
เย่หยวนนั้นไม่คิดตอบกลับไปและปล่อยให้คนทั้งสามส่งจิตเข้ามาดูภายในเพลิงจุติวิโมกข์
นั่นทำให้เรื่องที่เกิดขึ้นภายในปรากฏแก่สายตาคนทั้งสาม
พริบตาเดียวนี้พวกเขาทั้งสามก็สั่นสะท้านขึ้นพร้อมๆ กัน เพราะพวกเขานั้นได้เห็นภาพที่จะไม่มีทางลืมไปได้ตลอดชีวิต
เย่หยวนนั้นได้เปิดประตูสู่โลกใบใหม่ให้แก่พวกเขา!
ในเพลิงจุติวิโมกข์นี้มันมีดวงดาวสามร้อยดวงกำลังเปล่งประกาย พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีเส้นด้ายบางเฉียบเชื่อมต่อดวงดาวทั้งสามร้อยไว้ด้วยกัน และปลายสุดของเส้นด้ายนั้นมันก็เชื่อมต่อกับมือของเย่หยวน
ดวงดาวทั้งสามร้อยนั้นมันดวงงามตระการตาเหมือนดั่งภาพของจักรวาลหนึ่ง
เย่หยวนนั้นกำลังสร้างดวงดาวสามร้อยดวง
แน่นอนว่ามาถึงระดับพวกเขาแล้วพวกเขาย่อมจะเข้าใจแนวคิดหนึ่งโอสถหนึ่งโลก
แต่สิ่งที่เย่หยวนสร้างนั้นมันสมบูรณ์แบบ!
พวกเขานั้นรู้สึกราวกับว่าโอสถสวรรค์ทั้งหลายนี้มันมีพลังเทียบเคียงกับคงคานิรันดร์ก็ไม่ปาน!
เรื่องนี้มันหมายถึงอะไร?
มันหมายถึงว่าเย่หยวนนั้นเข้าใจเต๋าในระดับที่สูงส่งเกินจินตนาการ
เวลานี้พวกเขาเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมเย่หยวนจึงสามารถหลอมโอสถทะลวงผนึกแปดเอกภพได้ครั้งละสองพันเม็ด
นี่มันคือศิลปะ!
แทบลืมหายใจ!
ก้มหัวยอมรับสุดตัว!
พวกเขานั้นไม่กล้าแม้แต่จะขยับเคลื่อนไหวร่างกายอีกต่อไป เพราะตอนนี้พวกเขานั้นไม่กล้าจะทำให้ผลงาน ชิ้นเอกตรงหน้านี้ต้องมีรอยด่างพร้อย
สำหรับนักหลอมโอสถสวรรค์แล้วภาพตรงหน้านี้มันคือสิ่งที่พวกเขาไล่ตามตลอดชีวิต
ส่วนที่โลกด้านนอกนั้นมันก็เกิดความแตกตื่นขึ้นอย่างไม่อาจเลี่ยง
“จะล้ำเกินไปแล้ว! อาจารย์เย่นั้นกลับทำให้พวกโจวเซียนเฉินสามคนยอมรับนับถือสุดตัว!”
“พวกเจ้าดูหน้าพวกเขาสิ เหมือนพวกเขาได้เห็นภาพที่เหนือจินตนาการ! ภายในเพลิงจุติวิโมกข์นั้นมันต้องมีความลับยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่แน่!”
“นี่อาจารย์เย่เก่งกาจได้ขนาดนั้น? หมายความว่าวันหน้าเขาอาจจะกลายเป็นเจ้าโลกล้ำสวรรค์ด้วยเต๋าโอสถต่อจากบรรพบุรุษหวู่หยาท่าน?”
…
พวกโจวเซียนเฉินนั้นเย่อหยิ่งหลงตัวเองแค่ไหน?
แต่ตอนนี้พวกเขานั้นกลับยอมรับนับถือเย่หยวนสุดหัวใจ
นอกจากนี้ภาพตรงหน้ามันยังทำให้พวกเขาต้องอ้าปากค้างอย่างไม่กล้าขยับตัว
ได้เห็นเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ยิ่งสงสัยในใจ
เวลาค่อยๆ เคลื่อนผ่าน
พร้อมกับสีหน้าของพวกโจวเซียนเฉินทั้งสามเองก็ยิ่งเปลี่ยนแปลงไปจนตอนนี้แทบจะมีน้ำตาไหลออกมา