มุมมองของพระเจ้า!
แม้แต่เย่หยวนเองก็ยังต้องทึ่งในพลังของคัมภีร์สวรรค์นี้
เขานั้นรู้สึกเหมือนตัวเองได้ก้าวขึ้นมาเป็นเต๋าสวรรค์ปกครองทุกชีวิตไป
ทุกสิ่งอย่างนั้นปรากฏชัดเจนแก่สายตาของเขา
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นกระแสลม ดอกไม้ ใบหญ้า ต้นไม้ใดๆ ล้วนแล้วแต่ปรากฏชัดเจนต่อสายตาเขา
“กลายเป็นสวรรค์และสัมผัสทุกชีวิตไป? ไม่สิ นี่มันมิใช่แค่ทุกชีวิตบนโลกหล้าแต่แม้สิ่งไม่มีชีวิตทั้งหลายเองข้าก็สัมผัสได้! ของทั้งหลายนั้นต่างมีจิตวิญญาณของมันเอง มันเป็นเช่นนี้!” เย่หยวนกล่าวขึ้น
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน! หากบอกว่าคัมภีร์สวรรค์นั้นอยู่ในมือเจ้าแล้วสิ่งที่อยู่ในมือบรรพบุรุษหวู่หยานั้นมันคือสิ่งใดเล่า?” หยางชิงยังอดถามขึ้นไม่ได้
เย่หยวนหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะตอบกลับมา “มันคงเป็นคัมภีร์สวรรค์ที่บรรพบุรุษหวูเทียนคัดลอกไว้! แม้ว่าคลื่นเต๋าจากมันจะรุนแรงแค่ไหนแต่มันก็ไม่อาจเอามาเทียบของจริงได้แม้แต่น้อย”
หยางชิงหลับตาลงสัมผัสและตอบขึ้น “ก็จริง! แต่ทำไมของเช่นนี้มันถึงถูกเก็บไว้ในโถงนอกกัน? หรือว่า บรรพบุรุษหวูเทียนจะไม่อยากได้มันแล้ว?”
เย่หยวนตอบกลับไป “บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นคงไม่ต้องการใช้มันมานานแสนนานแล้วมั้ง? หากสิ่งนี้มันยังเป็นประโยชน์กับเขามีหรือที่เขาจะยังไม่หลุดพ้นจากอาณาจักรล้ำสวรรค์? มีหรือที่เขาจะพ่ายให้เจ้าโลกหลุนฮวย? ต่อให้มันจะเป็นสมบัติจากเต๋าสวรรค์แต่ว่าคนเราจะเข้าใจมันแค่ไหนนั้นก็ยังไม่มีทางจะไปเทียบกับพลังของเต๋าสวรรค์จริงๆ ได้!”
หยางชิงคิดและเห็นด้วยกับเย่หยวนอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นสมบัติที่ล้ำค่าทรงพลังแค่ไหนสุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ด้วย
บางคนได้มันไปพวกเขาอาจจะผงาดขึ้นล้ำฟ้าไปทันที
แต่ของชิ้นเดียวกันนี้มันอาจจะแทบไม่ช่วยอะไรคนอีกผู้หนึ่ง
มันอาจจะทำให้เกิดหายนะขึ้นมาแทนได้
สมบัตินั้นมันไม่ได้หมายถึงสิ่งดีๆ เสมอไป
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นมีพรสวรรค์เหนือล้ำใครๆ ในหมู่เจ้าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต แต่เขาก็ย่อมจะมีขีดจำกัดของตน
หยางชิงกล่าวขึ้นมาต่ออย่างตกตะลึง “เจ้านี่มันจะโชคดีไปไหน? ยอดฝีมือล้ำสวรรค์มากมายต่อสู้แลกชีวิตกันเพื่อเอาของปลอมแต่เจ้ากลับไปหยิบเอาของจริงขึ้นมาได้หน้าตาเฉย? นี่เจ้าจะยังให้คนเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เพราะข้านั้นเป็นผู้มีโชคชะตาใหญ่หลวงอย่างไรเล่า! นี่มันอย่างที่โบราณว่าไว้ว่าเมื่อเจ้านายบรรลุเต๋าแม้แต่หมาแมวของเขาก็ยังได้ขึ้นสวรรค์ด้วย เจ้าตามข้ามานี้คงได้ประโยชน์มากล้ำแล้ว!”
“เฮอะ! ใครเป็นหมาแมวเจ้าวะ!” หยางชิงร้องสวนกลับไปทันที
“เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นข้าจะไล่เจ้าออกไปแล้ว?”
“อย่าๆๆ! ความรู้สึกนี้มันล้ำค่าเกินไป ขอข้าสัมผัสมันอีกหน่อยเถอะ! ข้าเป็นหมา ข้าเป็นแมว! ข้านี่แหละเป็นทั้งหมาทั้งแมวเลย!”
…
ขณะที่เย่หยวนและหยางชิงกำลังมองดูโลกเบื้องล่างอยู่ในมุมมองพระเจ้านั้นสถานการณ์เบื้องล่างมันก็มีการเปลี่ยนแปลงขึ้น!
ตูม!
คลื่นพลังยอดเต๋าอีกสายหนึ่งปะทุขึ้นฟ้า
พร้อมๆ กันนั้นคัมภีร์หยกสีแดงเขียวหนึ่งมันก็พุ่งออกมาจากวังราชันสวรรค์
พวกบรรพบุรุษหวู่หยาทั้งสามนั้นกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดแต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายต้องหน้าถอดสีไป!
“นั่นมัน…คัมภีร์ปฐพี!” บรรพบุรุษหวู่หยาร้องขึ้นมา
ฟุบ!
เจ้าโลกซวนปิงพุ่งตัวเข้าไปหาคัมภีร์ปฐพีทันที!
แต่ว่าในเวลาเดียวกันนั้นเองที่ภาพวาดเต๋าสวรรค์ที่สามก็พุ่งออกมาจากวังราชันสวรรค์!
“คัมภีร์เอกภพ! เฒ่าหวูเทียนมันคิดจะเล่นลูกไม้อะไรกันแน่?” บรรพบุรุษหวู่หยานั้นร้องขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก
เขานั้นรู้ได้ทันทีว่าสถานการณ์เช่นนี้มันไม่ดีแน่แล้ว แต่หากถามว่าไม่ดีอย่างไรเขาก็บอกไม่ได้เช่นกัน
สิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ปรากฏออกมาเช่นนี้แน่นอนว่าต่อหน้ามันนี้ย่อมจะไม่มีใครห้ามตัวเองได้!
จากนั้นสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ทั้งหลายก็ค่อยๆ ลอยออกมาเรื่อยๆ!
ตูม!
พลังงานรุนแรงส่งร่างของเจ้าโลกซวนปิงปลิวกลับออกมา
นางไม่อาจจะคว้าเอาคัมภีร์ปฐพีมาได้!
ตูม!
คัมภีร์สวรรค์ในมือของบรรพบุรุษหวู่หยานั้นกระแทกพลังออกมาก่อนจะลอยขึ้นฟ้าไป!
บรรพบุรุษหวู่หยานั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกเพราะสู้กันมาตั้งนานสุดท้ายแล้วคัมภีร์สวรรค์กลับหลุดลอยออกไปต่อหน้า!
ไม่นานนักสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์มันก็ปรากฏขึ้นมาจนครบและลอยค้างอยู่กลางอากาศ
คนทั้งหลายที่ได้เห็นต่างต้องเงยหน้าอ้าปากค้าง
ดูท่าบรรพบุรุษหวูเทียนนั้นจะลงมือแล้ว!
จากนั้นมันก็ปรากฏเงาร่างของบรรพบุรุษหวูเทียนขึ้นมาบนท้องฟ้ากลางสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์
เขานั้นหันมองดูเจ้าโลกมากมายด้วยสายตาแปลกประหลาด
จากนั้นเขาก็หันมามองหน้าพวกบรรพบุรุษหวู่หยาทั้งสามและกล่าวขึ้นทัก “หวู่หยา หมิงฮุ่ย ซวนปิง ไม่ได้เจอกันเสียนานเป็นอย่างไรบ้าง?”
คนทั้งสามนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแต่ไม่มีใครตอบกลับไป
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นเองก็ไม่คิดสนใจและกล่าวขึ้นต่อ “บรรพบุรุษผู้นี้มันก็แค่คนตายเท่านั้น ความแค้นเก่าก่อนใดๆ มันย่อมจะลอยหายไปกับกาลเวลาแล้ว! พวกเจ้าทั้งสามหักหลังข้า แต่ข้าก็ไม่โทษพวกเจ้าหรอก! เพราะตอนนั้นมันเป็นข้าเองที่รีบร้อนเกินไป! แต่ว่าสามสิบสามสวรรค์ในตอนนี้มันกำลังเผชิญหน้ากับหายนะครั้งใหม่ที่โหดร้ายกว่าเดิม หากบรรพบุรุษเผ่าเลือดมันจุติขึ้นมาได้จริงแล้วกำลังของมันคงจะเหนือล้ำบรรพบุรุษผู้นี้อีกด้วยซ้ำ!”
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ต้องหน้าซีดขาวลง
เพราะวิกฤตของเผ่าเลือดนั้นมันมิใช่เรื่องลับที่ใครจะปกปิดไว้ได้แล้ว
ตอนนี้เผ่าเลือดกำลังได้เปรียบและเตรียมตัวบุกอยู่เต็มกำลัง แต่ยอดฝีมือทั้งหลายก็ยังไม่อาจจะหาทางรับมือได้
เพราะฉะนั้นตราบเท่าที่พวกเขาเอาตัวเองรอดได้มันก็ถือเป็นชัยชนะแล้ว
บรรพบุรุษหวู่หยานั้นย่อมจะรู้ถึงความอันตรายในการเดินทางครั้งนี้แต่เขาก็ยังเลือกจะมา
ดูท่าแล้วก็คงเพราะกลัวเผ่าเลือดอยู่ไม่น้อย
“บรรพบุรุษผู้นี้เคยเป็นยอดคนผู้ปกครองสวรรค์ วันนี้สามสิบสามสวรรค์ที่ข้าเคยปกครองนั้นมันกำลังเจออันตรายใหญ่หลวงแน่นอนว่าข้าเองก็ย่อมจะไม่นิ่งเฉยดูดาย! วันนี้บรรพบุรุษผู้นี้เลือกจะเปิดวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตขึ้นมาเพื่อให้พวกเจ้าทั้งหลายได้ใช้สิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ไปด้วยกัน! ใครก็ตามในหมู่พวกเจ้าที่เข้าใจสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ได้มากที่สุดและพัฒนาได้เหนือล้ำที่สุดนั้นจะได้รับคลื่นกำเนิดของข้าผู้นี้ไป และได้รับพลังทั้งหมดที่ข้าเคยมี! เอาล่ะ เริ่มศึกษาเต๋ากันได้แล้ว!”
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นกล่าวประกาศขึ้นอย่างไม่ช้าหรือเร็วทำให้คนทั้งหลายได้มีเวลาคิดตาม
การได้รับสืบทอดพลังทั้งหมดของบรรพบุรุษหวูเทียน มันย่อมจะน่าดึงดูดเกินไป!
“รับสืบทอดพลังทั้งหมดของบรรพบุรุษหวูเทียน! พระเจ้าช่วย หมายความว่ามันจะมีบรรพบุรุษหวูเทียนที่สองปรากฏขึ้นมาบนสวรรค์แล้ว?”
“ข้าได้ยินว่าบรรพบุรุษหวูเทียนท่านนั้นมีฝีมือเหนือล้ำฟ้าดินไม่ได้อ่อนแอกว่าเจ้าโลกหลุนฮวยเลย! หากข้าสามารถกลายเป็นบรรพบุรุษหวูเทียนที่สองได้บนโลกหล้านี้มันจะยังมีใครที่ไม่ก้มหัวให้ข้าอีก?”
“บ้าไปแล้ว! การเดินทางครั้งนี้มันไม่เสียเปล่าจริงๆ! ครั้งนี้ข้าจะไม่แพ้ให้เย่หยวนมันแน่!”
…
เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายนั้นแทบจะคลั่งไป
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นคือจุดสูงสุดที่พวกเขาคิดถึงได้ในการบ่มเพาะ
แม้ว่าเขานั้นจะตายตกไปนานแต่เขาก็ยังเป็นตำนานจนถึงวันนี้
ชื่อเสียงของเขานั้นดังไปทั่วหล้าไม่แพ้เจ้าโลกหลุนฮวยเลย
สืบทอดพลังของเขานั้นมันย่อมจะเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจทุกผู้คน!
เพราะฉะนั้นยอดอัจฉริยะทั้งหลายจึงไม่คิดสนใจหาสมบัติใดๆ อีกและพุ่งตัวเข้าไปนั่งอาบพลังของสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ทันที
บนท้องฟ้านั้นภาพวาดเต๋าสวรรค์ทั้งสิบสองมันต่างจะปล่อยพลังที่แตกต่างกันออกไป
ราวกับว่าเต๋าสวรรค์ทั้งหมดมันได้ปรากฏแก่สายตาคน
คัมภีร์สวรรค์นั้นมันคือการเคลื่อนไหวของเมฆหมอก การขึ้นลงของตะวันจันทราและการเปลี่ยนจุดดวงดาว!
คัมภีร์ปฐพีนั้นมันคือความลึกล้ำของขุนเขาแม่น้ำและแผ่นดินที่รองรับทุกอย่างไว้!
คัมภีร์เอกภพนั้นมันคือกระแสของมิติที่ไหนผ่านแผ่นดินแผ่นฟ้า!
คัมภีร์นิรันดร์คือกระแสของเวลาที่ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วในยุคสมัยต่างๆ!
…
สิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์นั้นมันสร้างความตกตะลึงให้ทุกผู้คนอย่างไม่มีเว้น!
ราวกับว่าความเป็นจริงของสวรรค์และฟ้าดินนั้นมันอยู่ในสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์สิ้น
“เป็นเช่นนั้นเอง! ที่แท้มันเป็นเช่นนั้น! ฮ่าๆๆ สิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์นี้มันสมชื่อเสียจริงๆ! ข้าเข้าใจมันแล้ว!”
คงถานนั้นร้องลั่นขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะก่อนจะปรากฏประตูแห่งชีวานิรันดร์ขึ้นที่ด้านหลังของเขา
ก่อนที่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นกลางคนนี้กลับมีพลังพุ่งทะยานจนทะลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดไป
คนที่ได้เห็นนั้นต้องอ้าปากค้าง
“เขา…เขากำลังจะบรรลุเจ้าโลกแล้ว? สมชื่อเป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งเผ่าปีศาจจริงๆ ความสามารถในการเข้าใจนี้มันเหนือล้ำยุคสมัยไปมากแล้ว!”
“ครั้งนี้เย่หยวนคงแพ้แน่แล้ว!”
“เจ้าหยางชิงนั้นด้วย มันคงไม่อาจจะทำเช่นนี้ได้ต่อให้อยากทำแค่ไหน! หากคงถานนั้นบรรลุเจ้าโลกแล้วสองคนนั้นคงไม่รอดแน่!”
…………………………