เย่หยวนนั้นหยิบเอาคัมภีร์หนังแพะออกมาวางให้ทุกคนได้เห็น
พวกเขานั้นหันมามองหน้ากันด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา
“นี่คือสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ของจริง? มันไม่เห็นจะเหมือนของวิเศษใดๆ เลย!”
“สิ่งนี้มันจะธรรมดาเกินไปหรือไม่? หากเอามันให้ข้าไว้ข้าคงเผลอทิ้งอย่างไม่ทันรู้ตัวแน่”
“ที่น่าขันที่สุดก็คือคงถานนั้นคิดว่าตัวเองได้รับการยอมรับจากสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ ที่แท้แล้วมันก็แค่ของปลอมเท่านั้น!”
…
คัมภีร์หนังแพะนี้มันดูธรรมดาจนเกินไป
ต่อให้จะได้เห็นแก่สายตาแล้วมันก็ยังไม่อยากเชื่อว่านี่คือสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์
เพราะว่าสภาพของมันนั้นมิใช่ของวิเศษใดๆ ทั้งสิ้น
หากบรรพบุรุษหวูเทียนไม่ยอมรับออกมาเองแล้วพวกเขาทั้งหลายก็คงไม่เชื่อว่าคัมภีร์ในมือเย่หยวนนี้คือของจริง
เมื่อรู้จักหน้าตาแล้วคนทั้งหลายก็แยกย้ายกันออกไปหาคัมภีร์เอกภพ
เย่หยวนนั้นมีกฎห้วงมิติที่เหนือล้ำ ไม่ไกลจากอาณาจักรคลื่นกำเนิดมากนัก
ตอนนี้ด้วยพลังของเขา ตัวเขาย่อมจะสามารถหนีออกไปด้วยตัวเองได้
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นแปลงกายเป็นโกลาหลหรือก็คือโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโกลาหลในคงคานิรันดร์ไปแล้ว
สิ่งที่เย่หยวนต้องทำนั้นก็แค่ฉีดปราณเทวะโกลาหลของตัวเองเข้าสู่ความโกลาหลนี้และใช้วิชาห้วงมิติออกมาเขาก็จะสามารถกลายเป็นหนึ่งเดียวกับโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตได้เช่นกัน
จากนั้นค่อยทิ้งตัวหนีออกไปจากโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต
แต่ด้วยวิชาห้วงมิติของเขาในตอนนี้ เขาไม่อาจจะพาใครออกไปด้วยได้เลย
เย่หยวนนั้นไม่กล้าจะชักช้าไปแม้แต่วินาทีเดียวในการหาคัมภีร์เอกภพ
ยิ่งผ่านไปนานเท่าใดพลังของเพลิงเที่ยงสุดเต๋ามันก็ยิ่งรุนแรงขึ้น
ต่อให้จะเป็นไฟที่อ่อนแค่ไหนสุดท้ายมันก็ยังย่างให้เนื้อสุกได้
ตอนนี้มีคนอีกมากมายค่อยๆ ตายตกลงไป
บนท้องฟ้านั้นมันยังมีเสียงระเบิดดังขึ้นไม่ขาดสาย
ศึกอันดุเดือดระหว่างบรรพบุรุษหวูเทียนและเจ้าโลกทั้งหลายนั้นกำลังถึงจุดเดือด
เจ้าโลกมากมายนั้นกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ
ภายใต้การหลอมของเพลิงเที่ยงสุดเต๋านั้นพวกเขาย่อมจะเริ่มสูญเสียพลังไปอย่างไม่อาจหยุดตัวเองได้
เจ้าโลกหลุนฮวยและศิลาโลหิตโกลาหลนั้นเองก็ย่อมจะได้รับบาดเจ็บไปเช่นกัน
ในโลกใบนี้พลังส่วนมากของเพลิงเที่ยงสุดเต๋านั้นมันกำลังเผาผลาญร่างพวกเขาอยู่
คนทั้งสองนั้นมีรอยแผลไหม้ทั่วกาย
แต่พวกเขาก็ยังไม่หยุดมือ!
แม้ว่าจุดห้วงมิติที่โจมตีนั้นมันจะค่อยๆ คืนสภาพได้แต่มันก็ไม่ได้เร็วเหมือนก่อนแล้ว
นี่มันทำให้คนทั้งหลายเริ่มมีความหวัง!
เดิมทีแล้วมันคืนกลับสภาพเดิมในไม่กี่อึดใจ
แต่ตอนนี้มันต้องใช้เวลาซ่อมแซมหลายร้อยอึดใจ
นอกจากนั้นการโจมตีมันก็ยังไม่มีหยุดลงไป
เพื่อความหวังน้อยๆ นี้พวกเขาเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายไม่คิดจะเก็บกักพลังใดๆ ไว้กับตัวอีก
เพราะอย่างไรเสียพวกเขานั้นก็ไม่มีใครอยากจะตายลงและกลายเป็นโอสถสวรรค์ให้คนอื่นกิน!
ผลลัพธ์เช่นนั้นมันน่าสมเพชจนเกินรับ
ในโถงข้างนั้นเย่หยวนกำลังเงยหน้ามองดูสุดเพดานเพื่อตามหาภาพวาดเต๋าสวรรค์
แต่วินาทีนั้นเองที่มันปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้นด้านหลังเย่หยวน
มันคือบรรพบุรุษหวูเทียน!
“เย่หยวน ยอมแพ้เถอะ! เจ้าไม่มีทางจะหาคัมภีร์เอกภพเจอหรอก! แม้ว่าเจ้านั้นจะหาภาพวาดเต๋าสวรรค์ไปเจอถึงสี่คัมภีร์แต่ว่าต่อให้เจ้าจะมีดวงเจอมันเพิ่มอีกอัน เจ้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันคือคัมภีร์เอกภพ?” บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นยืนมองดูเย่หยวนด้วยใบหน้าเย้ยหยัน
เงาร่างนี้มันจางจนมองทะลุได้ง่ายๆ ชัดเจนเลยว่ามันไม่มีพลังใดๆ
เขานั้นไม่เหลือพลังงานพอที่จะมาจัดการเย่หยวนในตอนนี้
เย่หยวนไม่คิดหันกลับไปมองแต่ก็ยังตอบกลับไป “ที่เจ้ามาหาข้านี้คงเพราะว่าข้าใกล้จะเจอคัมภีร์เอกภพแล้ว?”
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นผงะไปในใจแต่ใบหน้าของเขานั้นย่อมจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างเขาย่อมจะไม่แสดงสีหน้าให้คนอื่นจับได้ง่ายๆ
แต่เรื่องนั้นมันไม่สำคัญกับเย่หยวน
เพราะเขานั้นเชื่อในดวงชะตาของตนเอง!
“ฮ่าๆ เจ้าจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่เถอะ! บรรพบุรุษผู้นี้แค่มาบอกเจ้าว่าพวกมันใกล้จะถูกหลอมแล้วเต็มที หากมันถูกหลอมไปแล้วจริงๆ ต่อไปจะเป็นตาเจ้าที่ต้องตายลง! เจ้านั้นยังมีเวลาพอหนีออกไปได้เองในตอนนี้!” หวูเทียนกล่าวขึ้นมา
“เจ้านั้นมองการบ่มเพาะของข้าออก เจ้านั้นมองปราณเทวะโกลาหลของข้าออก แต่เรื่องบางเรื่องเจ้านั้นก็ยังมองข้าไม่ออกหรอกเช่นดวงชะตาของข้า!” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป
เขานั้นไม่คิดกลัวเกรงใดๆ
ดวงชะตานั้นมันคือสิ่งที่ลึกล้ำและไม่มีใครเข้าใจได้
หากมันเป็นเต๋าแล้ว มันก็คงเป็นเต๋าที่ไม่เคยมีใครสามารถศึกษาได้มาก่อน!
ยอดเต๋าอื่นๆ นั้นมีวิธีการบ่มเพาะทั้งสิ้น
แต่ดวงชะตา เต๋านี้เพียงแค่เต๋าเดียวที่ไม่มีใครเข้าใจมันได้
และพรของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันก็เป็นสิ่งที่สะสมมาจากบรรพบุรุษรุ่นก่อนๆ ทั้งหลายจนเกิดกลายเป็นพลังงานสุดวิเศษ
แน่นอนว่าในนิกายยาสุดล้ำมันย่อมจะมีคนคิดศึกษาพลังของพรนี้แต่มันกลับไม่อาจจะเข้าใจได้แม้แต่น้อย
แต่เย่หยวนนั้นเป็นสิ่งอัศจรรย์
เพราะว่าบรรพบุรุษทุกคนนั้นยอมรับเย่หยวน!
หวูเทียนย่อมจะไม่คิดเชื่อและหัวเราะตอบกลับไป “ไอ้หนู เจ้านั้นจะบอกว่าที่ตัวเองเจอภาพวาดเต๋าสวรรค์ก่อนหน้ามานี้มันเพราะว่าโชคหรือ? บรรพบุรุษผู้นี้เองก็เป็นคนที่มีโชคชะตายิ่งใหญ่ แต่หากจะบอกว่าตัวเองไปเจอภาพวาดเต๋าสวรรค์ด้วยโชคแล้วมันย่อมจะไร้สาระเกินไป!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้ารู้ว่าเจ้าคงไม่เชื่อแต่ตอนที่ข้ามาถึงที่นี่ข้าไม่ได้คิดหาสมบัติใดๆ และแค่เดินออกไปดูในจุดต่างๆ และเจอภาพวาดเต๋าสวรรค์เข้าในที่สุด”
หวูเทียนนั้นต้องผงะไปอีกครั้ง!
เพราะตัวตนระดับเขานั้นมีหรือที่จะถูกคำพูดหลอกลวงได้ง่ายๆ?
หวูเทียนนั้นสัมผัสได้เลยว่าเย่หยวนไม่ได้โกหกใดๆ
พูดไปนั้นเย่หยวนก็เดินออกจากโถงข้างนี้มา
หวูเทียนนั้นยังไม่คิดยอมแพ้และตามหลังเย่หยวนไปห่างๆ
เย่หยวนนั้นเดาไม่ผิด เพราะที่แห่งนี้มันใกล้กับจุดที่เก็บซ่อนคัมภีร์เอกภพไว้จริงๆ
หลังจากออกโถงข้างมานั้นพวกเขาก็เดินมาถึงเรือนน้อยมากมายที่ตั้งเรียงรายสุดลูกหูลูกตา มันคือที่พักของศิษย์ทั้งหลาย
เย่หยวนนั้นเดินเข้ามาในบริเวณและหันมองซ้ายขวาราวกับแค่มาเที่ยวเล่น
หวูเทียนนั้นต้องใจสั่น
‘หรือว่าเจ้าเด็กนี่มันจะอัศจรรย์ปานนั้นจริง?’
‘มันยังมีคนที่ดวงชะตายิ่งใหญ่กว่าพ่อเจ้านี้?’
‘ข้าไม่ขอเชื่อ!’
‘อย่าไป! อย่าไป! อย่าไป!’ หวูเทียนร้องลั่นอยู่ในใจ
เขาย่อมจะรู้ว่าคัมภีร์เอกภพอยู่ที่ใด
เขาไม่ได้คิดซ่อนใดๆ เพียงแค่โยนมันทิ้งไปตามจุดต่างๆ
คัมภีร์เอกภพนั้นมันอยู่ในเรือนนี้ที่ห้องสาม
แต่ยิ่งพูดเหมือนสวรรค์ยิ่งแกล้งเพราะเย่หยวนนั้นเดินเข้าไปใกล้ห้องสาม มากขึ้นเรื่อยๆ!
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นไม่มีแรงพอจะย้ายภาพวาดเต๋าสวรรค์หนีไปที่อื่นแล้ว
การหลอมยอดฝีมือมากมายปานนั้นมันย่อมจะมิใช่เรื่องง่าย
จากนั้นเย่หยวนก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้เดินเข้าห้องสาม ไป
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นต้องร้องลั่นขึ้นมาในใจ!
ห้องมันมีเป็นร้อยๆ ทำไมต้องมาเลี้ยวเข้าดูห้องนี้ด้วย?
‘สิ้นหวังนัก!’
เจ้าเด็กนี่มันจะอัศจรรย์เกินไปแล้ว!
‘จะว่าแล้วมันก็คงแค่บังเอิญมากเท่านั้น เพราะคัมภีร์เอกภพนั้นมันก็ซ่อนไว้อย่างดี บรรพบุรุษผู้นี้ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะหาเจอ!’
แม้ว่าตอนนี้จิตใจของเขาจะปั่นป่วนแค่ไหนแต่เขาก็ยังไม่คิดแสดงมันออกมา
เขานั้นแค่ทำเหมือนเดินตามมาเยาะเย้ยเย่หยวนและเข้าห้องสามมาด้วย
ทุกสิ่งอย่างนั้นมันดูเป็นธรรมชาติ
เย่หยวนรู้หรือว่าคัมภีร์เอกภพอยู่ที่นี่?
ย่อมจะไม่รู้!
เขานั้นแค่เดินเล่นมาเรื่อยๆ และคิดอยากจะเลี้ยวเข้าดูห้องนี้เท่านั้น
บางทีโชคนั้นมันก็เป็นเรื่องที่สุดแสนวิเศษเกินเข้าใจ
ต่อให้พลิกฟ้าดินหาก็ไม่อาจเจอ
แต่นั่งอยู่บ้านเฉยๆ มันกลับจะตกลงตรงหน้า
เย่หยวนนั้นเดินวนในห้องสามสองรอบก่อนจะหันหน้าเข้าห้องอ่านหนังสือไป
“บรรพบุรุษ ท่านคิดว่าคัมภีร์เอกภพมันจะอยู่ที่นี่หรือไม่?” เย่หยวนยิ้มขึ้นถาม
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจแต่ใบหน้านั้นยังเรียบเฉย “นี่คือห้องของศิษย์ระดับต่ำในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต พวกเขานั้นมีห้องเช่นนี้สร้างไว้เป็นหมื่นๆ เจ้าคิดว่าตัวเองเลือกห้องนี้มาแล้วก็จะเจอสมบัติหรือ? เช่นนั้นข้าคงกลายเป็นตัวตลกแล้ว? หรือว่าเจ้าคิดจะอ่านท่าทางของข้าจากคำถามนี้กันแน่?”
เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าแค่เบื่อเลยหาเรื่องชวนคุยเท่านั้น ข้ารู้ว่าผีเฒ่าอย่างเจ้านั้นต่อให้ข้าจะพยายามแค่ไหนก็คงไม่มีทางอ่านสีหน้าท่าทางของเจ้าได้เช่นกัน”
พูดไปเย่หยวนนั้นก็เดินมาถึงหน้าชั้นหนังสือและหยิบสมุดเล่มหนึ่งขึ้นมา
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นใจหายวาบ!
นี่มันจะน่าอัศจรรย์เกินบรรยายไปแล้ว!
…………………………