การอพยพครั้งใหญ่เริ่มขึ้น!
การอพยพครั้งใหญ่นี้มันทำให้ทั้งสามสิบสามสวรรค์นั้นต้องแตกตื่นไปตามๆ กัน
“เฒ่าหมี่เทียนมันเสียสติไปแล้ว? เพื่อผู้บ่มเพาะนอกรีตคนเดียวมันถึงกับทิ้งสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างไปหรือ?”
“ภูตแท้จตุรทิศนั้นคือกองกำลังที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของสามสิบสามสวรรค์! ก่อนนั้นในตอนที่พวกมันยังสมบูรณ์พร้อมแต่ละเผ่าต่างมีเจ้าโลกล้ำสวรรค์คอยดูแลสิ้น ไม่นึกเลยว่ามันจะตกต่ำมาจนถึงขั้นนี้ได้”
“สำหรับภูตแท้โกลาหลที่เกิดบนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นมันย่อมจะเหมาะสมที่สุดที่จะอยู่บนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่าง พวกเขากลับทิ้งรากฐานตัวเองและวิ่งไปอยู่กับสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด สวรรค์ระดับล่างนั้น เช่นนี้วันหน้าพวกเขาคงไม่มีโอกาสจะได้บรรลุใดๆ กันแน่แล้ว”
“เฮอะ รอดูไปเถอะ! การย้ายถิ่นของเผ่ามังกรฟ้านั้นมันย่อมจะทำให้คนเผ่ามังกรทั้งหลายไม่พอใจแน่นอน ต่อให้จะไปอยู่บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดจริงมันก็คงไม่คิดไปช่วยรบอะไรใครหรอก!”
“อ่า จริงด้วยสิ มันยังมีตระกูลวิญญาณนิพพานและราชวังสวรรค์โจว บรรพบุรุษหวู่หยาคงเสียสติไปเพราะอาการบาดเจ็บครั้งนี้แล้ว ทางตระกูลวิญญาณนิพพานนั้นมันก็แยกขาดจากตระกูลวิญญาณฉีสิ้นเชิงและไปอยู่บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดเช่นกัน! ผีเฒ่าบู๋เมี่ยมันคงเสียสติไปแล้วเช่นกัน!”
…
เจ้าโลกทั้งหลายจากหลายค่ายสำนักทั่วสวรรค์นั้นต่างพูดถึงเรื่องราวนี้กันไม่ขาดปาก
เย่หยวนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดยอดอัจฉริยะ
แต่อนาคตนั้นเขาจะไปได้ถึงไหนมันก็ยังไม่มีใครรู้ได้
เพราะที่นี่คือโลกของผู้แข็งแกร่ง มิใช่โลกของอัจฉริยะ
สามเจ้าโลกผู้ปกครองสวรรค์นั้นมันแข็งแกร่งกันเกินไป!
พวกเขานั้นคือตัวตนที่อยู่บนจุดสูงสุดของล้ำสวรรค์และใกล้จะข้ามพ้นมันไปได้มากที่สุดของสามสิบสามสวรรค์!
ยอดอัจฉริยะนั้นจะกลายเป็นยอดฝีมือได้ในอนาคต แต่พวกเขาก็มิใช่ยอดฝีมือที่แท้จริง
หากไม่โตขึ้นมาแล้วพวกเขาก็จะยังเป็นได้แค่เด็กน้อยอ่อนหัด
แม้ว่าสามเจ้าโลกผู้ปกครองสวรรค์นั้นจะบาดเจ็บกันไปถ้วนหน้าแต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังมีกองกำลังหนุนหลัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรพบุรุษเผ่าเลือดนั้นที่มีทั้งเผ่าพันธุ์คอยรับใช้
ไม่มีใครรู้ได้ว่าเผ่านี้มันทรงพลังแค่ไหน
เพราะคนทั้งหลายเข้าใจดีว่าสิ่งที่พวกเขาได้เห็นและต่อสู้ด้วยนั้นมันเป็นแค่ส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็ง
…
แต่ความเป็นจริงนั้นมันแตกต่างจากความคาดหวังนัก
กฎแห่งการตบหน้าด้วยความเป็นจริงนั้นมันกำลังเกิดขึ้นในสี่เผ่าภูตแท้จตุรทิศอย่างถึงที่สุด
ในมิติของหอสุดแสง นิกายยาสุดล้ำ
ตอนนี้ไป๋จือกำลังเดินตามหลังเย่หยวนด้วยท่าทางกังวลสุดใจ
เพราะเบื้องหน้าของเขานั้นมันมีค่ายกลใหญ่ยักษ์ตั้งอยู่ เย่หยวนนั้นเดินไปมาอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางครุ่นคิดหนัก
“น้องเย่ มันจะได้ผลจริงๆ หรือ? ดึงพลังงานโกลาหลจากคงคานิรันดร์มาสู่สวรรค์โดยตรงเช่นนี้ มันไม่เคยมีใครคิดทำมาก่อนเลย!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ค่ายกลนี้มันคือค่ายกลที่ข้าเริ่มคิดจะทำตั้งแต่ทำความเข้าใจโกลาหลได้อย่างแท้จริง เพียงแค่ว่าในตอนนี้เต๋าค่ายกลของข้ามันยังไม่พร้อมที่จะสร้างของระดับนี้ขึ้นมา แต่ตอนนี้เต๋าค่ายกลของข้ามันได้สำเร็จคลื่นกำเนิดแล้ว พลังบ่มเพาะของข้าเองก็มาถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์เช่นกัน มันย่อมจะมีโอกาสทำสำเร็จสูงยิ่ง”
ไป๋จือนั้นถอนหายใจยาวเหมือนโล่งอก “เช่นนั้นก็ดี! ดีมาก! แต่น้องเย่ เจ้าต้องรีบหน่อยนะ เวลาไม่คอยท่าใคร! ใครจะไปรู้ว่าเผ่าเลือดมันจะมาบุกสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดเมื่อใด?”
“ผู้อาวุโสวางใจเถอะ ข้านั้นกังวลเรื่องมันเยอะกว่าพวกท่านมาก แต่ยิ่งรีบมันก็จะยิ่งช้า ท่านไม่เคยได้ยินหรือ? ไม่เช่นนั้นแล้วอะไรกันเล่าที่ทำให้การบ่มเพาะของคนมากมายต้องไปติดคอขวด?” เย่หยวนถามกลับไป
ไป๋จือนั้นพยักหน้ารับทันที “ใช่ ก็ถูกๆ! น้องเย่นั้นช่างควบคุมตัวเองได้เยี่ยมยอดนัก!”
แน่นอนว่าสิ่งที่ไป๋จือกังวลย่อมจะมิใช่การบุกของเผ่าเลือดแต่เขาแค่อยากจะรีบศึกษาคัมภีร์สวรรค์เร็วๆ เท่านั้น
ตอนที่อยู่บนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นหมี่เทียนได้ทิ้งระเบิดลงกลางโต๊ะประชุม
นั่นคือเรื่องที่เย่หยวนจะตั้งค่ายกลที่สามารถสร้างปราณเทวะโกลาหลปล่อยให้คนทั้งหลายได้ศึกษาภาพวาดเต๋าสวรรค์อย่างไม่มีขีดจำกัดและไม่ต้องไปขอให้เย่หยวนอัดปราณเทวะโกลาหลให้บ่อยๆ
เดิมทีแล้วนั้นไป๋จือและพวกย่อมจะไม่รู้จะโน้มน้าวคนที่เหลือในเผ่าอย่างไร
แต่หากมีเรื่องนี้แล้วมันย่อมจะไม่เป็นปัญหาอีก
ไม่มีใครต้านทานความเย้ายวนของสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ได้!
เย่หยวนนั้นเข้าใจโกลาหลและสร้างวรยุทธบ่มเพาะของตัวเองขึ้นมาใหม่ในคงคานิรันดร์ เขาย่อมจะไม่ต้องเข้าคงคานิรันดร์ไปศึกษาอะไรอีกต่อไป
แต่ว่าเขานั้นก็ยังต้องการพลังงานโกลาหลจากคงคานิรันดร์เพื่อการบ่มเพาะที่มีประสิทธิภาพ
เพียงแค่ว่าการต้องเดินทางไปบ่อยๆ หรือไปเก็บตัวในคงคานิรันดร์นั้นมันเป็นเรื่องยาก เขาจึงได้คิดทำเช่นนี้ขึ้น
การเข้าไปยังวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตในครั้งนี้เย่หยวนได้สำเร็จคลื่นกำเนิดเต๋าค่ายกลและยังได้ดูค่ายกลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งของสวรรค์ มันย่อมจะทำให้เขาได้ความรู้กลับมามากล้น
ตอนนี้เขากำลังใช้ส่วนประกอบพื้นฐานค่ายกลทั้งเก้านั้นในการสร้างมหาค่ายกลนี้
เย่หยวนเรียกมหาค่ายกลนี้ว่าค่ายกลกำเนิดโกลาหล
เขานั้นจะไปตั้งค่ายกลรองของมันไว้ในคงคานิรันดร์สายที่ไหลผ่านสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดด้วย
การทำงานของมันนั้นเหมือนเป็นท่อที่ดึงพลังโกลาหลออกมาจากคงคานิรันดร์
ส่วนค่ายกลหลักที่ตั้งอยู่ในหอสุดแสงนี้เย่หยวนก็ได้ตั้งค่ายกลซ้อนไว้เพื่อเปลี่ยนพลังงานโกลาหลจากคงคา นิรันดร์นั้นให้กลายเป็นปราณเทวะโกลาหลด้วย
จากนั้นเขาก็เชื่อมต่อมันเข้ากับภาพวาดเต๋าสวรรค์เพื่อให้คนทั้งหลายได้ศึกษาบ่มเพาะมัน
นี่คือความคิดคร่าวๆ ของเย่หยวน
มันอาจจะฟังดูเหนือจริงแต่เย่หยวนนั้นไม่คิดว่ามันจะเป็นค่ายกลที่ยากเย็นใดๆ
หากให้พูดตรงๆ แล้วมันก็แค่ค่ายกลเคลื่อนย้ายระดับสูงเท่านั้น
เพียงแค่ว่ามันเป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายที่ติดตั้งได้ยาก
จอมเทพค่ายกลสวรรค์ทั่วไปคงไม่มีทางจะเข้าใจหรือติดตั้งค่ายกลนี้ได้เลย
ในโลกใบนี้มันคงมีแค่เย่หยวนคนเดียวที่สร้างค่ายกลนี้ได้!
เพราะว่าเขานั้นเป็นคนเดียวที่เข้าใจถึงปราณเทวะโกลาหล!
นอกจากนั้นแล้วพลังงานโกลาหลในคงคานิรันดร์นั้นมันยังทำงานได้แค่กับเก้าส่วนประกอบพื้นฐานเท่านั้น
จอมเทพค่ายกลสวรรค์ทั่วๆ ไปนั้นย่อมจะไม่อาจทนรับพลังงานจากคงคานิรันดร์ตรงๆ ได้
ยิ่งมันมีส่วนประกอบมากเท่าไหร่ ค่ายกลนั้นมันก็ยิ่งจะหลวมขึ้นเท่านั้น
การใช้แค่เก้าส่วนประกอบพื้นฐานจึงเป็นตัวเลือกที่มั่นคงที่สุดในการก่อสร้าง!
หลังจากนั้นครึ่งปีคนทั้งหลายก็ได้ยินเสียงระเบิดรุนแรง
มันเกิดช่องว่างห้วงมิติขึ้นในมิติของหอสุดแสงพร้อมกับพลังโกลาหลจากคงคานิรันดร์ที่ทะลักเข้ามา
หลังจากที่พลังโกลาหลนั้นทะลักเข้ามาแล้วมันก็ถูกค่ายกลกำเนิดโกลาหลดูดกลืนไปและกลับสู่ความเงียบสงบในไม่ช้า
ที่มันเกิดความรุนแรงขึ้นในทีแรกนั้นเพียงเพราะว่ามันเพิ่งเริ่มใช้งานค่ายกล เหมือนเสียงที่ดังขึ้นเวลาติดเครื่องยนต์ครั้งแรกก่อนออกรถ
หมี่เจิ้น หลงเจี้ยน ไป๋จือ โฉปู้ฉุนทุกคนนั้นต่างสั่นสะท้านไปทั้งกายเมื่อได้เห็น
โฉปู้ฉุนนั้นถอนหายใจยาวออกมา “ดึงพลังงานจากคงคานิรันดร์ออกมาสู่สวรรค์โดยตรง นี่มันเหนือจินตนาการไปนัก! เย่หยวนเจ้าเด็กบ้านี่มันเก่งกาจดีจริงๆ!”
ส่วนหมี่เจิ้นนั้นยิ่งตื่นเต้นดีใจเมื่อได้เห็นมัน “ข้าจะคืนสู่จุดเดิมได้แล้ว ฮ่าๆๆ วันหน้าสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้จะเป็นบ้านหลังที่สองของข้าแน่นอน!”
หลงเจี้ยนและพวกเองก็ต่างยิ้มกว้างขึ้นมา
เพราะนี่มันคือความหวังที่จะก้าวขึ้นล้ำสวรรค์ของพวกเขา!
ได้เห็นเย่หยวนเดินกลับออกมาหมี่เจิ้นก็เดินเข้าไปทักทายทันที “เย่หยวน เป็นอย่างไรบ้าง? ใช้งานได้หรือไม่?”
เย่หยวนพยักหน้ารับกลับไป “ค่ายกลกำเนิดโกลาหลนั้นสำเร็จไปด้วยดี! พลังงานโกลาหลจากคงคานิรันดร์นั้นกำลังถูกแปลงสภาพเป็นปราณเทวะโกลาหลและฉีดเข้าสู่ภาพวาดเต๋าสวรรค์ทั้งหลาย ตอนนี้ข้าได้สร้างห้องค่ายกลย่อยไว้ภายในหอสุดแสงนี้มากมาย เมื่อพวกเจ้าเข้าไปภายในห้องนั้นมันก็จะทำให้พวกเจ้าสามารถเข้าถึงภาพวาดเต๋าสวรรค์ได้ อัจฉริยะที่ว่าเตรียมกันมาพร้อมหรือยัง?”
หลงเจี้ยนพยักหน้ารับกลับไปทันที “พร้อมกันนานมากแล้ว เรารอแค่เจ้าเท่านั้น! พวกเด็กเวรทั้งหลายมันคงแทบทนรอกันไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆๆ เย่หยวน หากมังกรเฒ่าคนนี้สามารถก้าวขึ้นล้ำสวรรค์ได้วันหน้าเจ้าสั่งไปซ้ายข้าก็จะไม่มีทางไปขวาแน่นอน!”
“เรานั้นเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องเกรงใจกันให้มากไปหรอก แต่หมี่เจิ้น ข้านั้นยังกังวลเรื่องที่ปล่อยให้เจ้าได้ฟื้นฟูพลังอยู่” เย่หยวนหันไปมองหน้าหมี่เจิ้น
อีกฝ่ายนั้นต้องขนลุกตั้งไปทั้งกายทันที “ไม่เอาน่า เย่หยวน! ข้านั้นกลับตัวแล้วจริงๆ! ข้าสาบานต่อเต๋าสวรรค์เลยว่าตราบเท่าที่ข้าฟื้นคืนกำลังได้แล้วข้าจะยอมเป็นทาสรับใช้เจ้านับแสนๆ ปี! ข้าจะทำตามที่เจ้าสั่งทุกอย่างไม่มีเขื่อนไขแน่นอน!”