“พวกเจ้าว่าบรรพบุรุษท่านเสียสติไปแล้วจริงหรือไม่? กลับสั่งให้โจวเซียนเฉินพาหัวกะทิของเราไปสิ้น!”
“ราชวังสวรรค์โจวมันคงจบสิ้นกันเท่านี้แล้ว! จากวันนี้ไปมันคงเหลือค่ายสำนักใหญ่บนสวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรกแค่สามค่ายสำนัก!”
“เฮ้อ เรานั้นไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะถูกเลือกไปด้วย จะว่าไปแล้วมันก็น่าเศร้าใจเสียจริง!”
“ฮ่าๆ เจ้าคิดอยากจะไปสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดกับเขาด้วย? สวรรค์ระดับล่างเช่นนั้นไปแล้วจะได้อะไร?”
…
ตอนนี้ในราชวังสวรรค์โจวนั้นมันดูเงียบเหงาอย่างมากเหมือนราวกับเป็นสำนักร้าง
เพราะแม้ว่ามันจะยังเหลือศิษย์และคนอีกครึ่งหนึ่งแต่คนทั้งหลายก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ถูกทิ้งไว้
พวกเขาแยกย้ายกันไปนั่งจับกลุ่มคุย พูดถึงเรื่องความเจริญในอดีตและหายนะที่จะเกิดขึ้นกับราชวังสวรรค์โจวจากวันนี้ไป
สามปีผ่านไปแล้วตั้งแต่ที่พวกเขาย้ายกำลังครึ่งหนึ่งไปยังสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดและตอนนี้ราชวังสวรรค์ โจวก็ตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด มันแทบจะไม่มีศิษย์ใหม่เข้าราชวังมาเลยแม้สักคน
หากมิใช่เพราะว่ามันยังมียอดเจ้าโลกดูแลวังอยู่นั้นราชวังสวรรค์โจวคงได้กลายเป็นแค่วังร้างไร้ผู้คนไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงศิษย์หน้าใหม่แม้แต่ศิษย์เก่าๆ หลายๆ คนก็คงถอนตัวออกไป
การตัดสินใจของบรรพบุรุษหวู่หยานั้นมันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคิดเห็นด้วย
แต่ตอนนั้นเองมันกลับมีเสียงหัวเราะหนึ่งดังลอยมาจากอีกมุมของสวน “ไอ้พวกโง่เอ๊ย!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต่างหันไปมองและร้องตอบกลับเจ้าของเสียงนั้นไป “โจวหมิง แม้ว่าเจ้านั้นจะเป็นคนตระกูลโจวแต่ว่าเจ้าก็มันแค่ขยะของตระกูล แค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ยังไม่มีปัญญาบรรลุ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาด่าว่าพวกเราโง่กัน?”
ตระกูลโจวนั้นคือตระกูลใหญ่ที่สุดในราชวังสวรรค์โจวอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ว่าตระกูลใหญ่ๆ เช่นนี้มันก็ย่อมจะมีคนเก่งกาจอ่อนแอมากมายเกิดขึ้นมา
ทรัพยากรส่วนมากนั้นอยู่ในมือของคนตระกูลนี้
โจวหมิงนั้นเองก็เป็นคนตระกูลโจวแต่น่าเสียดายที่เขานั้นไร้พรสวรรค์จนเกินไป แม้จะพึ่งทรัพยากรมากมายเกินนับเขาก็ยังติดคอขวดอยู่ที่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ขั้นสุด
เขานั้นใช้ทุกวิถีทางเท่าที่จะคิดได้แต่ก็ยังไม่อาจบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้
แม้จะถูกด่าเป็นขยะของตระกูลนั้นโจวหมิงก็ไม่คิดสนใจและยิ้มเย้ยขึ้นต่อ “พวกเจ้าคงยังไม่รู้สิ? ว่าเย่หยวนผู้นั้นได้เปิดให้ทุกผู้คนบนสวรรค์นั้นเข้าศึกษาคัมภีร์สวรรค์ได้ สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นได้ให้กำเนิดเจ้าโลกไปนับไม่ถ้วนแล้ว! โจวเซียนหยู่ หลินเฉิงและคนราชวังสวรรค์โจวเราอีกนับสิบนั้นต่างบรรลุเจ้าโลกสิ้น! ข่าวว่ากันว่าสามปีมานี้เจ้าโลกที่บรรลุขึ้นบนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมันมีกว่าสองร้อยคนเข้าไปแล้ว! ตอนนี้เจ้าโลกทั้งหลายที่บอกว่าจะอยู่ในราชวังสวรรค์โจวไม่ไปด้วยนั้นต่างเริ่มนั่งไม่ติดกันสิ้น!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องผงะไปทันที
โจวหมิงนั้นเป็นคนตระกูลโจว แน่นอนว่าข่าวสารของเขามันย่อมจะดีกว่าศิษย์ทั่วๆ ไป
พวกเขาต่างคิดว่าหัวกะทิของราชวังสวรรค์โจวที่ไปยังสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นไปรนหาที่ตาย
ใครจะไปคิดว่ามันกลับเกิดเรื่องไม่คาดคิดเช่นนี้ขึ้นมา
สามปีสั้นๆ มันกลับมีเจ้าโลกเกิดขึ้นมากว่าสองร้อยคน!
นี่มันเป็นจำนวนที่มากเกินนับได้!
แต่หลังจากหายตกตะลึงไปมันก็กลายเป็นเสียงหัวเราะเย้ยหยันเพราะความไม่เชื่อแทน
“อะไรของเจ้า? อาจารย์ลุงทั้งสองนั้นติดอยู่ที่อาณาจักรคลื่นกำเนิดมานานนับหมื่นๆ ปี! นี่ไปสามปีก็จะบรรลุเจ้าโลกได้แล้วหรือ?”
“ฮ่าๆ โจวหมิง เจ้าคิดว่าเราหน้าโง่ขนาดนั้น? ใช้คำพูดเช่นนี้มาปั่นหัวเราเล่น?”
“ใช่แล้ว! โจวหมิง คิดจะโม้อะไรก็ดูความจริงก่อนเถอะ! สองร้อยเจ้าโลก? เจ้าคิดว่าเจ้าโลกเป็นผักปลาหรือ?”
โจวหมิงตอบกลับไปอย่างไม่คิดถอยกลับ “แม้ว่าข้านั้นจะเป็นแค่ขยะของตระกูลโจว แต่ข้าก็ยังเป็นคนตระกูลโจว ข่าวของข้านั้นมันเหนือล้ำกว่าที่พวกเจ้าจะเข้าถึงได้! เจ้ารู้กันหรือไม่ว่าคัมภีร์สวรรค์มันคืออะไร? มันคือหนึ่งในสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ สมบัติที่สามเจ้าโลกผู้ปกครองสวรรค์ต่างแย่งชิงกัน! บรรพบุรุษเราเองที่บาดเจ็บกลับมาก็เพราะคิดไปเอามันนั่น! ด้วยพลังของสมบัติระดับนี้เจ้าคิดว่าการบรรลุเจ้าโลกมันจะยากเย็นมากหรือ? เพียงแค่ว่าแม้แต่บรรพบุรุษหวูเทียนท่านเองก็ไม่อาจจะใช้งานสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ออกมาได้ทรงพลังขนาดนี้! เย่หยวนคนนี้มันของจริง!”
ได้เห็นโจวหมิงกล่าวขึ้นต่ออย่างไม่คิดถอยกลับคนทั้งหลายจึงเริ่มเชื่อกันขึ้นมากกว่าเก่า
จนมีคนถามขึ้น “ที่เจ้าพูดนี้เรื่องจริง?”
โจวหมิงยิ้มตอบกลับไป “เรื่องนี้มันมิใช่ความลับใดๆ! ที่เผ่าภูตแท้ทั้งสี่นั้นอพยพครั้งใหญ่มันก็เพราะสมบัตินี้! ข่าวเรื่องนั้นลองไปถามพ่อค้าข่าวเจ้าก็จะได้รู้กันเอง! ข้าได้ยินว่าภูตแท้จตุรทิศทั้งหลายนั้นก็ได้ให้กำเนิดเจ้าโลกขึ้นไม่น้อยเช่นกันในเวลาสามปีมานี้! นอกจากนั้นบรรพบุรุษของพวกเขาทั้งหลายต่างบรรลุล้ำสวรรค์กันไปได้สิ้น! เจ้าคิดว่าราชวังสวรรค์โจวเรากำลังตกต่ำหรือ? เจ้าคิดว่าพวกเขาออกเดินทางไปรนหาที่ตาย? ฮ่าๆ พวกเขานั้นคือผู้ชนะการเดิมพันครั้งนี้ต่างหาก!”
เท่านี้คนทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
พวกเขานั้นรู้เรื่องการอพยพครั้งใหญ่ดีแต่ข่าวของพวกเขาย่อมจะไม่ละเอียดมากมาย
เดิมทีนั้นพวกเขาก็ยังคิดว่ามันแปลก เผ่าภูตแท้มันโง่เง่ากันขนาดนั้น? ถึงเลือกจะย้ายถิ่นไปอยู่บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดเช่นนี้!
แต่ในที่สุดพวกเขาก็ได้เข้าใจถึงเหตุผล!
ที่แท้มันเพราะว่าสิ่งนี้!
“เช่นนั้นแล้ว…ราชวังสวรรค์โจวของเราเลือกลงเดิมพันถูกข้าง?”
โจวหมิงที่ได้ยินกลับส่ายหัวตอบไป “เรื่องนั้นยังพูดได้ไม่เต็มปากหรอก! หากพวกเขาเอาชนะกองทัพเผ่าเลือดและรอดจากมือบรรพบุรุษเผ่าเลือดได้แล้ว ราชวังสวรรค์โจวของเราคงกลายเป็นกองกำลังอันดับสองของเผ่ามนุษย์แน่นอน! บรรพบุรุษท่านนั้นตัดสินใจได้อย่างลึกล้ำ พวกเราคนธรรมดาไม่มีทางอ่านมันออก!”
ก่อนหน้านี้มันย่อมจะมีแต่เสียงด่าว่าบรรพบุรุษหวู่หยาลับหลัง
แต่ไม่มีใครกล้าขัด
แต่เมื่อได้ยินข่าวนี้พวกเขาทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้าง
เจ้าโลกนั้นเป็นกำลังหลักกำลังสำคัญของค่ายสำนักทุกแห่ง!
แท้จริงแล้วแม้แต่ตัวบรรพบุรุษหวู่หยาเองก็ยังผงะไปเมื่อได้ยินครั้งแรก
เขาเองก็ไม่คิดว่าเย่หยวนกลับจะสร้างสิ่งมหัศจรรย์อย่างค่ายกลกำเนิดโกลาหลขึ้นมาให้คนทั้งหลายได้เข้าถึงคัมภีร์สวรรค์!
นอกจากนั้นแล้วเย่หยวนยังไม่คิดกีดกันเอาคนตัวเองเข้าว่าแต่ปล่อยให้คนจากราชวังสวรรค์โจวเข้าถึงมันได้สิ้น
อัจฉริยะคนใดที่พวกเขาส่งไปนั้นหากผ่านการตรวจสอบของหอสุดแสงได้แล้วพวกเขาก็สามารถเข้าถึงคัมภีร์ได้สิ้น
จากนั้นพวกเขาก็ล้วนแล้วแต่บรรลุขึ้นไม่ขาดสาย!
นี่มันเป็นเรื่องน่าตกตะลึงอันน่ายินดี
แน่นอนว่าต้นข่าวของโจวหมิงนั้นมันย่อมจะเป็นคนเบื้องบนที่จงใจปล่อยข่าวรั่วออกมา
เพราะพวกเขาเองก็อยากจะฟื้นขวัญกำลังใจให้ศิษย์ทั้งหลาย!
แต่ระหว่างที่คนทั้งหลายกำลังพูดคุยกันไปนั้นท้องฟ้ามันก็เกิดเปลี่ยนสี!
แสงสีแดงเลือดพุ่งทะยานผ่านน่านฟ้าไปทำให้บรรยากาศมันเหมือนกับดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า
สีแดงสดนี้มันทำให้คนทั้งหลายรู้สึกขนลุกตั้งทันที
“หืม? มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไมท้องฟ้าถึงกลายเป็นสีแดงเช่นนี้?”
“ข้าได้กลิ่นเลือด!”
โจวหมิงนั้นคิดถึงความเป็นได้หนึ่งจนต้องร้องขึ้นด้วยหน้าซีดขาวทันที “ไม่ดีแล้ว! เผ่าเลือด! เผ่าเลือดมันมาโจมตีราชวังสวรรค์โจวเรา!”
ก่อนที่เขาจะทันพูดจบนั้นมันก็มีเงาร่างมากมายพุ่งตัวมาจากขอบฟ้ามุ่งหน้าสู่ราชวังสวรรค์โจว
พลังงานเลือดรุนแรงนั้นมันกระแทกเข้าราชวังสวรรค์โจวจนทำให้แม้แต่อากาศยังเปลี่ยนเป็นสีแดง
ก่อนที่เผ่าเลือดจะมาถึงนั้น ความหวาดกลัวมันก็มาถึงก่อนแล้ว
ยอดฝีมือของราชวังสวรรค์โจวนั้นต่างสัมผัสได้ถึงพลังนี้และพุ่งตัวขึ้นฟ้ามองดูศัตรูตรงหน้าด้วยสีหน้าเครียด
โจวเทียนยู่ เจ้าราชวังสวรรค์โจวคนปัจจุบันและลูกชายแท้ๆ ของบรรพบุรุษหวู่หยานั้นพุ่งตัวออกมาอยู่หน้าคนทั้งหลายในทันที
ได้เห็นแผ่นหลังของเขานั้นคนทั้งหลายถึงเริ่มคลายคิ้วที่ขมวดแน่นออก
ศิษย์ราชวังสวรรค์โจวนั้นต่างรู้ดีว่าเขาคนนี้คือยอดฝีมือที่ด้อยกว่าแค่ยอดฝีมือล้ำสวรรค์เพราะว่าเขานั้นมีพลังระดับล้ำสวรรค์ครึ่งก้าวแล้ว!
เพียงแค่ว่าตอนนี้ใบหน้าของโจวเทียนยู่กำลังดำมืดอย่างถึงที่สุด
ไม่นานมันก็ปรากฏร่างเฒ่าๆ ร่างหนึ่งข้างกายโจวเทียนยู่
โจวเทียนยู่กล่าวขึ้น “บรรพบุรุษเผ่าเลือดมันจะโจมตีสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมิใช่หรือ? ทำไมมันมาโจมตีราชวังสวรรค์โจวเราเช่นนี้แทนเล่า?”
บรรพบุรุษหวู่หยานั้นถอนใจยาวก่อนจะตอบขึ้น “ดูท่าพวกมันนั้นไม่ได้มาแค่เพื่อโจมตีราชวังสวรรค์โจวเรา! เผ่าเลือดนั้นมันคงคิดเริ่มสงครามกับทุกสวรรค์พร้อมๆ กันแล้ว! ไม่นึกเลย ไม่นึกเลยจริงๆ! เผ่าเลือดมันกลับทรงพลังมากถึงขั้นนี้แล้ว! เผ่าเลือดในตอนนี้มีคงมีกำลังแข็งแกร่งกว่าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตในครานั้นนับร้อยเท่าแล้ว! ดูท่าพวกเราทั้งหลายจะประเมินบรรพบุรุษเผ่าเลือดต่ำเกินไป!”
………………………