“เจ้าว่าอะไรนะ? หกเจ้าโลกล้ำสวรรค์กลับปรากฏขึ้นบนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดพร้อมๆ กัน? มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”
ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นร้องลั่นขึ้นมาทันทีที่ได้ยินข่าวจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด
ยอดฝีมือล้ำสวรรค์นั้นมันคืออาวุธนิวเคลียร์เคลื่อนที่
ก่อนที่จะได้สายเลือดทั้งสี่มานั้นแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่อาจจะสร้างยอดฝีมือล้ำสวรรค์ได้ง่ายๆ เช่นกัน
แต่ตอนนี้มันกลับมียอดฝีมือล้ำสวรรค์ถึงหกคนปรากฏตัวขึ้นบนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด? มีหรือที่เขาจะไม่ตกตะลึงได้?
อี้เฉียพยักหน้าตอบไป “เดิมทีแล้วสงครามมันกำลังดำเนินไปได้ดีแต่ไม่นึกฝันว่าการต่อต้านจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมันจะรุนแรงได้ขนาดนี้ ตอนนี้หมี่เทียนได้นำกองทัพสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดไล่ล่ากองทัพเรามาถึงสามโลกแล้ว!”
อี้เฉียนั้นคือผู้แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าเลือด
กำลังของเขานั้นมันแข็งแกร่งอย่างมากแม้จะเทียบกับเจ้าโลกล้ำสวรรค์ทั้งหลาย
ร่างแยกของศิลาโลหิตโกลาหลนั้นได้รับบาดเจ็บหนัก เขาจึงไม่อาจจะออกหน้าไปไหนได้ง่ายๆ และต้องปล่อยให้อี้เฉียคนนี้จัดการเรื่องราวต่างๆ ไป
ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นกล่าวขึ้น “การให้กำเนิดเจ้าโลกล้ำสวรรค์ได้ถึงหกคนในเวลาไม่กี่ปีนี้มันย่อมจะเพราะคัมภีร์สวรรค์แน่นอน! แต่ต่อให้เย่หยวนมันจะใช้งานคัมภีร์สวรรค์ตลอดเวลามันก็คงไม่อาจจะพาคนเข้าไปศึกษาได้มากมายขนาดนั้นเช่นกัน! เจ้าเด็กบ้านี่มันใช้วิธีไหนกันแน่?”
อี้เฉียตอบกลับไป “ข้าเองตอนที่ได้ข่าวนี้มาก็รีบส่งคนออกไปสืบและพบว่าเย่หยวนนั้นได้ตั้งค่ายกลที่ดึงพลังโกลาหลจากคงคานิรันดร์ไปยังสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดและใช้พลังของมันนั้นแปลงเป็นปราณเทวะโกลาหลฉีดอัดเข้าคัมภีร์สวรรค์”
ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นต้องผงะไปเมื่อได้ยิน “เจ้าเด็กนี่มันอัจฉริยะจริงๆ! คนอื่นๆ นั้นยังคงศึกษาว่าโกลาหลคืออะไรแต่ตัวมันนี้กลับดึงพลังงานโกลาหลไปใช้ได้แล้ว! อี้เฉีย เจ้าเด็กนี่จะปล่อยไว้ไม่ได้เด็ดขาด เจ้าต้องออกเดินทางเองแล้ว! หากจำเป็นก็ใช้มหาค่ายกลโลหิตเมฆาเสีย!”
อี้เฉียก้มหัวลงรับสั่ง “ขอรับ!”
…
“ท่านหวังจั่ว จะไม่มาสังหารข้าจริงๆ หรือ? หนีมาตั้งกี่โลกแล้วทำไมยังไม่คิดหันมาสู้กันอีก?”
บนท้องฟ้านั้นเสียงของเย่หยวนมันแผ่ออกไปไกลทั่วทวีปทำให้ทั้งสวรรค์ต้องแตกตื่นไป
เบื้องหน้านั้นมันมีพวกเฉียฉินที่กำลังหนีหัวซุกหัวซุนอย่างไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปมอง
กองทัพที่ออกมาจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นไล่ล่ากองทัพเผ่าเลือดในสวรรค์ต่างๆ จนพวกเขาต้องหนีมาถึงสี่โลกแล้ว!
ระหว่างนี้หมี่เทียนและคนอื่นๆ เองก็สังหารเจ้าโลกล้ำสวรรค์เผ่าเลือดไปได้อีกถึงสองคน
เผ่าเลือดนั้นกำลังปั่นป่วนอย่างมาก
ในเวลานี้เฉียฉินและพวกนั้นได้รวมกำลังเจ้าโลกล้ำสวรรค์เพิ่มมาอีกห้าคนแต่พวกเขาก็ยังไม่กล้าจะหันไปต่อสู้กับกองทัพที่ไล่ตามหลังมา
หมี่เทียนและพวกนั้นแข็งแกร่งจนเกินไป หากไม่มียอดฝีมือล้ำสวรรค์สักสิบคนแล้วมันย่อมจะไม่มีทางชนะได้แน่นอน
นอกจากนั้นเฉียฉินเองยังบาดเจ็บและไม่อาจจะเข้าต่อสู้ใดๆ ได้ในเวลานี้
“ไอ้เด็กเวรเย่หยวน เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป! เจ้าคิดหรือว่าเผ่าเลือดข้านั้นมีกำลังแค่นี้? หลังจากที่บรรพบุรุษท่านรู้เรื่องที่เกิดขึ้นนี้แล้วท่านคงจะส่งกำลังเสริมที่ทรงพลังมาแน่นอน ถึงเวลานั้นแล้วเจ้าล้างคอรอโดนเชือดไว้ได้เลย!” เฉียฉินนั้นร้องตอบกลับไปอย่างไม่คิดหันหน้ากลับ
“เรอะ? เช่นนั้นข้าจะรอมันมา แต่พวกเจ้าคิดจะหนีไปถึงไหน? หนีไปเช่นนี้ทั้งสามสิบสามสวรรค์คนได้รู้แล้วว่าท่านหวังจั่วนั้นมีชื่อเสียงลือเลื่องแค่ไหน!”
เฉียฉินนั้นแทบต้องกระอักเลือดออกมา เพราะระหว่างที่หนีมานี้มันย่อมจะกลายเป็นที่สนใจของทั้งฝ่ายเผ่าเลือดเองและฝ่ายกองกำลังที่ต่อสู้กับเผ่าเลือดอยู่
ตอนนี้ไม่ว่าจะผ่านไปที่ไหนพวกเขาก็จะกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนไป
พวกเขานั้นไม่มีหน้าจะไปสู้ใครได้อีกแล้ว
เผ่าเลือดนั้นผงาดกลืนสามสิบสามสวรรค์แต่สุดท้ายกลับถูกกองทัพสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดไล่ล่าจนต้องหนีไปหลายโลก
แต่จู่ๆ มันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้นบนท้องฟ้าเบื้องหน้าคนทั้งหลาย
ผู้มาถึงนั้นเป็นชายหนุ่มผมสีแดงเลือด
เมื่อหมี่เทียนเห็นผู้มาถึงนั้นเขาก็ต้องส่งสัญญาณให้คนทั้งหลายหยุดตัวลงทันที
ชายผมแดงคนนี้มันทำให้เขารู้สึกได้ถึงความหนักหน่วง!
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียตั้งแต่ที่เขาได้ศึกษาคัมภีร์เอกภพนั้นกำลังของหมี่เทียนก็พัฒนาไปอย่างไม่คาดฝัน
แต่ตอนนี้ชายหนุ่มผมแดงตรงหน้าเขานี้กลับทำให้เขารู้สึกได้ถึงความกดดัน มันชัดเจนเลยว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดา
“คนผู้นี้แข็งแกร่ง!” หมี่เทียนกล่าวขึ้น
เย่หยวนเองก็ไม่คิดแปลกใจมากมาย “หากไม่มีพลังขนาดนี้เผ่าเลือดมันก็คงไม่กล้าเปิดสงครามกับสามสิบสามสวรรค์พร้อมๆ กันหรอก!”
เมื่อเฉียฉินได้เห็นหน้าผู้มาถึงนั้นเขาก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นเหมือนได้เห็นเจ้านายและแทบร้องไห้ออกมา
ถูกไล่ล่ามาหลายโลกเช่นนี้มันย่อมจะมิใช่ประสบการณ์ที่ดีนัก
“ท่านอี้เฉีย ท่านมาจนได้!” เฉียฉินนั้นกล่าวขึ้น
พูดจบเขาก็หันกลับมาร้องแยกเขี้ยวใส่เย่หยวน “เย่หยวนไอ้เวร เจ้าไล่ล่าพวกเรามานี้คงได้ใจมากแล้ว? ทีนี้เจ้ารู้หรือยังเล่าว่าหัวเราะทีหลังดังกว่านั้นมันเป็นอย่างไร?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ลมมันเปลี่ยนทิศได้เสมอ ตอนนี้เจ้าดีใจมากไปเดี๋ยวเจ้าจะได้ร้องไห้หนักกว่าเก่าเล่า”
เฉียฉินนั้นยิ้มตอบกลับไป “ที่เจ้าพูดได้เพราะเจ้าไม่รู้ว่าท่านอี้เฉียนั้นแข็งแกร่งเพียงใด! ท่านผู้นี้คือเทพแห่งสงครามของเผ่าเลือดเรา มือขวาของบรรพบุรุษท่าน!”
อี้เฉียนั้นมองหน้าหมี่เทียนก่อนจะกล่าวขึ้น “พวกเจ้าหนีไม่รอดแล้ว!”
หมี่เทียนตอบกลับไป “หากบรรพบุรุษผู้นี้อยากจะไปคนอย่างเจ้าก็หยุดข้าไม่ได้หรอก!”
อี้เฉียนั้นยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นส่งสัญญาณ
พริบตาเดียวกันนั้นมันก็ปรากฏกองทัพเผ่าเลือดมากมายเข้ามาล้อมกองทัพสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดไว้!
ในกลุ่มคนนั้นมันมีเจ้าโลกอยู่มากมาย!
กองทัพสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นแตกตื่นกันไปทันทีเมื่อต้องตกอยู่ในวงล้อม
เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นภาพนี้พวกเขาก็ต้องหน้าซีดขาวลง
“ไม่ดีแล้ว! เราติดกับวงล้อมของเผ่าเลือดแล้ว!”
“นี่มัน…แค่ยอดฝีมือล้ำสวรรค์มันก็มีมากถึงเก้าคนแล้ว เราจะทำอย่างไรดี?”
“เราบุกเข้ามาในแดนศัตรูลึกจนเกินไป!”
…
ทัพสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นต่างแตกตื่นกันไปสิ้น
ได้เห็นสีหน้าของคนทั้งหลายนั้นเฉียฉินก็ยิ้มกว้างขึ้นอย่างสะใจ
เพราะหลายวันมานี้เขาช่างอับอายคับแค้นเหลือเกิน!
“ฮ่าๆๆ เย่หยวน เจ้าคิดว่ามันจะยังมีลมที่ไหนเปลี่ยนทิศอีกหรือไม่? ตอนนี้ทัพเผ่าเลือดของเราครอบคลุมฟ้าดิน ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะรอดไปได้อย่างไร!” เฉียฉินกล่าวขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะลั่น
อี้เฉียนั้นมองหน้าหมี่เทียนก่อนจะกล่าวขึ้น “หมี่เทียน ข้ารู้ว่าเจ้านั้นได้ศึกษาคัมภีร์เอกภพมาแล้วทำให้ฝีมือของเจ้าพัฒนาไปอย่างมากล้ำ คิดจะจับเจ้าไว้มันย่อมไม่ง่ายแต่ครั้งนี้ข้าได้เตรียมการไว้อย่างดี ห้วงมิตินี้มันถูกเจ้าโลกร้อยแปดสิบคนปิดล้อมไว้สิ้น! บางทีแค่นี้มันอาจจะหยุดเจ้าไม่ได้แต่คนที่เจ้าพามานั้นย่อมจะไม่มีทางหนีตามเจ้าไปได้แน่!”
ได้ยินเช่นนั้นพวกเขาทั้งหลายก็ต้องหน้าซีดขาวลงกว่าเก่า
พวกเขานั้นอยากจะมุดห้วงมิติหนีไปแต่พบว่าห้วงมิติในบริเวณนี้มันแข็งจนไม่อาจจะขยับเคลื่อนได้แล้ว
เท่านี้คนทั้งหลายก็เริ่มกังวลขึ้นมาจริงๆ
หมี่เทียนตอบกลับไป “เช่นนั้นเจ้าอยากจะต่อรองกับข้า?”
อี้เฉียยิ้มตอบกลับไป “คุยกับคนฉลาดมันประหยัดเวลาดีจริงๆ ข้ามีเงื่อนไขเดียวในการปล่อยพวกเจ้าไป ทิ้ง เย่หยวนไว้ นอกจากนั้นจะไปไหนก็ไป!”
“กับแม่เจ้าเถอะ! คิดจะให้เราทิ้งเย่หยวนไว้นั้นเจ้าคงต้องฝันเอาแล้ว! เจ้านามว่าอี้เฉีย? รอก่อนเถอะ เมื่อใดที่หยางชิงผู้นี้ก้าวถึงอาณาจักรเจ้าโลกข้าจะไปล่าหัวเจ้าเอง!” คำพูดของอี้เฉียนั้นทำให้หยางชิงต้องร้องคำรามตอบกลับไป
“ใช่แล้ว ต่อให้เราต้องตายเราก็ต้องพานักบุญสวรรค์เย่ออกไป!”
“นักบุญสวรรค์เย่นั้นคือวิญญาณของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดเรา เราขอสู้ตายเพื่อเปิดทางหนีให้เขา!”
“เจ้าหมาเลือด เจ้าคิดง่ายไปแล้ว! เราไม่มีทางทิ้งเขาไว้แน่นอน!”
…
คำตอบของคนทัพสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมันดังขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง
ดูแล้วตอนนี้เย่หยวนคงกลายเป็นดั่งเทพเจ้าของคนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดไป
เย่หยวนนั้นคือเสาหลักที่ค้ำจุนจิตวิญญาณของพวกเขาไว้! เย่หยวนนั้นคือศาสนาของพวกเขา!
หมี่เทียนมองหน้าอี้เฉียก่อนจะยิ้มตอบกลับไป “ได้ยินไหมเล่า? ไม่มีทางที่เราจะทิ้งเย่หยวนไว้หรอก! นอกจากนั้นบรรพบุรุษผู้นี้ยังไม่คิดว่าเจ้าจะปิดล้อมเราไว้ได้จริงๆ ด้วย!”
อี้เฉียนั้นยิ้มเย้ยตอบกลับไป “หมี่เทียน เจ้าจะหลงตัวเองไปแล้ว!”
แต่หมี่เทียนกลับเผยรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นพร้อมกล่าว “จะหลงตัวเองหรือไม่เจ้าก็จะได้รู้แล้ว! เย่หยวน ลงมือเถอะ!”
………………………