ทางขึ้นเขาของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันพังทลายอย่างไม่มีชิ้นดี
ยอดฝีมือบนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นต่างบาดเจ็บล้มตายกันไปมากเกินกว่าจะนับได้
หลังจากต่อสู้กันถึงสามวันสามคืน เหล่ายอดฝีมือหัวกะทิของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดก็บาดเจ็บล้มตายกันไปกว่าครึ่ง!
ต่อให้จะเป็นเจ้าโลกทั้งหลายเองก็ยังมีคนตายไปกว่าร้อยคน!
ส่วนพวกที่อยู่ต่ำกว่าเจ้าโลกลงมานั้นย่อมจะมีคนเจ็บล้มตายไปมากเกินกว่าที่จะนับได้
นี่มันคือโศกนาฏกรรมอย่างแท้จริง
แน่นอนว่าฝ่ายเผ่าเลือดเองก็ไม่ได้ดีกว่ากันไปมาก พวกเขาเองก็เสียหายบาดเจ็บล้มตายไปมากมาย
ยอดฝีมือบนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นต่างต่อสู้แลกชีวิตกันไม่คิดเกรงกลัวกองทัพที่ยิ่งใหญ่ของเผ่าเลือด
เพราะว่าสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมันแตกต่างจากสวรรค์อื่นๆ พวกเขานั้นมีใจที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างไม่น่าเชื่อ
แม้แต่ตัวอี้เฉียเองก็ยังต้องยอมรับในเรื่องนี้
เขานั้นคิดไปว่าศึกครั้งนี้เมื่อเขาสามารถทำให้คนทั้งหลายเลิกหวังที่จะสู้ชนะ พวกเขาก็จะแยกย้ายหนีกันไปคนละทิศละทาง
แต่มันกลับไม่มีภาพเช่นนั้นเกิดขึ้นแม้แต่น้อย!
เพราะว่าแม้แต่ยอดฝีมือที่มาร่วมจากสวรรค์อื่นๆ เองนั้นก็ต่างล้วนแล้วแต่สู้จนหยดสุดท้ายเช่นกัน
แต่ว่าเผ่าเลือดนั้นก็ยังมีพลังชีวิตที่เหนือล้ำ ทำให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกองทัพเผ่าเลือดนั้นมันน้อยกว่าทางสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดอย่างเห็นได้ชัด
รอบๆ โถงใหญ่ของนิกายยาสุดล้ำในตอนนี้มันมีเจ้าโลกหลายคนกำลังปะทะกันอยู่อย่างรุนแรง
เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นนำกำลังเจ้าโลกกว่าสิบคนป้องกันโถงใหญ่ของนิกายยาสุดล้ำอย่างสุดชีวิต
ร่างกายของเขาในตอนนี้มันมีแต่เลือดอาบไปทั่วแต่ว่าจิตใจของเขานั้นยังสู้ไม่มีถอย!
“ฮ่าๆ เฟิงเสี่ยวเถียน พวกเจ้าแลกชีวิตเพื่อปกป้องห้วงมิตินี้มันย่อมจะเพราะว่ามีของดีอยู่ภายในแน่! หากข้าเดาไม่ผิดคัมภีร์สวรรค์คงอยู่ภายในห้วงมิตินี้แล้ว?” เฉียนั้วหัวเราะลั่นขึ้นมาเย้ยหยันเฟิงเสี่ยวเถียน
เฟิงเสี่ยวเถียนตอบกลับไป “ถ้าใช่แล้วจะทำไม?”
เฉียนั้วนั้นยิ้มตอบกลับไป “เจ้าคิดว่าตัวเองจะยังสู้ได้อีกกี่น้ำ? สภาพเช่นนี้จะอยู่ได้อีกสักกี่นาทีกัน?”
เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นเช็ดเลือดที่ไหลลงมาใส่ตาก่อนจะกัดฟันตอบกลับไป “ตราบเท่าที่ข้านั้นยังมีลมหายใจเจ้าก็จะไม่มีทางได้เข้าไปใกล้หอสุดแสงเด็ดขาด!”
ในการต่อสู้กันดุเดือดนี้โถงใหญ่ของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันแทบจะถูกทำลายลงเพราะลูกหลงของการต่อสู้
ที่แห่งนี้มันคือทางเข้าหลักของหอสุดแสง สถานที่เก็บคัมภีร์สวรรค์ไว้ เรียกได้ว่ามันคือหัวใจของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดในตอนนี้ก็ว่าได้
คนอย่างเฟิงเสี่ยวเถียนย่อมจะไม่มีทางปล่อยให้ห้วงมิติของหอสุดแสงนั้นถูกลูกหลงการต่อสู้นี้ทำลายลงไปอย่างแน่นอนเขาจึงได้ลงมาปกป้องมันไว้
แต่ยิ่งทำเช่นนี้มันก็ยิ่งทำให้อีกฝ่ายรู้ถึงความสำคัญของสถานที่แห่งนี้
ห้วงมิติลับเช่นนี้หากเป็นคนทั่วๆ ไปแล้วย่อมจะไม่อาจสัมผัสถึงได้แต่กับเจ้าโลกระดับเฉียนั้วมันย่อมจะไม่อาจปิดซ่อนใดๆ ได้
เพราะฉะนั้นเฉียนั้วจึงได้พากำลังเจ้าโลกมากมายมาล้อมโจมตีที่แห่งนี้
เดิมทีแล้วเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นมีเจ้าโลกอีกมากมายที่คอยช่วยแต่เพื่อจะปกป้องห้วงมิตินี้ไว้พวกเขาจึงได้แต่ต้องต่อสู้แลกชีวิตกับศัตรูไปเพราะไม่อาจจะถอนไปไหนได้
หลังจากผ่านไปได้สามวันตอนนี้มันจึงเหลือเจ้าโลกรอบๆ ตัวเฟิงเสี่ยวเถียนเพียงแค่สิบกว่าคนที่สำคัญไปกว่านั้นพวกเขายังบาดเจ็บกันถ้วนหน้า
“ฮ่าๆๆ เป็นตั๊กแตนขวางรถเสียจริงๆ! เฟิงเสี่ยวเถียน เจ้าและข้านั้นต่อสู้กันมาหลายต่อหลายปี สังหารเจ้าลงวันนี้มันก็ทำให้ข้าใจหายเช่นกัน! โจมตีมัน! ทำลายห้วงมิตินี้และเก็บเอาคัมภีร์สวรรค์ออกมา!”
ภายใต้คำสั่งของเขานั้นเจ้าโลกเผ่าเลือดทั้งหลายจึงได้พุ่งตัวเข้าไปโจมตีอย่างสุดแรง
เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นนำกลุ่มเจ้าโลกที่เหลือเข้ารับมือศัตรู
เลือดที่หลั่งไหลออกมานี้มันยิ่งทำให้พวกเขาบ้าคลั่ง
คนแค่สิบกว่าคนปะทะกับคนหลายสิบมันย่อมจะไม่มีทางสู้ชนะได้
แต่คนสิบกว่าคนนี้กลับไม่มีใครคิดถอยแม้สักคนเดียว!
“จื่อชาง หมิงเจียง พวกเจ้าสองคนประกบข้างข้าไว้ คนอื่นๆ เข้าไปรับมือในโถง ให้ข้ารับมือพวกเฉียนั้วมันเอง!” เฟิงเสี่ยวเถียนสั่งการขึ้น
แต่แม้จะไม่ต้องสั่งคนทั้งสองนั้นก็ก้าวขึ้นมาประกอบข้างซ้ายขวาของเขาไว้ให้แล้ว
โจวจื่อชางและซ่งหมิงเจียงทั้งสองคนนั้นเป็นสหายร่วมรบกับเฟิงเสี่ยวเถียนมาตั้งแต่สมัยอยู่ที่มหานครฉีใต้ พวกเขาย่อมจะเข้าใจความต้องการของเฟิงเสี่ยวเถียนแม้ไม่ต้องได้ยินจากปาก
มหานครฉีใต้นั้นมันคือเครื่องปั่นชีวิต นรกบนดินแต่มันก็ทำให้เกิดยอดฝีมือมากมายขึ้นที่นั่นเช่นกัน
โจวจื่อชางและซ่งหมิงเจียงทั้งสองคนนั้นเป็นยอดอัจฉริยะที่มากพรสวรรค์อย่างมากในหมู่คนเมือง
เดิมทีแล้วพวกเขานั้นติดคอขวดอยู่ที่อาณาจักรคลื่นกำเนิดและไม่อาจจะบรรลุเจ้าโลกได้ง่ายๆ
แต่ด้วยความช่วยเหลือจากค่ายกลกำเนิดโกลาหลของเย่หยวน โจวจื่อชางและซ่งหมิงเจียงทั้งสองนั้นจึงสามารถบรรลุเจ้าโลกขึ้นมาได้ในที่สุด
คนทั้งสองนั้นเป็นทหารผ่านศึกของมหานครฉีใต้ พวกเขาย่อมจะรู้วิธีการต่อสู้ในสงครามอย่างดีทำให้ฝีมือของพวกเขาเมื่อบรรลุขึ้นมาได้นั้นเป็นที่ประจักษ์จนรอดชีวิตมาได้ถึงตอนนี้
แต่ว่าจะอย่างไรพวกเขานั้นก็เป็นแค่ไม้ใกล้ฝั่ง
การต่อสู้ในระยะใกล้นั้นมันย่อมจะเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายได้มากที่สุด
แน่นอนว่าคนที่รับภาระไปหนักที่สุดแล้วมันก็ยังเป็นเฟิงเสี่ยวเถียน
เพราะเขานั้นต้องรับมือเจ้าโลกระดับสูงถึงหกคนด้วยตัวคนเดียว!
และตอนนี้เจ้าโลกระดับสูงของฝ่ายสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมันเหลือเพียงแค่เขาคนเดียวแล้ว!
แต่แม้ต้องเจอความแตกต่างด้านจำนวนเช่นนี้มันก็ยังไม่มีใครคิดถอย
แม้จะได้เปรียบเรื่องจำนวนมากมายเช่นนี้แต่เฉียนั้วนั้นก็ยังไม่อาจจะเอาชีวิตของอีกฝ่ายไปได้ง่ายๆ
คนพวกนี้มันดื้อด้านเสียจริงๆ!
“จินหยู เจ้าไปตัดข้างมัน เราจะล้อมเฟิงเสี่ยวเถียนมันให้ได้!” เฉียนั้วสั่งขึ้นมา
“ได้!”
จินหยูนั้นเป็นหนึ่งในเจ้าโลกระดับสูงเช่นกัน เมื่อได้รับคำสั่งไปนั้นเขาก็พุ่งตัวออกข้างไปทันที
เฟิงเสี่ยวเถียนที่ได้เห็นก็ต้องใจหายวาบแต่ไม่อาจจะหยุดยั้งอีกฝ่ายไว้ได้แล้ว
เพราะตอนนี้เขาเองก็แทบจะเอาตัวไม่รอด ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือจิตใจมันก็เกือบจะถึงขีดจำกัดแล้ว
จินหยูนั้นพุ่งตัวออกไปด้วยพลังงานสีแดงฉานตรงใส่โจวจื่อชาง!
“ระวัง จื่อชาง!” เฟิงเสี่ยวเถียนที่ไม่อาจจะหยุดจินหยูได้นั้นจึงได้แต่ต้องร้องขึ้นเตือนโจวจื่อชาง
แต่โจวจื่อชางที่ได้ยินนั้นกลับหัวเราะลั่นตอบกลับไป “ฮ่าๆๆ เยี่ยม! เจ้าเมืองเฟิง ข้า เฒ่าโจวคนนี้ขอตัวไปก่อนแล้ว!”
พูดจบเขาก็หันไปหัวเราะใส่จินหยูที่กำลังพุ่งตัวเข้ามาใกล้ “ไอ้สารเลว! คิดจะฆ่าข้านั้นเจ้าเองก็ต้องเตรียมเจ็บตัวกลับไปบ้าง!”
ด้านหลังของโจวจื่อชางนั้นปรากฏประตูแห่งชีวานิรันดร์ขึ้นมา
โจวจื่อชางนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายเหมือนว่าร่างของเขานั้นกลายเป็นดวงตะวันที่ส่องสาดแสงใส่โลกหล้า พลังงานจากตัวของเขานั้นพุ่งทะยานจนไม่น่าเชื่อว่ายังเป็นคนเดิม
เขานั้นมีพลังห่างจากเจ้าโลกระดับสูงเพียงแค่เส้นผม!
เฟิงเสี่ยวเถียนที่รับมือเจ้าโลกระดับสูงห้าคนอยู่นั้นย่อมจะไม่มีเวลาหันไปสนใจแต่มีหรือที่เขาจะสัมผัสไม่ได้ว่า โจวจื่อชางกำลังคิดทำอะไร?
ในตอนนี้เขากลับรู้สึกโล่งใจ
“ฮ่าๆๆ ดูแลตัวเองด้วยเฒ่าโจว! เฟิงผู้นี้จะตามเจ้าไปในไม่ช้า!” เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นหัวเราะตอบกลับไปอย่างไม่คิดหันหน้ามอง
โจวจื่อชางนั้นกำกระบี่ในมือก่อนจะสะบัดมันออกมาในแนวขวาง
ฉัวะ!
เจ้าโลกตรงหน้าของเขานั้นไม่ทันจะหลบไปไหนและต้องถูกกระบี่นี้ตัดขาดครึ่งทันที!
แต่ว่าพลังของกระบี่นั้นกลับไม่ลดลงไปแม้แต่น้อยและพุ่งตรงเข้าหาจินหยูที่กำลังมุ่งหน้ามา
จินหยูนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปเพราะสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากกระบี่นี้!
พลังของกระบี่นี้มันรุนแรงถึงระดับของเจ้าโลกระดับสูง!
หากเขารับมันไว้ตรงๆ แล้วเขาย่อมจะต้องสิ้นท่าไปด้วยแน่นอน!
จินหยูจึงดึงตัวกลับม้วนตีลังกากลางอากาศหมายจะหลบกระบี่นี้
เขาเลือกที่จะถอย!
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียกระบี่ของโจวจื่อชางนั้นมันก็ใช้พลังชีวิตของเขาออกมาจนหมดแล้ว เขาเป็นได้แค่คนตายเท่านั้น
ปะทะกันไปก็เสียเปล่า!
“ฮ่าๆๆ ไอ้ขี้ขลาด! เจ้าไม่กล้าแม้แต่จะรับกระบี่ของพ่อเจ้าหรือ! ไปตายเสียเถอะ!”
ท่ามกลางเสียงหัวเราะนั้นโจวจื่อชางก็หมุนข้อมือเปลี่ยนวิถีกระบี่เข้าใส่ตัวจินหยูในทันที
จินหยูนั้นได้แต่ต้องกัดฟันอย่างตกตะลึงเพราะว่ากระบี่นี้เร็วจนเกินจะหลบได้!
เมื่อไม่มีทางหลบเขาจึงมีแต่ต้องรับมันไว้เท่านั้น
ตูม!
บนท้องฟ้านั้นเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาจนแสบแก้วหู
“อ๊าก!”
จินหยูนั้นกระอักเลือดปลิวออกไปทันที
กระบี่ของโจวจื่อชางนี้มันทำให้เขาบาดเจ็บหนัก
แต่ในเวลานั้นเองร่างไร้ลมหายใจของโจวจื่อชางก็ร่วงลงพื้นดินไปเช่นกัน
“ไอ้บ้า! พวกเจ้ามันบ้า!” จินหยูได้แต่ต้องร้องลั่นขึ้นอย่างคับแค้นใจ
คนพวกนี้มันคือคนบ้าอย่างแท้จริง
ไม่มีใครคิดหนี คิดแต่จะแลกชีวิตกับศัตรู
โจวจื่อชางนั้นเป็นแค่เจ้าโลกธรรมดาๆ แต่กลับสามารถปล่อยพลังโจมตีที่เทียบเคียงเจ้าโลกระดับสูงออกมาทำให้เจ้าโลกระดับสูงตัวจริงเสียงจริงอย่างจินหยูนั้นบาดเจ็บสาหัสได้
นี่มันคือสิ่งที่ไม่มีใครกล้าคิดฝันถึง
แต่ว่าก่อนที่เขาจะทันหายตกตะลึงนั้นมันก็มีการโจมตีอีกสายพุ่งลงมาจากด้านบนมุ่งใส่ตัวเขาที่นอนจมกองดิน
จินหยูนั้นขนลุกตั้งไปทั้งกายเพราะรู้สึกได้ถึงความตายที่มาเยือน
“เจ้าเมืองเฟิง เฒ่าซ่งเองก็ขอตัวก่อนแล้ว! ฮ่าๆๆ ไอ้สุนัขเลือด ตายเสียเถอะ!” เสียงของซ่งหมิงเจียงดังลั่นขึ้นมาทำให้ผู้คนที่ได้ยินต้องขนลุกตั้ง
…………………………