“บ้าน่า! นี่มันยังไม่ถึงสามวันดีเลยแล้วมันจะออกมาจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาได้อย่างไร?”
อี้เฉียมองดูเย่หยวนที่ลอยตัวขึ้นฟ้ามาอย่างมึนงง
ไม่มีใครเข้าใจพลังของมหาค่ายกลโลหิตเมฆาไปได้มากกว่าตัวเขาคนนี้
ต่อให้จะเป็นยอดเจ้าโลกเองก็คงไม่มีทางทะลวงออกมาได้ในเวลาแค่สามวันแน่!
แต่เย่หยวนกลับออกมาได้!
เขานั้นเตรียมไม้ตายอันยิ่งใหญ่ไว้เพื่อสังหารเย่หยวน อนาคตตัวปัญหานี้
แต่มันกลับผิดพลาด!
ตอนนี้มิใช่แค่อี้เฉียเท่านั้นแค่คนเผ่าเลือดทั้งหลายต่างก็ต้องอ้าปากค้างออกมาตามๆ กัน
เพราะว่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งกลับทะลวงออกมาจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาได้!
นอกจากนั้นเขายังใช้เวลาแค่สามวันเท่านั้น!
“เจ้าเด็กนี่มันเป็นตัวบ้าอะไรกันแน่? แม้แต่มหาค่ายกลโลหิตเมฆายังไม่อาจจะขังมันไว้ได้!”
“ไม่สิ เดี๋ยวนะ! ท่านอี้เฉียสั่งให้พวกฉือชางสามคนไปสังหารเย่หยวนในมหาค่ายกลโลหิตเมฆามิใช่หรือ? ตอนนี้เย่หยวนออกมาได้มันย่อมจะหมายความว่า…”
“มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์สังหารเจ้าโลกหรือ? มัน…มันจะ…”
…
การปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนนั้นย่อมจะทำให้เกิดเสียงร้องแตกตื่นขึ้นรอบด้าน
คนมากมายนั้นคิดไปเสียด้วยซ้ำว่าพวกฉือชางทั้งสามอาจจะไม่รอดชีวิตออกมาแล้ว
แต่มันก็เพราะเช่นนี้ที่ทำให้เผ่าเลือดทั้งหลายแตกตื่นกันไปใหญ่
มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งกลับสังหารเจ้าโลกลงได้?
นี่มันเรื่องตลกอะไรกันแน่?
แต่หมี่เทียนนั้นกลับยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างโล่งอกโล่งใจ
เพราะสามวันที่ผ่านมานี้มันไร้ความเคลื่อนไหวใดๆ จากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาทำให้เขานั้นแทบไม่กล้าตั้งความหวังแล้ว
เผชิญหน้าสามเจ้าโลกนั้นแม้จะเป็นเย่หยวนเองก็คงรอดได้ยาก
แต่เย่หยวนกลับทำให้เขาต้องตกตะลึง!
เพราะเจ้าบ้านี่กลับสังหารเปิดทางออกมา!
“ฮ่าๆ เจ้าเด็กนี่มันทำให้เฒ่าคนนี้เสียเวลากังวลเปล่าจริงๆ!” หยุนซานนั้นยิ้มขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามตัว
การต่อสู้จนถึงตอนนี้นั้นมันมีแต่บรรยากาศความสูญเสีย
ยอดฝีมือมากมายนั้นต่างตายตกกันลงไปถูกเผ่าเลือดกลืนกิน
ตอนนี้แม้แต่เฟิงเสี่ยวเถียนคนนั้นก็ยังสิ้นใจลงแล้ว!
สิ่งเดียวที่รอพวกเขาอยู่นั้นคือความสิ้นหวัง
แต่เย่หยวนสังหารเปิดทางกลับออกมาจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆานั้นมันทำให้พวกเขาได้มีหวังอีกครั้ง!
แต่เย่หยวนที่ได้เห็นภาพรอบกายนั้นต้องขมวดคิ้วแน่นก่อนจะสั่นสะท้านไปทั้งกายเมื่อได้เห็นเงาร่างหนึ่ง!
เขานั้นมองเห็นเฟิงเสี่ยวเถียนที่กำลังปล่อยจิตต่อสู้รุนแรงสะท้านฟ้าโดยไร้ลมหายใจ!
สองตาของเย่หยวนนั้นมันเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดทันที!
ภาพเก่าก่อนในอดีตนั้นค่อยๆ ปรากฏขึ้นในหัวของเย่หยวน
ภาพตอนที่ยังอยู่ในมหานครฉีใต้ ภาพของเงาร่างสูงใหญ่คอยต้านทานกองทัพเผ่าเลือดอย่างไม่หวาดกลัว
เขานั้นคือเทพแห่งมหานครฉีใต้!
เทพสงคราม!
ตอนที่เย่หยวนกลับมาจากสวรรค์อื่นเขานั้นก็เป็นแม่ทัพที่รับมือเจ้าโลกเผ่าเลือดมากมายไว้ด้วยตัวคนเดียว
ความดุดัน ความเข้มแข็งมันน่ายกย่องอย่างมาก
แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีลมหายใจแล้ว!
เวลาที่เย่หยวนได้รู้จักและนับถือเฟิงเสี่ยวเถียนเป็นสหายนั้นมันย่อมจะไม่นับว่ายาวนานใดๆ สำหรับนักยุทธ ชั้นบรรยากาศสวรรค์ แต่เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นเป็นหนึ่งในคนที่เขานั้นนับถืออย่างสุดหัวใจ!
แต่ตอนนี้ชายผู้ที่เขานับถือสุดหัวใจนั้นกลับไร้ลมหายใจไปแล้ว!
เมื่อได้เห็นเงาร่างที่ยังปล่อยจิตต่อสู้ออกมาไม่หยุดยั้งและร่างที่กำลังจะแตกสลายลงนั้นเย่หยวนก็เข้าใจเรื่องราวได้ทันที
ต่อให้จะเป็นความตายก็ไม่อาจจะหยุดเฟิงเสี่ยวเถียนจากการปกป้องสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดได้!
แม้ชีวิตของเขาจะหาไม่แต่จิตวิญญาณของเขานั้นยังอยู่!
เย่หยวนนั้นรู้สึกจุกขึ้นมาที่กลางอกทันที
จากนั้นมันก็มีอีกสองเงาร่างพุ่งออกมาจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆามันย่อมจะเป็นฉือชางและเยียวเลอแล้ว
ฉือชางนั้นบาดเจ็บหนักมากรากฐานการบ่มเพาะพังทลาย
เยียวเลอเองก็มีคลื่นพลังที่ดูไม่สมดุลดูท่าแล้วเขาเองก็คงบาดเจ็บและเหนื่อยอ่อนอย่างมากเช่นกัน
เมื่ออี้เฉียได้เห็นสภาพของคนทั้งสองเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาทันที
เหมิงจินหายไปไหน?
เขานั้นรู้สึกได้ถึงลางไม่ดี
เมื่อฉือชางเห็นอี้เฉียเขาก็ทำหน้าเหมือนได้เห็นพระมาโปรด
“ท่านอี้เฉีย เย่หยวนนั้นบรรลุภายในมหาค่ายกลโลหิตเมฆาและสังหารเหมิงจินลงไปแล้ว!” ฉือชางร้องลั่นขึ้นมา
“ไอ้โง่!” อี้เฉียนั้นร้องด่าขึ้นมา
ไม่ต้องถามก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าโง่สามคนนี้คงประมาทศัตรูจนเปิดโอกาสให้เย่หยวนได้พลิกสถานการณ์
แม้ว่าเขาจะรู้ แต่เขาก็ไม่อาจจะโทษคนทั้งสามได้มากมายนัก
ใครมันจะไปคิดว่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งกลับจะสังหารเจ้าโลกลงได้กันเล่า?
เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายใจ!
เดาไปนั้นมันก็เรื่องหนึ่งแต่เมื่อออกมาจากปากของฉือชางแล้วนั้นมันก็เป็นอีกเรื่องทันที
เย่หยวนสังหารเจ้าโลกลงได้จริงๆ!
นอกจากนั้นฉือชางและเยียวเลอยังมีสภาพที่น่าสมเพชอย่างมาก แต่เย่หยวนนั้นกลับเปี่ยมพลังจนทำให้คนทั้งหลายต้องสงสัยว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นในมหาค่ายกลโลหิตเมฆากันแน่?
ทำไมสภาพมันถึงแตกต่างจากที่คาดเดาไปสิ้นเชิงเช่นนี้?
แต่ว่าขณะที่คนทั้งหลายยังคงยืนนิ่งเพราะความตกตะลึงนั้นเย่หยวนก็ขยับตัว!
พวกเขานั้นไม่ทันได้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่วินาทีต่อมาเย่หยวนก็บีบคอของฉือชางและเยียวเลอไว้แล้ว
ฉือชางและเยียวเลอนั้นดูสภาพเหมือนเด็กน้อยไร้พลังเมื่ออยู่ในมือของเย่หยวนนี้ ไม่อาจจะต่อต้านขัดขืนใดๆ ได้แม้แต่น้อย
ปุ!
เย่หยวนปล่อยคลื่นพลังออกมาจากฝ่ามือและทำลายร่างของฉือชางและเยียวเลอหายไปสิ้นเชิง!
คนที่ได้เห็นนั้นต้องอ้าปากค้างกันสิ้น!
“นี่…มันจะไม่เก่งเกินไปหรือ? นี่…นี่มันยังเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์จริง?”
“แม้ว่าพวกฉือชางนั้นจะบาดเจ็บอ่อนแอกันไปมากแต่มันก็ยังเป็นเจ้าโลกกัน! แต่พวกเขานั้นกลับไม่อาจจะต้านแรงเย่หยวนได้แม้แต่น้อย?”
“หากมันบรรลุเจ้าโลกได้จริงๆ แล้วมันจะทรงพลังแค่ไหนกัน?”
…
เผ่าเลือดทั้งหลายนั้นรู้สึกขนลุกขึ้นมาทั้งกาย
เย่หยวนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่เหนือล้ำกว่าจินตนาการของใคร
มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งกลับสังหารเจ้าโลกสองคนพร้อมกันได้ด้วยมือเปล่า
พวกเขานั้นไม่กล้าจะคิดเลยว่าหากเย่หยวนบรรลุเจ้าโลกได้จริงๆ แล้วพลังของเย่หยวนมันจะไปถึงระดับไหน
บางทีเขาอาจจะมีพลังพอต่อต้านบรรพบุรุษศิลาโลหิต?
แค่คิดเช่นนี้เผ่าเลือดทั้งหลายก็ต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายแล้ว
หลังจากสังหารเจ้าโลกสองคนลงไปแล้วเย่หยวนก็เดินออกมาหาเฟิงเสี่ยวเถียน
เผ่าเลือดมากมายนั้นล้อมตัวเฟิงเสี่ยวเถียนไว้แต่ไม่มีใครคิดหยุดเย่หยวนลง
เพราะพลังของเขาเมื่อสักครู่นั้นมันทำให้คนทั้งหลายกลัวขึ้นมาในใจ
เย่หยวนนั้นเดินเข้าไปแต่การเดินของเขานั้นมันรวดเร็วจนหลายๆ คนมองตามไม่ทันผ่านหน้าเฉียนั้วไปในพริบตา
ที่แห่งนี้มันคือวงล้อมของเจ้าโลก!
ตอนนี้รอบๆ ตัวเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นมันมีเจ้าโลกเผ่าเลือดอยู่มากถึงห้าสิบคน!
ในหมู่คนมากมายนั้นมันยังมีเจ้าโลกระดับสูงอยู่ถึงห้าคนด้วย!
เฉียนั้วย่อมจะไม่คิดหยุดเย่หยวนและหัวเราะเย้ยขึ้นมาแทน
เจ้าเด็กนี่มันรนหาที่ตายจริงๆ!
“หึ เจ้าคิดจะเลียนแบบเฟิงเสี่ยวเถียนมันหรือ? คิดตามหลังมันลงนรกไป? ไอ้หนู ข้าจะช่วยส่งเจ้าไปให้เอง!” เฉียนั้วกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
เมื่อไม่มีหมี่เทียนช่วยแล้วลำพังตัวเย่หยวนคนเดียวย่อมจะไม่อาจใช้เคลื่อนย้ายข้ามเขตแดนไพศาลได้
ต่อให้เขานั้นจะมีกฎแห่งห้วงมิติที่ทรงพลังถึงระดับคลื่นกำเนิดแต่มันก็ไม่มีทางที่เขานั้นจะหนีไปจากสายตาของเจ้าโลกห้าสิบคนได้!
เย่หยวนนั้นกำลังเดินเข้าสู่ใจกลางวงล้อม!
“ดูท่าเจ้าเด็กนี่มันจะสนิทกับเฟิงเสี่ยวเถียนไม่น้อย เฟิงเสี่ยวเถียนตายลงมันจึงคิดจะติดตามไปด้วย”
“สังหารออกมาจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาได้แล้วทำไม? หรือว่ามันจะยังรับมือเจ้าโลกเป็นสิบๆ ได้ด้วยตัวคนเดียว?”
“ข้าว่ามันคงไม่คิดอะไรแล้วและคิดจะทำเหมือนเฟิงเสี่ยวเถียน ทำตัวเป็นตั๊กแตนขวางรถ!”
…
เจ้าโลกเผ่าเลือดทั้งหลายที่ล้อมเฟิงเสี่ยวเถียนไว้นั้นต่างเย้ยหยันออกมา
พวกเขาย่อมรู้ดีว่าเย่หยวนคับแค้นสุดหัวใจแต่หากแค่ความแค้นมันมีประโยชน์คนเราก็ไม่ต้องบ่มเพาะกันแล้ว!
เพราะสุดท้ายแล้วกำลังนั้นอยู่เหนือทุกอย่าง!
หากไม่มีกำลังแล้วมันก็ได้แต่ต้องรอความตาย!
คำเย้ยหยันใดๆ ของอีกฝ่ายนั้นเย่หยวนย่อมจะไม่คิดรับฟังมันไว้และเดินเข้าไปหาเฟิงเสี่ยวเถียน
สายตาของเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นยังมองไปด้านหน้าอย่างดุดันไม่ขยับเคลื่อน
หากมิใช่เพราะว่าเขาไม่มีพลังชีวิตเหลือในร่างแล้วเย่หยวนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาคนนี้กำลังต่อสู้อยู่
เย่หยวนรู้สึกปวดร้าวขึ้นมาสุดใจก่อนจะกล่าวขึ้น “พี่เฟิง ก่อนนั้นที่มหานครฉีใต้นั้นเราร่วมมือกันจัดการขับไล่เผ่าเลือดไป! วันนี้เราพี่น้องจะได้สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ให้พวกสุนัขเลือดนี้มันได้รู้ถึงความเจ็บปวดเสียบ้าง!”
พูดจบเย่หยวนก็เดินเข้าไปอุ้มร่างของเฟิงเสี่ยวเถียนไว้
พร้อมด้วยจิตต่อสู้ที่พุ่งทะยานฟ้า!