บุปผาลวงฝังเทพมากมายนับไม่ถ้วนนั้นมันตกลงมาราวหยาดฝน
คนทั้งหลายนั้นเห็นชัดเจนแก่สายตาว่าฝนบุปผานี้มันตัดผ่านได้แม้แต่ห้วงมิติที่ถูกปิดกั้นไว้ มันคมกริบอย่างไม่อาจเอาอะไรไปเทียบได้
พวกเขาทั้งหลายนั้นรู้ได้ทันทีว่าเย่หยวนคงมีโอกาสรอดไปได้แค่ริบหรี่แล้ว!
“นี่มัน…จะทำอย่างไรกันดี?”
“นักบุญสวรรค์เย่นั้นจะตายลงเช่นนี้หรือ?”
“สัตว์นรก! สังหารเฉียนั้วมันแก้แค้นให้นักบุญสวรรค์เย่!”
…
คนทั้งสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นคลั่งกันจนแทบจะสิ้นสติ
ทีแรกก็เป็นตัวเฟิงเสี่ยวเถียนที่ตายลงจากนั้นเย่หยวนยังถูกสังหารไปต่อหน้า พวกเขาย่อมจะคับแค้นอย่างไม่อาจระบายออกได้
ยอดฝีมือทั้งหลายนั้นร้องลั่นพุ่งตัวเข้ามาใส่เฉียนั้วพร้อมๆ กัน
อีกด้านบนท้องฟ้าสูงนั้นอี้เฉียก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมาก่อนจะหัวเราะใส่หมี่เทียน “หมี่เทียน เจ้าคำนวณทุกสิ่งอย่างไว้ดีแต่คงไม่ได้รู้เลยสิว่าเฉียนั้วมันจะทรงพลังได้ขนาดนี้? มันนั้นพ่ายแพ้ให้แก่คนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ทำไมเจ้าคิดว่าเราถึงยังให้ตำแหน่งแม่ทัพกับมันหรือ? แต่ข้าเองก็ไม่คิดฝันเช่นกันว่าเจ้าเด็กโง่เย่หยวนมันจะรนหาที่ตายด้วยตัวเองเช่นนี้!”
หมี่เทียนได้แต่ต้องกัดฟัน
เขานั้นไม่อาจจะสัมผัสถึงคลื่นพลังจากตัวเย่หยวนได้แล้ว แม้ว่าเขานั้นจะยังหวังลึกๆ ในใจแต่เขาก็รู้ดีว่าเย่หยวนในตอนนี้คงมีโอกาสรอดต่ำเรี่ยดินแล้ว
เหมือนอย่างที่อี้เฉียว่า เขาประมาทเฉียนั้วคนนั้นมากเกินไป!
“จ้าวเยว่ สังหารมันกัน!”
หมี่เทียนร้องขึ้นมาก่อนจะร่วมมือกับจ้าวเยว่เข้าโจมตีอี้เฉียอย่างสุดตัว
“ฮ่าๆๆ”
ได้เห็นบุปผาลวงฝังเทพที่ร่วงตกลงมาไม่มีหยุดนั้นเฉียนั้วก็เกิดหัวเราะขึ้น
“เจ้าโง่ที่ไม่รู้จักประเมินตัวเอง! บรรลุสายเลือดระดับโกลาหลได้แล้วมันทำไม? ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วทำไม? ต่อสู้ข้ามอาณาจักรได้แล้วจะทำไม? สุดท้ายแล้วมันก็ยังตายด้วยบุปผาลวงฝังเทพของข้าผู้นี้มิใช่หรือ? เย่หยวน ข้านั้นยอมรับนะว่าเจ้านั้นเก่งกาจราวสัตว์ประหลาด! แต่เพราะเช่นนี้การแลกชีวิตครั้งนี้ของข้ามันถึงคุ้มค่านัก!”
เขานั้นรู้ดีว่าตัวเองคงไม่อาจจะรอดจากกลุ่มคนมากมายที่ล้อมหน้าล้อมหลังไปได้ แต่ตอนนี้เขาได้ใช้ชีวิตของ ตัวเองแลกกับชีวิตของเย่หยวนแล้ว เขาย่อมจะรู้สึกว่ามันคุ้มค่า!
เย่หยวนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่อาจหาคำมาอธิบายได้
หากเย่หยวนตายลงแล้วทั่วสวรรค์นี้มันก็คงไม่มีใครจะต้านทานบรรพบุรุษท่านได้อีก!
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าโลกหลุนฮวยหรือบรรพบุรุษหวูเทียนนั้นก็ไม่อาจทำได้!
ตราบเท่าที่พวกเขาเก็บประคำขจัดเลือดกลับไปได้มากพอแล้วบรรพบุรุษท่านก็จะจุติขึ้นมาพร้อมด้วยพลังที่เหนือล้ำกว่าแต่ก่อน อาจจะก้าวผ่านล้ำสวรรค์ไปได้จริงๆ!
เพราะฉะนั้นเขาจึงดีใจอย่างเปี่ยมล้น!
“ท่านเฉียนั้วจงเจริญ!”
“ท่านเฉียนั้วนั้นเป็นผู้สร้างประโยชน์ยิ่งใหญ่ที่สุดให้แก่เผ่าพันธุ์เรา!”
…
ไกลออกไปนั้นยอดฝีมือเผ่าเลือดมากมายต่างกำลังร้องลั่นขึ้นมาด้วยความยินดี
สังหารเย่หยวนลงได้นั้นมันเหนือล้ำกว่าการเอาชนะศึกนี้เป็นเท่าตัว
ตึง!
แต่ระหว่างที่พวกเขานั้นกำลังตื่นเต้นดีใจมันก็เกิดเสียงดังลั่นขึ้นมาบนท้องฟ้า
บุปผาลวงฝังเทพที่ตกลงมามากมายนั้นมันแตกสลายหายไปพร้อมๆ กันสิ้นด้วยแรงกระแทกนี้
เดิมทีแล้วบุปผาทั้งหลายนั้นมันตกร่วงลงมาอย่างไม่มีอะไรขวางกั้น
แต่ตอนนี้บุปผาทั้งหลายนั้นถูกแยกออกเป็นทางจนเปิดให้เห็นดวงตะวันได้!
เสียงนี้มันดังขึ้นมาอย่างไร้สัญญาณใดๆ ทำให้คนทั้งหลายไม่ทันจะตั้งตัว
แต่เมื่อมันส่งบุปผาทั้งหลายที่ตกลงมาดั่งฝนนั้นปลิวออกไปสิ้นมันย่อมจะเป็นภาพที่เหลือเชื่อ
แต่นี่มันคือจุดเริ่มตันเท่านั้น!
เพราะจากนั้นมันก็ค่อยๆ เกิดรอยแตกขึ้นมาในห้วงมิติรอบๆ
ห้วงมิติในบริเวณนี้มันแตกออกเหมือนกับแก้วที่แตกร้าว
จากนั้นห้วงมิติก็สั่นไหวทำให้แม้แต่เจ้าโลกทั้งหลายยังไม่อาจลอยตัวกลางอากาศได้และร่วงลงพื้นไปตามๆ กัน!
เฉียนั้วเองก็ต้องอ้าปากค้างด้วยหน้าซีดขาวไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่วินาทีต่อมามันก็มีกระแสพลังรุนแรงหนึ่งกระแทกผ่านห้วงมิติเข้าสู่ร่างของเขา
“อ่อก!”
เฉียนั้วนั้นต้องกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ก่อนจะปลิวลิ่วไปไกล
เขานั้นตกตะลึงอย่างสุดหัวใจเพราะจนถึงเวลานี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองโดนอะไรเข้า!
เขารู้เพียงแค่ว่ามันย่อมจะเป็นฝีมือเย่หยวนแล้ว!
เพราะเสียงนั้นนอกจากว่ามันจะขัดขวางการใช้งานบุปผาลวงฝังเทพของเขาลงแล้วมันยังโจมตีสวนกลับเข้ามาหาเขาอย่างรุนแรงด้วย!
แต่เย่หยวนมันทำอะไรลงไปกันแน่?
ถึงเวลานี้แล้วเขายังจะมีไม้ตายใดๆ ซ่อนไว้อีก?
ดอกไม้นั้นค่อยๆ ร่วงโรยเผยให้เห็นเงาร่างหนึ่ง
เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นเขาคนนี้พวกเขาก็ต้องเบิกตาค้าง!
เพราะใต้เท้าของเย่หยวนในเวลานี้มันมีรอยแตกที่เป็นจุดศูนย์กลางของรอยแตกในห้วงมิติทั้งหมด
ร่างกายของเขานั้นมันอาบไปด้วยเลือดมีแผลเหวอะหวะ
แต่เย่หยวนนั้นกลับยังยืนได้อย่างทรงพลัง
แรงกระแทกที่เขาปล่อยออกมานี้มันอาจจะเหมือนกับดอกหรือดาบแต่มันอยู่ในคนละระดับกันสิ้นเชิง
แรงกระแทกของเย่หยวนนั้นมันรุนแรงจนทำให้ท้องฟ้าพังทลายลง!
ทั้งๆ ที่เขานั้นเป็นแค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์
แต่ว่าคลื่นพลังที่ไหลออกมาจากร่างของเขาในตอนนี้มันกลับรุนแรงเสียงยิ่งกว่าหมี่เทียน อี้เฉียและเจ้าโลกล้ำสวรรค์ทั้งหลายไปด้วยซ้ำ
ราวกับว่าเขานั้นคือราชาผู้ปกครองฟ้าดินนี้อย่างแท้จริง!
“ช่างเป็นคลื่นกระแทกที่รุนแรงนัก! ข้าไม่เคยคิดเลยว่าแรงกระแทกมันจะรุนแรงได้ขนาดนี้! หรือว่านี่จะเป็นไม้ตายของมันจริงๆ?” อี้เฉียนั้นต้องเบิกตากว้างร้องขึ้นมา
เพราะว่าวิชานี้ของเย่หยวนมันเหนือล้ำกว่าที่เขาจินตนาการไปสิ้นเชิง
นี่มันคือกระบวนท่าที่เทียบเคียงกับเขาได้!
แม้ว่าเขานั้นจะมีพลังบ่มเพาะสูงล้ำกว่าเย่หยวนอย่างไม่อาจเทียบกันแต่แม้จะเป็นตัวเขานี้ก็ยังไม่อาจจะส่งแรงกระแทกที่รุนแรงออกมาได้อย่างเย่หยวน!
ตอนนี้ร่างของเฉียนั้วนั้นมันมีเลือดไหลออกมาจากทุกทวารก่อนที่จะได้ยินเสียงร้องลั่นของเขาขึ้น “น…นี่มันวิชาอะไรกัน!”
เย่หยวนหันกลับไปมองตอบ “ตั้งแต่ที่ได้ศึกษาคัมภีร์สวรรค์นั้นข้าก็ได้ความเข้าใจใหม่ต่อเต๋าสวรรค์! จนในที่สุดก็สามารถสร้างความเข้าใจจากประสบการณ์ทั้งชีวิตนี้สร้างวิชานี้ขึ้นมามันคือห้าก้าวย่ำสวรรค์! เมื่อสักครู่นี้ข้าเพิ่งใช้กระบวนท่าแรกย่ำขุนเขาสายน้ำด้วยก้าวแรก กลืนกินทุกสิ่งอย่างคล้ายราตรีออกไป! ตอนนี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็นกระบวนท่าที่สองย่ำแปดรกร้างด้วยก้าวสอง พลิกหมื่นจักรวาลสูญ!”
เย่หยวนไม่คิดพูดให้มากความและยกเท้าขึ้นย่ำลงไปส่งคลื่นกระแทกทลายสามัญสำนึกออกมาอีกครั้ง
ดวงดาวนั้นสั่นไหว!
แกรก!
แกรก!
แกรก!
บนท้องฟ้านั้นมันค่อยๆ ปรากฏเมฆเต๋าทุกข์สีดำสนิทขึ้น
เหมือนว่ามันมาเพื่อเตือนการใช้พลังกระแทกของเย่หยวน
เฉียนั้วได้แต่ต้องมองดูด้วยใบหน้าซีดขาว ภายใต้แรงกระแทกรุนแรงเช่นนี้เขาย่อมจะไม่อาจต้านทานอะไรได้เลย
หากเย่หยวนเมื่อสักครู่นั้นคือเจ้าผู้มองดูโลกหล้าจากเบื้องบนแล้ว
เย่หยวนในตอนนี้ก็คงเป็นผู้ควบคุมชีวิตทุกสรรพสิ่ง!
ทุกอย่างนั้นต้องยอมสยบอยู่ใต้เท้าของเขา!
แต่ได้เห็นเมฆเต๋าทุกข์นั้นเฉียนั้วก็ต้องยิ้มขึ้นมาเหมือนได้เห็นฟางเส้นสุดท้าย!
“ฮ่าๆๆ ย่ำสวรรค์! ย่ำสวรรค์! เจ้าคิดจะต่อต้านสวรรค์แล้วเจ้าคิดหรือว่าเต๋าสวรรค์นั้นจะยอม? ไม่ว่าวิชานี้ของเจ้ามันจะทรงพลังแค่ไหนแต่แล้วมันทำไม? เต๋าสวรรค์นั้น…จะไม่ยอมรับเจ้าอย่างแน่นอน!” เฉียนั้วนั้นร้องขึ้นมาก่อนจะชี้หน้าว่าเย่หยวน
เย่หยวนนั้นยิ้มขึ้นราวกับเพิ่งได้ยินเรื่องตลก “ข้านั้นคือผู้บ่มเพาะนอกรีตเป็นทุนเดิม ทำไมข้ายังต้องกลัวสวรรค์ด้วย? หากเต๋าสวรรค์จะไม่ยอมรับข้า เช่นนั้นข้าก็จะย่ำเต๋าสวรรค์ลงใต้เท้านี้!”
พริบตาต่อมาเย่หยวนก็ใช้พลังที่มีพลังหมดในร่างกระทืบเท้าออกมา!
ในตอนนี้ตัวเย่หยวนมันกลายเป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของพลังบนฟ้าดินนี้ มันกลายเป็นดั่งเทพเจ้าไป!
ตูม!
ท้องฟ้าและสวรรค์สั่นไหวรุนแรง!
ห้วงมิติรอบๆ นั้นมันพังทลายลงทันที!
คลื่นห้วงมิติรุนแรงนั้นหลั่งไหลออกมาทันที
ทางขึ้นเขานิกายยาสุดล้ำนั้นพังทลายลงทันทีด้วยการกระทืบเท้านี้!
ยอดเขาของนิกายยาสุดล้ำมากมายนั้นมันถูกกดทับจบแบนราบไป!
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดนั้นมันคือเมฆเต๋าทุกข์นั้นมันกลับถูกพลังของเท้านี้เป่าจนหายลับฟ้าไป!
เฉียนั้วได้แต่ต้องอ้าปากค้างลืมทุกสิ่งอย่างไปสิ้น
เขานั้นกำลังมองดูอะไร?
เมฆเต๋าทุกข์นั้นมันรุนแรงพอจะทำลายเจ้าโลกระดับสูงได้!
แต่ภายใต้เท้านี้ของเย่หยวนมันกลับไม่มีพลังจะต่อต้านใดๆ แม้แต่น้อย
หรือว่าเย่หยวนนั้นอยู่ในจุดที่สูงกว่าเต๋าสวรรค์ไปแล้ว?
แต่ไม่นานเขาก็ไม่อาจจะรู้สึกอะไรได้อีก
เพราะคลื่นกระแทกรุนแรงนั้นมันส่งเข้ามาหาตัวเขาจากรอบด้าน
ร่างกายของเขานั้นถูกทำลายลงจนไม่เหลือแม้แต่เส้นผมด้วยพลังรุนแรงนี้!
เย่หยวนนั้นวางตัวเฟิงเสี่ยวเถียนลงก่อนจะกล่าวขึ้น “พี่เฟิง ข้าแก้แค้นเฉียนั้วมันให้แล้ว!”