รอบข้างนั้นมันมีแต่ความเงียบงัน!
ใบหน้าของคนทั้งหลายนั้นมันเกินกว่าที่จะใช้คำใดมาอธิบาย
เพราะว่าเฉียนั้วผู้ทรงพลังนั้นกลับถูกเย่หยวนย่ำจนตายคาเท้า!
ได้เห็นเย่หยวนที่ลอยตัวอยู่บนฟ้านั้นเผ่าเลือดทั้งหลายก็ต้องสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม แม้แต่ตัวอี้เฉียเองก็ตาม
เพราะในวินาทีที่ผ่านมานี้เขาสัมผัสได้ว่าเย่หยวนนั้นเหมือนตัวตนที่ไร้เทียมทาน ไม่อาจจะเอาชนะได้!
พลังของเมฆเต๋าทุกข์นั้นมันกลับต้องถอยร่นไป ชัดเจนเลยว่าพลังของเขาในตอนนี้มันน่ากลัวแค่ไหน!
“นี่…มันคือวิชาอะไรกันแน่? ทำไมข้าถึงรู้สึกราวกับว่าเต๋าสวรรค์นั้นลงมาจุติ?”
“ท่านเฉียนั้วนั้นกลับตายลงทันที ไม่มีโอกาสจะได้คืนชีพใดๆ เลย!”
“ช่างเป็นกระบวนท่าที่น่ากลัวนัก! นี่มันเหนือล้ำกว่าทักษะเทวะไปมากมายนัก! ดูท่าแล้วแม้แต่เจ้าโลกล้ำสวรรค์ทั้งหลายนั้นเองก็คงไม่อาจจะทำอะไรได้เช่นนี้ได้เช่นกัน!”
…
เย่หยวนนั้นใช้วิชาที่รุนแรงและทรงพลังที่สุดเท่าที่เขาเคยสร้างออกมาจนทำให้คนทั้งหลายต้องผงะ
แต่ว่าพลังของวิชานี้มันก็เหนือล้ำความเข้าใจไปมากจริงๆ
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงทั้งตกตะลึงและหวาดกลัว!
ห้าก้าวย่ำสวรรค์นั้นมันเรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของเย่หยวน
เขานั้นได้ศึกษาคัมภีร์สวรรค์มันย่อมจะพัฒนาพลังฝีมือของคนผู้นั้นไปได้มากมาย แน่นอนว่าเย่หยวนเองก็ไม่ได้ย่ำอยู่กับที่เช่นกัน
ด้วยความที่มันเป็นคัมภีร์ที่สำคัญที่สุดในหมู่สิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ ดังนั้นคัมภีร์สวรรค์มันย่อมจะวาดถึงยอดเต๋า
หลังจากเย่หยวนได้มองดูและศึกษามันไปสักพัก เขาก็เริ่มเข้าใจถึงสิ่งต่างๆ มากขึ้น
เต๋าโอสถ เต๋าค่ายกล เต๋าดาบและยอดเต๋าของตัวเขานั้นทุกสิ่งอย่างมันต่างรวมเป็นหนึ่งได้ภายใต้คัมภีร์สวรรค์นี้
ห้าก้าวย่ำสวรรค์นี้มันเกิดขึ้นมาในตอนนั้นเอง!
เมื่อก้าวมาถึงระดับของเย่หยวนแล้วเขาย่อมจะสามารถสัมผัสได้ถึงจุดชี้เป็นชี้ตายอย่างการบรรลุเจ้าโลกได้ชัดเจน
นี่มันจะเป็นศึกที่ตัดสินโชคชะตาของเขา!
การต่อสู้กับเต๋าสวรรค์นี้มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดในชีวิตของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
เทียบกันแล้วบรรพบุรุษศิลาโลหิต บรรพบุรุษหวูเทียนหรือใครๆ มันก็ช่างไร้ค่า
เพราะว่าห้าก้าวย่ำสวรรค์นี้มันคือเจตจำนงของเขาที่จะก้าวขึ้นไปย่ำเต๋าสวรรค์!
นี่มันคือวิชาที่สร้างแรงกระแทกอย่างไร้เหตุผล มันคือสิ่งที่แตกต่างจากวรยุทธใดๆ
แต่พลังของมันนั้นไม่มีใครกล้าตั้งคำถาม
แต่แม้ว่ามันจะเป็นวิชาที่ทรงพลังมันก็มีแรงสะท้อนกลับที่รุนแรงเช่นกัน!
เพราะหลังจากใช้วิชานี้ออกมามันจะเหมือนไม้ตายของพวกฉือชางทั้งหลายนั้นที่ทำให้เย่หยวนอ่อนแอลงหรือถึงชีวิตได้
แน่นอนว่านั่นมันมิใช่เรื่องที่ยุ่งยากที่สุด
เพราะสิ่งที่ลำบากที่สุดมันคือหลังจากใช้วิชานี้ออกมาแล้วเขาจะสัมผัสได้ถึงแรงสะท้อนจากเต๋าสวรรค์!
นี่มันคือพลังที่เทียบเคียงตัวเองกับเต๋าสวรรค์ แน่นอนว่าเต๋าสวรรค์ย่อมจะไม่ยืนมองดูมันเฉยๆ!
ที่มาเตือนเย่หยวนเมื่อสักครู่นั้นมันคือเมฆเต๋าทุกข์ธรรมดาๆ แต่ในตอนที่เขาบรรลุเจ้าโลกนั้นมันคงไม่ใช่อะไรที่จะขับไล่ไปได้ง่ายๆ เช่นนี้
เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ถึงลมของเต๋าทุกข์ครั้งสุดท้ายที่กำลังค่อยๆ พัดเข้ามา
ตอนนี้ตัวเย่หยวนนั้นรู้สึกได้ชัดเจนแก่หัวใจว่าเต๋าทุกข์ที่จะตัดสินชะตาชีวิตของเขานั้นมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว
และการใช้ไม้ตายนี้ออกมามันเหมือนจะเป็นการเร่งให้เต๋าทุกข์นั้นมาถึง
หากเต๋าทุกข์นั้นปรากฏขึ้นมาแล้วด้วยกำลังของเขาในตอนนี้มันคงไม่มีทางจะขัดขวางได้แม้แต่น้อย
เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่อาจจะใช้วิชานี้ได้มากนัก
เพราะมันคือการเรียกเพชฌฆาตเข้ามาหาตัวเอง!
แต่เพื่อเฟิงเสี่ยวเถียนแล้วเย่หยวนกลับตัดใจใช้มันออกมา!
แน่นอนว่าด้วยกำลังของเย่หยวนในตอนนี้มันคงไม่อาจจะใช้ก้าวที่สามออกมาได้ ไม่ต้องไปพูดถึงก้าวที่ห้าเลย
หากฝืนตัวย่ำมันออกไปแล้วคงไม่ต้องรอให้เต๋าทุกข์มาถึง ตัวเขานั้นคงถูกแรงสะท้อนของมันทำลายร่างจนชีวิตดับสูญไปเอง
มันเป็นวิชาที่ทรงพลังขนาดนั้น!
“ฆ่ามัน! อย่าปล่อยมันไว้แม้สักคน!”
เย่หยวนร้องสั่งขึ้นมาทำให้ยอดฝีมือทั้งหลายต่างพุ่งตัวเข้าใส่เผ่าเลือดตรงหน้าอีกครั้งอย่างไม่คิดชีวิต
ตอนนี้สถานการณ์มันพลิกกลับไปสิ้นเชิง!
เพราะหลังจากต่อสู้กันไปนานสุดท้ายอี้เฉียนั้นก็บาดเจ็บสาหัสไปเช่นกัน
เขานั้นร้อนรุ่มในหัวใจคิดอยากจะหนีไปให้พ้นๆ แต่หมี่เทียนและจ้าวเยว่นั้นก็ล้อมหน้าล้อมหลังเขาไว้จนไม่อาจจะไปไหนได้
เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เขาย่อมจะไม่คิดว่าตัวเองต้องมาตายลงเช่นนี้!
แต่ตอนนี้เขานั้นกลับรู้สึกได้ถึงความตายที่มันกำลังจะมาเยือน!
การปรากฏตัวของเย่หยวนนั้นนอกจากมันจะทำให้คนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดกลับมามีแรงสู้ได้แล้วมันยังทำให้คนทั้งหลายคิดจะทำลายกองทัพที่มาบุกจนสิ้น
หมี่เทียนที่ได้เห็นสีหน้านั้นต้องยิ้มกล่าวขึ้น “เจ้ากลัวแล้ว!”
ระหว่างการต่อสู้สามวันที่ผ่านมานี้หมี่เทียนถูกอี้เฉียพูดจี้ใจทำให้กังวลอยู่เสมอๆ
เมื่อมีความกังวลที่ไม่อาจวางลงได้ในใจพลังต่อสู้ของเขามันจึงแสดงออกมาได้ไม่เต็มที่
ดูแล้วมันคงเป็นแผนของอี้เฉียอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่การปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนนี้มันได้ทำให้ความกังวลที่กัดกินหัวใจเขามาตลอดสามวันนี้จางหายไปสิ้น
ก่อนหน้านี้อี้เฉียนั้นโอหังหลงตัวแค่ไหน?
แต่ตอนนี้เขากลับทำหน้าเหมือนสุนัขที่ลืมทางกลับบ้าน!
อี้เฉียนั้นถูกเย่หยวนปิดทางหนีปล่อยให้จ้าวเยว่เข้ามาทะลวงผ่านหน้าอกไป
ฟุ!
หน้าอกของอี้เฉียนั้นมันถูกทะลวงผ่านไปทันที
แต่ว่าแผลของเขานั้นมันก็ค่อยๆ สมานกันอย่างน่าเหลือเชื่อ
เพียงแค่ว่าความเร็วนั้นมันลดลงกว่าแต่ก่อนอย่างมาก
จ้าวเยว่นั้นเป็นสัตว์ร้ายที่ไม่รู้จักเหนืออ่อน ไม่ว่าอี้เฉียนั้นจะฟื้นตัวไปอีกกี่ครั้งจ้าวเยว่นั้นก็จะทำลายตัวเขาต่อไปอย่างไม่รู้จบ
“เจ้าคิดว่าเอาชนะได้แล้วหรือ?” อี้เฉียนั้นยิ้มกว้างขึ้นมาตอบ
“อย่างน้อยๆ ในศึกนี้เราก็ชนะแล้ว!” หมี่เทียนตอบกลับไป
“เจ้านั้นไม่รู้ถึงพลังของบรรพบุรุษท่านแม้แต่น้อย! ท่านนั้นอยู่ห่างจากล้ำสวรรค์ที่แท้จริงไปไม่มากแล้ว มาถึงระดับของเราๆ เจ้าเองก็น่าจะเข้าใจถึงความหมายของมัน เย่หยวนนั้นเก่งจริง แต่เมื่อกี้เจ้าเองก็สัมผัสได้มิใช่หรือ?” อี้เฉียยิ้มขึ้น
ห้าก้าวย่ำสวรรค์ของเย่หยวนนั้นมันทำให้เขารู้สึกสั่นสะท้านไปถึงจิตวิญญาณ
เขานั้นไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนในชีวิต
เพราะนี่มันคือความไม่พอใจของเต๋าสวรรค์!
ความพิโรธของเต๋าสวรรค์จากเหนือชั้นฟ้า!
มาถึงระดับของพวกเขาแล้วความรู้สึกของพวกเขาย่อมจะเฉียบคมจนไม่อาจเอาคนทั่วๆ ไปมาเทียบได้
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหมี่เทียนก็ต้องกัดฟันแน่นขึ้น
ดูท่าเขาก็สัมผัสได้เช่นกัน
“ฮ่าๆ ดูท่าเจ้าเองก็จะสัมผัสมันได้นี่! เจ้าลองบอกข้ามาสิว่าตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมันมีใครบ้างที่ผ่านโซ่ตรวนนี้ไปได้?” อี้เฉียนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงหัวเราะลั่น
“ใต้เต๋าสวรรค์นี้พวกเราต่างเป็นแค่มดปลวก! ข้าเองก็อยากจะเห็นนักว่าพลังที่แท้จริงของเต๋าสวรรค์นั้นมันจะเป็นเช่นไร!”
“ห้าก้าวย่ำสวรรค์นั้นมันจะช่วยให้เจ้าขึ้นไปย่ำสวรรค์หรือว่าจะเป็นสวรรค์ย่ำหัวเจ้า! ข้านั้นอยากจะเห็นมันนัก!”
“หมี่เทียน ต่อให้เจ้าจะสังหารข้าลงตรงนี้สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมันก็ไม่มีทางหนีจากชะตากรรมที่ต้องถูกทำลายลงได้! หลังจากบรรพบุรุษท่านจุติขึ้นมาแล้วสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้มันจะกลายเป็นแค่สวรรค์ร้างไร้ชีวิตใดๆ ไปแน่นอน!”
อี้เฉียในตอนนี้ยอมรับชะตากรรมของตัวเองแต่ก็ยังใช้แรงสุดท้ายพูดกว่าออกมาทำลายจิตใจของยอดฝีมือทั้งหลาย
ยอดฝีมือสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นต่างผงะไป พวกเขาไม่รู้เลยว่าหมี่เทียนและอี้เฉียนั้นสัมผัสได้ถึงอะไร
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่เย่หยวนจะต้องเผชิญนั้นมันต้องเป็นหายนะครั้งใหญ่แน่นอน!
หมี่เทียนขมวดคิ้วแน่นขึ้นกล่าว “เจ้าพูดมากปากเหม็น! ไปตายได้แล้ว! จ้าวเยว่ จัดการเถอะ!”
พูดจบเขานั้นก็ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ออกมาผสานกับจ้าวเยว่และโจมตีเข้าไปอย่างสุดกำลัง
แต่อี้เฉียนั้นกลับยังพูดกล่าวออกมาด้วยเสียงหัวเราะ “มาสิ! มา! กำลังของข้านั้นมันจะกลับไปสู่ตัวบรรพบุรุษท่าน ท่านนั้นจะเป็นคนพาข้ามาดูสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดของเจ้าพังทลายลงไป!”
ครืน!
สองคลื่นพลังนั้นถูกสะท้อนกลับออกไป
อี้เฉียนั้นยืนรับอย่างไม่คิดขัดขืนเพราะเขานั้นรู้ว่าชะตาของเขามันต้องจบลงตรงนี้แล้ว
แต่ในเวลานั้นเองที่มันกลับเกิดม่านเลือดขึ้นมาตรงหน้าของอี้เฉีย
ตูม!
ห้วงมิติสั่นสะท้านด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของคนทั้งสองแต่ว่าม่านเลือดนั้นมันกลับไม่แม้แต่จะขยับไหว!
“ไป!”
เสียงหนึ่งดังลอยออกมาจากม่านเลือดนั้น
อี้เฉียนั้นต้องเบิกตากว้างร้องขึ้น “ขอบพระคุณบรรพบุรุษท่านที่ช่วยเหลือ! ฮ่าๆๆ หมี่เทียน ข้าจะได้เห็นเจ้าตายกับตาคู่นี้เองแล้ว!”
พูดจบเขาก็หันไปทุ่มกำลังทะลวงห้วงมิติหนีผ่านกำแพงเขตแดนไป
………………………..