สายตาของผู้คนมากมายหันไปมองหน้าปู้ฉุนเป็นตาเดียว
ดูท่าแล้วพวกเขาคงอยากได้คำตอบว่าเย่หยวนทำมันได้อย่างไร
โฉปู้ฉุนนั้นไม่คิดอธิบายใดๆ และปล่อยปราณดาบทะยานขึ้นฟ้าแทน!
หมี่เทียนได้แต่ต้องหรี่ตาลงกล่าว “เจ้านี่มันคิดจะไปสู้กับเย่หยวนแล้ว! ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะมาถึงรวดเร็วเช่นนี้!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต่างต้องผงะไป เจ้าโลกปู้ฉุนนั้นกลับจะไปสู้กับนักบุญสวรรค์เย่?
โฉปู้ฉุนนั้นจะอย่างไรก็เป็นยอดเจ้าโลก!
“จะบ้าหรืออย่างไร! แม้ว่านักบุญสวรรค์เย่ท่านนั้นจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็ไม่มีทางเทียบกับเจ้าโลกปู้ฉุนท่านได้ในตอนนี้!”
“เจ้าโลกปู้ฉุนคิดจะทำอะไร? รังแกคนหรือ?”
“พวกเขาคิดจะตัดสินแพ้ชนะกันด้วยเต๋าดาบแต่จะอย่างไรเต๋าของเจ้าโลกปู้ฉุนนั้นก็เป็นเต๋าดาบของยอดเจ้าโลกที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งบนสามสิบสามสวรรค์! นี่มันรังแกกันชัดๆ!”
…
คนทั้งหลายนั้นต่างมองมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ ดูท่าแล้วพวกเขาคงไม่เข้าใจเลยว่าทำไมโฉปู้ฉุนถึงได้คิดจะท้าทายเย่หยวนเช่นนี้
เพราะหากเย่หยวนใช้ห้าก้าวย่ำสวรรค์ออกมามันย่อมจะยังพอต่อสู้กับโฉปู้ฉุนได้
แต่เย่หยวนย่อมจะไม่ใช้มันออกมาแน่
เพราะไม่ว่าเต๋าดาบของเย่หยวนมันจะทรงพลังแค่ไหนแต่สุดท้ายแล้วพลังบ่มเพาะของเขานั้นมันก็ยังต่ำไม่มีทางจะเทียบกับตัวโฉปู้ฉุนได้
คำถามนี้ตัวโฉปู้ฉุนเองก็ไม่คิดจะตอบกลับไป
แต่หมี่เทียนนั้นกลับเป็นคนกล่าวขึ้นแทน “เจ้ายังไม่ได้พูดเลยว่าเจ้าเข้าใจอะไร?”
โฉปู้ฉุนนั้นหรี่ตาลงตอบกลับไป “ดาบของเย่หยวนนั้นมันคือดาบแห่งการปกป้อง! เขานั้นไม่ทำร้ายใครก่อนเว้นเสียแต่ว่าจะถูกทำร้าย! หากคนอื่นมาคิดหาเรื่องแล้วมันย่อมจะสวนกลับไปด้วยดาบที่คมกริบ! ดาบของเขานั้นมันมีไว้เพื่อปกป้องผู้คน เพราะฉะนั้นมันจึงไร้จิตสังหารใดๆ ในดาบนั้น! แต่หากศัตรูเข้ามารุกรานแล้วดาบของเขาจะเผยความคมกริบและจิตสังหารที่ดุร้ายออกมาแน่นอน!”
หมี่เทียนนั้นเบิกตากว้างขึ้นทันทีที่ได้ยิน “เป็นเช่นนั้นเอง! เพราะฉะนั้นปราณดาบของเขาถึงได้เรียกความคิดของคนที่ตายลงไปได้และเอาพลังวิญญาณของพวกเขามาไว้ในรายนามวิญญาณสวรรค์โกลาหล! จิตของคนมากมายขนาดนั้นมันย่อมจะทำให้ยอดเต๋าเคลื่อนไหวได้ เพราะฉะนั้นมันถึงเกิดผลเช่นนี้ตามมา ทำให้สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้ทะยานต้านสวรรค์เปลี่ยนแปลงชะตา! เพราะว่าดินแดนแห่งนี้มันคือดินแดนที่พวกเขาต้องการปกป้อง!”
โฉปู้ฉุนนั้นพยักหน้ารับ ดูท่าแล้วคำพูดของหมี่เทียนมันคงถูกต้อง!
ผู้บ่มเพาะนั้นทรงพลัง ความคิดของพวกเขาที่เหลือทิ้งไว้เองมันก็จะไม่จางหายไปไหนง่ายๆ เช่นกัน
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงได้เรียกเอาความคิดและจิตสุดท้ายนั้นมารวมตัวกันเพื่อปกป้องสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดต่อไป!
โฉปู้ฉุนนั้นกล่าวขึ้นต่อ “เขากำลังจะบรรลุแล้ว! ศึกของเรามันจะได้ตัดสินกันเสียที!”
เขายิ้มขึ้น
ก่อนที่เขาจะทันกล่าวจบเย่หยวนก็วาดดาบลงสลักนามสุดท้ายเสร็จสิ้น!
จากนั้นมันก็เกิดคลื่นพลังรุนแรงปะทุขึ้นมาจากร่างกายของเขา!
เพราะการก่อสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดขึ้นใหม่ของเขานี้มันทำให้รายนามวิญญาณสวรรค์โกลาหลนั้นดึงพลังงานโกลาหลจากคงคานิรันดร์เข้ามาได้มากมายทำให้เย่หยวนสามารถบรรลุได้ในที่สุด
ตูม!
เย่หยวนนั้นก้าวขึ้นมาจนถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดในพริบตา!
แต่สุดท้ายมันก็หยุดลงอย่างกะทันหัน!
พลังบ่มเพาะของเขานั้นมันไม่อาจจะเพิ่มขึ้นไปได้มากกว่านี้แล้ว
เพราะก้าวต่อไปของเขานั้นมันคือการเผชิญเต๋าทุกข์ที่น่ากลัว!
เย่หยวนสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวขึ้น “ข้ามาถึงจุดนี้ได้แล้วหรือ?”
“เย่หยวน มาสู้กัน!” ในเวลานั้นเองที่มีเสียงของคนผู้หนึ่งร้องขึ้นด้านหลัง
เย่หยวนหันกลับไปมองด้วยรอยยิ้ม “พี่โฉ มันถึงวันนี้จนได้!”
โฉปู้ฉุนนั้นกล่าวตอบไป “โฉผู้นี้ฝึกฝนดาบมาทั้งชีวิตหาเพียงแค่ว่าใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน! แต่น้องเย่นั้นกลับใช้ดาบของเจ้าเพื่อปกป้องผู้คนอย่างไม่สนใจว่าใครจะเก่งจะอ่อนแอ! ข้านั้นช่างด้อยกว่านัก!”
เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “เต๋านั้นมันก็แค่เส้นทาง สิ่งที่สำคัญนั้นคือเป้าหมายต่างหาก! พี่โฉนั้นต่อสู้กับศัตรูด้วยกำลังของตนสุดชีวิตสุดท้ายแล้วทำให้ผู้คนทั้งสวรรค์รอดชีวิตกลับมาได้เช่นกัน! เรานั้นต่างกันแค่วิธีการเพียงเท่านั้น! พี่โฉไม่ต้องถ่อมตัวกับข้าหรอก!”
โฉปู้ฉุนนั้นเบิกตากว้างเหมือนได้แรงบันดาลใจอะไรขึ้นมา
เย่หยวนนั้นลอยตัวขึ้นจากเขาไปเผชิญหน้ากับโฉปู้ฉุนและยิ้มกล่าวขึ้น “มาเถอะ! ข้านั้นรอวันนี้มานานจนเกินกว่าจะรอได้อีกแล้ว!”
โฉปู้ฉุนนั้นหัวเราะลั่นตอบกลับไป “ฮ่าๆ มาสู้กัน!”
หลังพูดจบนั้นมันก็ปรากฏดาบขึ้นในมือเขาทำให้คนทั้งหลายต้องผงะไป!
เพราะว่าดาบของโฉปู้ฉุนนั้นมันคมกริบทรงพลังจนถึงขั้นที่ทำให้แม้แต่คนที่อยู่ฝ่ายเดียวกันก็ยังเสียวหลังขึ้นมา
ดาบนี้คมกริบคมอย่างไร้ที่ติกอปรกับพลังของยอดเจ้าโลก มันย่อมจะทำให้สีหน้าของคนทั้งหลายซีดขาวลงไป
พวกเขานั้นได้แต่ต้องหันไปมองหน้าเย่หยวนอย่างกังวลไม่รู้ว่าเขานั้นจะรับดาบที่ทรงพลังนี้ไว้ได้หรือไม่
เพราะไม่ว่าอย่างไรคนทั้งสองนั้นก็มีพลังบ่มเพาะที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว!
แม้เฉียนั้วนั้นจะเป็นยอดอัจฉริยะของเผ่าเลือดแต่โฉปู้ฉุนนั้นเรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมืออันดับต้นๆ ของเผ่ามนุษย์!
ใช้ดาบเดียวบรรลุสามอาณาจักรมันมิใช่สิ่งที่คนทั่วๆ ไปจะทำได้ไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหน
“มาเถอะ!”
เย่หยวนร้องตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มพร้อมคลื่นพลังรุนแรงปะทุขึ้นมาจากร่าง
จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกมาพร้อมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์รุนแรงหนักแน่นก่อนมันจะก่อตัวเป็นโล่กลม!
โฉปู้ฉุนนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นร้อง “ดาบนั้นมันไม่มีรูปแบบตายตัว! ดูท่าเจ้านั้นจะเข้าใจมันถึงแก่นแล้วจริงๆ!”
โล่กลมตรงหน้านี้มันไม่มีทางจะเป็นดาบไปได้เลย
แต่โฉปู้ฉุนนั้นเป็นผู้ที่ศึกษาเต๋าดาบมาทั้งชีวิตและมีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจว่าโล่กลมอันนี้แท้จริงแล้วมันเป็นดาบ!
ไม่มีใครกำหนดว่าดาบจะต้องเป็นแท่ง
น้ำนั้นสามารถเปลี่ยนสถานะรูปแบบได้มากมาย ไม่มีอะไรแน่นอน!
กระบี่อยู่ที่ใจ!
โฉปู้ฉุนนั้นไล่ตามเต๋านี้มาตลอดชีวิต!
แต่เขานั้นยังไม่อาจจะก้าวไปถึงขั้นนี้ได้
เพราะหากเขาไปถึงได้เขาคงกลายเป็นเจ้าโลกล้ำสวรรค์แล้ว
นี่มันแสดงให้เห็นชัดเจนว่าคลื่นกำเนิดดาบของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำกว่าของโฉปู้ฉุนไปแล้ว!
ตูม!
โล่นั้นระเบิดออกพร้อมร่างของเย่หยวนที่ถอยหลังกลับไป
“ดาบจงมา!”
จากนั้นเย่หยวนก็ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ก่อตัวเป็นดาบขึ้นมาโจมตีสวนโฉปู้ฉุน
โฉปู้ฉุนนั้นใช้ดาบของตัวเองขึ้นมาปัดป้องได้ไม่ยาก!
บนท้องฟ้านั้นมันมีปราณดาบสองแหล่งกำลังปะทะกันอย่างไม่มีใครยอมสยบ
มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์และยอดเจ้าโลกนั้นกลับกำลังสู้กันอย่างสูสี!
ด้านล่างมันย่อมจะเกิดเสียงโห่ร้องขึ้นอย่างไม่อาจห้าม
“เก่งกาจนัก! ก…กลับเสมอกันได้!”
“มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? นักบุญสวรรค์เย่นั้นเพิ่งบรรลุขั้นหนึ่งมาแต่กลับจะบอกว่าท่านเก่งกาจเทียบยอดเจ้าโลกได้แล้ว?”
“เจ้าโลกนั้นคือตัวตนที่อยู่คนละชั้นกับพวกเรา! หากท่านบรรลุเจ้าโลกได้แล้วบางทีท่านอาจจะเอาชนะได้แม้แต่บรรพบุรุษเผ่าเลือดมัน!”
…
เป็นตอนนี้เองที่คนทั้งหลายได้เข้าใจว่าทำไมโฉปู้ฉุนถึงได้คิดท้าเย่หยวนตอนนี้
เพราะหากไม่ท้าตอนนี้ โฉปู้ฉุนก็คงไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้ว!
เพราะเย่หยวนในตอนนี้เทียบเคียงฝีมือกับยอดเจ้าโลกได้ไปแล้ว
หากเย่หยวนสามารถบรรลุเจ้าโลกได้จริงๆ โฉปู้ฉุนคงอ่อนแอเกินกว่าจะรับได้แม้แต่ดาบเดียวของเย่หยวน
ถึงตอนนั้นมันจะยังสู้อะไรกันได้อีก?
“ฉิบหาย! ช่องว่างระหว่างมันกับข้านั้นขยายขึ้นอีกแล้ว! เมื่อไหร่ข้าจะสู้กับมันได้อีกครั้งกัน?” หยางชิงกล่าวขึ้นมาอย่างเสียอารมณ์
บรรลุเจ้าโลกขึ้นมาได้นี้ทีแรกเขาคิดว่าตัวเองคงพอสู้กับเย่หยวนได้บ้างแล้ว
ใครจะไปคิดว่าเย่หยวนในตอนนี้กลับมีพลังพอจะเทียบเคียงเจ้าโลกระดับสูงได้!
ตอนนี้เย่หยวนกลับยังไปสู้กับยอดเจ้าโลกอย่างสูสีอีก!
นอกจากนั้นมันยังเป็นยอดเจ้าโลกที่เก่งกาจอย่างโฉปู้ฉุน
แม้ว่าเขานั้นจะหลงตัวเองแค่ไหนเขาก็ไม่โง่ถึงขนาดมองไม่เห็นช่องว่างระหว่างตัวเขาและเย่หยวนนี้
คนบางคนนั้นไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนมันก็ไม่มีทางไล่ตามทัน!
เฟิ่งชิงซวนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ชาตินี้เจ้าก็ไม่มีทางไล่ตามเย่หยวนมันทันหรอก!”
หยางชิงตอบกลับไปด้วยใบหน้าดำมืด “อย่าได้ลืมไปเล่าว่าเจ้าบ้านี่มันจะต้องเจอการบรรลุเจ้าโลกที่ยากที่สุดในประวัติศาสตร์! มันคงไม่กล้าจะบรรลุเจ้าโลกในเวลาสั้นๆ แน่! เพราะฉะนั้นตอนนี้แหละมันจะเป็นเวลาที่ข้าก้าวข้ามหัวมันไป!”
เฟิ่งชิงซวนนั้นได้แต่ต้องหรี่ตาลงด้วยความกังวลไม่แพ้กัน
เพราะคำพูดของหมี่เทียนกับอี้เฉียนั้นมันทำให้นางกังวลอย่างมาก
ตึง!
ตึง!
ตึง!
คนทั้งหลายนั้นเห็นเงาร่างทั้งสองปะทะกันอย่างต่อเนื่องบนท้องฟ้า
แต่จู่ๆ คนทั้งสองก็แยกห่างออกจากกัน
การต่อสู้กันดุเดือดมันจบลงอย่างกะทันหัน!
เย่หยวนที่ได้เห็นก็ต้องยิ้มขึ้นมา
เวลานี้โฉปู้ฉุนนั้นหลับตาแน่นด้วยปราณดาบที่หมุนวนรอบตัวเองอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะทะลวงดวงดาว!
ด้านหลังของเขาในตอนนี้มันมีประตูแห่งชีวานิรันดร์ปรากฏขึ้น
หมี่เทียนยกมือขึ้นลูบเคราตัวเองพร้อมกล่าว “ไม่เลวๆ! สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดเรานั้นจะได้มียอดฝีมือล้ำสวรรค์เพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว!”
………………………….