ศิลาโลหิตนั้นมองดูเย่หยวนด้วยความสนใจไม่ได้แสดงท่าทีกังวลแม้แต่น้อย
“เจ้าอยากได้ชีวิตข้า? เต๋าผู้นี้อยากจะรู้นักว่าเจ้านั้นจะเอามันไปได้อย่างไร! เต๋าผู้นี้คือผู้ไร้เทียมทานบนสวรรค์นี้!” ศิลาโลหิตกล่าวขึ้น
เขานั้นมาได้โม้อวดตัวเองใดๆ เขาแค่พูดความจริง
เพราะใต้ฟ้าเหนือแผ่นดินนี้มันไม่มีใครเก่งกาจล้ำตัวเขาไปได้
ที่สำคัญเย่หยวนนั้นยังมีหายนะรอคอยอยู่ตรงหน้า!
“เจ้านั้นเข้าถึงเต๋าด้วยเลือดของชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนเป็นภัยแก่สามสิบสามสวรรค์ หากเจ้าคิดรบกวนสมดุลของสวรรค์แล้วสวรรค์ย่อมจะต้องลงโทษเจ้า!” เย่หยวนตอบกลับไป
“ฮ่าๆๆ รบกวนสมดุลของสวรรค์? ใช้ชีวิตของมดปลวกแลกกับการเข้าถึงเต๋านั้นมันเป็นการรบกวนสมดุลอย่างไร? และข้าก็ไม่อยากจะได้ยินคำพูดเช่นนี้จากปากเจ้านักหรอก! เย่หยวน เจ้าคงยังไม่รู้สิว่าตัวเองนั้นจะต้องเผชิญหายนะเช่นไรกันแน่? สามสิบสามทุกข์แห่งหายนะนั้นมันคือหายนะที่ทำลายล้างสวรรค์! ตลอดกาลเวลาที่ผ่านมานี้คนที่แข็งแกร่งที่สุด ก็ยังรอดไปถึงแค่ระลอกหายนะที่เก้าเท่านั้น! เจ้านั้นมันคือคนที่ถูกสวรรค์ทอดทิ้งที่สุด! สวรรค์นั้นกำลังจะลงโทษเจ้าแล้วยังมีหน้ามาพูดเรื่องสมดุลของสวรรค์อีกหรือ?” ศิลาโลหิตนั้นหัวเราะลั่นขึ้น
หมี่เทียนและพวกต่างหน้าเปลี่ยนสีไป
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่ได้แสดงสีหน้าตกตะลึงใดๆ ออกมา
เขานั้นตอบกลับมาเบาๆ “หากสวรรค์คิดอยากทำลายมันก็ต้องลงมือก่อน! เจ้าคิดว่าตัวเองนั้นไร้เทียมทานแต่เจ้าไม่ได้รู้จักพลังของสวรรค์! เจ้านั้นจะไม่ได้ตายดีแน่นอน!”
ศิลาโลหิตนั้นยิ้มตอบกลับไป “เจ้าเด็กโอหัง! เต๋าผู้นี้คือทูตแห่งสวรรค์มีหรือที่สวรรค์จะมาลงโทษข้า? เย่หยวน เจ้านั้นทำให้เต๋าผู้นี้ต้องเสียหายมาหลายครั้งมากนัก เต๋าผู้นี้นับถือฝีมือของเจ้าและจะทำให้เจ้าได้ตายอย่างสมเกียรติ! ตอนนี้ในเมื่อเต๋าผู้นี้ได้กลายเป็นทูตของสวรรค์แล้วข้าก็จะขอช่วยงานสวรรค์ส่งเจ้าลงนรกแทนแล้ว! อย่าได้กังวลเลย… สวรรค์ที่เจ้าปกป้องนี้ข้าจะทำลายมันลงให้ด้วย!”
คนทั้งหลายที่ได้เห็นต่างต้องอ้าปากค้างไป
เย่หยวนนั้นไปยืนต่อปากต่อคำกับศิลาโลหิตเช่นนี้มันย่อมเหมือนเอาไข่ไปตีหิน!
ในเวลานี้เย่หยวนนั้นยังเป็นเพียงแค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดมีหรือที่จะรับมือพลังของศิลาโลหิตได้?
“เย่หยวน รีบกลับมาเร็ว! เจ้าจัดการมันไม่ได้!” หมี่เทียนร้องตามหลังมา
“ไอ้บ้านี่มันคิดทำตัวเป็นวีรบุรุษ คิดจะทิ้งข้าไว้หรืออย่างไร!” หยางชิงนั้นพุ่งตัวหมายจะออกจากกำแพงเขตแดนไปกับเย่หยวน
ได้เห็นเช่นนั้นคนเผ่าเลือดทั้งหลายก็ต้องหัวเราะขึ้นมา
เพราะวันนี้ไม่มีใครจะหยุดหายนะนี้ได้แล้ว!
เผ่าเลือดนั้นจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ปกครองของสามสิบสามสวรรค์!
ทุกชีวิตที่เหลือจะเป็นแค่มดปลวก!
“นี่ พวกมดปลวกที่กำลังใกล้ตาย! มาอวดอ้างกำลังต่อหน้าบรรพบุรุษท่านเช่นนี้มันจะไม่น่าขันเกินไปหรือ?” ชือหูหัวเราะขึ้นมา
“แค่แมลงวันก็หวังจะเขย่าไม้ใหญ่! ทำอะไรเกินตัวดีนัก! มันคิดว่าเย่หยวนจะได้ตายอย่างวีรบุรุษหรือ? จากวันนี้ไปมันจะยังมีใครจำความตายของเย่หยวนได้? เพราะเผ่าเลือดของเรานั้นจะปกครองสวรรค์!” อี้เฉียนั้นหัวเราะลั่นขึ้น
ศิลาโลหิตนั้นสามารถสังหารคนได้โดยไม่ต้องขยับนิ้ว
เขานั้นแค่ยิ้มขึ้นมาพร้อมปล่อยเต๋าเลือดออกไปหมายสังหารเย่หยวนลง
พลังเต๋าเลือดนั้นมันล่องหนและไม่อาจจะสัมผัสได้ มันไม่มีทางใดที่จะขัดขืน!
แค่ความคิดเดียวของเขาก็สามารถระเบิดร่างของเย่หยวนออกได้
ตูม!
เงาร่างหนึ่งปลิวออกไปพร้อมเสียงกระอัก!
“นี่มัน…เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน? ในโลกนี้ทำไมมันยังมีคนที่ทำร้ายบรรพบุรุษท่านได้อีก?”
“เย่หยวนมันใช้เวทมนตร์ใดกันทำไมถึงไม่เป็นอันตรายใดๆ เลย? บ้าน่า!”
“บรรพบุรุษท่านนั้นสามารถฆ่าคนได้ด้วยความคิด! แต่นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น? หรือว่าเย่หยวนนั้นจะทรงพลังว่าบรรพบุรุษท่านแล้ว?”
…
คนเผ่าเลือดทั้งหลายต้องผงะไปทันที!
เพราะว่าเสียงกระอักนั้นมันไม่ได้ดังขึ้นจากตัวเย่หยวนแต่เป็นตัวศิลาโลหิต!
ศิลาโลหิตนั้นเหมือนถูกโจมตีเข้าอย่างแรงต้องปลิวถอยกลับมาพร้อมกระอักเลือด
แต่ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นเย่หยวนไม่ได้ขยับแม้แต่ปลายนิ้ว!
หยางชิงและพวกที่กำลังพุ่งตัวออกมานั้นต้องหยุดเท้าลงมองดูภาพตรงหน้าอย่างมึนงง
นี่มัน…เกินจริงไปมากนัก!
ภาพนี้มันเหนือล้ำความคาดหมายของทุกผู้คน
ศิลาโลหิตที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานนั้นกลับปลิวลิ่วออกไป!
ปัญหาคือพวกเขาไม่อาจจะสัมผัสได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ความไม่รู้นั้นน่ากลัวเสมอ
ทำไมตัวตนที่ไร้เทียมทานเช่นนั้นกลับพ่ายให้มหาจักรพรรดิตัวน้อยคนหนึ่ง?
เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้น “ดูท่าเจ้าจะยังไม่มีคุณสมบัติพอมาสังหารข้า!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ยิ่งต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้น
ในเวลานี้ศิลาโลหิตนั้นค่อยๆ ตั้งหลักกลับมายืนได้ด้วยใบหน้าเหยเก “เจ้าสัมผัสถึงมันได้แล้ว!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปทันที “หายนะของข้าแน่นอนว่าข้าย่อมจะสัมผัสมันได้ชัดเจนที่สุด! เจ้าเรียกตัวเองเป็นทูตสวรรค์แต่เต๋าสวรรค์นั้นไม่ได้บอกเจ้าหรือ? การสังหารข้านั้นเป็นหน้าที่ของเต๋าสวรรค์และมิใช่ของที่เจ้าจะมายุ่งด้วยได้!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินต้องผงะไป!
ศิลาโลหิตนั้นกลับถูกทำร้ายจากพลังของสวรรค์!
ครั้งนี้พวกเขาได้เข้าใจสิ้น
เพราะที่แท้เต๋าสวรรค์นั้นอิจฉาเย่หยวนอย่างรุนแรงจนตอนนี้เตรียมพลังทำลายล้างลงมาและจะไม่ยอมให้ใครเข้ามายุ่งอย่างเด็ดขาด!
เวลานี้เมื่อศิลาโลหิตคิดสังหารเย่หยวนมันย่อมจะเหมือนเขาคิดท้าทายอำนาจสวรรค์
ชีวิตของเย่หยวนนั้นอยู่ในมือของสวรรค์แล้ว!
จากนั้นท้องฟ้ามันก็เริ่มเปลี่ยนสีปกคลุมไปด้วยเมฆดำสนิททำให้คนทั้งหลายขาสั่นขึ้นมาตามๆ กัน
พวกเขานั้นรู้สึกได้เลยว่าหลังเมฆนั้นมันมีเทพเจ้ามองลงมาอยู่
เสื้อผ้าของเย่หยวนนั้นโบกสะบัดอย่างรุนแรง
เขานั้นย่อมจะเป็นศูนย์กลางพายุใหญ่ครั้งนี้!
คนทั้งหลายที่ได้เห็นต่างถอยออกมาอย่างไม่ทันรู้ตัวด้วยสัญชาตญาณ
เพราะว่าพลังกัดกร่อนนี้มันรุนแรงมากนัก!
คนทั้งหลายนั้นสัมผัสได้เลยว่านี่มันคือเต๋าสวรรค์ลงมาเอง!
สามสิบสามทุกข์แห่งหายนะได้เริ่มขึ้นแล้ว!
ศิลาโลหิตนั้นมองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “เอาเถอะ เช่นนั้นข้าก็จะขอดูหน่อยว่าเจ้าจะได้ตายอย่างไร!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “แม้คนอื่นทำไม่ได้มันก็ไม่ได้หมายความว่าข้านั้นจะทำไม่ได้! ข้า เย่หยวนผู้นี้ไม่เคยยอมรับชะตาจากฟ้าดินตั้งแต่วันที่ข้าเริ่มบ่มเพาะ! ผู้บ่มเพาะนอกรีตแล้วมันทำไม? สามสิบสามทุกข์แห่งหายนะแล้วมันทำไม? หากสวรรค์คิดอยากสังหารข้าลงแล้ว ข้าก็จะสังหารสวรรค์ลง!”
ตูม!
บนท้องฟ้านั้นมันมีเสียงสายฟ้าระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
ราวกับว่ามันไม่พอใจคำพูดของเย่หยวนนั้น!
คนทั้งหลายต่างมองดูเย่หยวนด้วยความหวาดกลัว
เจ้าบ้านี่มันโอหังจนเกินไป!
สังหารสวรรค์!
คำพูดเช่นนี้ต่อให้จะเป็นศิลาโลหิตเองก็ยังไม่กล้าพูดมันออกมา!
“ถอย ถอยไปให้ไกล! ทุกข์แห่งหายนะนี้มันน่ากลัวจนเกินไป อย่าได้เข้าไปใกล้เด็ดขาด!” เสียงคนเผ่าเลือดร้องลั่นขึ้นมา
คนทั้งหลายนั้นถอยห่างออกไปจนแทบไม่เห็นตัวเย่หยวนอีกต่อไป กลัวว่าตัวเองนั้นจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวพันกับหายนะครั้งใหญ่ตรงหน้า
“เฮอะ สังหารสวรรค์! มันเป็นเรื่องที่เจ้าไม่มีทางทำได้! พลังของเต๋านั้นเรียกได้ว่าไร้เทียมทานบนโลกหล้า เจ้ากลับคิดจะไปสังหารเต๋าสวรรค์หรือ! ข้าว่ามันคงยังไม่เข้าใจว่าสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน! แต่ช่างเถอะ อีกไม่นานมันจะได้รู้เอง!” ศิลาโลหิตกล่าวขึ้น
เมื่อมาถึงระดับของเขาในตอนนี้เขายิ่งเข้าใจความยิ่งใหญ่ของสวรรค์
เต๋าสวรรค์นั้นคือสิ่งที่ไม่มีใครเข้าใจได้จริง
แต่ว่าโลกหล้าฟ้าดินนี้มันอยู่ภายใต้การปกครองของเต๋าสวรรค์
เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อย!
เย่หยวนนั้นเป็นแค่มดปลวกบนดิน เขามีสิทธิ์อะไรจะไปต่อต้านสวรรค์ได้?
ในเวลานี้บนท้องฟ้านอกกำแพงเขตแดนนั้นมันเหลือเพียงแค่เย่หยวนคนเดียว
เพราะคนอื่นๆ นั้นต่างไม่มีใครกล้าอยู่ใกล้ตัวเขา
เย่หยวนนั้นอยู่คนเดียวยืนอยู่ต่อหน้ากำแพงเขตแดนของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดด้วยเสื้อผ้าที่โบกสะบัดรุนแรง ดูราวกับวีรบุรุษแห่งสงคราม
หยางชิงต้องกัดฟันแน่นขึ้นมา “เจ้าบ้านี่มันคิดจะปกป้องสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิตจริงๆ!”
………………………….