บนท้องฟ้านั้นภายใต้เมฆเต๋าทุกข์แห่งหายนะที่สิบนั้นมันมีเงาร่างหนึ่งพุ่งตัวไปมาพร้อมด้วยปราณดาบที่รุนแรงบ้าคลั่งทำให้ท้องฟ้าสั่นสะท้าน
เย่หยวนนั้นสามารถรับก้อนสายฟ้าที่แม้แต่ยอดฝีมือล้ำสวรรค์นั้นยังไม่อาจรับไว้ได้อย่างต่อเนื่อง!
“ช่างเป็นดาบที่ทรงพลังนัก! ดาบแห่งจิตของคนทั้งสวรรค์นี้มันแข็งแกร่งยิ่ง!” อี้เฉียกล่าวขึ้นมาอย่างตกตะลึง
“มันมิใช่ตัวดาบเองแต่มันเป็นคนที่ใช้ต่างหากเล่า! เต๋าดาบของนั้นแทบจะถึงระดับของการควบคุมเต๋าได้แล้ว! เรียกว่ามันเป็นรองเพียงแค่เต๋าก็ไม่ผิดนัก!” ศิลาโลหิตกล่าวขึ้นมาอย่างหนักแน่น
เขานั้นไม่รู้เช่นกันว่าเย่หยวนจะแข็งแกร่งจนผ่านหายนะนี้ไปได้
เขานั้นคิดว่าพลังแห่งการควบคุมยอดเต๋านั้นมันคือพลังที่สูงสุดในสามสิบสามสวรรค์แล้ว
ความเป็นความตายของผู้คนนั้นอยู่ในกำมือเขาสิ้น
แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกได้ถึงภัย!
ก่อนหน้านี้เขาคิดไปว่าต่อให้เย่หยวนจะบรรลุเจ้าโลกได้จริงๆ เขาก็ยังเป็นแค่เจ้าโลกคนหนึ่ง ไม่มีทางจะเก่งกาจอะไรมากมายนัก
แต่ดูตอนนี้แล้วมันคงมิใช่
ฟุบ!
จู่ๆ มันก็มีก้อนสายฟ้าหลายก้อนพุ่งผ่านหน้าเย่หยวนลงไปยังกำแพงเขตแดน
เมื่อพวกหมี่เทียนได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องขนลุกตั้งไปตามๆ กัน
เพราะว่ากำแพงเขตแดนนั้นมันไม่อาจจะรับพลังของก้อนสายฟ้าทั้งหลายนี้ได้เลย!
ฉัวะ!
แต่เวลาเดียวกันนั้นเองมันก็มีปราณดาบหลายสายพุ่งลงมาแทงทำลายก้อนสายฟ้าทิ้งสิ้น
หมี่เทียนได้แต่ต้องปาดเหงื่อพร้อมถอนหายใจยาว
รอด!
“ที่แท้แล้วดาบแห่งการปกป้องนั้นกลับสามารถเปล่งพลังออกมาได้ขนาดนี้เมื่อคิดปกป้องคน!” โฉปู้ฉุนนั้นร้องลั่นขึ้นมาอย่างตื่นตะลึง
พลังของก้อนสายฟ้านั้นมันรุนแรงเหนือจินตนาการผู้คนไปมากมายนัก
แต่เย่หยวนกลับสามารถรับมันไว้ได้อีกครั้ง!
โฉปู้ฉุนนั้นสัมผัสได้ถึงความเชื่อมั่นของเย่หยวนจากดาบแห่งการปกป้องนี้!
ความเชื่อมั่นนี้มันคือเต๋าดาบของเย่หยวน
หลังผ่านไปอีกหลายวันในที่สุดก้อนสายฟ้านั้นมันก็ค่อยๆ จางหายไป
อี้เฉียได้แต่ต้องกล่าวขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “เขา…กลับผ่านมาได้! นี่เขามีขีดจำกัดบ้างหรือไม่?”
แม้ว่าศิลาโลหิตนั้นจะตกตะลึงไม่น้อยเช่นกันแต่เขาก็ไม่ได้ประหลาดใจอะไรขนาดนั้นเพราะเขาเดามาแต่แรกแล้วว่าเย่หยวนยังมีไพ่ตายเก็บไว้
“มันไม่มีอะไรที่ตกตะลึงมากมายหรอก ตามที่เต๋าผู้นี้คาดเดาแล้วเย่หยวนคงสามารถผ่านไปได้ถึงทุกข์แห่งหายนะที่สิบแปด! แต่ทุกข์แห่งหายนะที่สิบเก้านั้นมันคงเป็นเรื่องยากแล้ว!” ศิลาโลหิตกล่าวขึ้น
เมื่ออี้เฉีย หวูเทียนและหลุนฮวยได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องอ้าปากค้างกันขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อหู
ทุกข์แห่งหายนะที่สิบแปดนั้นมันจะเป็นไปได้อย่างไร?
เพราะก่อนหน้านี้โมฟานที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ผู้บ่มเพาะนอกรีตนั้นยังรอดไปได้ถึงแค่ทุกข์แห่งหายนะที่เจ็ด!
หมายความว่าเย่หยวนนั้นจะไปได้ไกลกว่าเป็นเท่าตัวหรือ?
ศิลาโลหิตนั้นย่อมจะประเมินเย่หยวนไว้สูงล้ำ
แน่นอนว่ามันย่อมจะไม่มีใครกล้าขัดศิลาโลหิตในตอนนี้
ได้เห็นสีหน้าของคนทั้งหลายนั้นศิลาโลหิตก็ต้องหัวเราะขึ้นกล่าวต่อ “ทุกข์แห่งหายนะนั้นมันไม่เคยมีใครผ่านระลอกที่แปดไปได้ เต๋าผู้นี้เองก็ไม่ทราบได้ว่ามันจะทรงพลังแค่ไหนแต่ดูจากสภาพตอนนี้แล้วข้าก็เริ่มจะเห็นแบบแผนของมัน แม้ว่าทุกข์แห่งหายนะนั้นจะรุนแรงล้ำตั้งแต่ระลอกแรกแต่ช่องว่างระหว่างระลอกที่เก้าและสิบนั้นมันยิ่งใหญ่อย่างมาก เพราะฉะนั้นเต๋าผู้นี้จึงคาดเดาว่าสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะนี้มันคงจะแบ่งออกเป็นระดับๆ ถึงราวสี่ระดับ ทุกๆ สิบระลอกนั้นพลังของมันจะเพิ่มทวีคูณขึ้นอย่างแน่นอน! และในสามระลอกสุดท้ายนั้นมันคง…ทรงพลังถึงระดับที่ทำลายล้างทุกสวรรค์ลงได้!”
พอคนทั้งหลายได้ลองคิดตามมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ!
แต่ว่ายิ่งได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ยิ่งมั่นใจว่าต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจล้ำฟ้าดินไปแค่ไหนมันก็คงไม่มีทางรอดจากสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะนี้ไปได้แน่นอน!
ทุกข์แห่งหายนะที่สิบก้อนสายฟ้านั้นถูกดาบแห่งการปกป้องของเย่หยวนปัดเป่าไปได้ไม่ยากเย็น
ทุกข์แห่งหายนะที่สิบเอ็ด เพลิงฟ้าไร้สุดเย่หยวนเองก็รอดกลับมาได้
…
ทุกข์แห่งหายนะที่สิบห้า ทุกข์หมื่นน้ำแข็งวิกลมันได้ทำลายดาบแห่งการปกป้องลงแต่เย่หยวนก็ใช้เต๋าโอสถหลอมทุกข์หมื่นน้ำแข็งวิกลและโจมตีสวนเมฆเต๋าทุกข์ไปจนผ่านมันมาได้ในที่สุด
…
ทุกข์แห่งหายนะที่สิบเก้านั้นเย่หยวนยังคงสามารถหลอมทุกสิ่งอย่างไว้ได้อย่างหมดจด
พลังที่ทุกข์แห่งหายนะแสดงออกมาจนถึงตอนนี้มันทรงพลังกว่าที่ใครๆ จะคาดคิดไปมากมายนัก
หวูเทียนนั้นได้แต่ต้องทำหน้าซีดมองดูเรื่องราว “พลังของทุกข์แห่งหายนะนี้มันเทียบได้กับพลังของเฒ่าคนนี้แล้ว! พลังของทุกข์แห่งหายนะที่ยี่สิบมันคงรุนแรงล้ำขึ้นไปอีกขั้นแน่ๆ เฒ่าคนนี้คงไม่อาจรอดจากมันได้!”
หลุนฮวยนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก “หากมิใช่เพราะทุกข์แห่งหายนะนี้แล้วพวกเราทั้งสองไปเผชิญกับ เย่หยวนมันจริงๆ เราคงไม่ได้ตายดีกันแน่! เจ้าเด็กนี่มันยังมิใช่เจ้าโลกแท้ๆ ทำไมมันถึงได้ทรงพลังขนาดนี้?”
คนที่อยู่รอบๆ นั้นได้แต่ต้องหันมามองสองคนนี้ด้วยความสงสาร
เพราะสองยอดอำนาจนั้น เดิมทีแล้วพวกเขาย่อมจะเป็นหนึ่งในสามตัวตนที่สูงสุดบนสวรรค์นี้
พวกเขานั้นทำลายโซ่ตรวนได้รับพลังแห่งเต๋าแต่สุดท้ายกลับถูกคนอื่นกดหัวจนจมดิน
ตอนนี้ยิ่งมาพบเจอความจริงที่ว่าเย่หยวนนั้นเก่งกาจเกินรับมือตั้งแต่แรกอีกด้วย
ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นพวกเขาเป็นได้แค่ตัวตลก!
แม้ว่าสุดยอดตัวตนระดับนี้จะยิ่งใหญ่แค่ไหนแต่พวกเขาก็เกิดมาผิดเวลา!
ศิลาโลหิตนั้นหันไปมองดูหน้าพวกเขาด้วยรอยยิ้ม “เจ้าไม่ต้องเสียใจไปหรอก นี่มันคงเป็นขีดจำกัดของเย่หยวนมันแล้ว! มันไม่มีทางรอดจากทุกข์แห่งหายนะที่ยี่สิบไปได้แน่!”
พูดไปนั้นมันก็ค่อยๆ ปรากฏเมฆเต๋าทุกข์ของระลอกที่ยี่สิบขึ้นมา
แต่ครั้งนี้แม้แต่ยอดฝีมือระดับหลุนฮวยและหวูเทียนนั้นก็ยังต้องสั่นกลัว
ศิลาโลหิตนั้นคาดเดาได้ถูกต้องทุกๆ สิบระลอกนั้นพลังของทุกข์แห่งหายนะมันจะรุนแรงขึ้นไปอีกระดับเสมอ
นี่มันคือพลังของสวรรค์อย่างแท้จริง!
หายนะก่อนหน้ามานั้นมันคือพลังที่เกิดขึ้นจากคลื่นกำเนิด
แต่หายนะที่ยี่สิบนี้พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังของยอดเต๋า!
หรือจะให้พูดง่ายๆ ก็คือทุกข์แห่งหายนะจากนี้มันคือพลังแห่งยอดเต๋าที่แท้จริง
ไม่ว่าเย่หยวนนั้นจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็คงไม่อาจรอดชีวิตไปได้!
แต่ในวินาทีเดียวกันนั้นเองที่คลื่นพลังจากตัวของเย่หยวนมันได้เปลี่ยนแปลงไปสิ้นเชิงพร้อมคลื่นพลังงานที่สะท้านสวรรค์ทะลวงฟ้า
คลื่นพลังนี้มันไม่ได้ด้อยไปกว่าเมฆเต๋าทุกข์!
มันเหมือนกำลังเขานั้นกลายเป็นเต๋าสวรรค์
อี้เฉียที่ได้เห็นนั้นต้องเบิกตากว้างร้องลั่นขึ้น “พลังเช่นนี้มัน! นี่มัน…ห้าก้าวย่ำสวรรค์! ช่างรุนแรงนัก! เทียบกับตอนที่มันสังหารเฉียนั้วลงแล้วนั้นพลังของห้าก้าวย่ำสวรรค์มันพัฒนาไปไม่รู้กี่เท่า! นี่มันเป็นไปได้อย่างไร แค่ไม่กี่ปีนี้มันกลับพัฒนาวิชาไปได้มากขนาดนี้?”
นี่มันคือห้าก้าวย่ำสวรรค์ที่เย่หยวนสร้างขึ้น แต่เย่หยวนในตอนนี้ดูแตกต่างจากตอนที่สังหารเฉียนั้วสิ้นเชิง
ระหว่างที่เย่หยวนสร้างรายนามวิญญาณสวรรค์โกลาหลขึ้นนั้นมันไม่ได้มีแค่เต๋าดาบของเขาที่พัฒนา
สิ่งที่เขาพัฒนาไปได้มากที่สุดคือเต๋าของตัวเอง!
เพราะเหตุนั้นฝีมือของเย่หยวนมันจึงได้พุ่งทะยานขึ้นมาในเวลาไม่กี่ปีนี้
เต๋าที่ปกครองทุกเต๋า!
วิชาเดียวที่เป็นทุกวิชา!
ไม่ว่าจะเป็นเต๋าดาบ เต๋าโอสถ เต๋าค่ายกลหรือวิชาความรู้ใดๆ มันก็ล้วนเป็นสิ่งที่สร้างเส้นทางเต๋าของตัวเองสิ้น
เต๋าที่แท้จริงนั้นคือเต๋าในหัวใจ!
สิ่งที่เขาอยากทำนั้นคือการปกป้องบ้านเกิด ปกป้องคนที่เขารัก
เพื่อเต๋าในหัวใจของเขานี้แล้วเขาพร้อมที่จะทำลายล้างสวรรค์!
เมื่อคลื่นพลังของเย่หยวนปรากฏขึ้นมาสีหน้าของศิลาโลหิตมันก็ซีดขาวลง
เพราะนี่มันเป็นวิชาที่ทรงพลังอย่างยิ่ง!
แต่ไม่นานเขาก็กลับมายิ้มได้
เขายิ้มกล่าวขึ้น “นี่มันเป็นสุดยอดวิชาอย่างแท้จริง! แสดงว่ามันคงเป็นไม้ตายสุดท้ายของมันแล้วแน่ เพราะฉะนั้นยิ่งวิชานี้ทรงพลังแค่ไหนมันก็จะยิ่งได้ตายเร็วเท่านั้น! ดูท่าแล้วมันคงทำให้เต๋าสวรรค์พิโรธจริงๆ!”
ตูม!
“ย่ำขุนเขาสายน้ำด้วยก้าวแรก กลืนกินทุกสิ่งอย่างคล้ายราตรี!”
ภายใต้พลังงานรุนแรงนั้นเย่หยวนก็ก้าวเท้าย่ำออกมา
ย่ำนี้มันหนักหน่วงเหมือนเขาจะเหยียบท้องฟ้าทั้งผืนไว้ใต้เท้า
เมฆเต๋าทุกข์แห่งหายนะที่ยี่สิบและเมฆเต๋าทุกข์ทั้งสิบเก้าระลอกก่อนมันจางหายไปใต้พลังนี้สิ้น!
ทุกข์แห่งหายนะที่ยี่สิบอันเป็นตำนานนั้นกลับถูกห้าก้าวย่ำสวรรค์ของเย่หยวนทำลายลงในพริบตา
แต่ว่ามันเหมือนต้องการจะยืนยันคำพูดของศิลาโลหิต ตอนนี้เมฆเต๋าทุกข์ชุดใหญ่มันได้ก่อตัวขึ้นแทนอย่างทันทีทันควัน
แต่เมฆเต๋าทุกข์นี้มันแตกต่างจากทุกข์แห่งหายนะก่อนๆ สิ้นเชิง
ลมแรงพัดหมุนพร้อมด้วยเมฆหนาที่เหมือนเป็นการแสดงความไม่พอใจของสวรรค์
ไม่นานนักทุกข์แห่งหายนะที่ยี่สิบเอ็ดก็ได้ก่อตัวขึ้น
คนทั้งหลายต่างเตรียมใจรอดูพลังของทุกข์แห่งหายนะที่ยี่สิบเอ็ดนี้
แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น!
เพราะเหนือจากเมฆเต๋าทุกข์ระลอกที่ยี่สิบเอ็ดไปนั้นมันกลับปรากฏเมฆเต๋าทุกข์ระลอกที่ยี่สิบสองขึ้นมาตาม
จากนั้นมันก็เป็นเมฆเต๋าทุกข์ระลอกที่ยี่สิบสาม ยี่สิบสี่…ไปจนถึงระลอกที่ยี่สิบเก้า
เมฆเต๋าทุกข์เก้าระลอกกลับปรากฏขึ้นมาพร้อมๆ กัน!
…………………………