ดาบเดียวของเย่หยวนนั้นกลับทำลายประตูแห่งชีวานิรันดร์ลง?
พวกเขานั้นไม่อาจจะคิดตามได้เลยในเวลานี้
“มัน…จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป? ประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นหายไปแล้ว เรา…เราจะเป็นอย่างไร? แล้วมัน…มันจะ…มันคืออะไร?” ศิลาโลหิตนั้นมองดูเย่หยวนอย่างมึนงงและบ่นพึมพำขึ้นมา
ประตูแห่งชีวานิรันดร์หายไปเช่นนี้แล้วมันย่อมจะทำให้เขาตกตื่นขึ้นอย่างมาก
เพราะว่าโลกที่เขารู้จักนั้นมันดูไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
และเย่หยวนนี่มันกลายเป็นตัวตนระดับใดไปแล้ว?
เย่หยวนนั้นขมวดคิ้วแน่นก่อนที่จู่ๆ ด้านหลังของเขามันจะมีประตูแห่งชีวานิรันดร์อีกบานปรากฏขึ้น
แต่ว่าประตูแห่งชีวานิรันดร์นี้มันพุ่งเข้ามาในร่างของเขาอย่างรวดเร็ว
เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ทันทีว่าในจุดตันเถียนของเขานั้นมันมีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้น
“นี่มัน…โลกหรือ?” เย่หยวนนั้นต้องผงะไป
เพราะตั้งแต่ที่เขากลายมาเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตนี้แล้วเขาก็ได้เปลี่ยนโลกใบน้อยภายในตัวเองให้กลายเป็นดาบเต๋าไป
ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่มีโลกภายในอีก
แต่วันนี้ประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันกลับกลายเป็นโลกภายในของเขาไป?
แต่ถ้าจะให้พูดแล้วมันคงเป็นเหมือนเมล็ดของโลกมากกว่าตัวโลกที่สมบูรณ์!
แต่เย่หยวนนั้นสัมผัสได้เลยว่าเมล็ดโลกนี้มันทรงพลังอย่างมากล้น
มันอยู่ในระดับ…เดียวกับสามสิบสามสวรรค์!
และในเวลานั้นเองที่ดาบเต๋าในมือของเขามันกลับกลายเป็นผลึกไป!
จากนั้นผลึกดาบนั้นมันก็พุ่งกลับเข้าร่างของเขาไป
เย่หยวนนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นเพราะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย!
กล้ามเนื้อทุกมัดของเขานั้นมันเหมือนได้เกิดใหม่!
เมื่อร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงจนสมบูรณ์แล้วเย่หยวนก็หันไปมองดูศิลาโลหิตอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายนั้นกลับดูเหมือนแค่มดปลวก
ตอนนี้หากเย่หยวนอยากสังหารนั้นมันไม่ต้องขยับมือเสียด้วยซ้ำไป!
“ข้า…”
เย่หยวนนั้นผงะไปเพราะเขาคิดว่าหลังจบสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะไปแล้วเขายังต้องมาจัดการปัญหากับศิลาโลหิตอีกครั้ง
แต่ตอนนี้เมื่อผ่านสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะมาได้จริงๆ แล้วเขากลับพบว่าอีกฝ่ายนั้นเล็กน้อยไร้ค่าใดๆ
นี่มันน่าตกตะลึงอย่างมาก
ความเปลี่ยนแปลงในร่างของเย่หยวนนี้มันประจักษ์แก่สายตาของทุกผู้คน
ศิลาโลหิตนั้นมองดูเย่หยวนที่มีขนาดร่างเท่ามนุษย์ทั่วไปแต่กลับรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายนั้นเป็นดวงดาวทั้งดวง
ความเปลี่ยนแปลงนี้มันทำให้เขาหวาดกลัวอย่างสุดหัวใจ
ในเวลานั้นเองที่จู่ๆ ห้วงมิติมันก็สั่นไหว
ในความมืดด้านหลังประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันปรากฏสามเงาร่างเดินออกมา
คนทั้งสามนั้นใส่ชุดคลุมยาวพร้อมด้วยเคราขาวยาวลากพื้น ดูราวกับเซียนที่เก็บตัวอยู่ในป่าเขาทำให้คนทั้งหลายไม่อาจจะสัมผัสถึงพลังของคนทั้งสามนี้ได้ชัดเจน
แต่มัน…สัมผัสได้เหมือนเทพลงมาจุติ!
ได้เห็นคนทั้งสามนั้นศิลาโลหิตก็เหมือนได้เห็นฟางเส้นสุดท้ายคุกเข่าลงร้องลั่น “ศิลาโลหิต ทูตแห่งเต๋าสวรรค์ขอคารวะเซียนทั้งสามท่าน! เจ้าบ้านี่มันก้าวผ่านสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะและคิดขึ้นปกครองเต๋าสวรรค์! โปรดลงโทษเจ้าโจรร้ายนี้มันด้วยเถิด!”
แม้ว่าเขานั้นจะไม่รู้ได้ว่าคนทั้งสามนั้นเป็นใครมาจากไหนแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งล้ำฟ้าดิน!
หากมันจะมีใครบนโลกนี้ที่หยุดเย่หยวนได้แล้วมันก็คงเป็นคนทั้งสามนี้!
คนทั้งสามนั้นไม่คิดสนใจเสียงร้องของศิลาโลหิตและเดินตรงเข้าไปหาเย่หยวน
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นและเตรียมตั้งท่ารับมือ
“หยวนซื่อคารวะท่านลุง!”
“หลิงเปาคารวะท่านลุง!”
“เต้าเต๋อคารวะท่านลุง!”
แต่เรื่องราวมันกลับแตกต่างจากความคิดของผู้คนเพราะเซียนทั้งสามคนนั้นกลับก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเย่หยวน ราวกับว่าเย่หยวนนั้นเป็นญาติผู้ใหญ่ของตัวเอง
ศิลาโลหิตนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายและขาอ่อนหมดแรงลงทันที เขานั้นไม่เหลือแรงที่จะยืนหยัดอีกต่อไป
สามเซียนล้ำฟ้านั้นกลับมาคุกเข่าเรียกเย่หยวนเป็นลุง!
เรื่องเช่นนี้…
หมี่เทียนและคนอื่นๆ เองก็ต่างเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกตะลึง
เย่หยวนนั้นเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน เขาคิดไปว่าคนทั้งสามนั้นคงมาเพื่อประกาศโทษแต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายกลับจะคุกเข่าลงกราบเขาแทน
“ลุง?” เย่หยวนขมวดคิ้วถามขึ้น
หยวนซื่อก้มหัวลงตอบ “ขอรับ เราสามพี่น้องนั้นคือผู้ที่ควบคุมดูแลสังสารวัฏให้แก่นายท่าน! ท่านลุงนั้นเป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบของสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะและกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ มีฐานะเท่าเทียมนายท่าน! พวกข้าน้อยย่อมจะต้องเรียกท่านว่าท่านลุง!”
เทพเจ้าแห่งการรังสรรค์!
คำพูดของหยวนซื่อนั้นมันทำให้คนทั้งหลายที่ได้ยินต้องผงะไป
เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้รู้ว่าคนทั้งสามนี้เป็นผู้ควบคุมเต๋าสวรรค์อยู่!
และเหนือจากพวกเขาไปนั้นมันยังมีเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์!
ศิลาโลหิตนั้นหมดแรงจะหายใจ!
‘ข้า…ข้าไปท้าทายตัวตนเช่นใดไว้กัน’
เย่หยวนเองก็ตกตะลึงอย่างมากเมื่อได้ยิน
แต่ความเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขานี้ตัวเขาย่อมจะรู้ดีว่าคนทั้งสามนั้นไม่ได้พูดโกหกบิดเบือนใดๆ
“เช่นนั้น…นายของเจ้าเล่า?” เย่หยวนถามขึ้นมา
“ฮ่าๆๆ น้องข้า ข้ารอเจ้ามานานแสนนานในที่สุดเจ้าก็ปรากฏขึ้นมาเสียที! เต๋าของข้า…จะไม่เดียวดายอีกต่อไป!” ก่อนที่เย่หยวนจะทันถามได้จบประโยคมันก็มีอีกร่างหนึ่งเดินออกมาจากความมืดมิดนั้น
ชายหนุ่มคนนี้ดูมีอายุไม่ห่างจากเย่หยวนมากมาย
แต่ว่าเขานั้นคืออะไรกันแน่?
เมื่อคนผู้นี้ก้าวออกมาเขาก็เดินเข้ามาจับมือเย่หยวนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแสนดีใจ
เย่หยวนนั้นมองดูคนผู้มาถึงนี้และกลับรู้สึกเหมือนได้เจอญาติ
ด้วยการตกผลึกของดาบเต๋านั้นร่างกายของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงและมันอยู่ในระดับที่แตกต่างจากคนทั่วไปนัก
เขานั้นอยู่เหนือทุกชีวิต!
แม้แต่ตอนที่พวกหยวนซื่อเดินออกมาเย่หยวนก็ยังไม่รู้สึกว่าพวกเขานั้นอยู่ในระดับเดียวกับตน
มีเพียงแค่ชายหนุ่มตรงหน้าเขานี้เท่านั้นที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นตัวตนในระดับเดียวกัน
“คารวะท่านพี่!”
แม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าใจอีกมากแต่เขาก็ยังตอบกลับไป
ชายหนุ่มคนนั้นมองหน้าเย่หยวนอีกครั้งพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง “ข้านั้นมีนามว่าหงจุน ข้านั้นเกิดขึ้นมาก่อนฟ้าดินทั้งหลาย! สามสิบสามสวรรค์นี้เองก็เป็นโลกที่ข้าสร้างขึ้นมา! เจ้านั้นมาจากภพต่ำสุดของมันแต่ตอนนี้เจ้ากลับได้กลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่ จากวันนี้ไปพวกเราจะนับถือกันเป็นพี่น้องไปตลอดกาล! ข้านั้นสร้างสามสิบสามสวรรค์นี้ขึ้นมาและตั้งสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะไว้หวังเพียงแค่ว่ามันจะมีใครก้าวเดินออกมากลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่! แต่มันผ่านมานับล้านๆ ปีก็ยังไม่เคยมีใครได้ขึ้นมาเป็นเทพเจ้าคนใหม่เสียที! แต่ในที่สุดวันนี้มันก็มีเกิดขึ้นมาจนได้!”
แน่นอนว่าการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนนั้นมันทำให้หงจุนดีใจอย่างมาก
เพราะในเวลาล้านๆ ปีที่ผ่านมานี้เขาเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์เพียงคนเดียว
ความสูงส่งนั้นมันหนาวเย็นและเดียวดายอย่างมาก!
แต่ตอนนี้เมื่อเย่หยวนได้ขึ้นมาครองบัลลังก์แล้วเขาย่อมจะเหมือนได้คนร่วมเส้นทาง
เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะผงะไปเช่นกัน
ที่แท้แล้วสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะนั้นมันกลับเป็นการทดสอบเพื่อให้ผู้คนได้ก้าวขึ้นมาเป็นเทพเจ้า!
เย่หยวนนั้นนึกย้อนกลับไปจึงถามขึ้นมา “หมายความว่าหากอยากจะขึ้นเป็นเทพเจ้าคนเราจะต้องเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตเท่านั้น?”
หงจุนพยักหน้ารับไปทันที “แน่นอน! เต๋าสวรรค์นั้นมันคือสิ่งที่ข้าสร้างไว้คอยดูแลความสงบเท่านั้น! หากเจ้าไม่กล้าจะขัดขืนเต๋าสวรรค์แล้วมีหรือที่จะกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้? เพราะเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์นั้นคือผู้สร้างกฎขึ้นมา! หากไม่มีความกล้าที่จะแหกกรงออกมาแล้วมันก็จะไม่มีทางกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้! แต่ว่าความกล้าเพียงอย่างเดียวมันก็ไม่พอจะเป็นเทพเจ้าได้ มันต้องมีกำลังที่มากพอด้วย! สามสิบสามทุกข์แห่งหายนะนั้นมันคือการทดสอบที่ข้าตั้งไว้เป็นด่านสุดท้าย! มีเพียงแค่คนที่ผ่านด่านนี้มาได้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์มาเป็นน้องข้า! แต่ในอดีตนับล้านๆ ปีที่ผ่านมานั้นยอดอัจฉริยะทั้งหลายกลับตายลงไปสิ้นเพราะมัน!”
ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องผงะไปที่แท้แล้วมันเป็นแค่การทดสอบ!
ความตกตะลึงในหัวใจของผู้คนในตอนนี้มันเกิดกว่าที่จะอธิบายออกมาได้!
เพราะไม่มีใครเคยคิดมาก่อนเลยว่าการบ่มเพาะนอกรีตนั้นมันจะเป็นหนทางชี้สู่สวรรค์ที่ถูกต้อง!
ผู้ทำตามสวรรค์เจริญยิ่งใหญ่ ผู้ท้าทายสวรรค์นั้นพบเจอแต่หายนะ มันกลายเป็นแค่เรื่องตลกของผู้อ่อนแอไปทันที!
“ที่แท้มันเป็นเช่นนั้น! ที่แท้เรื่องราวมันเป็นเช่นนี้! การท้าทายสวรรค์นั้นมันคือเต๋าที่แท้จริงของชีวิต!” บนท้องฟ้านั้นหยางชิงร้องลั่นขึ้นมา
จากนั้นมันก็เกิดแรงระเบิดรุนแรงออกมาจากร่างของเขา
พร้อมด้วยพลังในร่างของเขาที่ตกฮวบลงอย่างรวดเร็ว
เย่หยวนมองดูหยางชิงด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น
หงจุนนั้นได้แต่ต้องยิ้ม “เจ้าเด็กคนนี้มันกล้า!”
เย่หยวนนั้นกังวลอยู่ไม่น้อยเพราะว่าเส้นทางของผู้บ่มเพาะนอกรีตนั้นมันไม่ง่ายดาย!
มีเพียงแค่หนึ่งในพันยุคสมัย ในเวลากว่าล้านๆ ปีที่จะเกิดเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่อย่างเย่หยวนขึ้นมา!
เส้นทางของการบ่มเพาะนอกรีตนั้นมันเต็มไปด้วยขวากหนาม
พลาดไปเพียงนิดมันหมายถึงชีวิตทันที
คนมากมายตั้งแต่อดีตปัจจุบันนั้นพวกเขาจะไม่คิดเช่นหยางชิงนี้บ้างหรือ?
แต่มันไม่มีใครกล้าลอง!
เพราะตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมันมีเพียงแค่เย่หยวนคนเดียวที่ทำได้สำเร็จ!
ไม่นานนักพลังบ่มเพาะของหยางชิงก็จางหายไปหมดสิ้น ตอนนี้เขามีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นต้น!
เริ่มใหม่กันตั้งแต่ต้น!
“เย่หยวน ข้า หยางชิงผู้นี้คือคู่ปรับตลอดกาลของเจ้า! หากเจ้าเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้ ข้าก็เป็นได้!” หยางชิงชี้หอกขึ้นฟ้าและหัวเราะลั่นขึ้นมา
เย่หยวนได้แต่ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ได้ ข้าจะรอเจ้า! วันใดที่เจ้าได้เป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์แล้วเรามาสู้กันใหม่!”
“ฮ่าๆๆ”
หยางชิงหัวเราะลั่นก่อนจะเดินหายลับขอบฟ้าไป
เมื่อเห็นหยางชิงเดินหายลับไปนั้นเย่หยวนก็หันกลับมา “ท่านพี่ เย่หยวนมีเรื่องอยากจะขอร้อง!”
หงจุนนั้นยกมือขึ้นเปิดห้วงมิติด้านหลังด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นมันก็มีเงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากห้วงมิติ
เมื่อได้เห็นคนผู้นี้ตัวเยวี่ยเมิ่งลี่ก็ยิ้มกว้างวิ่งเข้าไปกอดนางทันที
“พี่หลินเสวีย! พี่…พี่กลับมาแล้ว!” น้ำตาไหลลงมานองหน้านางทันที
เมื่อเย่หยวนได้เห็นมู่หลินเสวียอีกครั้งจิตใจของเขาก็ต้องสั่นไหว
ความยากลำบากของเขาทั้งหมดนั้นมันเพื่อมู่หลินเสวีย!
หงจุนนั้นยิ้มอ่อนๆ ขึ้นกล่าว “ตอนที่วิญญาณของเจ้าแยกตัวออกไปเรียนรู้ยอดเต๋าจากทุกมุมสวรรค์นั้นข้าก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าคงก้าวขึ้นมาเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้แล้ว! เพราะฉะนั้นตอนที่สงครามเผ่าเลือดเริ่มต้นขึ้นข้าจึงได้ไปเอาตัวนางมาไว้ในที่ปลอดภัย นอกจากนั้นข้ายังได้ซ่อมแซมรากวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ของนางให้แล้วด้วย! นี่ถือว่าเป็นของขวัญพบหน้ากันจากพี่เจ้าแล้วกัน!”
เย่หยวนหันไปมองหงจุนพร้อมยกมือขึ้นคารวะทันที “ขอบคุณท่านพี่!”
โลกนี้มันถูกสร้างขึ้นมาจากมือหงจุนแต่เขาก็ไม่คิดจะเข้าไปแทรกแซงความเป็นไปของโลกใดๆ
หากมิใช่เพราะเย่หยวนแล้วเขาย่อมจะไม่คิดปกป้องมู่หลินเสวียแม้แต่น้อย
เย่หยวนมองดูหน้าของมู่หลินเสวียแต่ไม่รู้จะพูดกล่าวอะไรออกมา
มู่หลินเสวียนั้นยังคงสีหน้าเย็นเยือกไว้เช่นเดิมแม้จะได้เจอเย่หยวนอีกครั้งก็ตาม
“หลิน…หลินเสวีย” ตอนนี้ไม่รู้เพราะอะไรแต่เสียงของเย่หยวนนั้นมันกลับสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
แต่วินาทีจากนั้นมู่หลินเสวียก็ยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างหวานหอมราวกับรอยยิ้มนั้นมันต้องการจะละลายโลกทั้งใบลง
“ยินดีด้วยเย่หยวน!”
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นด้วยความรู้สึกผิดมากมายที่บ่มอยู่ในอก เขาต้องร้องขึ้นกล่าว “หลินเสวีย ข้าขอโทษ! ข้า…”
มู่หลินเสวียนั้นยิ้มตอบกลับไป “เจ้าไม่ต้องขอโทษข้าหรอก ลี่เอ๋อน้องข้า ข้าขออวยพรให้พวกเจ้าทั้งสองรักกันไปชั่วนิรันดร์เถอะ!”
เยวี่ยเมิ่งลี่ที่ได้ยินคำพูดนั้นต้องผงะอ้าปากค้างก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ “พี่หลินเสวีย พี่…พี่เข้าใจผิดแล้ว! ข้าขอโทษ…”
แต่มู่หลินเสวียนั้นกลับมือขึ้นลูบหัวเยวี่ยเมิ่งลี่ด้วยรอยยิ้มบางๆ “นังเด็กโง่ ข้านั้นเห็นและรู้ถึงทุกสิ่งอย่างที่เจ้าทำเพื่อเย่หยวน เจ้านั้นไม่ต้องขอโทษใครทั้งสิ้น เจ้าไม่ต้องรู้สึกผิดใดๆ แม้แต่น้อย คนที่ข้ารักนั้นมันคือจี้ฉิงหยุน มิใช่เย่หยวนคนนี้! เขานั้นเป็นของเจ้า เขานั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้า!”
หลังพูดจบนางก็หันไปหาหงจุนอย่างไม่รอให้เยวี่ยเมิ่งลี่ได้ตอบกลับ “ข้าน้อยขอให้ท่านหงจุนช่วยส่งข้ากลับเข้าสู่สังสารวัฏด้วยเถอะ!”
เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องผงะร้องลั่นขึ้นมา “ไม่ได้นะ!”
มู่หลินเสวียนั้นหันกลับมามองหน้าเย่หยวน
แม้ว่าตอนนี้เย่หยวนจะเป็นถึงเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ไปแล้วแต่สายตาของมู่หลินเสวียนั้นมันกลับทำให้เขารู้สึกใจหายวาบไป
“เจ้า…ทำไมกัน!” เย่หยวนได้แต่ยิ้มแห้งๆ ถามออกไป
มู่หลินเสวียตอบกลับมาเบาๆ “เจ้าเองก็น่าจะรู้ว่าต่อให้เจ้าจะเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ไปแล้ว มันก็ยังมีบางสิ่งที่เจ้าไม่อาจควบคุมได้!”
หงจุนที่ได้ข้างนั้นต้องกล่าวขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า “ลองถามตัวเองดูว่าสิ่งใดคือความรักและชีวิตกับความตาย! เจ้าพูดถูกแล้วต่อให้จะเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์นั้นมันก็ยังมีหลายสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้! อ่า เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่?”
มู่หลินเสวียพยักหน้ารับ “ข้าคิดมาดีมากแล้ว!”
หงจุนพยักหน้ารับ “ได้ เช่นนั้นในเมื่อเจ้าอยากจะไปข้าก็…จะไปส่งเจ้าให้แล้วกัน!”
จากนั้นมันก็ปรากฏหลุมดำขึ้นมาบนท้องฟ้า
เย่หยวนนั้นสัมผัสได้เลยว่านี่มันคือยอดเต๋าแห่งวังสารวัฏ
แน่นอนว่านี่มันย่อมจะเป็นประตูแห่งการเกิดใหม่!
มู่หลินเสวียก้มหัวลงกล่าว “ขอบพระคุณท่านหงจุน!”
พูดจบนางก็เดินเข้าไปในหลุมดำนั้น
เยวี่ยเมิ่งลี่ได้แต่ต้องวิ่งเข้ามาเขย่าตัวเย่หยวน “พี่หยวน ทำไมพี่ไม่หยุดนางไว้?”
เย่หยวนถอนหายใจยาวตอบกลับไป “ข้าหยุดไม่ได้!”
“เช่นนั้น…เราจะทำอย่างไรกันดี?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้านั้นเคยได้ไปเกิดใหม่ครั้งหนึ่งและนางก็ได้ไปเกิดใหม่แล้ว ครั้งนี้…มันคงถือว่าเราเท่าเทียมกันแล้ว? ลี่เอ๋อหลังจากเราแต่งงานและจัดการเรื่องราวทั้งหลายจบแล้วเราจะไปออกตามหานางกัน!”
…
ทุกสิ่งอย่างมันสงบลงไปแต่ศิลาโลหิตนั้นกลับต้องคุกเข่าก้มหัวโขกพื้นต่อหน้าเย่หยวน
“เฒ่า…เฒ่าผู้นี้มีตาหามีแววไม่ไปลบหลู่ท่านเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์! โปรด…ได้โปรดเถิดท่านเทพ ช่วยไว้ชีวิตข้าด้วย!” ศิลาโลหิตกล่าวขึ้นมาด้วยตัวสั่น
เย่หยวนมองดูเขาอย่างไม่คิดสงสารแม้แต่น้อย “ทำเรื่องชั่วช้าไว้มากมันก็มีแต่ต้องรอกรรมตายสนอง! ข้าบอกเจ้าไว้แล้วว่าสวรรค์นั้นจะไม่ทนรับตัวเจ้าไว้! เจ้าคิดว่าแค่ควบคุมเต๋าเดียวได้แล้วจะควบคุมฟ้าดินได้หรือ?”
“ข้า…ข้า…คนร้ายผู้นี้จะขอกลับตัวรับใช้สวรรค์ไปตลอดชีวิต!” ศิลาโลหิตร้องขึ้นอย่างลนลาน
เขานั้นวางแผนไว้นานนับแสนๆ ปีกว่าจะมีวันนี้ได้
เขายังไม่อยากตาย!
แต่ว่าเย่หยวนย่อมไม่คิดจะปล่อยเขาไว้และยกมือขึ้นมาปัดเบาๆ เหมือนแค่ปัดเศษฝุ่นแต่ร่างของศิลาโลหิตมันก็หายไปจากโลกหล้าทันที
หวูเทียนและหลุนฮวยนั้นต้องนั่งคุกเข่าด้วยตัวสั่นเทิ้มอย่างไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
เย่หยวนมองดูคนทั้งสองก่อนจะกล่าวขึ้น “จากวันนี้ไปพวกเจ้าจงอย่าได้ขึ้นอำนาจปกครองใดๆ อีกและห้ามคิดจะเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ให้สุดด้วย! ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้เจ้าจะเปิดได้เจ้าก็จะได้มาเจอกันข้าคนนี้!”
คนทั้งสองนั้นต้องพยักหน้ารับอย่างไม่มีหยุดเหมือนนักโทษที่ได้รับการอภัยโทษ
เมื่อจบเรื่องราวตรงหน้าไปแล้วหงจุนนั้นก็ยกมือขึ้นมาเปิดใช้งานกลไกสวรรค์ซ่อมแซมสามสิบสามสวรรค์ให้กลับมาเป็นปกติในพริบตา
เมื่อซ่อมแซมเสร็จสิ้นแล้วแน่นอนว่าสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมันย่อมจะกลายเป็นสวรรค์ระดับสูงที่สุดในสามสิบสามสวรรค์ไป
“น้องข้า แม้ว่าเจ้านั้นจะรับรู้ถึงการสร้างโลกได้แล้วแต่เจ้านั้นยังไม่รู้วิธีทำมัน เจ้ากลับไปวังสวรรค์กับข้าก่อนแล้วข้าจะสอนวิธีการสร้างสวรรค์ให้แก่เจ้า! ส่วนญาติหรือสหายของเจ้าทั้งหลายนั้นค่อยรอให้เจ้าสร้างสวรรค์แรกได้ก่อนแล้วค่อยพาพวกเขาไปอยู่ที่แห่งนั้นก็ย่อมได้!” หงจุนกล่าวขึ้น
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ย่อมได้พี่หงจุน เพียงแค่ก่อนจะเริ่มเรื่องนั้นกันข้าขอกลับไปจัดการเรื่องราวในโลกของตัวเองก่อนจะได้หรือไม่?”
หงจุนพยักหน้ารับ “ย่อมได้ เช่นนั้นข้าจะเปิดประตูวังสวรรค์ไว้รอเจ้าเสมอ!”
พูดจบหงจุนนั้นก็เดินผ่านประตูแห่งชีวานิรันดร์ไป
วังสวรรค์นั้นมันอยู่หลังประตูแห่งชีวานิรันดร์นี้
แต่ว่าทั้งวังนั้นมันมีเพียงแค่หงจุนอาศัยอยู่คนเดียวอย่างเดียวดาย!
แต่ตอนนี้เย่หยวนยังมีเรื่องให้ทำอีกมาก
อย่างเช่นกันคืนชีพให้พ่อของเขาจี้เฉินหยัง
วันนี้มันเป็นวันที่จี้เฉินหยังได้คืนชีพกลับมา
และด้วยความสามารถของเย่หยวนในตอนนี้เขาย่อมจะฟื้นคืนความทรงจำให้จี้เฉินหยังได้ไม่ยาก
ในภพเบื้องล่างนั้นตระกูลเย่ได้กลายเป็นตระกูลใหญ่มีตระกูลสาขามากมายเกินนับได้
แต่ก่อนนั้นเย่หยวนได้ผนึกโลกนี้ไว้ไม่ให้มีใครสามารถบรรลุขึ้นไปภพเบื้องบนได้
ในบ้านตระกูลเย่นั้นเย่หยวนได้พบหน้าน้องสาวและหนุ่มสาวรุ่นใหม่ของตระกูลเย่มากมาย
แต่เขานั้นยังไม่กล้าจะบอกพูดความจริงออกไป
ทุกสิ่งอย่างมันต้องรอให้การสร้างสวรรค์ของเขาเสร็จสิ้นก่อน
…
ในบ้านตระกูลเย่นั้นในที่สุดเย่หยวนก็ได้บอกเรื่องราวความจริงเกี่ยวกับตัวเองให้เย่ฮานและเหรินหงหลินฟัง
ก่อนนั้นเขาไม่กล้าจะบอกเพราะกลัวพวกท่านทั้งสองจะรับไม่ได้
แต่ตอนนี้มันมิใช่แล้ว
เขานั้นได้ช่วยฟื้นคืนชีพตัวเย่หยวนที่แท้จริงผู้ที่เข้าสู่สังสารวัฏไปแล้วให้แก่เย่ฮานและเหรินหงหลินพร้อมคืน ความทรงจำทั้งหลายให้กลับมาสมบูรณ์
ในที่สุดบ้านตระกูลเย่ก็กลับมาพร้อมหน้ากันจริงๆ เสียที
หลังจากที่คืนชีพให้แก่จี้เฉินหยังได้แล้วในที่สุดเย่หยวนก็ได้กอดพ่อแม่พร้อมหน้าเป็นครั้งแรก
จากนั้นเย่หยวนก็ได้ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในโลกนั้นไปอีกยาวนานนับร้อยปี
หลังจากนั้นหนึ่งร้อยปีในที่สุดเย่หยวนก็ตัดสินใจพาเยวี่ยเมิ่งลี่ออกเดินทางตามหามู่หลินเสวียที่ได้ไปเกิดใหม่ ต่อไป…
…………………………
จบบริบูรณ์