ลักษณะท่าทางของหลินหลี่ทำให้เย่เทียนโกรธมากจนกัดฟันแน่น เธอรู้สึกราวกับว่าเธอได้รับผลกระทบจากคลื่นสมองที่เสียหาย แต่การป้องกันทางจิตใจของเธอก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่ ‘น่ารังเกียจจริงๆ!’
วันรุ่งขึ้นเย่ฉางนำจางเจิ้งเฉียงไปหาอาจารย์ของพวกเขา หลังจากพูดจาชักจูงไปสักพัก พวกเขาก็ประสบความสำเร็จเกี่ยวกับการจัดการขั้นตอนในการสมัครเข้าเรียนของฟางถง
เมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้น เย่ฉางและคนอื่นๆพากันเข้าสู่สนามรบ แต่ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปรบกับอาณาจักรเหล็ก แต่พวกเขาถูกส่งไปยังสุดขอบป่าของชายแดนเพื่อต่อสู้กับอาณาจักรเอลฟ์แทน NalanPureSoul ก็ถูกส่งไปยังศึกครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ส่วน CloudDragon, LordAsked และ ThornyRose ถูกส่งไปสู้รบกับอาณาจักรเหล็ก
“โย่ว! ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ น้องชาย PureSoul…” เย่ฉางเห็น NalanPureSoul อยู่ใกล้ ๆ และโบกมือให้
“พี่ชาย PaleSnow สงครามครั้งนี้การต่อสู้ส่วนใหญ่จะต้องต่อสู้กับ MistyVeil และกิดด์ Falling Star…” เมื่อ NalanPureSoul พูดถึงกิดล์ Falling Star เขาก็เหลือบมองไปที่ SpyingBlade
“ไม่ต้องมองมาที่ฉันเลย…” SpyingBlade ยักไหล่
“อ่อ เป็นคุณป้าก้นกระชับและน้องสะใภ้ในอนาคตของฉันนี่เอง” เย่ฉางลูบคางและพยักหน้า “เราสามารถทำทุกอย่างเพื่อจัดการกับคุณป้าก้นกระชับได้ แต่เราควรจะอ่อนโยนกับน้องสะใภ้สักหน่อยดีกว่า”
SpyingBlade รู้สึกท้อแท้กับคำว่า ‘น้องสะใภ้’ ถึงแม้ว่าเขาจะเรียกว่าเย่ฉางว่าหัวหน้าทีมก็ตาม แต่เขาก็อายุมากกว่าเย่ฉางซะอีก!
ทุกคนมองไปที่เย่ฉางด้วยการแสดงออกแปลกๆ ทำไมคำพูดของเขามันฟังดูแปลกๆกันล่ะ!
เย่ฉางรวบรวมคนที่มีปืน Owl No.2 ทั้ง 12 คนเข้าด้วยกัน จากนั้นก็จัดตั้งเป็นหน่วยซุ่มยิงขึ้นมา NalanPureSoul มอบหมายกองทัพให้กับจางเจิ้งเฉียงและคนอื่นๆดูแล จากนั้นพวกเขาจึงเข้าไปในป่า
เมื่อเข้ามาในป่า ค่าสถานะของเย่ฉางและความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นมามาก สิ่งนี้ช่วยให้เขาก้าวเข้าไปสอดแนมอย่างระมัดระวังได้สะดวกสบาย แรนเจอร์ที่เหลือทั้งหมดทำได้เพียงแค่มองดูเย่ฉางเท่านั้น ด้วยการก้าวแต่ละครั้ง เขากระโดดระหว่างยอดไม้ไปมากกว่า 10 เมตร
เย่ฉางเรียกเจ้าฟ้าน้อยออกมา และปล่อยให้มันสำรวจพื้นที่ด้านหน้า ด้วยสกิล [Eagle Eyes] เขาเห็นคนที่เขาสงสัยว่าจะเป็น MistyVeil จากระยะไกล เธอกำลังนำทีมนักธนูขึ้นไปเนินเขา ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะเตรียมการซุ่มโจมตี เพื่อที่ไม่ให้ถูกจับได้ เขาจึงรีบออกไปทางซ้าย และสั่งให้เจ้าฟ้าน้อยบินต่ำไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง ในตอนนี้กงซุนเฉียนป็นผู้นำกองกำลังฝ่ายซ้าย เมื่อเขายกเลิก [Eagle Eyes] เขาก็สั่งเจ้าฟ้าน้อยให้ส่งเสียงแจ้งเตือนจากด้านบนแทน จากนั้นเขาก็ไปถ่ายทอดสถานการณ์โดยประมาณให้แก่ NalanPureSoul
ความสามารถของสกิล [Eagle Eyes] เหมาะสำหรับการสงครามประเภทนี้เป็นอย่างมาก การรู้เป้าหมายและความเคลื่อนไหวของศัตรู จะทำให้คุณมีโอกาสที่จะได้รับชัยชนะสูงขึ้นมาก มันเป็นเฉกเช่นเดียวกับคำพูดที่ว่า ‘รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง’ ไม่มีอะไรต้องพูดให้มากความเกี่ยวกับทีมที่นำโดยจางเจิ้งเฉียง ภายใต้เอฟเฟคจากออร่าของเขา กำลังการสู้รบของคนในทีมเพิ่มขึ้นมามากมายมหาศาล
“พี่ชาย PaleSnow, SpyingBlade, หลินหลี่ ทุกคนช่วยพาคนไปจัดการกับ MistyVeil จากการซุ่มโจมตีบนเนินหน่อยนะ ปล่อยการต่อสู้ตรงหน้าให้กับฉันเอง สำหรับส่วนที่เหลือของจุดซุ่มโจมตี พี่สาวของฉันจะเป็นคนพาทีมไปจัดการพวกเขา ลำดับความสำคัญของพวกเราก็คือจัดการพวกโจมตีระยะไกลออกไปก่อน LooseCloud! LooseCloud! LooseCloud!” NalanPureSoul เริ่มจัดเตรียมกองทัพ และแผนการต่างๆ แต่เมื่อเขาหันไปมอง LooseCloud ที่กำลังมึนงง เขาจึงเรียก LooseCloud สองสามครั้ง แต่ก็ไม่มีการตอบรับกลับมา
NalanMoon ตบไปที่หัวของเขา “หัวหน้ากิลด์กำลังเรียกนายอยู่นะ”
LooseCloud พยายามปลุกตัวเองขึ้นมา แต่หน้าผากของเขายังคงแสดงร่องรอยของความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน เขามองไปที่เย่ฉางด้วยท่าทางไม่พอใจ ทุกคนที่เห็นฉากนั้นก็ไม่ได้กล่าวโทษเขา เพราะเขาเกลียดพี่ใหญ่วีรบุรุษเป็นอย่างมาก
เย่ฉางรู้สึกถึงการจ้องมองที่รุนแรง ดังนั้นเขาจึงยิ้มออกมาอย่างคนใจดี รอยยิ้มของเขาราวกับจะบอกว่า ‘ฉันทำผิดไปแล้ว แต่ไม่ต้องมาขอบคุณฉันหรอกนะ’
“นายต้องเป็นคนรับผิดชอบดูแลเนินเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อจัดการกับพวกเขา ถ้าพวกเขาพยายามที่จะวนไปรอบๆ และมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ให้แจ้งฉันรู้โดยทันที เข้าใจใช่ไหม?” NalanPureSoul ถอนหายใจออกมา
ด้วยความช่วยเหลือของเจ้าฟ้าน้อย เย่เทียนก็ได้ร่างแผนที่ของพื้นที่บริเวณนี้จนเสร็จสมบูรณ์แล้ว เธอยืนขึ้นและพูดว่า “หนูเชื่อว่า MistyVeil กำลังอยู่ในความระมัดระวัง พ่อคะ พ่อสามารถใช้ภูมิประเทศที่ต่ำในทางฝั่งตะวันตกเพื่อโอบล้อมเธอ และเปิดฉากโจมตีโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวได้นะคะ พวกเขาจะไม่สามารถสังเกตเห็นสถานที่ตรงนั้นได้ในทันที หัวหน้ากิลด์ PureSoul คุณสามารถส่งนักดาบและพลธนูบางส่วนมาโจมตี และติดตั้งกับดักบางส่วนได้ เมื่อทีมอื่นพบว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เอื้ออำนวย คุณสามารถจัดการศัตรูในที่แห่งนั้น เพื่อตอบโต้การโจมตีก่อนได้ ภูมิประเทศของที่นี่เหมือนกับน้ำเต้า มันง่ายที่จะเข้ามา แต่ยากที่จะออกไป”
NalanPureSoul ยินดีตอบรับข้อเสนอของเย่เทียน เธอเป็นคนที่ทำให้ MistyVeil พ่ายแพ้ในด้านกลยุทธ์ นักยุทธศาสตร์ประเภทเคาน์เตอร์ที่ดีในการปกป้อง เคาน์เตอร์การโจมตี และตอบโต้การซุ่มโจมตี เธอเข้าใจถึงสถานการณ์ของสนามรบได้อย่างเหลือเชื่อ NalanPureSoul ได้แต่งตั้งเย่เทียนขึ้นเป็นหัวหน้าที่ปรึกษาชั่วคราว และคอยใช้ความช่วยเหลือจากเธอ เพื่อปรับใช้ตามรูปแบบของสถานการณ์
“กุญแจที่สำคัญที่สุดในการโจมตีครั้งนี้ คือการโจมตีที่คาดไม่ถึงและต้องรวดเร็ว สิ่งต่างๆอาจเปลี่ยนแปลงไปได้ ถ้าเรายังชักช้าอยู่ เอาล่ะ! รีบไปกันเถอะ” เย่ฉางนำหน่วยซุ่มยิงของเขาจากไป SpyingBlade และหลินหลี่นำทีมไฟทเตอร์, นักเวท และวอร์ล็อคเกือบพันคนไปกับเขา เพื่อสร้างทีมโจมตีที่แสนเซอร์ไพรส์ออกมา จากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆเริ่มเดินไปทางทิศตะวันตก
ในขณะเดียวกัน NalanPureSoul ก็นำคนของเขาไปที่แนวหน้า จางเจิ้งเฉียงกำลังบัญชาการกองทัพ เขาเอามือกอดอกในขณะที่นั่งอยู่บนหลังของคางคกสีขาวขนาดใหญ่ ด้วยการก้าวเพียงครั้งเดียวของคางคก ถึงแม้ว่าจะดูแปลก แต่เสียงสั่นสะเทือนของพื้นดิน ก็ทำให้ทุกคนสั่นสะท้านไปถึงหัวใจเลยทีเดียว โดยเฉพาะหลายคนที่เคยเข้าไปที่ถ้ำแห่งความมืด และถูกบดขยี้โดยคางคกจนตายไปหลายครั้ง!
NalanPureSoul มองไปที่สัตว์เลี้ยงที่เป็นฟินิกซ์ของเขา ที่ชื่อว่าเจ้าลูกเจี๊ยบ และถอนหายใจออกมา ‘ถ้าเพียงแค่มีโอกาสที่จะตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงได้อีกครั้งล่ะก็ … เฮ้อ’ เขาทำได้เพียงแต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นเท่านั้น
กลุ่มปาร์ตี้สอดแนมได้ยินเสียงบางอย่างที่ผิดปกติดังมาจากด้านหน้า พวกเขาเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นคางคกตกลงมาบดขยี้ผู้คนไปเป็นจำนวนมาก ตามมาด้วยการยิงปืนใหญ่น้ำออกมา สิ่งที่ NalanPureSoul รู้สึกตกใจมากที่สุดก็คือ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคางคก แต่มันก็รู้เทคนิคการต่อสู้บางอย่าง ฝ่ามือขนาดใหญ่ของมันโจมตีออกไปด้วยท่วงท่าพื้นฐานมาก ที่บนตัวของมัน จางเจิ้งเฉียงไม่ได้ขยับตัวเคลื่อนไหวไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว แต่หน่วยสอดแนมของฝ่ายศัตรูประมาณ 20 คนก็ถูกสังหารไปเรียบร้อยแล้ว พวกคนที่อยู่ข้างหลังเขา เริ่มส่งเสียงเชียร์ออกมา แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือว่า กว่าที่เจ้าคางคกน้อยจะเก่งกาจแบบนี้ได้ มันต้องอดทนผ่านความเจ็บปวดที่แสนทรมานมามากขนาดไหน ทุกสองสามวันมันจะโดนทำโทษโดยการถูกผูกติดกับไม้เท้าเหล็ก แล้วโดนทาด้วยเจลสไลม์และนำไปย่างไฟ มันได้รับความเจ็บปวดจนจุดสีเทาบนตัวของมันแปรเปลี่ยนไปเป็นสีขาว ที่เลวร้ายที่สุดก็คืออาหารที่มันกิน ทุกครั้งที่มันคิดถึงการกินอาหาร คางคกน้อยที่น่าสงสารตัวนี้ก็จะสั่นไปทั่วทั้งตัว
แสงเรืองรองสีขาวปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของคางคก มันเป็นแสงแห่งการฟื้นฟู และการใช้สกิล [Healing Light] ใส่ตัวเอง จนมันปลอดภัยอย่างสมบูรณ์
นักบวชหลายคนหลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา นักบวชที่ไม่สามารถแม้แต่จะใช้สกิล [Healing Light] ได้ ถูกมองโดยเพื่อนร่วมทีมของพวกเขาด้วยความชิงชัง “แม้แต่คางคกของพี่ใหญ่จ้าวแห่งเพชรก็ยังใช้ [Healing Light] ได้ แต่นายไม่สามารถใช้ได้งั้นหรือ? เฮ้อ…”
“…”
เมื่อสูญเสียการติดต่อกับหน่วยสอดแนม กงซุนเฉียนก็รู้ได้ทันทีว่า การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เธอจึงออกคำสั่งให้ทุกคนเตรียมพร้อม จากนั้นเธอก็หันไปมองที่ซ่อนตัวทางทิศตะวันตก ขณะที่พวกเธอปะทะกันที่นี่ MistyVeil จะให้การสนับสนุนจากระยะไกล แล้วจากนั้นเธอก็จะได้เปรียบในการต่อสู้ครั้งนี้ไม่มากก็น้อย สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือสงครามกองโจร อย่างไรก็ตาม เธอรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีภายในใจ สามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะอยู่ที่เมืองแบล็กร็อค ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเข้าร่วมสงครามครั้งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่า เขาจะอยู่ในสนามรบของอาณาจักรเหล็ก หรืออยู่ที่นี่กันแน่
ได้ยินเสียงเหยี่ยวร้องดังขึ้นมา MistyVeil เงยหน้าขึ้นมอง และเห็นเหยี่ยวสีฟ้าที่บินวนเหนือหัวของเธอ เหยี่ยวตัวนี้ดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก เธอนึกย้อนไปถึงสงครามครั้งก่อน ซึ่งเป็นตอนที่เย่ฉางได้ต่อสู้กับ Flame Emperor และเอาชนะอาณาจักรเหล็กได้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เหยี่ยวสีฟ้าก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ‘มันเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา!! เขาอยู่ในสนามรบแห่งนี้! แย่แล้ว! นี่เป็นการซุ่มโจมตี! นี่ต้องเป็นแผนของเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นอย่างแน่นอน!’