“ก็ได้ ก็ได้ ตอนนี้ฉันได้เตรียมอาหารไว้จำนวนหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ยังมีซุปในหม้อไอน้ำและของทอด ไปกันเถอะ ไว้ค่อยคุยกันหลังจากที่เรากินเสร็จเรียบร้อยแล้ว” หลังจากสบสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธของ FrozenCloud เย่ฉางก็โบกมือ และชี้ไปที่หม้อไอน้ำ
“เพื่อน เอ่อคือว่า… บอสก็ตายไปแล้ว ฉันคิดว่ามันไร้ประโยชน์ถ้าเรากินอาหารนี่?” จางเจิ้งเฉียงพยายามเปลี่ยนใจ
“ใครบอกกัน?! เราต้องกินอาหารทันทีหลังจากที่อาหารถูกปรุงเสร็จ เพื่อให้รสชาติที่อร่อยยังคงอยู่! โดยเฉพาะซุปในหม้อไอน้ำนี่! ไปกันเถอะ! เมื่อเราเอาชนะบอสได้แล้ว เราก็ต้องกินเพื่อเติมพลัง เราสามารถพูดคุยกันในขณะกินอาหารได้” เย่ฉางพูดอย่างไม่สบอารมณ์
อูนากลอกตา ‘โอ้ ได้โปรดเถอะ ราวกับว่าเรายังคุยกันได้หลังจากที่ได้กินอาหารของนาย! เรามักจะหมดสติ และล้มลงบนพื้นเสมอ’
ทุกคนตามเย่ฉางไปยังสถานที่เดิมของพวกเขาอย่างไม่เต็มใจ และยังคงกินซุปในหม้อไอน้ำ และของทอดที่พวกเขายังกินไม่หมด สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็คือซุปนั้นรสชาติค่อนข้างดี พวกเขาตกตะลึงหลังจากเพิ่มสิ่งที่น่าขยะแขยงลงไปมากมาย แต่ก็ไม่มีเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่แปลกประหลาด ทุกคนเริ่มพูดคุยกันอย่างมีความสุข NalanPureSoul โยนอาหารทอดหนึ่งชิ้นใส่เข้าในปากของเขาด้วยท่าทีที่ผ่อนคลาย ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ซีดลง ท้องของเขารู้สึกเจ็บปวด และมีการระเบิดเล็กๆอยู่ในปากของเขา อย่างไรก็ตามเขาสามารถต้านทานมันได้เล็กน้อย ก่อนที่จะชักกระตุกในเวลาต่อมา
“ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะเป็นเวลาว่างของทุกคน ไปเตรียมสิ่งที่พวกนายต้องเตรียม และรอฉันโทรหาก็พอ” คำพูดของเย่ฉางทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลาย โดยเฉพาะ OldWang, AV, FrozenCloud และคนอื่นๆ ‘ในที่สุดเราก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้สองสามวัน’
เย่เทียนรีบกลับไปที่เมืองเทพธิดาเพื่อเตรียมทีมงานก่อสร้าง และขนย้ายคริสตัลแสงจันทร์ ในขณะเดียวกันเย่ฉางก็รู้สึกเบื่อ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะออกไปต่อสู้กับมอนเตอร์บางชนิด เพื่ออัพเลเวลหรือเดินเล่นไปรอบๆ
ทะเลสาบจันทร์ครึ่งเสี้ยว
เฉาเฉียงหยูเหงื่อออกจากการฝึกฝน เธอนั่งอยู่ที่ริมทะเลสาบ และหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดเหงื่อ จากนั้นเธอก็นึกถึงการเป็นแชมป์ในการแข่งขัน เธอรู้สึกขอบคุณสำหรับคำแนะนำ และคำสอนสั่งของเย่ฉาง และอาจารย์ลุงด้วยเช่นกัน เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เธอก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา
“โย่ว วันนี้อาจารย์ลุงของเธอมีเวลาว่างแล้ว ดังนั้นเขาจึงมาที่นี่เพื่อฝึกซ้อมกับเธอ”
เฉาเฉียงหยูนั้นเปียกโชกไปด้วยเหงื่อที่เย็นเยียบทันที ในขณะที่ชายคนหนึ่งเดินมาหาเธอพร้อมกับยิ้มเยาะ “เข้ามามาเลย~ ถึงเวลาที่อาจารย์ลุงจะฝึกฝนให้เธอแล้ว”
“โอ๊ย! เบาหน่อย! เบาๆหน่อย! กระดูกของฉันจะหักแล้ว! อาจารย์ลุงจะไม่ให้ฉันชนะบ้างเลยสักครั้งงั้นเหรอ?”
“ไม่มีทาง! ฉันทำไม่ได้! มันเป็นความรับผิดชอบของฉัน”
“……”
“ฉันไม่ต้องการยอมรับ แต่… บิงโก! เธอพูดถูก! รูปแบบมังกรฟ้า! ฝ่ามือเพลิงสายฟ้าทมิฬ!”
“อาจารย์! อาจารย์ลุงบ้าไปแล้ว!”
“ผ่อนคลายร่างกายของเธอ และขยายประสาทสัมผัสทั้งหมดของเธอเพื่อตอบโต้ ไม่เลว ดูเหมือนว่าเธอจะชำนาญเทคนิคคลื่นกระแทกแล้ว แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ฮี่ ฮี่ หมัดนี้… ดูเหมือนจะเจ็บมากเลยนะนั่น อาเฉียง โจมตีเธอให้เร็วขึ้นอีก อย่าปล่อยให้เธอมีโอกาสหายใจ”
ไม่นานหลังจากนั้นเฉาเฉียงหยูผู้ที่ได้รับบาดแผลเต็มตัวก็ได้รับยาจากเย่ฉาง เธอรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเห็นจางเจิ้งเฉียงมองดูเธออย่างมีความสุข เธอรู้สึกว่าหน้าอกของเธอหนักขึ้น ‘ทุกครั้งที่อาจารย์ลุงมาหาฉัน และพบเจอฉัน ฉันก็มักจะพ่ายแพ้โดยมีสภาพที่ย่ำแย่อยู่เสมอ เขาเป็นพวกโรคจิตงั้นเหรอ? ฉันพนันได้เลยว่าเขาต้องไม่มีแฟนอย่างแน่นอน!’ เมื่อนึกถึงการทรมาน ตั้งมากมาย ทั้งการเปลี่ยนแปลงแรงโน้มถ่วง กระแสไฟฟ้า และการเผาไหม้ เธอก็ถามออกมา “อาจารย์ลุง เทคนิคที่อาจารย์ลุงใช้ตอนนี้ … มันเป็นเทคนิคมังกรสวรรค์ของตระกูลฉินใช่ไหมคะ?”
จางเจิ้งเฉียงส่ายหัว “ไม่ใช่ นี่คือเทคนิคหยินหยาง”
“โอ้ ฉันเข้าใจแล้ว งั้นมันก็ไม่ใช่เทคนิคมังกรสวรรค์” เฉาเฉียงหยูพยักหน้า ‘ดูเหมือนว่าเทคนิคหยินหยางจะเป็นศิลปะการต่อสู้หลักของทหาร และน่าจะมีที่มาเดียวกันกับเทคนิคมังกรสวรรค์ แต่มันซับซ้อนและยากที่จะเรียนรู้มากกว่า’ ทันใดนั้นความเจ็บปวดก็พุ่งเข้าสู่ร่างของเธออีกครั้ง “อ๊าก เจ็บ! เจ็บ!”
“มันเจ็บงั้นเหรอ?” เย่ฉางกังวล
“ใช่” เฉาเฉียงหยูพยักหน้า
“ดี” เย่ฉางเสริมพลังเข้าไปเพิ่มด้วยรอยยิ้ม เฉาเฉียงหยูอ้าปากค้าง ‘เขาเป็นปีศาจ! ทำไมฉันช่างโชคร้ายมากขนาดนี้กันนะ?!!!’
“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน เราไม่สามารถรีบร้อนข้ามขั้นตอนการฝึกฝนได้ ฉันจะไปส่งเธอกลับบ้านเอง” เฉาเฉียงหยูส่ายหัวทันที เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ฉาง “ไม่เป็นไร ฉันสามารถกลับบ้านคนเดียวได้ ไม่เป็นไรจริงๆ”
จากนั้นเฉาเฉียงหยูก็ลากร่างกายที่เจ็บปวดเดินจากไป และนึกถึงฉากที่เย่ฉางมักจะ ‘ปล้น’ เธอเสมอ เมื่อเขาไปส่งเธอกลับบ้าน เย่ฉางถอนหายใจ ‘เฮ้อ เธอขี้เกรงใจเกินไปแล้ว ต่างจากฉันที่ไม่เคยมีความเกรงใจเลยแม้แต่นิดเดียว’
เมื่อเฉาเฉียงหยูกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ เธอก็รีบเข้าไปอาบน้ำทันที ในขณะที่เธอดึงลิ้นชักออกมา ข้างในนั้นว่างเปล่า และมีกระดาษโน็ตติดอยู่ในนั้น “อ่า ครั้งนี้จำนวนเงินค่อนข้างน้อยไปหน่อยนะ (อีโมจิเสียใจ)”
เฉาเฉียงหยูสั่นสะท้าน ‘อันที่จริงเขามาที่นี่ก่อนแล้ว! ฮือ ฮือ เงินของฉัน!’ จากนั้นเธอก็ถอนหายใจแล้วเดินไปที่ตู้เย็น แต่เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ในขณะที่เธอค่อยๆเปิดตู้เย็น เธอก็สังเกตเห็นแฮมที่เธอชอบกิน ซึ่งถูกส่งมาโดยคุณยายของเธอได้หายไปเช่นกัน เธอล้มตัวคุกเข่าลงบนพื้นด้วยท่าทางที่ซึมเศร้า กระดาษโน๊ตในมือของเธอร่วงหล่นลง และพลิกไปอีกด้าน “ฮี่ ฮี่ แฮมนี่ดูดีมาก ฉันพนันได้เลยว่ารสชาติจะต้องดีมากอย่างแน่นอน ฉันขอก็แล้วกัน (อีโมจิหน้ายิ้ม)”
หลังจากนิ่งค้างเป็นเวลานาน เฉาเฉียงหยูจึงเปิดการติดต่อของเธอ “เหม่ยน้อย ฉันอยากจะขอยืม…”
“ขโมยเข้าบ้านของเธออีกครั้ง?”
“อืม… ใช่”
เสียงเงียบไปนาน และเสียงถอนหายใจก็ดังขึ้นมา “ฉันเข้าใจแล้ว โอ้ หยูน้อย ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งนั้น ในฐานะเพื่อน ฉันไม่ต้องการที่จะเห็นเธอดื้อดึงอีกต่อไปแล้ว ฉันรู้ว่าเธอตกหลุมรักเขา แต่เขาใช้เงินของเธอออกไปดื่มอยู่เสมอ ยิ่งกว่านั้นเขายังทุบตีเธอเมื่อใดก็ตามที่เขาเมา เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ฉันเข้าใจว่าเธอไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้กับฉัน แต่หัวใจของฉันเจ็บจริงๆที่เห็นเธอเป็นแบบนี้ เธอเลิกให้ความรักมาทำให้เธอตาบอดจะได้ไหม?”
เฉาเฉียงหยูยังคงนิ่งเงียบเป็นเวลานาน ‘เธอคิดว่าบาดแผลของฉันเกิดจากเขาเมาแล้วทุบตีฉันงั้นหรอ? มันเกิดจากการฝึกฝนวิชาต่างหาก’
จากนั้นเธอก็ล้มลงบนเตียงนอน เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ได้รู้จักเย่ฉาง มุมปากของเธอก็เผยรอยยิ้มออกมา “ขอบคุณค่ะ อาจารย์”
เย่ฉางและจางเจิ้งเฉียงกลับไปที่ชายหาด และเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่สวมเสื้อกันลมสีขาวยืนอยู่บนโขดหิน ราวกับว่าเธอเป็นดวงจันทร์ที่หนาวเหน็บ
“เพื่อน ไม่ใช่ว่าเธอคือ…” จางเจิ้งเฉียงถาม
“ใช่แล้ว เธอคือ ColdMoon” เย่ฉางยิ้ม
“นายกับเธอมีความสัมพันธ์กันยังไง?” จางเจิ้งเฉียงอยากรู้อยากเห็น เขารู้ว่าเย่ฉางมักจะซ่อนอะไรบางอย่างจากเขา แต่เขาไม่ได้ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เพราะเขารู้ว่าเย่ฉางจะบอกเขาเองเมื่อถึงเวลา
“เธอคือครอบครัวของฉันที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด เธอเป็นคนที่นายสามารถไว้วางใจได้อย่างสมบูรณ์” เย่ฉางตอบสั้นๆ จางเจิ้งเฉียงไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม เขาพยักหน้าและเดินกลับบ้านก่อน
“หัวหน้า มาดูนี่สิ” ColdMoon หันไปมองเย่ฉางที่ปรากฏตัวขึ้นมาด้านข้างอย่างฉับพลัน
เย่ฉางขมวดคิ้ว ในขณะที่เขาจ้องมองไปบนวัตถุที่คล้ายคลึงกับคริสตัลสีดำ “กุญแจแห่งความว่างเปล่า?”
“ใช่” ColdMoon ตอบ
“เธอฆ่า The Fool?” เย่ฉางพูดไม่ออก
“ไม่ใช่ ฉันบังเอิญพบมันจากคนๆหนึ่งในองค์กรหมื่นวิญญาณ ในสถานที่หลบซ่อนตัวขนาดใหญ่ในเมืองหลวง ฉันได้รับการยืนยีนแล้วว่า นี่เป็นชิ้นส่วนที่มาจากกลุ่มมังกร” ColdMoon ส่ายหัวอย่างใจเย็น
เย่ฉางกังวลใจ ‘เธอจะไม่รู้สึกสบายใจ ถ้าเธอไม่ได้ฆ่ามนุษย์กลายพันธุ์ หรือมนุษย์เทียมจากองค์กรหมื่นวิญญาณ และองค์กรนิพพานเลยงั้นสิ? และตอนนี้เธอยังมีสิ่งของที่จะนำปัญหามาให้อีก’ จากนั้นเขาถามว่า “ทำไมสาวทอมบอยถึงไม่กล้าบอกฉันเมื่อเธอทำสิ่งนั้นหายไป ฉันพนันได้เลยว่าเธอกำลังป้องกันไม่ให้เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปอยู่ เธอคงกลัวว่าฉันจะไม่คืนมันหลังจากที่ได้มันมางั้นสินะ โอ้ ให้ตายสิ! ฉันเป็นคนแบบนั้นจริงๆงั้นเหรอ?”
เมื่อพูดจบ เย่ฉางก็นำชิ้นส่วนของกุญแจแห่งความว่างเปล่าเก็บเข้าไปในกระเป๋าของเขา
“หัวหน้าจะส่งคืนรึเปล่า?” ColdMoon พูดอย่างเบื่อหน่าย
“ไม่มีทาง” เย่ฉางยิ้มอย่างเย็นชา
“โอ้” ColdMoon พยักหน้าอย่างแผ่วเบา