ในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพ เย่ฉางจึงได้รับสิ่งที่หลินหลี่มอบให้ เมื่อเห็นของที่ได้รับ เขาตกตะลึงชั่วครู่ ‘ตราอัพเกรดกิลด์ระดับสอง! อะไรกัน ?! มีตั้งสองอัน!! เฮ้อ ฉันไม่สามารถหลอกพวกเขาได้’ ด้วยการถอนหายใจ เขาจึงมอบมันให้กับ NalanPureSoul และคนอื่นๆ “เอาไปแบ่งกันเอง”
จากนั้นเย่ฉางนำอุปกรณ์ที่มีคุณภาพดีที่สุดออกมา มันเป็นคทาระดับ Platinum โลโก้มังกรเงิน มีนัยน์ตาเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างสวยงามบนคทา ตัวคทาถูกปกคลุมไปด้วยลาวาที่ดูร้อนแรงและงดงาม
Eye of Evansrosas (Silver Dragon – Platinum – Abyss – Special field boss)
ประเภท: คทา
ความต้องการ: Wisdom 260, Will 220
พลังโจมตีเวท: 40-47
Wisdom +100
Will +100
Constitution +100
ค่าสถานะทั้งหมด + 20%
พลังโจมตีเวท +70
พลังโจมตีเวทไฟ +100
พลังโจมตีเวท + 15%
ฟื้นฟูมานา 2% ทุกๆ 10 วินาที
Eye of Flames Shot (การโจมตีปกติของมันจะสร้างความเสียหายเวท, ต้องการมานาน้อยมาก): ความเสียหายจากเปลวไฟเริ่มต้นคือ 66-110 ความเสียหายขั้นสุดท้ายนั้นขึ้นอยู่กับค่าสถานะของผู้ใช้
Stare of Evansrosas (สกิลติดตัว): ความเสียหายเวทไฟเพิ่ม 30%, เวทไฟที่ต่ำกว่าระดับ 6 ลงมาจะใช้มานาลดลงครึ่งหนึ่ง
Summon of Evansrosas (สกิลติดตัว): ค่าสถานะของซัมม่อนธาตุไฟที่อัญเชิญมาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
Eye of Evansrosas: หลังจากร่ายเวทเป็นเวลา 5 วินาที มันจะปล่อยระเบิดเพลิงนรกซึ่งสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก เมื่อโจมตีถูกเป้าหมาย มันก็จะผลิตระเบิดเพลิงนรกลูกเล็กออกมาอีกด้วย คูลดาวน์: 1 ชั่วโมง
NalanPureSoul ลังเลใจ ‘ฉันจะเอาตราอัพเกรดกิลด์ระดับสองหรือคทา Eye of Evansrosas ดี? หากฉันเอาคทา ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าฉันคงไม่ต้องเปลี่ยนคทาอันใหม่ไปอีกนาน มันให้พลังโจมตีเวทที่สูงมาก ยิ่งกว่านั้นมันเป็นไอเทมที่มีสกิลโจมตีแรงๆตั้งสองสกิล อีกทั้งยังเพิ่มพลังโจมตีเวท +70, พลังโจมตีเวท + 15% และพลังโจมตีเวทไฟ +100 มันสมบูรณ์แบบมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสองสกิลติดตัว และการฟื้นฟูมานา’ เขาตัดสินใจทันทีและพูดว่า “ ฉันไม่สนตราอัพเกรดกิลด์ระดับสอง ฉันต้องการคทา Eye of Evansrosas ”
“เฮ้ เฮ้ Freedom Alliance ของนายได้เอาไอเทมโลโก้มังกรเงินก่อนหน้านี้ไปแล้ว และตอนนี้นายยังต้องการอีกงั้นหรือ!?” LordAsked คัดค้านทันที
“มอบมันให้เขาเถอะ เขาเป็นคนที่สามารถใช้งานคทานี้ได้ดีกว่าใครๆ แต่ Freedom Alliance ต้องไม่มีสิทธิ์รับไอเทมใดๆจากบอสสองตัวถัดไปอีก สำหรับตราอัพเกรดกิลด์ระดับสอง พวกเราแต่ละคนรับไปคนละหนึ่งอัน” คำพูดของ CloudDragon ทำให้ LordAsked เห็นด้วย ‘อันที่จริงเมื่อเขาใช้คทานี้ มันจะเป็นประโยชน์สำหรับเรา เขาแค่ต้องการยกเลิกสิทธิในการรับไอเทมโลโก้มังกรเงินจากบอสสองตัวถัดไป’
NalanPureSoul พยักหน้า และหันไปมองเย่ฉาง
“ในเมื่อนายต้องการมัน งั้นก็เอาไปเถอะ อย่าลืมว่านายยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมของเราอีกด้วย” เย่ฉางไม่ได้คัดค้าน และ ThornyRose ก็นิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร ThornyRose หวังว่าตนเองจะได้รับอุปกรณ์ระดับ Platinum และ Black Gold มากขึ้นเพื่อใช้ปกป้องตัวเอง เธอรู้ว่าอุปกรณ์สวมใส่ของเธอแตกต่างจากของพวกเขามาก โดยเฉพาะเมื่อเธอเห็นอุปกรณ์และค่าสถานะของจางเจิ้งเฉียง ‘ถ้าฉันโจมตีเขา ตัวเลขความเสียหายคงไม่เกินสองหลัก’
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขายังคงแจกจ่ายอุปกรณ์ระดับ Platinum และ Black Gold ที่เหลือต่อไป อูนาเลือกเสื้อคลุม ในขณะที่หลินหลี่เลือกเข็มขัดระดับ Platinum ทุกคนต่างไม่คัดค้านเขา เพราะพวกเขามักจะได้รับอุปกรณ์ที่ดีหลังจากที่เขาเป็นคนค้นศพ พวกเขาไม่กล้าที่จะทำให้ผู้โชคดีคนนี้ขุ่นเคืองใจ และยังไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังเป็นจักรพรรดิแห่งโชคอีกด้วย
ที่จริงแล้ว LordAsked, CloudDragon และคนอื่นๆมีความตั้งใจที่จะชักชวนหลินหลี่หรือจางเจิ้งเฉียงเข้ากิลด์ แต่พวกเขาไม่สามารถทำได้ เพราะทั้งสามคนผูกพันธ์กันอย่างเหนียวแน่น มีคนเคยบอกว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่พวกเขาทำกางเกงในหาย และมีเพียงคนเดียวที่มีกางเกงในเหลืออยู่ ดังนั้นทั้งสามคนจึงผลัดกันสวมในตอนเช้า, บ่าย และกลางคืน
หลังจากแจกอุปกรณ์กันเสร็จแล้ว เย่ฉางก็เริ่มชำแหละศพ เขาเก็บลูกตายักษ์อย่างระมัดระวัง CloudDragon อยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรกับมัน “นายจะเอาสิ่งนี้ไปทำอะไร?”
“มันมีประโยชน์หลายอย่าง มันสามารถใช้ทำซุป, ทอด, ปิ้งย่าง, ทำซาซิมิ, ห่อเกี๊ยว, หมักไวน์ …” เมื่อได้ยินสิ่งที่เย่ฉางบอก CloudDragon ปิดปากและจากไปทันที เขาอยากอาเจียนมากโดยเฉพาะเมื่อเขาได้ยินว่าจะใช้มันทำซาชิมิ
“มาพักกันก่อนเถอะ เนื่องจากเราสูญเสียคนไปจำนวนมาก เราจะรอให้พวกเขากลับมากันก่อน” ThornyRose ลุกขึ้นเอาเต็นท์ออกมาและสั่งให้พัก
เย่ฉางและคนอื่นๆกำลังคุยกันเรื่องละครดราม่ารอบกองไฟ ทันใดนั้นดวงจันทร์ก็เปล่งแสงออกมา พลังงานจากแสงค่อยๆรวมตัวกันและเริ่มก่อตัว ทุกคนจ้องมองก้อนพลังงาน ขณะที่พวกมันรวมกันอย่างช้าๆจนกลายเป็นรูปร่างมนุษย์ ในที่สุดมันก็กลายเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างที่สวยงามและมีผมยาวสีน้ำเงิน เธอเปล่งประกายอย่างงดงามภายใต้แสงจันทร์
“นักปราชญ์ PaleSnow ” ผู้หญิงที่สวยและน่าดึงดูดกำลังมองเย่ฉาง ผู้ซึ่งกำลังอธิบายพล็อตเรื่องในละครอยู่
เย่ฉางตกตะลึงสักพัก ‘นี่จะต้องเป็น NPC คนสำคัญแน่ๆ’ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นด้วยสีหน้าอันชอบธรรม “ใช่แล้ว! ฉันคือปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่! ว่าแต่คุณผู้หญิงดูเศร้าๆนะ ฉันพนันได้เลยว่าจะต้องมีบางสิ่งที่รบกวนคุณอยู่แน่ๆ”
“ฟุ๊บ” ThornyRose พ่นน้ำออกจากปากของเธอ ‘พวกบ้าสามคนนี้รู้เพียงแค่ประโยคแรกของ 100 ประโยคของการรับเควสจริงๆ! เธอดูเศร้าที่ไหนกัน!’
“ฉันเป็นหนึ่งในเทพธิดาจันทรา ฉันคือเทพธิดาจันทร์เสี้ยว – อามูส ฉันเห็นว่าคุณเป็นนักรบผู้กล้าหาญ ฉันไม่ต้องการเห็นพวกคุณพ่ายแพ้ ดังนั้นฉันจึงอยากช่วยพวกคุณสักเล็กน้อย” ทุกคนเข้าใจทันทีว่าดาวตกสีน้ำเงินอันเหน็บหนาวที่พุ่งทะลุท้องฟ้าลงมานั้นมาจากผู้หญิงคนนี้
“ขอบคุณเทพธิดาจันทร์เสี้ยวผู้เลอโฉมมาก ว่าแต่คุณมาที่นี่ทำไม?” คำพูดของเย่ฉางทำให้อามูสลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันหวังว่าคุณจะมาเป็นปราชญ์ของฉัน ช่วยฉันหาผู้ศรัทธาและทวงคืนความรุ่งโรจน์ของฉันกลับคืนมา”
เย่ฉางดูเหมือนจะเข้าใจ ‘ดูเหมือนว่าเธอจะเหมือนกับเทพธิดาทั้งสาม’ เขากอดอกและเอามือบีบคาง “แล้วฉันจะได้อะไร?”
อามูสเดินออกจากแสงจันทร์อย่างช้าๆ เผยให้เห็นร่างที่เย้ายวน เธอเดินมากระซิบข้างหูเย่ฉาง “คุณจะได้ตัวฉัน”
เย่ฉางตบหน้าเธอทันที
“คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก!”
อามูสตกใจ ‘เขาตบฉัน!’
“ในฐานะเทพธิดา แต่คุณกลับทำตัวแบบนี้ได้อย่างไรกัน! คุณไม่รักตัวเองด้วยซ้ำ แล้วคุณยังจะคาดหวังว่าจะได้รับผู้ศรัทธาอยู่อีก!” เย่ฉางตะโกนอย่างชอบธรรม “ตกลงคุณเป็นเทพธิดาจันทร์เสี้ยวที่บริสุทธ์และงดยงาม เป็นหนึ่งในเทพธิดาจันทราจริงๆหรือ!?”
“ฉัน … ฉัน … ฉันแค่ต้องการได้ความรุ่งโรจน์ในอดีตกลับคืนมา เพื่อเป้าหมายนี้ ฉันสามารถให้ได้แม้กระทั่ง…” ไม่ต้องรอให้อามูสพูดจบ เย่ฉางตบเธออีกครั้ง
“หุบปากซะ! คุณลืมเหตุผลที่ทำให้คุณกลายเป็นเทพธิดาไปแล้วหรือ?”
อามูสนึกย้อนกลับไปในอดีต เมื่อดวงจันทร์ถือกำเกิดขึ้นมา เหล่ามนุษยก็เริ่มสวดอ้อนวอนกับเธอตลอดเวลา แม่สวดอ้อนวอนเรื่องสุขภาพ และความปลอดภัยของลูกชาย นายพรานอธิษฐานเพื่อขอให้เจอเหยื่อในเวลากลางคืน เพลงไพเราะมากมายที่ผู้คนร้องให้เธอ ความสุขเมื่อเธอถูกอธิษฐานในพิธีกรรม และความตั้งใจของเธอในการปกป้องผู้คน ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลอาบแก้มเธอ จากนั้นเธอคุกเข่าลงบนพื้นแล้วร้องไห้ เธอเอามือกุมหน้าด้วยความเสียใจ “นัก… นักปราชญ์ ฉันแค่อยากเป็นเทพธิดาที่ปกป้องผู้คน … ฉันหวังว่า … ฮือ ฮือ”
ในช่วงเวลาที่เย่ฉางตบเธอ CloudDragon, LordAsked, ThornyRose และคนอื่นๆต่างอ้าปากค้าง ‘นายจะหยาบคายเกินไปหน่อยไหม? นายแค่ตบเธอครั้งเดียวก็มากพอแล้ว อย่างไรก็ตามเธอเป็นถึงเทพธิดาเชียวนะ’ เมื่อเห็นฉากนี้ ThornyRose พูดพึมพำ “ทำไมฉากนี้มันดูคุ้นๆจัง”
“โค้ช…โค้ช…ฉันต้องการเล่นบาสเก็ตบอล” คำพูดของ FrozenCloud ทำให้ทุกคนพูดไม่ออก
“……”
จากนั้นเย่ฉางก็ยิ้มอย่างคนใจดี และเอื้อมมือไปแตะที่หัวอามูส “ฉันดีใจที่คุณเข้าใจ เหล่าผู้ศรัทธาก็หวังว่าคุณจะสามารถปกป้องพวกเขาได้ เมืองเทพธิดาของเรายินดีต้อนรับคุณเทพธิดาจันทร์เสี้ยว – อามูส”
เมื่อเห็นเย่ฉางถอดฮู๊ดหมาป่าออก และรอยยิ้มอันอบอุ่นภายใต้แสงจันทร์ อามูสก็จำได้ว่าในอดีตเธอเหงาและโดดเดี่ยวมากแค่ไหน เธอกอดเอวเย่ฉางทันทีแล้วร้องไห้
“เอาล่ะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว แต่ก่อนที่คุณจะไปที่เมืองเทพธิดา รูปปั้นของคุณจะต้องให้เราทำความสะอาดก่อน” เย่ฉางพูดเบาๆ
“ฉันไม่รังเกียจ คุณตัดสินใจทำทุกอย่างได้เลย” อามูสพยักหน้าจริงจัง
อูนา, ThornyRose, FrozenCloud, จางเจิ้งเฉียง, SpyingBlade และคนอื่นๆรู้สึกราวกับว่าพวกเขาเห็นรอยยิ้มปีศาจของเย่ฉางซ้อนทับรอยยิ้มอันอบอุ่นอยู่ ‘นี่จะมีหุ่นเชิดอีกตัวให้เขาเล่น!’ พวกเขาสั่นสะท้าน เมื่อรู้ว่าเทพธิดาทั้งสามถูกทรมานโดยเย่ฉางอย่างไรบ้าง พวกเขามองอามูสอย่างเห็นอกเห็นใจ
ณ.เมืองเทพธิดา
เทพธิดาทั้งสามที่กำลังโต้เถียงกันจู่ๆก็หยุดชะงัก
“ฉันมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี”
“ฉันด้วย”
“ต้องมีใครกำลังอิจฉาความโด่งดังของพวกเราอยู่อย่างแน่นอน”
“ฉันก็คิดเช่นเดียวกัน”
“ว่าแต่วิหารแห่งนี้ต้องเป็นของฉัน! นักปราชญ์ต้องเป็นของฉัน”
“เหลวไหล! นักปราชญ์ PaleSnow จะต้องเป็นของฉัน เธอไม่มีทางเทียบฉันได้”
“ฉันเป็นคนที่เขาชอบ!”
สุดท้ายเทพธิดาทั้งสามยังคงเถียงกันต่อไป