[ขอแสดงความยินดี คุณได้สร้างสูตรอาหารความมืดระดับมาสเตอร์! กรุณาตั้งชื่อ!]
“ซุปกระดูกเจลสไลม์ผสมกระจู๋และคางคก!”
“เทมปุระอัณฑะคลุกซอสลับ!”
“ซาชิมิสไตล์เย่ชุด C!”
“ลูกตาเสียบไม้สไตล์เย่ชุด B!”
“เอาล่ะ! พวกผู้เล่นระดับสูงต้องดื่ม[ซุปกระดูกเจลสไลม์ผสมกระจู๋และคางคก] และอาหารจานต่างๆ ส่วนคนที่เหลือไปพักได้”
“เอ่อคือว่า … เนื่องจากนายเป็นคนที่ทำมันขึ้นมา ทำไมนายไม่ลองก่อนล่ะ” LordAsked เดินไปที่จานลูกอัณฑะทอดแปลกๆและบีบจมูก จากนั้นเขาก็มองเย่ฉางและพูดอย่างจริงจัง
“แค่นี้จิ๊บๆ” เย่ฉางหยิบ[เทมปุระอัณฑะคลุกซอสลับ]เทลงไปใน[ซุปกระดูกเจลสไลม์ผสมกระจู๋และคางคก] จากนั้นเขาก็เติมลูกตาทอดและซาชิมิลงไป เขาหายใจเข้าลึกๆ แล้วกลืนพวกมันทั้งหมดในครั้งเดียว ทันใดนั้นกลิ่นที่น่าสะอิดสะเอียนก็กระจายไปทุกหนทุกแห่งในร่างกายของเขา ราวกับว่ามันทำลายต่อมรับรสและเส้นประสาททั้งหมดของร่างกาย “ระ … รส … ชาติ … ยัง …คง…อะ…”
ทุกคนจ้องมองเย่ฉางโดยสงสัยว่า ทำไมเขาถึงไม่พูดต่อ ดังนั้น CloudDragon จึงเดินไปหาเขา และเห็นปากของเขาเต็มไปด้วยฟองน้ำลาย ครู่ต่อมาร่างของเย่ฉางก็ชักกระตุก CloudDragon ถอนหายใจ “เขาหมดสติไปแล้ว นี่เป็นเพียงเป็นปฏิกิริยาจากสัญชาตญาณของร่างกายเท่านั้น”
ทุกคนอ้าปากค้างและมองหน้ากัน พวกเขารู้ดีว่าความต้านทานสูตรอาหารแห่งความมืดของเย่ฉางนั้นมีมากขนาดไหน ‘หากตัวเขาเองไม่สามารถต้านทานได้ นั่นก็หมายความว่า …’ OldWang, AV และคนอื่นๆกำลังร้องไห้อยู่ข้างใน ‘อาหารของหัวหน้าทีมพัฒนาขึ้น!’
“งั้นตอนนี้เราจะเอายังไงดี?” CloudDragon จ้องมองอาหารที่น่าสะอิดสะเอียนทั้งสี่จานที่แตกต่างกัน ‘บัฟของอาหารจะเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก แต่รสชาติและระดับความน่าสะอิดสะเอียนที่ถูกยกระดับขึ้นมานี่สิ …’
หลินหลี่รู้ว่าเขาต้องกินมัน เพราะเขาจะถูกตบโดยเย่ฉาง ถ้าเขาไม่ทำเช่นนั้น ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนใส่คนอื่นๆด้วยความชอบธรรม “พี่ใหญ่ขาวได้กินพวกมันไปแล้ว! พวกคุณกำลังรออะไรอยู่! สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการพิชิต … พิชิต … พิชิตอะไรนะ … ”
“ชื่อภูเขานี่คืออะไรนะ”
“……”
“เทือกเขาพันยอด” อูนาพูดไม่ออก
“ใช่แล้ว! เพื่อพิชิตเทือกเขาพันยอด! เพื่อผลประโยชน์ของจีน! เพื่อความยุติธรรม!” หลินหลี่ตะโกนอีกครั้งราวกับว่าเขาเป็นนักรบผู้กล้าหาญ “พวกใจตุ๊ดเอ้ย! พี่ใหญ่ขาว! ผมมาแล้ว!”
“เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนนะ” หลินหลี่ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ทันใดนั้นเขาก็คว้าคู่หูตัวน้อย – เร็นน้อย และบังคับให้มันกลืนอาหาร เมื่อเห็นเร็นน้อยล้มลงบนพื้น หลินหลี่ก็พยักหน้าพอใจ แล้วเดินตามรอยเย่ฉาง
“พวกคุณไม่ต้องการที่จะก้ามข้ามเพื่อนของฉันเหรอไง?” จางเจิ้งเฉียงกู่ร้องใส่ CloudDragon, LordAsked และคนอื่นๆ จากนั้นเขาก็หยิบอาหารทั้งหมด และเดินตามรอยหลินหลี่
เย่เทียนถอนหายใจ เธอไม่ได้พูดอะไรนอกจากบังคับให้เจ้าซอสอ่อน และสหายสัตว์เลี้ยงอื่นๆ กินอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเธอจับแขนของเย่ฉาง และกระตุกไปพร้อมกับเขา
“……”
CloudDragon ยิ้มอย่างขมขื่น ‘ดูเหมือนว่าถึงเวลาที่ฉันจะต้องตายและมีชีวิตใหม่อีกครั้ง ฉันคิดว่าการต่อต้านอาหารนี้ของฉันเพิ่มขึ้นแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าฉันนั้นคิดผิด ฉันตามวิวัฒนาการของเขาไม่ทัน แต่บัฟเหล่านี้มีความสำคัญจริงๆ’ เขาถอนหายใจ ‘ไม่มีบอสตัวไหนที่น่าขยะแขยงมากกว่าซุปชามนี้อีกแล้ว’ เขาเริ่มที่จะเอาอาหารทุกอย่างมารวมกัน “มากินกันเถอะ! พวกคุณคงไม่อยากถูกทรมานโดยสามพี่น้อง เมื่อตอนพวกเขาลุกขึ้นมาใช่มั้ย?”
อูนาจ้องมองไปที่ท้องฟ้าพร้อมกับถือชามซุป เธอแทบจะหมดเรี่ยวแรง เมื่อเธอนึกถึงคำเชิญของเย่ฉางในตอนที่กลับมาจากตลาดนัดกลางคืน “ทำไมฉันถึงอยากเล่นเกมนี้กับพวกเขาด้วย…”
ในอีกด้านหนึ่งเมื่อเห็นว่า FrozenBlood บังคับให้ GreenDew กินอย่างไร ThornyRose รู้สึกสงสารเธอ เมื่อเธอมองไปที่ซุปสีดำ เธอก็ดมมัน ‘เมื่อก่อนฉันอยากอาเจียนเมื่อตอนกิน แต่ในตอนนี้เพียงแค่ดมก็ทำให้ท้องไส้ฉันปั่นป่วนแล้ว’ จากนั้นเธอก็นึกถึงความขมขื่นในอดีต ‘ทุกอย่างเริ่มต้นจากช่วงเวลาที่ก้นของฉันถูกยิง’ เธอหันกลับมามอง ElegantFragrance ผู้ซึ่งกอด หลินหลี่เอาไว้ ‘เฮ้อ! จุดมุ่งหมายของการแก้แค้นคืออะไร? มันมีราคาที่จะต้องจ่ายสูงเกินไป …’
NalanPureSoul จ้องมองเย่ฉางซึ่งยังคงชักกระตุกอยู่ ‘ชีวิตของฉันถูกทำลายในตอนที่ฉันได้พบกับผมขาว’
เมื่อเห็นผู้นำของพวกเขากำลังเต้นระบำซอมบี้ ทีมจู่โจมก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อบรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ ‘เพียงแค่ได้กลิ่น ฉันก็จะเป็นลมแล้ว!’ พวกเขาจ้องมองเย่ฉางซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพและหัวหน้าพ่อครัว
….
ครู่ต่อมาทุกคนลุกขึ้นพร้อมกับหน้าซีด พวกเขาเอามือปิดปาก ขณะเดินไปตามเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่หุบเขาแห่งความตาย มีโครงกระดูกมากมายบนพื้นราวกับว่ามันเป็นถนนกระดูก
“ออร่าวิญญาณแห่งความตายนั้นแข็งแกร่งมาก…” ฟางชิขมวดคิ้ว ในฐานะที่เป็นเนโครแมนเซอร์ เขารู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของเขาที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่เขาเดินเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ จากนั้นเขาก็เตือนทุกคน “หัวหน้าทีมระวังตัวด้วย ออร่าวิญญาณแห่งความตายนั้นแข็งแกร่งเกินไป”
เย่ฉางพยักหน้า “ทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้!”
เย่เทียนก็มองสำรวจรอบๆและคิดถึงความเป็นไปได้ทั้งหมด ‘อาจมีความเป็นไปได้ที่แตกต่างกันสามแบบเท่านั้น อย่างแรกพวกโครงกระดูกอาจจะฟื้นคืนชีพ และซุ่มโจมตีเราเมื่อเราเดินผ่านเส้นทางนี้ ประการที่สองเราจะต้องต่อสู้กับโครงกระดูกที่ฟื้นคืนชีพ จนกว่าเราจะถึงจุดสิ้นสุด ส่วนอันสุดท้ายอาจจะรับมือยากที่สุด ในสถานที่ซึ่งมีออร่าวิญญาณแห่งความตายแข็งแกร่งเช่นนี้ โครงกระดูกเหล่านั้นอาจถูกฆ่าได้ยาก นั่นหมายความว่านักบวชจะรับมือพวกมันลำบากขึ้น นักบวชทุกคนในทีมของเราจะต้องทำอะไรบางอย่าง’
“พ่อ, ผู้นำ LordAsked, ผู้นำ CloudDragon บอกให้ทุกคนหยุดสักครู่ก่อน อย่าเพิ่งเข้าไปในถ้ำ ให้หนูจัดรูปขบวนของเราก่อน”
จากนั้นกองทัพก็หยุดเคลื่อนพล
LordAsked และ CloudDragon ไม่ปฏิเสธคำขอของเธอ เพราะพวกเขาทั้งสองรู้ว่าเย่เทียนนั้นฉลาดเพียงใด นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้เล่นที่มีแร้งค์ใกล้ถึงจักรพรรดิ!
เย่เทียนขึ้นไปบนที่สูง และจ้องมองกองทัพเบื้องล่าง เธอขอให้ผู้เล่นระยะประชิดและพวกตัวแท้งค์ก่อตัวเป็นวงกลม จากนั้นนักธนู, ผู้อัญเชิญ และนักเวทอยู่วงในชั้นที่สองของวงกลม ในขณะเดียวกันให้พวกสายซัพพอร์ตที่ไม่ใช่นักบวชอยู่ตรงกลาง จากนั้นเธอกระจายนักบวชไว้ระหว่างสองชั้น “หากพวกอันเดทฟื้นคืนชีพหลังจากถูกฆ่า ให้ยึดตามรูปขบวนนี้ จำไว้ว่าใครอยู่เคียงข้างคุณและใครเป็นผู้นำ อย่าหยุดเคลื่อนที่! ผู้เล่นระยะประชิดและพวกตัวแท้งค์อย่ารั้งอันเดทพวกนั้นไว้นานเกินไป ให้เคลื่อนที่ไปด้วยในขณะที่ต่อสู้ไปด้วย พี่ใหญ่เฉียงจะเป็นหัวหอกทะลวง! เพียงแค่ผลักดันไปยังส่วนลึก หากมีอันตรายใดๆเกิดขึ้น จงจำไว้วันต้องปกป้องนักบวชก่อน! เราจะจัดรูปขบวนกันใหม่อีกครั้งเมื่อพบบอส”
ด้วยกลยุทธ์ของเย่เทียน LordAsked, CLoudDragon และคนอื่นๆจึงสั่งให้สมาชิกจัดรูปขบวนกันใหม่
“ทำไมเราไม่ให้จางเจิ้งเฉียงอยู่ตรงกลางล่ะ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะมีออร่า?” CloudDragan ตั้งคำถาม
“พี่ใหญ่เฉียงมีออร่าที่สามารถสะกดข่มพวกอันเดทได้ กองทัพจะเคลื่อนตัวช้าเกินไปถ้าให้เขาอยู่ตรงกลาง จุดประสงค์ของเราคือการก้าวไปข้างหน้าให้ไวที่สุด แม้ว่าผู้คนที่อยู่ด้านหลังจะไม่ได้รับออร่า แต่ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กับอันเดทโดยตรง พวกเขาก็จะไม่เป็นไร” CloudDragon พยักหน้า ขณะที่เขาได้ยินสิ่งที่เย่เทียนพูด ‘หากเขามีออร่าที่สามารถสะกดข่มพวกอันเดทได้จริงๆ การให้เขาอยู่หน้าสุดนั้นจะเป็นผลดีมากที่สุด’
ทุกคนก็พยักหน้าให้จางเจิ้งเฉียงผู้ซึ่งยืนอยู่หน้ากองทัพ
“อาเฉียงอย่าเดินเร็วเกินไปนัก จำไว้ว่าต้องเน้นรักษารูปขบวนไว้” เย่ฉางเตือนเขา
“ฉันเข้าใจแล้วเพื่อน”
เย่เทียนนึกถึงสถานการณ์ที่อาจจะได้เจอบอส จากนั้นเธอก็มายังฝั่งของหลินหลี่ “หลินหลี่ หากอันเดทเหล่านั้นยังคงไล่ล่าเรา และเมื่อเราพบบอส ให้ใช้ทุกสิ่งที่นายสร้างขึ้นในระหว่างการเตรียมการเพื่อปิดเส้นทางพวกมัน”
หลินหลี่เคาะหัวเธอ “เรียกฉันว่าพี่ใหญ่หลี่! เรื่องนี้เธอไม่ต้องเตือนฉัน เพราะฉันก็คิดเหมือนกันกับเธอ”
เย่เทียนจ้องหลินหลี่ด้วยความโกรธ