ในอีกด้านหนึ่ง NalanPureSoul ได้รับหนังสือสกิล [Transform of Skill Soul Blood] ในขณะเดียวกัน LordAsked ก็ได้รับหนังสือสกิล [Mental Control] และ CloudDragon ต้องเลือกอุปกรณ์ระดับ Platinum สองอย่าง สำหรับสิ่งที่เหลือ พวกเขาแบ่งกันอย่างเท่าเทียมในสี่ทีม หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินหน้าต่อไป
หลังจากพิชิตบอสได้สำเร็จ ขวัญกำลังใจของกองทัพก็เพิ่มขึ้นมาก แต่ในขณะเดียวกันปัญหาเรื่องการฟื้นฟูมานาและพลังงานก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เย่เทียนกังวลกับเรื่องนี้ ‘แม้ว่าเราจะไปถึงจุดหมาย แต่เราจะมีมานาและพลังงานเหลือพอที่จะต่อสู้ไหม? นี่ต้องแย่แน่ๆ! เราจะต้องเคลื่อนที่ให้เร็วขึ้น!’ เธอตะโกน “พ่อ เปิดใช้งานความสามารถกลยุทธ์เถอะ! ถ้าไม่อย่างนั้นกองทัพคงจะทนได้ไม่นาน! เราจะเหนื่อยเกินไปเมื่อตอนเราพบบอส!”
เย่ฉางสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆของผู้เล่นในกองทัพ “ผู้เล่นระยะประชิดเข้าสู่โหมดป้องกัน! ส่วนพวกนักเวทผลัดกันฟื้นฟูมานาครั้งสุดท้าย! เตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบครั้งสุดท้าย!”
กองทัพหยุดเดินและจัดรูปขบวนรบใหม่ ผู้เล่นระยะประชิดคอยเฝ้าระวังและเพิ่มการโจมตีเพื่อป้องกันโครงกระดูกที่พุ่งเข้ามา เมื่อรู้ว่าพวกนักเวทฟื้นตัวขึ้นมากแล้ว เย่ฉางก็ยกมือขวาขึ้นแล้วเหวี่ยงไปข้างหน้า “เคลื่อนพลได้! เดินหน้าเต็มกำลัง! [Tactics – Pursuit]! [Charge]!”
ในเวลาเดียวกันเย่เทียนก็เปิดใช้ [Tide of Moon] จากวงใน ความสามารถกลยุทธ์ของเย่ฉางทำให้กองทัพเคลื่อนพลไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วขึ้น ในที่สุดพวกเขาก็ผ่านหุบเขาและไปถึงที่โล่ง ซึ่งมีออร์คยักษ์ตัวหนึ่งกำลังยิ้มใส่พวกเขา “อลูซ่า! โยก้า!”
Fist Bone-crushing – Ajoss (Leader – Abyss – Special field – Ogre): หัวหน้าชาแมนออร์คตาเดียวที่แข็งแกร่งและชั่วร้าย ซึ่งวิวัฒนาการมาจากชาแมนออร์คปรกติทั่วไป มันมีความสามารถอันทรงพลังและเวทมนตร์มากมาย แกนคริสตัลของมันมีประโยชน์สำหรับผู้เล่นอาชีพชาแมน นอกจากนี้ดวงตาและสมองของมันยังเป็นวัตถุดิบชั้นยอดที่มีค่าอย่างยิ่ง
“เขาพูดว่า ‘พวกแกคือประชากรที่มาใหม่ของที่นี่ใช่ไหม?’ ” เย่ฉางแปลแล้วตะโกนกลับ “โยกาจาก้า! ลาล้าจากาก้า! ลูจัส! วาว้า!”
“โฮกกก!” Ajoss ส่งเสียงคำรามใส่ ThornyRose และลุกขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่ามันต้องการที่จะฉีกเธอเป็นชิ้นๆ
ThornyRose มีความรู้สึกไม่ดี และหันไปถามเย่ฉางอย่างรวดเร็ว
“ฉันพูดว่า ‘ประชากรใหม่ตูดเอ็งสิ! มนุษย์ผู้หญิงข้างๆฉันบอกว่า เธอต้องการที่จะยัดแกกลับเข้าไปในตูดของแก แกเป็นตัวงี่เง่าที่ดูเหมือนกระจู๋ของมนุษย์ ’ ” เย่ฉางแปลอย่างสงบ และ ThornyRose ก็ตะโกนใส่เขา “นายยังไม่หยุดใส่ร้ายฉันอีกงั้นหรือ?”
เย่ฉางคิดสักครู่และพูดอย่างจริงจัง “เธอเป็นตัวแท้งค์ไม่ใช่หรอ? ฉันกำลังเสี่ยงชีวิตที่จะช่วยให้เธอสร้างความเกลียดชังขึ้นมาเชียวนะ! แทนที่เธอจะขอบคุณฉัน แต่เธอกลับดุใส่ฉันนี่นะ! เฮ้อ! ฉันรู้สึกเศร้ามาก…”
“ใช่แล้ว ที่รักของฉันช่วยเธอสร้างความเกลียดชังต่อบอส แต่เธอกลับตำหนิต่อว่าเขา! เฮ้อ! ถึงฉันจะเป็นเพื่อนรักของเธอก็ตาม แต่ฉันจะไม่เข้าข้างเธอหรอกนะ” FrozenBlood เห็นด้วยกับเย่ฉาง
“ถูกต้อง! พี่ใหญ่ขาวพูดถูก!” หลินหลี่และคนอื่นๆสนับสนุนด้วยอีกแรง ThornyRose กัดฟันแน่นและเห็น LordAsked มองเธอด้วยท่าทางที่สื่อว่า ‘เธอนี่ไม่รู้อะไรจริงๆเลย!’ เธอรู้ว่ามันไร้ประโยชน์ที่จะโต้เถียง ดังนั้นเธอจึงได้แต่นิ่งเงียบ
“หยุดการพูดคุยกันก่อน วิญญาณร้ายที่อยู่ข้างหลังเรากำลังพุ่งเข้ามาแล้ว” CloudDragon เตือนพวกเขา
“หลินหลี่และไขว้ดาบน้อย!” เย่ฉางมองทั้งสองคน NalanPureSoul ไม่อยากจะโต้เถียงเกี่ยวกับไขว้ดาบน้อยบ้าๆอะไรนี่กับเขาอีก ดังนั้นเขาจึงอัญเชิญปีศาจเพลิงออกมาทันทีและเริ่มร่ายเวท ในขณะเดียวกันหลินหลี่ก็รีบนำขวดระเบิดเพลิงระดับสูงออกมาอย่างรวดเร็ว และโยนมันไปข้างหลัง ทะเลเพลิงมหึมานั้นปิดเส้นทางไม่ให้เหล่าวิญญาณร้ายเข้ามาถึงตัวพวกเขาได้ แต่ในทางกลับกันมันก็เหมือนเป็นการปิดเส้นทางหลบหนีของพวกเขาไปในตัวด้วย นี่เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ พวกเขามีแค่สองทางเลือกคือชนะหรือตายอยู่ที่นี่!
“ตู้ม!”
จากนั้น Ajoss ก็ทาบฝ่ามือลงบนพื้น และกระแสพลังงานแห่งความตายสีขาวก็โพยพุ่งออกมาจากหน้าผาและพื้นดินด้านหลัง แม่มดที่เหมือนนางฟ้าปรากฏขึ้นกลางอากาศ แม้ว่ามันจะอยู่ในรูปลักษณ์ของนางฟ้า แต่มันก็ยังคงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง และเปล่งออร่าแห่งความตายออกมา บนร่างกายของมันมีใบหน้าของวิญญาณที่ทุรนทุรายจำนวนมากโพยพุ่งออกมา ในขณะที่วิญญาณร้ายและโครงกระดูกก็โผล่ออกมาจากพื้นดิน
เย่ฉางเหล่ตาและตรวจสอบ
Efella – Enways (Leader – Abyss – Special field – Ghostly Angel) : ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนนางฟ้า แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเหล่าทูตสวรรค์ มันเป็นวิญญาณร้ายระดับสูงที่หายากในเผ่าวิญญาณ มันมีความสามารถในการฟื้นคืนชีพวิญญาณร้าย และมีความสามารถในการแปลงร่าง โดยปกติแล้วพวกมันจะแบ่งออกเป็นสี่ระดับคือ Efella, Effeya, Efellass และ Erayshala ขี้เถ้าและปีกของมันมีค่าอย่างมาก สิ่งมีชีวิตนี้ไม่กลัวเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ แต่ถ้าผสานเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์กับสายฟ้า, เวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์กับน้ำ และเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์กับไฟ ก็จะสามารถทำร้ายมันได้
“ไอ้ตัวที่อยู่บนท้องฟ้าเปรียบเสมือนเป็นนักบวชของพวกวิญญาณร้าย มันสามารถฟื้นคืนชีพพวกวิญญาณร้าย และไม่กลัวเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ แต่ถ้าผสานเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์กับสายฟ้า, เวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์กับน้ำ และเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์กับไฟ ก็จะสามารถทำร้ายมันได้ ” เย่ฉางส่งข้อความถึงทุกคน เย่เทียนวางแผนทุกอย่างทันที ‘จำนวนผู้เล่นที่สามารถเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์กับไฟได้นั้นมีเยอะที่สุด รองลงมาคือเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์กับสายฟ้า และเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์กับน้ำมีน้อยที่สุด แต่ฉันคิดว่าขวดน้ำศักดิ์สิทธิ์จะสามารถสร้างความเสียหายแก่มันได้มากกว่า’ เธอตะโกน “นักบวชทุกคนเตรียมขวดน้ำศักดิ์สิทธิ์ของคุณ! เจ้าคางคกน้อยจะเป็นคนควบคุมบอส!”
“อ๊บ โอ๊ป” เจ้าคางคกน้อยขานรับ และเย่เทียนก็ถอนหายใจ ‘เฮ้อ! น่าเสียดายที่เจ้าคางคกน้อยไม่สามารถบินได้ และเวทมนต์ส่วนใหญ่ของมันล้วนเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์’ เมื่อเธอกำลังคิดเกี่ยวกับมัน ทันใดนั้นปีกคู่เล็กๆที่เปล่งประกายก็โผล่ขึ้นบนหลังของเจ้าคางคกน้อย ปีกนั้นค่อยๆกระพือขึ้นอย่างช้าๆ
“ …… ” เย่เทียนเช็ดเหงื่อเย็นและมีท่าทางดีใจ ‘ด้วยค่า EXP ที่มันได้รับระหว่างทาง อาจทำให้มันมีเลเวลเพิ่มขึ้น ดังนั้นมันจึงมีสกิลใหม่!’
ทุกคนในกองทัพค่อยๆหลั่งเหงื่อเย็นออกมา
“ที่รัก ฉันคิดว่าฉันเห็นคางคกที่บินได้”
“ใช่แล้ว มันเป็นคางคกอ้วนของพี่ใหญ่จ้าวแห่งเพชร”
“คางคกอ้วนเหินฟ้า!”
“เป็นชื่อที่ดี”
“……”
CloudDragon ตกตะลึง ‘ให้ตายเถอะ! คางคกตัวนี้จะเหลือเชื่อมากเกินไปแล้ว! มันมีความสามารถในการฮีลที่ยอดเยี่ยม, ความสามารถในการต่อสู้ที่สุดยอด, เป็นตัวสนับสนุนที่ดี และสามารถสร้างความเสียหายจำนวนมากแก่ปีศาจและวิญญาณร้ายได้ และตอนนี้มันกำลังบินได้อีก ใช่! ใช่แล้ว! มันอาจเติบโตขึ้นและมีความสามารถในการบิน! แต่คางคกตัวนี้มันอ้วนเกินไปแล้ว!’
แต่สิ่งที่ทำให้ CloudDragon ตกตะลึงมากขึ้นก็คือ เสียงที่น่าประหลาดใจของจางเจิ้งเฉียง “เอ่อ…มันบินได้ตั้งแต่เมื่อไหร่!?”
‘เฮ้ เฮ้ เฮ้! มันกำลังบินได้ แต่นายไม่รู้อะไรเลยเหรอ?! นายเคยสนใจสัตว์เลี้ยงของนายบ้างไหม?’
จางเจิ้งเฉียงหันหลังกลับแล้วคำราม จากนั้นก็พุ่งไปข้างหน้า
“โฮกกก!” เร็นน้อยก็คำรามเช่นกัน CloudDragon รู้สึกเดือดพล่านในร่างกายของเขา ครู่ต่อมามันกลายเป็นเงาที่กวัดแกว่งดาบคู่ไปมา มันกระโดดไปโน้นกระโดดไปนี่ โครงกระดูกปลิ้วว่อนไปทั่วทุกที่ ‘ฉันพนันได้เลยว่าในตอนนี้ไม่มีใครชนะเสือตัวนี้ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัวได้เลย ว่าแต่สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆของพวกเขาล่ะ?’ เมื่อหันไปมองที่จุดศูนย์กลางของกองทัพ เขาเห็นปีศาจตัวเล็กๆและกวางน้อยกำลังเต้นอะโกโก้ และเชียร์พวกเขาอยู่
สิ่งที่ทำให้ทุกคนดีใจก็คือเจ้าคางคกน้อยเป็นดั่งผู้กล้าที่มีปีก มันตบอย่างต่อเนื่องและแถมยังถ่มน้ำลายใส่บอส มันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนักบวชเลยแม้แต่น้อย คางคกและบอสเป็นเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่ถูกไล่ล่าโดยพ่อพุงใหญ่ที่กำลังโกรธเธอ ด้วยการตบเธอและถ่มน้ำลายใส่เธอ เสียงตบและเสียงกรีดร้องดังขึ้นจากการต่อสู้ระหว่างพวกเขา
ในขณะที่พวกผู้เล่นกำลังต่อสู้กับโครงกระดูกอย่างเหนื่อยล้า ทันใดนั้นน้ำลายของเจ้าคางคกน้อยก็สาดกระเซ็นลงบนใบหน้าของพวกเขา แม้ร่างกายของพวกเขาจะเหนียวหนึดเพราะน้ำลาย แต่พวกเขากลับรู้สึกกระปรี้กระเปร่า พลังชีวิตของพวกเขาค่อยๆฟื้นฟูขึ้นมา เมื่อเห็นแบบนี้คนอื่นๆก็รีบคว้าน้ำลายที่หล่นบนพื้นมาทาตัว แม้แต่ CloudDragon, LordAsked, ThornyRose, VastSea และผู้เล่นชั้นสูงคนอื่นๆก็ทำเช่นเดียวกันเพื่อลดภาระของพวกนักบวช ThornyRose ยิ้มอย่างขมขื่น และเริ่มสงสัยชีวิตตัวเอง ‘ก่อนพบตาบ้านั่น ฉันสวยและสง่างามเหมือนดอกกุหลาบ แต่ตอนนี้ฉันกำลังกินอาวุธชีวภาพและดื่มไวน์เน่าๆ ที่แย่ที่สุดคือฉันได้รับน้ำลายจากคางคกที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า เฮ้อ! พระเจ้า! แม้ว่าเมื่อก่อนท่านจะไม่เคยดูแลฉัน แต่ท่านก็ไม่ได้ปฏิบัติต่อฉันไม่ดี แต่ทำไมตอนนี้ท่านถึง …’