บทที่ 1 (6)
ชั้นหนึ่งตกแต่งไว้อย่างสวยงามทีเดียว ที่บอกว่าตกแต่งไว้อย่างสวยงามหมายถึงตกแต่งได้สมกับที่เป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่เชือกสีรุ้งล้อมรอบตามผนังด้านในอาคาร ด้านล่างมีโลโก้ของบริษัทแม็คควีนเอนเตอร์เทนเมนต์ มีกี่บริษัทที่อยู่ในเครือกันนะ
นอกจากเกล็นแม็คควีนดอทคอมแล้ว วันนี้ผมยังเห็นโลโก้อีกหลากหลายบริษัท การตกแต่งภายในอย่างประณีต ราวกับจะแสดงให้เห็นว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่มีขอบเขต เป็นบริษัททำหนังโป๊ ผมที่เอาแต่คิดเช่นนี้ก็รู้สึกว่าตัวเองจิตใจคับแคบขึ้นมา
ผมเดินไปยังโต๊ะที่เจนีนบอกไว้ว่าให้ไปรับเงิน ชายคนหนึ่งซึ่งดูก็รู้ว่าเป็นเกย์ สวมเสื้อยืดคอวีผ้าสแปนเด็กซ์ลวดลายชวนสับสนนั่งอยู่ถัดจากประตูกระจกติดฟิล์มสีดำ
เมื่อผมมายืนอยู่หน้าโต๊ะเพื่อรับค่าจ้าง เขาที่กำลังหนีบโทรศัพท์ไว้ที่ไหล่ก็เงยหน้ามองผม ผมหลบตาพลางเคาะโต๊ะด้วยปลายนิ้ว ชายคนนั้นพูดเสียงดังขึ้นเล็กน้อยในระหว่างที่กำลังพูดถึงดีไซน์ของกล่องดีวีดีสำหรับภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ผมรอให้เขาวางสาย ระหว่างนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า แต่ก็ไม่มีสายโทร.เข้ามาเลย
“อุ๊ย! ทอมมี่ รอสส์ ใช่ไหม”
เมื่อหันไปตามเสียงเรียก เขาคนนั้นได้วางสายโทรศัพท์ไปแล้วและกำลังมองมาที่ผม ผมเลิกคิ้วกับคำว่า ‘อุ๊ย’ ซึ่งเป็นคำอุทานที่ไม่เหมาะกับผู้ชายเท่าไหร่นัก ทอมมี่ รอสส์ เป็นนามแฝงที่ตั้งขึ้นมาเพื่อถ่ายทำคลิปโซโล่ พอผมพยักหน้า เขาก็ยกยิ้มพลางวางแขนลงบนโต๊ะ
“จะให้โอนเงินผ่านบัญชี หรือว่าจะรับจากที่นี่ไปเลยดีล่ะ”
“รับไปเลยครับ”
“อือ…ก็นะ นึกแล้วว่าคุณต้องพูดแบบนี้”
ชายคนนั้นขมวดคิ้วพลางชี้มาที่ผมราวกับยิงปืน เขาไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็พอจะรู้สึกได้ว่าเป็นคนช่างพูดช่างคุย น่าแปลกที่เขามีรูปร่างหน้าตาเหมือนแจ็ก แบล็ก [1] เขาตัวไม่สูง แต่มีพุง ผมรองทรงสูงและคำพูดคำจาเต็มไปด้วยความแอ๊บแบ๊ว คนทั่วไปคงไม่ทำเสียงอืออาแบบนั้นหรอก เมื่อผมมองชายที่น่าสนใจคนนี้ เขาก็เท้าคางหนา ๆ บนโต๊ะพลางเอ่ยถาม
“การถ่ายทำวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
“ก็ไม่แย่ครับ”
ผมนับเงินในซองที่เขายื่นให้ แบงก์ร้อยดอลลาร์ยี่สิบห้าใบ เป็นเงิน2,500 ดอลลาร์ตามที่ตกลงกันไว้
“อ้อ คราวหน้าลองทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่คลิปโซโล่สิ ฉันจะเพิ่มเงินให้เป็นสองเท่าเลย”
แจ็ก แบล็ก ชูสองนิ้วและโบกมือไปมา เขายังคงทำเสียงแอ๊บแบ๊วอยู่ผมรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย
“จะลองคิดดูนะครับ”
ผมยัดเงินลงในกระเป๋า บอกลาสั้น ๆ และหมุนตัวจะออกไปด้านนอกแต่ชายคนนั้นทุบโต๊ะด้วยฝ่ามืออวบ ๆ นั่นดังตุบ ๆ ๆ เมื่อหันหน้ากลับไปมองแจ็ก แบล็ก ก็พูดต่อ
“เมื่อกี้แม็คควีนส่งข้อความมาน่ะ”
ผมที่หันไปมองเขาแค่ศีรษะจึงหันไปทั้งตัวเพราะชื่อที่แบล็กใช้ดึงความสนใจของผม
“วันนี้ดีมากเลย อืม…คราวหน้าจะติดต่อไป อย่าเมินแล้วก็รับสายด้วยนะ”
“จะติดต่อมาหรือครับ”
ผมยกมือเสยผมที่ยังเปียกชุ่มเพราะเพิ่งขึ้นมาจากสระว่ายน้ำลูบผิวแห้งกร้านด้วยฝ่ามือเปียก ๆ พลางก้มมองแจ็ก แบล็ก ดวงตาของเขาหรี่ลงเมื่อเราสบตากัน
“อื้อ คุณได้ถ่ายคลิปโซโล่ไปแล้ว คราวหน้าลองถ่ายกับผู้ชายคนอื่นดูสิ”
“ทำไมถึงจ้องโทรศัพท์อย่างนั้นล่ะ”
ผมที่กำลังแนบแก้มกับหน้าต่างรถอุ่น ๆ สะดุ้ง
“ฉันน่ะหรือ”
“ผู้หญิงคนนั้นที่นายเจอในคลับทักมาหรือไง”
ผมขมวดคิ้วมองเดเร็คที่มองมาอย่างมีเลศนัย
“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย”
เมื่อโบกไม้โบกมือปฏิเสธพร้อมกับถอนหายใจ หมอนั่นก็หัวเราะเห็นได้ชัดว่าพยายามจะพูดถึงเรื่องบนเตียงกับผู้หญิงที่กำลังคบอยู่ตอนนี้เขาชอบบ่นเรื่องอุปนิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ บนเตียง หรือไม่ก็ขนาดหน้าอกของผู้หญิงที่ไม่เหมาะกับขนาดตัว
เขาเริ่มพูดถึงผู้หญิงจากลอนดอนที่สั่งน้ำมูกเหมือนราชินีอังกฤษเขาไปร่วมชมการแสดงอันแสนจะแปลกใหม่กับหญิงสาวชาวอังกฤษ แต่โชว์นั้นเป็นเซ็กซ์โชว์ระหว่างผู้หญิงกับม้า
“บ้าไปแล้วหรือไง”
เมื่อผมมองเดเร็คด้วยความตกใจ หมอนั่นก็กระตุกยิ้มพลางยักไหล่
“ผู้หญิงที่ไปด้วยกันชอบมากเลยละ ที่จริงฉันเองก็กลัวนะ”
ผมดึงบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าด้านหน้าของสูทและโยนกล่องบุหรี่ใส่หน้าเขา
“น่ารำคาญ”
“เฮ้ย! ฉันก็รำคาญเหมือนกันนั่นแหละ ผู้หญิงที่ทำแบบนั้นกับม้าเพื่อหาเงินก็น่าสงสารอยู่หรอก แต่ผู้หญิงคนที่ไปกับฉันกลับชอบมาก ๆ ”
เดเร็คไม่พูดต่อและทำหน้าเหยเก
“เพื่อเงินแล้วไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้หรอก”
บนเส้นทางจราจรที่ติดขัด เขาชะลอความเร็วลงพลางเอื้อมมือหยิบกล่องบุหรี่ที่ตกไปอยู่ใต้ฝ่าเท้าขึ้นมา เดเร็คพูดในขณะที่เก็บมันใส่กระเป๋าด้านหน้าของตัวเองแทนที่จะส่งคืนให้ผมซึ่งกำลังแบมือรอ
“ฉันก็เป็นห่วง นึกว่าจะใส่เข้าไปหมด แต่ก็ไม่ได้ใส่เข้าไปทั้งหมดหรอก ถ้าใส่เข้าไปหมดนั่นมีหวังตาย…”
“ทุเรศน่า พอได้แล้ว”
ผมแสดงท่าทีไม่พอใจและจ้องหน้าของเดเร็ค จากนั้นก็ผลักหัวของหมอนั่นที่กระตุกริมฝีปากด้วยสีหน้าบึ้งตึง เดเร็คยิ้มทั้งที่ยังขมวดคิ้ว
เดเร็คทำอาชีพที่ดูสุขุมอย่างบอดี้การ์ด แต่เขาเป็นพวกชอบคุยเรื่องซุบซิบมากกว่าคนอื่น ๆ ทุกเย็นในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาจะลากผมและบรรดาเพื่อนร่วมงานไปบาร์เพื่อเล่นบิลเลียดหรือไม่ก็ไพ่โป๊กเกอร์ถึงเราจะคุยกันหลายเรื่อง แต่หัวข้อการสนทนาส่วนใหญ่มักจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬากับเรื่องเซ็กซ์ เมื่อมองดูเดเร็คในบางครั้งก็ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูหนังตลกทางเพศ หากพระเจ้ายอมมอบความช่างสังเกตให้หมอนั่นสักนิดก็อาจจะอัปเกรดจากหนังตลกคุณภาพต่ำมาเป็นหนังตลกร้ายทางเพศแทน แต่น่าเสียดายที่พระเจ้าไม่สิ้นเปลืองพลังของท่านกับเรื่องแบบนั้น
ผมกับเดเร็คแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เหมือนที่เคยได้ยินบ่อย ๆ มาตั้งแต่สมัยมัธยมจากคนรอบตัว ผมมีนิสัยคิดก่อนที่จะเปิดปากพูดต่างจากเดเร็คที่มีพรสวรรค์ในการพูดจาเกินจริงและตื่นเต้นกับเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ในอดีตเขาจะพูดตะกุกตะกักเมื่อรู้สึกตื่นเต้น ความเร็วในการพูดมักจะตามไม่ทันความคิดอยู่เสมอ
นอกหน้าต่างรถ ความมืดกำลังบดบังพื้นถนน แต่เมืองกลับสว่างไสวไปด้วยไฟนีออน ค่ำคืนที่แท้จริงไม่มีทางมาเยือนสถานที่แห่งนี้
สมัยที่ผมยังเป็นเด็ก ผมเคยอาศัยอยู่กับคุณปู่ในอพาร์ตเมนต์ซอมซ่อ คุณยายหลิงเป่าซึ่งเป็นชาวจีนที่อยู่ข้างบ้านเคยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมณฑลที่ค่ำคืนไม่เคยมาถึง ในอดีต ก่อนที่คุณยายของคุณยายหลิงเป่าจะเกิดนานมาก มีสถานที่แห่งหนึ่งถูกเรียกว่า อาณาจักรฮั่นและทางตะวันออกเฉียงใต้ของอาณาจักรนั้นก็มีสถานที่ที่เรียกว่า มณฑลไร้ราตรี ที่นั่น ดวงอาทิตย์ยังส่องสว่างแม้จะเป็นเวลากลางคืน ดังนั้นชาวอาณาจักรฮั่นจึงตั้งชื่อให้มณฑลแห่งนี้ว่า ‘ไร้ราตรี’ และถือเป็นสถานที่ที่พิเศษ
จนกระทั่งท่านเสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อนจากเบาหวานในปีที่ผมอายุได้สิบสอง ท่านรักผมมากเพราะทำให้นึกถึงหลานชายที่ตายไปด้วยอุบัติเหตุ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ใช่คนจีน แต่ท่านก็เรียกผมด้วยชื่อที่เหมือนเด็กผู้หญิงว่า เสี่ยวหลิง และเนื่องจากผมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับท่านตั้งแต่หลังเลิกเรียนจนค่ำ ผมจึงคุ้นเคยกับภาษาจีนมากกว่าภาษาเกาหลีที่คุณปู่ของผมใช้เสียอีก
อย่างไรก็ตาม มณฑลไร้ราตรีที่คุณยายเคยบอกผมนั้นก็ไม่ได้อยู่ไกลเลย ห้องเล็ก ๆ ซึ่งเปิดไฟทิ้งไว้ เพื่อไม่ให้ผล็อยหลับไปจนกว่าคุณปู่ที่ออกไปทำงานจะกลับมา ก็คือสถานที่ที่ไม่มีเวลาค่ำคืนเช่นเดียวกับมณฑลไร้ราตรี
เมื่อคุณปู่พาร่างอ่อนล้ากลับมาพร้อมกลิ่นเส้นใยของผ้ากับกลิ่นน้ำยาฟอกขาวของร้านซักรีด มณฑลไร้ราตรีจึงจะหายไปจากห้องคับแคบนั้น