War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 3249

WSSTH ตอนที่ 3,249 : จอมราชันอมตะสววรรค์ใต้
 
 
 
“ล้อเล่น?”
 
ได้ยินคำของชายชรา ต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่คลี่ยิ้มแห้งๆ แต่ก็ไม่คิดจะอธิบายอะไร
 
เนื่องเพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้ต่อให้พูดอะไรออกไป ก็ไม่สู้กับการลงมือเข่นฆ่าผู้นำตระกูลเหอให้เห็นกันชัดๆ
 
ตระกูลเหอในฐานะที่เป็น 1 ใน 10 ตระกูลใหญ่ของแดนสวรรค์ใต้ สถานที่ตั้งจวนของตระกูลนั้นอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มอันกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง เต็มไปด้วยอาคารปลูกสร้างใหญ่โตมากมาย
 
และมองจากผู้คนที่เดินผ่านเข้าออกตระกูลเหอเป็นสายปานธารน้ำ ก็บอกให้รู้ว่าตระกูลเหอมีความเจริญรุ่งเรืองเพียงใด
 
เมื่อพวกต้วนหลิงเทียนมาหยุดเหินร่างอยู่ด้านนอกตระกูลเหอแบบนี้ คนของตระกูลเหอที่ทำหน้าที่ลาดตระเวนรอบๆก็เร่งรุดเข้ามาปิดล้อมทันที
 
คนของหน่วยลาดตระเวนตระกูลเหอแต่ละคนพอมาถึงก็เอาแต่มองจ้องกลุ่มต้วนหลิงเทียนไม่วางตา
 
อย่างไรก็ตาม สายตาของผู้คนส่วนใหญ่นั้นไปหยุดอยู่ที่ฮ่วนเอ๋อมากกว่า เนื่องเพราะรูปโฉมของฮ่วนเอ๋อมันดึงดูดสายตามาเกินไป
 
“จ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยว นำพาผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยคนปัจจุบันของคฤหาสน์เฉวียนโยว มาหาผู้นำตระกูลเหอ เพื่อให้มันออกมารับความตายเพื่อชดใช้!!”
 
ชายชราก้าวออกมากล่าวประกาศเสียงดัง พอพูดจบคำสองตาชายชราก็ทอประกายเยียบเย็น จากนั้นมือหนึ่งยกขึ้นโบกสะบัดออกไปเบาๆ เข่นฆ่าสังหารหน่วยลาดตระกูลเหอ จนเหลือผู้รอดชีวิตเอาไว้แค่คนเดียว และคนที่เหลือรอดอยู่บัดนี้สีหน้าก็ซีดเซียวด้วยความหวาดกลัว
 
“ย…ยอดฝีมือจอมราชันอมตะ!!”
 
ผู้ที่รอดชีวิตเร่งหันหลังแล้วหลบหนีไปทันที หากทว่าชายชราก็ไม่ได้ลงมือเคลื่อนไหวอะไรอีก
 
“เพียงรออยู่ที่นี่เถอะ”
 
ชายชราหันไปเอ่ยบอกต้วนหลิงเทียน
 
“อ่า”
 
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า เขาเองก็รู้ดีว่าในเมื่อชายชราลงมือใหญ่โตขนาดนี้แล้ว อย่างไรผู้นำตระกูลเหอก็ต้องนำคนมาตรวจสอบสถานการณ์แน่นอน
 
ราวๆ 1 เค่อต่อมา
 
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
 

 
สำเนียงแหวกสายลมฉับไวดังขึ้นถี่ยิบ ร่างคนกลุ่มหนึ่งกำลังเหินมาจากส่วนลึกตระกูลเหอ เร่งรุดเข้าหากลุ่มต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆ
 
ผู้ที่เหินร่างนำอยู่หน้าสุด เป็นชายวัยกลางคนห่มหนังพยัคฆ์ รูปร่างกำยำแลดูแข็งแกร่งไม่ใช่ชั่ว
 
ด้านหลังชายวัยกลางคน มีชายชราติดตามประกบหลังอยู่ 6 คน พร้อมด้วยชายวัยกลางคนท่าทางเอาเรื่อง 4 คน ทั้งงหมดจับจ้องมองมาที่พวกต้วนหลิงเทียนเขม็ง
 
จูเก่อฟงและจูเก่ออวิ๋นเพียงลอยร่างเคียงกันอย่างเงียบงัน แม้ทั้งคู่จะไม่ได้ลงมือทำอะไร หากแต่ความรู้สึกประหนึ่งสรรพสิ่งโดยรอบเป็นเพียงธุลีที่แผ่ออกมาตามธรรมชาติ ก็ทำให้สภาวะคนกลับกลายเป็นลี้ลับสุดหยั่งถึง ชวนให้เหล่าคนตระกูลเหอบังเกิดแรงกดดันไม่น้อย
 
จักรพรรดิอมตะอันทรงพลัง เพียงยืนนิ่งๆไม่สำแดงเดชอะไร ก็ทำให้เหล่าจอมราชันอมตะรู้สึกเสมือนมีแรงกดดันบีบเค้นลำคอให้หายใจไม่ออกแล้ว
 
และยิ่งจอมราชันอมตะที่ว่าเข้าใกล้ขอบเขตจักรพรรดิอมตะเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสัมผัสได้ถึงแรงกดดันดังกล่าวมากขึ้น!
 
กลับกัน คนที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อย โดยเฉพาะไม่ถึงขอบเขตจอมราชันอมตะ ย่อมไม่อาจรับรู้อะไรได้เลย
 
“อาวุโสทั้ง 2 ท่านนี้…พวกท่านคงมิใช่คนของคฤหาสน์เฉวียนโยวกระมัง?”
 
ชายวัยกลางคนในชุดหนังเสือ ก้าวออกมากล่าวคำด้วยน้ำเสียงระวัง มันแม้ไม่ได้โกรธหรือมีโมโหแต่ใบหน้าก็มอบความยำเกรงให้ผู้ชมมองตามธรรมชาติ และชายวัยกลางคนผู้นี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น มันคือ เหอเทียนฉุน ที่เข่นฆ่าผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยวในปีนั้น
 
และบัดนี้เหอเทียนฉุนก็กำลังมองไปยังคู่พี่ชายน้องสาวจูเก่อด้วยสีหน้าแววตาหวั่นเกรง
 
เพียงเพราะแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากร่างอีกฝ่ายอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่อะไรที่ตัวตนอย่างจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้จะเพาะสร้างได้ด้วยซ้ำ!
 
และในขณะที่มันเอ่ยถามคู่พี่น้องฝาแฝดจูเก่อ เหอเทียนฉุนยังลอบส่งข้อความติดต่อไปยังจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ คนปัจจุบัน ที่ปกครองแดนสวรรค์ใต้อยู่ทันที
 
10 ตระกูลใหญ่ จะมากจะน้อยก็ล้วนมีความสัมพันธ์กับจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ทั้งสิ้น
 
ตอนนี้ มีตัวตนที่มันกำลังสงสัยว่าอาจจะเป็นถึงตัวตนขอบเขตจักรพรรดิอมตะมาเยือนถึงหน้าตระกูลเหอ เช่นนั้นเหอเทียนฉุนย่อมรู้สึกกดดันอย่างมาก จึงเร่งติดต่อไปหาจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ทันที หมายให้อีกฝ่ายมาที่นี่เพื่อดูว่าความรู้สึกของมันถูกต้องรึเปล่า
 
“เจ้าไม่ต้องสนใจพวกเราหรอก”
 
จูเก่ออวิ๋นเหลือบมองไปยังเหอเทียนฉุนด้วยสายตาไม่แยแส พลางกล่าว “ไม่ว่าเจ้าจะมีเรื่องราวความแค้นความบาดหมางอันใดกับคฤหาสน์เฉวียนโยว พวกเราไม่คิดเข้าไปแทรกแซง”
 
“หืม?”
 
ในขณะที่จูเก่ออวิ๋นกล่าวคำนี้ออกมา สีหน้าจ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยก็เปลี่ยนไปทันที “ผู้อาวุโส…”
 
“ไม่คิดแทรกแซง?”
 
ได้ยินสิ่งที่จูเก่ออวิ๋นพูด เหอเทียนฉุนไม่ค่อยจะเชื่อสักเท่าไหร่ ในเมื่อติดสอยห้อยตามมาด้วย แต่ไม่คิดแทรกแซง? เป็นไปได้หรือ?
 
อย่างไรก็ตาม พอมันเห็นหน้าจ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยที่เปลี่ยนไป ลูกตามันก็ทอแสงจ้าขึ้นมาทันที
 
หรือตัวตนที่มันสงสัยว่าจะเป็นจอมราชันอมตะ แค่คิดมาชมดูความสนุกสนานอย่างเดียวจริงๆ?
 
“เจ้าคือจ้าววังผู้พิทักษ์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยวเช่นนั้นรึ?”
 
สายตาเหอเทียนฉุนมองจ้องไปยังร่างชราเขม็ง เอ่ยถามออกมาเสียงต่ำ “เป็นเจ้าที่ฆ่าคนของตระกูลเหอข้าเมื่อครู่กระมัง?”
 
“หึ!”
 
ชายชรามองจ้องเหอเทียนฉุนด้วยสายตาเปี่ยมล้นไปด้วยยความเคียดแค้นชิงชังทั้งโทสะ “ข้าไม่เพียงแต่จะเป็นจ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยว แต่ยังเป็นลูกชายของฉางเหิงอีกด้วย!”
 
ฉางเหิง เป็นชื่อของผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยวรุ่นที่แล้ว
 
“ฉางเหิง?”
 
เหอเทียนฉุนตะลึงไปทันใดเมื่อได้ยินนามดังกล่าวจากชายชรา จากนั้นสีหน้าของมันก็ฉายให้เห็นความประหลาดใจอยู่บ้าง “ที่แท้…เจ้าก็คือลูกชายของฉางเหิงนี่เอง…”
 
รอยยิ้มเปี่ยมเลศนัยของฉางเหิงค่อยๆยกขึ้นที่มุมปาก “มารดาของเจ้า ใช้ได้เลย…”
 
ย้อนกลับไปในปีนั้น ชนวนเหตุเรื่องราวความแค้นทั้งหมด เป็นเพราะเหอเทียนฉุนไปขืนใจภรรยาของฉางเหิง ซึ่งเป็นมารดาของชายชราจนมีมลทิน…
 
“เจ้าสมควรตาย!”
 
ได้ยินวาจาดังกล่าวของเหอเทียนฉุน สีหน้าชายชราก็เปลี่ยนไปทันที ทั่วร่างปรากฏพลังปะทุออกมากู่ร้องกึกก้อง คนโจนทะยานเข่นฆ่าสังหารเข้าใส่เหอเทียนฉุนทันที
 
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
 

 
ทั้งคู่ปะทุพลังวูบร่างประมือกันไม่กี่กระบวนท่า แต่ไม่นานเหอเทียนฉุนที่พลังฝีมือเหนือกว่าก็เริ่มมีเปรียบ สุดท้ายก็สะกดปราบชายชราได้อย่างสมบูรณ์
 
“พลังฝีมือเจ้าก็นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว…น่าเสียดายที่พรสวรรค์ของเจ้ามันย่ำแย่กว่า ฉางเหิง บิดาเจ้าหลายขุม น่าเสียดายหากฉางเหิงไม่ได้ตกตายไปวันนั้น ป่านนี้อย่างน้อยๆมันก็สมควรกลายเป็นจอมราชันอมตะสมญานามไปแล้ว ไม่แน่ยังอาจจะเหนือกว่านั้นเสียอีก!”
 
เหอเทียนฉุนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเย้ยเยาะ
 
ด้านชายชราที่บัดนี้บาดเจ็บสาหัสจนเลือดไหลย้อยที่มุมปาก ร่างสั่นเทิ้มไปเล็กน้อย สองตาฉายแววเด็ดเดี่ยวคิดสู้แลกชีวิตกับเหอเทียนฉุน!
 
ทว่าทันใดนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนพลันก้าวออกมา “ผู้อาวุโส ให้ข้าเอง”
 
ต้วนหลิงเทียนลอยร่างมาหยุดเบื้องหน้าชายชรา เหลือบมองไปยังเหอเทียนฉุนด้วยสายตาเฉยเมย บนใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆให้เห็น
 
“เจ้าเป็นผู้ใด?”
 
เหอเทียนฉุนขมวดคิ้วเป็นปม เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียน
 
“ผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยวคนปัจจุบัน ต้วนหลิงเทียน”
 
ต้วนหลิงเทียนกล่าว
 
“ต้วนหลิงเทียน?”
 
แรกได้ยินเหอเทียนฉุนก็นิ่งไปวูบหนึ่ง ต่อมาจึงตระหนักได้ว่า “เจ้าก็คือต้วนหลิงเทียน…ที่แสดงผลงานเลิศล้ำในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางเมื่อ 200 ปีก่อนน่ะรึ?”
 
ชื่อต้วนหลิงเทียน ผู้นำตระกูลเหอ อย่างเหอเทียนฉุนก็เคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง
 
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ยึดถือต้วนหลิงเทียนเป็นจริงจังอะไร คิดว่าเป็นแค่อัจฉริยะรุ่นเยาว์คนหนึ่งเท่านั้น
 
บางทีหลังจากนี้อีกไม่กี่พันปี ไม่ก็อาจจะหลายหมื่นปี ต้วนหลิงเทียนถึงจะสามารถเทียบเคียงกับมันได้ แต่ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนที่ยืนอยู่เบื้องหน้ามัน ยังไม่พอ
 
“เจ้านั่นก็คือต้วนหลิงเทียนงั้นหรือ?”
 
ขณะเดียวกันสายตาของเหล่าผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลเหอที่อยู่ด้านหลังเหอเทียนฉุน ก็มาหยุดลงบนร่างต้วนหลิงเทียนพร้อมเพรียง ในแววตาพวกมันเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจไม่น้อย
 
ในตอนนั้นชื่อต้วนหลิงเทียนเรียกว่าดังกระฉ่อนไปทั่วแดนสวรรค์ใต้จริงๆ กระทั่งพวกมันเองก็เคยได้ยินมาอย่างน้อยครั้งหนึ่ง
 
“แต่…ไม่ใช่ว่ามันออกจากคฤหาสน์เฉวียนโยวไปแล้วหรือไร?”
 
“นั่นสิ ข้าก็ได้ยินว่ามันออกจากคฤหาสน์เฉวียนโยวไปแล้วเหมือนกัน และข่าวนี้ข้าได้มาจากเผ่าจิ้งจอกมายาโดยตรง”
 

 
เหล่าอาวุโสของตระกูลเหอกระซิบคุกันระงม สองตาก็มองจ้องไปที่ต้วนหลิงเทียน
 
ฟุ่บ!
 
เสียงหวีดหวิวเร็วไวหนึ่งดังขึ้นแผ่วเบา จากนั้นร่างผอมหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคนปานภูตผี
 
อย่างไรก็ตามก่อนที่ร่างผอมผู้นี้จะปรากฏตัวขึ้นสักพัก ไม่ว่าจูเก่อฟงหรือจูเก่ออวิ๋น คิ้วของทั้งคู่ก็เลิกขึ้นเล็กน้อย
 
ร่างของผู้มาใหม่เริ่มปรากฏให้ทุกคนเห็นชัดถนัดตา เป็นชายวัยกลางคนร่างผอมมาในชุดคลุมสีน้ำเงินหรูหราแลดูสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลา ทั่วร่างแผ่ความรู้สึกน่าเกรงขาม ชวนให้ผู้คนรู้สึกำเกรงประการหนึ่ง
 
“เหอเทียนฉุน ผู้นำตระกูลเหอ คารวะจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้!”
 
เมื่อผู้มาใหม่เผยโฉมให้เห็นกันชัดถนัดตา เหอเทียนฉุนผู้นำตระกูลเหอก็ประสานมือโค้งหัวคารวะอย่างนอบน้อม
 
“คารวะจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้!”
 
เหล่าอาวุโสด้านหลังเหอเทียนฉุนก็เร่งประสานมือโค้งคารวะทักทายผู้มาใหม่เช่นกัน
 
“คารวะจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้”
 
ตอนนี้เองจ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยว ก็ป้องมือประสานโค้งคารวะทักทายผู้มาใหม่เช่นกัน
 
มีเพียงต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อเท่านั้นที่เหลือบมองผู้มาใหม่อย่างสงบ ไม่ได้ออกอาการอะไร
 
สำหรับจูเก่อฟงกับจูเก่ออวิ๋นนั้น ไม่ได้เหลือบแลมันเลยด้วยซ้ำ
 
“ต้วนหลิงเทียน เจ้าพบเจอจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ แต่ยังไม่รีบทำความเคารพอีกงั้นหรือ!?”
 
เหอเทียนฉุนเหลือบมองไปที่ต้วนหลิงเทียนพลางกล่าวเสียงเย็น
 
“มัน?”
 
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองไปยังจอมรชันอมตะสวรรค์ใต้ผ่านๆ จากนั้นก็ส่ายหัวไปมา “มันรับคารวะข้าไม่ไหวหรอก”
 
ทันทีที่เหอเทียนฉุนและคนอื่นๆของตระกูลเหอได้ยินคำพูดดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน และคิดว่าไม่พ้นจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ต้องมีโมโห จนต้องลงมือสำเร็จโทษต้วนหลิงเทียนแน่นอน
 
พวกมันกลับพบว่า จอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ที่พึ่งปรากฏตัวออกมา กลับเร่งประสานมือโค้งคารวะชายหนุ่มกับหญิงสาวที่ลอยอยู่ด้านข้างด้วยท่าทีเคารพนอบน้อม
 
“จอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ เซี่ยงชิ่งอวี่ ขอคารวะใต้เท้าจักรพรรดิอมตะทั้ง 2 ท่าน”
 
ตั้งแรกเห็นเซี่ยงชิ่งอวี่ จอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ ก็บ่งบอกได้ทันทีว่าชายหนุ่มหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าคู่นี้ ล้วนเป็นตัวตนอันทรงพลังขอบเขตจักรพรรดิอมตะทั้งสิ้น!
 
พลังฝีมือของมันเหนือกว่าเหอเทียนฉุนมาก ด้วยเหตุนี้มันจึงไวต่อสัมผัสพลังขอบเขตจักรพรรดิอมตะ
 
มันมั่นใจเต็มสิบส่วน ว่าทั้งคู่เป็นจักรพรรดิอมตะไม่ผิดแน่!
 
“ใต้เท้าจักรพรรดิอมตะ!?”
 
เหอเทียนฉุนและคนอื่นๆของตระกูลเหอ พอเห็นจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ คารวะทักทายคู่พี่น้องจูเก่อด้วยความสำรวมนอบน้อม สีหน้าพวกมันก็เปลี่ยนไปใหญ่หลวงทันที
 
“ผู้น้อยขอคารวะใต้เท้าจักรพรรดิอมตะ!”
 
จากนั้นเหอเทียนฉุนและคนอื่นๆก็เร่งโค้งหัวคารวะตู่พี่น้องจูเก่อด้วยท่าทีนอบน้อมราวกับข้าทาสชั้นต่ำพบผู้เป็นนาย โดยเฉพาะเหอเทียนฉุนที่ยืนยันตัวตนของอีกฝ่ายได้แล้ว
 
‘จักรรพรรดิอมตะคู่นี้…ไฉนถึงมากับคนของคฤหาสน์เฉวียนโยวได้’
 
เหอเทียนฉุนรู้สึกประหม่าไม่น้อย
 
ถึงแม้จักรพรรดิอมตะคู่นี้จะบอกแล้วว่าไม่คิดจะสอดมือเข้ามาแทรกแซง แต่การมาพร้อมกับคนของคฤหาสน์เฉวียนโยวแบบนี้ ให้บอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มันย่อมไม่เชื่อเด็ดขาด
 
แต่จักรพรรดิอมตะก็ลั่นวาจาว่าจะไม่สอดมือแล้ว…
 
จักรพรรดิอมตะไม่ควรโกหกใช่หรือไม่?
 
อย่างไรก็ตามเผชิญกับการคารวะทักทายของคนตระกูลเหอ จูเก่อเฟิงกลับไม่ได้แยแสพวกมันแม้แต่น้อย ส่วนจูเก่ออวิ๋นยังดี ที่เหลือบมองพวกมันผ่านๆก่อนจะพยักหน้าให้เบาๆ
 
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
 
จอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ ขมวดคิ้วเป็นปมหลวมๆ มองจ้องเหอเทียนฉุนก่อนจะถามผ่านการส่งเสียง
 
หลังจากได้ยินเรื่องราวจากปากเหอเทียนฉุนแล้ว มันจึงพยักหน้าให้เหอเทียนฉุนคราหนึ่งพลางกล่าว “ในเมื่อใต้เท้าจักรพรรดิอมตะบอกว่าจะไม่สอดมือก็คือไม่สอดมือเป็นธรรมดา”
 
“เจ้าจากคฤหาสน์เฉวียนโยวผู้นั้น มีเรื่องราวความแค้นกับเหอเทียยฉุนรึ?”
 
ตอนนี้เองเซี่ยงชิ่งอวี่ก็หันไปมองถามชายชรา ผู้เป็นจ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยว
 
ชายชราที่โดนเอ่ยถาม ก็อดไม่ได้ที่จะลังเล
 
หากจักรพรรดิอมตะทั้ง 2 ไม่คิดแทรกแซงจริงๆ แล้วมันยังจะหาเรื่องต่ออีกหรือ?
 
“ไม่ผิด”
 
ชายชราไม่ได้พูดอะไร เป็นต้วนหลิงเทียนที่อยู่ด้านหน้าตอบกลับ ยังเอ่ยต่อเสียงเบาว่า “วันนี้พวกเรามาที่นี่เพื่อเอาชีวิตผู้นำตระกูลเหอ”
 
“คนไม่เกี่ยวข้องเช่นเจ้า ก็ชมดูเรื่องราวอยู่ข้างๆไปเสีย”
 
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองไปทางจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ผ่านๆอีกรอบค่อยกล่าว
 
“บังอาจ!!”
 
ทันทีที่เสียงกล่าวต้วนหลิงเทียนดังจบคำ เหอเทียนฉุนก็มองจ้องต้วนหลิงเทียนอย่างเอาเรื่อง โพล่งออกมาเสียดังว่า “ต้วนหลิงเทียน ต่อหน้าจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ เจ้าไม่เพียงไม่เคารพ แต่ยังกล้าเหิมเกริมจาบจ้วง…!”
 
“เจ้า…หรือจะบอกว่ากระทั่งท่านจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ ก็ไม่เห็นหัวแล้ว?!”

War Sovereign Soaring The Heavens

War Sovereign Soaring The Heavens

Type: Author:
จิตวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธในโลกปัจจุบัน ได้ทะลุข้ามไปยังโลกอื่นรวมเข้ากับความทรงจำของของเด็กหนุ่ม ที่ถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา จนกระทั้งขาดใจตาย การฝึกฝนเทคนิค เก้ามังกรเทพสงคราม จะสามารถกวาดล้างศัตรูได้โดยไม่มีวันแพ้! ขณะที่เขา มีความสามารถในการปรุงยา การสร้างอาวุธ และเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ … ทักษะทั้งหมดนี้ คือวิถีทางแห่งราชันย์!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset