War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 3595

ตอนที่ 3595 : เตรียมจากไป

 

ถึงแม้หมู่บ้านสกุลต้วนจะเป็นแค่หมู่บ้านอันไกลห่าง แต่ในหมู่บ้านก็มีตัวตนขอบเขตจักรพรรดิอมตะไม่น้อย ส่วนจอมราชันอมตะหรือราชาอมตะนั้น มีให้เห็นไปทั่ว

 

แม้แต่เด็กน้อยบางคนด่านพลังก็บรรลุถึงขอบเขตเซียนอมตะแล้ว

 

ด้วนหลิงเทียนเองก็สรุปได้จากการสำรวจว่า…

 

ในระนาบเทพนั้น ทารกทุกคนที่คลอดออกมาสมควรบรรลุถึงขอบเขตเซียนอมตะแต่แรก กระทั่งขณะตั้งครรภ์ มารดาเองก็ต้องคอยใช้พลังของตัวเองระงับพลังของลูกเอาไว้ ไม่ให้ลูกน้อยเตะท้องตัวเองแรงเกินไป…

 

ด้วยความที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวอ้างว่ามาจากระนาบเทพแห่งอื่น ดังนั้นเขาย่อมไม่อาจเปิดเผออกไป ว่ากระทั่งสามัญสำนึกเช่นนี้เขาก็ไม่รู้

 

ได้แต่สรุปเอาจากการมองสำรวจเท่านั้น

 

“หมู่บ้านสกุลต้วนอาศัยอยู่ในภูเขาไร้สิ้นสุดมาหลายชั่วอายุคน และอยู่กันอย่างพอเพียง…ในหมู่บ้านก็มีปลูกผลไม้เทพบางชนิด และยังมีสายแร่หินเทพอีกด้วย คนในหมู่บ้านจึงได้รับทรัพยากรบ่มเพาะพอสมควร

 

หลังจากบรรลุถึงขอบเขตเทพ คนของหมู่บ้านสกุลด้วนก็จะไปซื้อเคล็ดบ่มเพาะข้างนอก แต่ด้วยเพราะก่อนซื้อต้องทำการสาบานด้วยเวทย์เลือดหัวใจว่าจะไม่ถ่ายทอดเคล็ดวิชาบ่มเพาะออกไปเด็ดขาด นั่นเป็นคำสาบานเลือดที่ผู้แข็งแกร่งที่สุดตราเอาไว้ในระนาบเทพ แม้แต่อริยะเทพก็ไม่อาจฝ่าฝืน

 

“ทันที่ที่มีคนผิดคำสาบานเวทย์เลือดหัวใจผู้แข็งแกร่งที่สุดก็จะรับรู้ได้ทันที จากนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้แข็งแกร่งที่สุดก็จะลงมือไล่ลาผู้ที่ผิดต่อค่าสาบาน…แม้แต่ชนชั้นอริยะเทพก็ไม่อาจหลีกหนีความตายได้พ้น

 

เพราะไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่เอ่ยยคำสาบานต่อเวทย์เลือดหัวใจ ร่างกายก็จะถูกประทับรอยไว้ทันที เว้นเสียแต่จะบรรลุถึงขอบเขตผู้แข็งแกร่งที่สุดแล้ว มิฉะนั้นต่อให้เป็นอริยะเทพขั้นสูงก็ไม่อาจลบตราประทับดังกล่าวได้

 

ด้วนหลิงเทียนที่อยู่ในหมู่บ้านสกุลด้วนมาระยะหนึ่ง ไม่เพียงแต่จะรู้สถานการณ์ในตระกูลตัวนมากขึ้น แต่ยังล่วงรู้สถานการณ์ทั่วไปในระนาบเทพอีกด้วย…และส่วนใหญ่เขาก็ไปแอบฟังผู้ใหญ่สอนเด็กน้อยมา

 

ในบรรดาเรื่องที่ผู้ใหญ่สอนเด็กน้อยในหมู่บ้าน ก็รวมถึงการสาบานกับเวทย์เลือดหัวใจ

 

การสาบานกับเวทย์เลือดหัวใจ ก็คล้ายคลึงกับการสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์ในระนาบโลกียะอยู่บ้าง เพียงแต่เมื่อเทียบกับอย่างหลังแล้ว อย่างแรกยังคงด้อยกว่า…เนื่องเพราะอย่างหลังนั้น ทันทีที่ผิดคำสาบานอัสนี้ทัณฑ์สวรรค์จะฟาดผ่าลงจากฟ้าพิฆาตร่างผู้ผิดคำสาบานทันที

 

หากทว่าหากผิดค่าสาบานกับเวทย์เลือดหัวใจ ผู้แข็งแกร่งที่สุดก็จะลงมือด้วยตัวเอง หรือส่งผู้บังคับบัญชามาลงมือเข่นฆ่าผู้ผิดคำสาบาน

 

กล่าวได้ว่าหากผิดคำสาบานต่อเวทย์เลือดหัวใจ จะอย่างไรก็หลีกหนีความตายไม่พ้น!

 

เป็นเพราะสาเหตุนี้เอง ในระนาบเทพ การสาบานต่อเวทย์เลือดหัวใจจึงเป็นอะไรที่ทุกคนรู้กันดี และไม่มีใครกล้าลองดีผิดค่าสาบาน…นอกเสียจากผู้แข็งแกร่งที่สุด

 

เพราะค่าสาบานเวทย์เลือดหัวใจ ไร้ประโยชน์ต่อผู้แข็งแกร่งที่สุด

 

ระนาบเทพ เดิมที่มันก็เป็นระนาบที่เปิดสร้างโดยผู้แข็งแกร่งที่สุด…สำหรับผู้แข็งแกร่งที่เปิดสร้าง สถาณการณ์ก็ไม่ต่างอะไรจากโลกใบเล็กภายในกาย กระทั่งระนาบเทพอาจจะวิวัฒนาการมาจากโลกใบเล็กภายในกายด้วยซ้ำ

 

พอคิดถึงเรื่องที่วารีเทพช่าระโลกาบอกเขาไว้ก่อนหน้า ตัวนหลิงเทียนก็คิดว่ามันมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นแบบนั้น

 

แต่เป็นธรรมดาว่าถึงแม้จะเป็นวารีเทพชำระโลกาเอง แต่เรื่องนี้นางก็ไม่กล้ายืนยัน

 

ไม่คิดจริงๆว่าในหมู่บ้านเล็กๆห่างไกลความเจริญของระนาบเทพ…จะมีชนชั้นจักรพรรดิอมตะมากมายขนาดนี้ แม้แต่จักรพรรดิอมตะ 10 ทิศกระทั่งครึ่งก้าวเทพก็มีให้เห็น

 

ถึงแม้วนหลิงเทียนจะอยู่ในหมู่บ้านสกุลด้วนมาสักพักแล้ว แต่เขาก็ยังทิ้งกับเรื่องนี้ไม่หาย เพราะนี่เป็นอะไรที่เขาไม่แม้แต่จะนึกถึงตอนยังอยู่ในระนาบเทวโลก…หมู่บ้านเล็กๆที่เรียกว่าเป็นดังจุดต่ำสุดของระนาบเทพ กลับมีตัวตนระดับแนวหน้าของระนาบเทวโลกดำรงอยู่…กล่าวได้ว่าหากหัวหน้าหมู่บ้านบางคนที่บรรลุถึงครึ่งก้าวเทพลงไปยังระนาบเทวโลก ก็สามารถจัดการจักรพรรดิสวรรค์กว่า 9 ส่วนได้ง่ายๆ!!

 

เป็นธรรมดาว่าถึงแม้วนหลิงเทียนจะรู้สึกถึงกับเรื่องนี้ แต่เขาก็คอยบอกตัวเองเสมอว่าที่นี่คือระนาบเทพไม่ใช่อะไรที่ระนาบเทวโลกจะทาบติด

 

พูดถึงเคล็ดบ่มเพาะ…ข้าก็มีเคล็ดวิชาบ่มเพาะที่ท่านอาจารย์มอบไว้ให้ ขอเพียงความสามารถและความเข้าใจข้าสูงพอ ข้าก็สามารถใช้มันบ่มเพาะพลังได้ถึงขอบเขตอริยะเทพ

 

หลังจากมาถึงระนาบเทพแล้ว ด้วนหลิงเทียนก็รู้ค่าของเคล็ดวิชาบ่มเพาะในระนาบเทพดี

 

ในระนาบเทพ เคล็ดวิชาบ่มเพาะที่สามารถฝึกปรือได้จนถึงขอบเขตเทพนั้น เป็นแค่เคล็ดวิชาเทพขั้นต่ำเท่านั้น แต่หากเป็นในระนาบเทวโลกมันจะถือว่าเป็นเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับแนวหน้าทันที อนิจจาเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับแนวหน้าในระนาบเทวโลก กลับเป็นเพียงเคล็ดวิชาพื้นฐานที่แจกจ่ายให้ทุกคนในหมู่บ้านสกุลต้วนเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม หากเป็นเคล็ดวิชาบ่มเพาะเหนือกว่านี้ ก็มีค่าไม่น้อยแล้ว

 

ยิ่งเคล็ดวิชาบ่มเพาะสูงเท่าไหร่ ก็ต้องใช้หินเทพเพื่อยืมฝึกมากขึ้นเท่านั้น

 

แน่นอนว่ามันมีค่ามากสำหรับคนในหมู่บ้านสกุลต้วนเท่านั้น

 

ขุมกำลังอันแข็งแกร่งในระนาบเทพไม่ต้องกล่าวถึงเคล็ดวิชาเทพขั้นกลางเลย แม้แต่เคล็ดวิชาเทพขั้นสูงก็มี…โดยเฉพาะขุมกลังระดับต้นๆของระนาบเทพ พวกมันมีแม้แต่เคล็ดวิชาเทพระดับจักรพรรดิ ที่สามารถใช้ฝึกฝนบ่มเพาะได้ถึงระดับจักรพรรดิเทพด้วยซ้ำ

 

แต่ถ้าหากคิดจะบ่มเพาะให้ถึงขอบเขตอริยะเทพล่ะก็ พวกมันสามารถเช่ายิ้มเคล็ดวิชาจากผู้แข็งแกร่งที่สุดหรือผู้ที่ข้องเกี่ยวกับผู้แข็งแกร่งที่สุด หาไม่แล้วก็ต้องพึ่งพาความสามารถในการทำความเข้าใจของตัวเองถ่ายเดียว

 

ถ้าไม่มีเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับอริยะเทพ คิดจะบรรลุถึงขอบเขตอริยะเทพก็ยากเย็นแสนเข็ญนัก

 

นอกจากนี้…ในระนาบเทพ แม้แต่อุปกรณ์เทพขั้นต่ำที่ยังไม่กำเนิดจิตวิญญาณก็มีราคาสูงงพอสมควร ต้องใช้หินเทพมหาศาลเพื่อซื้อ…และเป็นราคาที่หมู่บ้านสกุลต้วนเองก็จ่ายไม่ไหว

 

แม้หมู่บ้านสกุลต้วนจะดำรงอย่าหลายปี สืบทอดมรดกต่อกันมาหลายรุ่น แต่ก็มีอุปกรณ์เทพขั้นต่ำแค่ชิ้นเดียว และเป็นมรดกตกกทอดจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น เห็นว่าอยู่ในมือผู้นำสกุลตัวน…

 

ผู้นำสกุลตัวนนั้น ก็คือผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในหมู่บ้านสกุลตัวนทั้งหมด และมันก็เป็นดั่งมังกรเทพยดาเห็หัวไม่เห็นหางสำหรับคนทั่วไปในหมู่บ้าน แถมไม่ได้จัดการเรื่องราวอะไรในหมู่บ้านด้วยตัวเองเพียงโยนงานให้คนอื่นจัดการดูแลทั้งนั้น

 

และนอกจากตัวมันเอง ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าที่แท้มันยังอยู่ในหมู่บ้านหรือจากไปแล้ว…

 

อย่างไรก็ตามคนในหมู่บ้านสกุลตัวนส่วนใหญ่คาดว่ามันน่าจะบรรลุถึงขอบเขตเทพแล้ว

 

“ในภูเขาไร้สิ้นสุดแห่งนี้ ยังมีหมู่บ้านที่คล้ายยคลึงกับหมู่บ้านสกุลด้วนมากมาย…อย่างเช่นหมู่บ้านสกุลเกี่ยที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านสกุลต้วนมากที่สุด

 

แถมนอกจากหมู่บ้านสกุลเกี่ยที่ว่า…ยังมีหมู่บ้านลักษณะนี้อีก 10 กว่าหมู่บ้าน

 

“ที่สำคัญยังมีหมู่บ้านเล็กๆ ที่ไม่สำคัญมากพอจะถูกยกมาเทียบอีก

 

หลังจากมาถึงหมู่บ้านสกุลต้วน ถึงแม้วนหลิงเทียนจะไม่ได้ละเลยการฝึกฝนบ่มเพาะ แต่ก็ไม่ได้เน้นหนักไปที่การฝึกฝนบ่มเพาะมากนัก เขาเลือกจะทำความเข้าใจสถานที่รวมถึงสถานการณ์พื้นฐานในระนาบเทพก่อนทั้งหมดเพื่อให้เขากำหนดแนวทางและบริหารเวลาให้เป็นประโยชน์มากที่สุดในภายหลัง จะอย่างไรเสียเขาก็มีเวลาเหลือแค่ 300 ปีเศษเท่านั้น

 

หลังจากนี้อีก 300 ปี ไม่ว่าด่านพลังฝึกปรือของเขาจะบรรลุถึงขอบเขตขีดขั้นอันใด เขาก็จะปังดินแดนการล่มสลายแห่งทวยเทพ เพื่อหาวิธีช่วยเค่อเอ่อออกมา!

 

วันเวลาผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

พริบตา ด้วนหลิงเทียนก็มาอยู่ในหมู่บันสกุลด้วนได้ 1 เดือนแล้ว

 

และตลอดเดือนที่ผ่านมา ด้วนหลิงเทียนก็ได้รับทราบเรื่องราวพื้นฐานมากมาย ขณะเดียวกันเขาก็เตรียมตัวจะออกจากหมู่บ้านสกุลต้วนเพื่อไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุด ลาจากหุบเขาได้สิ้นสุดแห่งนี้เสียที…เพราะในหุบเขาได้สิ้นสุด ไม่ว่าจะหมู่บ้านไหน อย่างดีก็มีแค่เคล็ดวิชาบ่มเพาะจนบรรลุถึงขอบเขตเทพเท่านั้น ทรัพยากรเองก็ถือว่าดีสำหรับขอบเขตเซียนอมตะ แต่สำหรับขอบเขตเทพขึ้นไปแล้วไม่อาจนับเป็นอะไรได้

 

แต่ภายในเมืองดังกล่าว มีตัวตนขอบเขตเทพมากกว่าที่นี่ ยังมีขุมกำลังที่หยั่งรากลึกในเมือง ยังปรากฏตัวตนเหนือขอบเขตเทพขั้นสูงแวะเวียนผ่านมาเป็นบางครั้ง

 

สาเหตุที่ต้วนหลิงเทียนยังไม่จากไป เพราะเขาคิดอยู่เข้าร่วมงานแต่งของด้วนล่างก่อน

 

ตัวนล่างก็เป็นชายหนุ่ม ที่เขาลอบติดตามมาถึงหมู่บ้านสกุลด้วน

 

ตลอดเดือนที่ผ่านก็เป็นด้วนล่างที่รับคำสั่งจากตัวนฉิง คอยมาช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้เขา…ไปๆมาๆด้วนหลิงเทียนก็เลยสนิทสนมกับต้วนล่างมากกว่าใครในหมู่บ้าน และด้วนล่างเองก็เชิญเขาเข้าร่วมงานแต่งอีกด้วย

 

เขาเองก็ได้รับป่ากอีกฝ่ายไว้แล้ว

 

ดังนั้นเขาจึงวางแผนว่าจะจากไปหลังเข้าร่วมงานแต่งของด้วนล่าง

 

“ส่าหรับของขวัญแต่งงานให้กระบอมตะจักรพรรดิน่าจะดีที่สุด”

 

เมื่อตัดสินใจเข้าร่วมงานแต่งแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มคิดว่าจะให้ของขวัญแต่งงานอะไรอีกฝ่ายดี สุดท้ายจึงตัดสินใจมอบกระบอมตะระดับจักรพรรดิเล่มหนึ่งให้อีกฝ่าย

 

ในภูเขาไร้สิ้นสุด อุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิก็ถือว่าเป็นของหายากแล้ว อย่างน้อยๆในหมู่บ้านสกุลต้วนก็มีอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิไม่ถึง 10 ชิ้น…และมีจิตวิญญาณสถิตย์เพียงแค่ชิ้นเดืวเท่านั้น อยู่ในมือของผู้นำสกุลตัวน

 

เป็นธรรมดาว่ากระบอมตะระดับจักรพรรดิที่ต้วนหลิงเทียนตั้งใจจะมอบให้ตัวนล่างมันไม่มีจิตวิญญาณสถิตย์

 

ถึงแม้ในมือเขาจะมีอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิที่มีจิตวิญญาณสถิตย์มากมาย ที่เขาได้มากจากการเข่นฆ่าผู้คนในสมรภูมิ 9 ยมโลก โดยเฉพาะพวกเทพสงคราม 9 ดาราระดับแนวหน้านั่น แต่เขาก็ไม่คิดจะมอบให้ด้วนล่าง เพราะเขารู้ดีว่าหากมอบของระดับนั้นให้แก่ตัวนล่าง เกรงว่าจะเป็นเรื่องร้ายมากกว่าดี

 

สุดท้าย คนไม่ผิด ผิดที่ครอบครองหยก ก็เป็นอมตะวลีไม่เสื่อมคลาย…

 

วันรุ่งขึ้นก็เป็นวันแต่งงานของด้วนล่างแล้ว

 

ตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ด้วนหลิงเทียนก็ได้ยินเสียงเอะอะมีชีวิตชีวาดังขึ้นจากด้านนอก พอเปิดประตูออกมา เขาก็พบว่าทั่วทั้งหมู่บ้านสกุตัวนประดับประดาไปด้วยโคมแดง ยังจุดเทียนประดับประดาแลดูสวยงามนัก และผู้ใหญ่ในหมู่บ้านก็ล้วนไปช่วยด้วนล่างเรื่องงานแต่งกันอย่างคึกคัก

 

เรียกว่าไม่มีใครสนใจเหล่าเด็กน้อยซุกซนเลย เสมือนวันปล่อยผีของพวกมันก็ไม่ปาน

 

พิธีวิวาห์นั้นหมู่บ้านสกุลต้วนเป็นฝ่ายจัดการทุกอย่าง ตัวนล่างไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น เพียงรอรับเจ้าสาวอย่างเดียว แน่นอนว่าด้วนหลิงเทียนในฐานะผู้มาใหม่ ก็ไม่มีใครมามอบหมายหน้าที่อะไรให้เขาทั้งสิ้น เพียงรอดสกุลเกี่ยแห่เกี่ยวเจ้าสาวมาและเข้าร่วมดื่มกินในงานอย่างเดียว

 

“ด้วนล่าง ยินดีกับงานแต่งของท่านด้วย…นี่เป็นของขวัญวันมงคลท่านจากข้า”

 

ด้วนหลิงเทียนเดินไปหาตัวนล่างผู้เป็นเจ้าบ่าวถึงบ้าน พอพบอีกฝ่ายก่าลังแย้มยิ้มชื่นมื่น ก็เดินเข้าไปทักทายด้วยรอยิ้ม พลางยื่นส่งแหวนพื้นที่ให้อีกฝ่ายวงหนึ่ง แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหัวไปมา “น้องหลิงเทียน วันนี้แค่ท่านมาร่วงงานมงคลของข้า ข้าก็ยินดีมากแล้ว ของขวัญท่านข้ารับไว้ไม่ได้หรอก ท่านเก็บไว้เป็นทุนตั้งตัวหลังออกจากที่นี่เถอะ”

 

ตัวนล่างย่อมได้ยินเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนเตรียมจะออกจากหมู่บ้านสกุลตัวนแล้วเช่นกัน ยังรู้เรื่องนี้ก่อนใครอีกด้วย

 

“คุณชายหลิงเทียน ท่านจะไปแล้วหรือ?”

 

ตัวนฉิง หัวหน้าหมู่บ้านทิศใต้แห่งหมู่บ้านสกุลตัวนก็อยู่ด้วย คราวนี้สกุลเกี่ยส่งบุตรีของหัวหน้า 2 มาตบแต่งตามกฏแล้วหัวหน้าสองของสกุลเกี่ยก็ต้องมาเช่นกัน เป็นธรรมดาที่ตัวนฉิงจะมารอต้อนรับ

 

หาไม่แล้วก็จะถือว่าไร้มารยาท ยังผลให้ผู้อื่นติฉินนินทาเอาได้

 

“ใช่ ข้าเตรียมออกเดินทางหลังจบงานแต่งด้วนล่าง”

 

ด้วนหลิงเทียนยิ้มกล่าว “ตลอดเดือนที่ผ่านมา หัวหน้านิ่งดูแลข้าไม่น้อย เรื่องนี้ข้าขอขอบคุณหัวหน้านิ่งมาก…วันหน้าข้าจะตอบแทนท่านแน่นอน”

 

“คุณชายหลิงเทียนท่านเกรงใจไปแล้ว”

 

ตัวนฉิงส่ายหัวไปมาเบาๆ “เพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งเดือนที่ผ่านมาก็ใช่ว่าคุณชายยหลิงเทียนจะอยู่ที่นี่เปล่าๆ ท่านั่งช่วพวกเราล่าสัตว์อสูรมากมาย…และหากไม่ใช่เพราะท่าน ข้าเกรงว่าการล่าสัตว์ครั้งสุดท้ายนั้น พรานในหมู่บ้านทิศใต้เราคงต้องบาดเจ็บล้มตายกันไม่น้อย”

 

เมื่อ 10 วันก่อน คนของหมู่บ้านสกุลด้วนทิศใต้ก็รวมตัวกันออกไปล่าสัตว์อสูร แต่โชคร้ายนัก พวกมันกลับพบเจอสัตว์อมตะระดับจักรพรรดิที่ทรงพลังไม่ใช่ชั่ว โชคดีที่ต้วนหลิงเทียนออกมาเดินเล่นเพื่อผ่อนคลายจิตใจจากการบ่มเพาะพอดี และเคลื่อนมิติมาช่วยเหลือได้ทันกาล หาไม่แล้วพรานกลุ่มนั้นต้องบาดเจ็บล้มตายไม่น้อย

 

สัตว์อสูรที่ว่า ปกติแล้วมีแต่ต้องขอความช่วยเหลือจากชนชั้นหัวหน้าหมู่บ้านเท่านั้น ถึงจะกำราบมันได้

 

และบางครั้ง คนของสกุลตัวนที่ออกไปล่าสัตว์ แม้จะติดต่อจนความช่วยเหลือมาถึง ก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ ยังมีผู้ที่พลั้งพลาดบาดเจ็บล้มตาอยู่ดี

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวนหลิงเทียนมาถึง ทุกอย่างก็ต่างออกไปทันที…

 

อยู่ๆด้วนหลิงเทียนที่ปรากฏตัวในความว่างเปล่า เพียงฟาดตบออกส่งๆไปฝ่ามือเดียว ก็ทุบตีสัตว์อสูรนั่นตายโดยไม่ตั้งใจ…

War Sovereign Soaring The Heavens

War Sovereign Soaring The Heavens

Ling tian zhan zun, WSSTH, 凌天战尊
Score 5.8
Status: Ongoing Type: Author: Released: 2014 Native Language: Chinese
จิตวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธในโลกปัจจุบัน ได้ทะลุข้ามไปยังโลกอื่นรวมเข้ากับความทรงจำของของเด็กหนุ่ม ที่ถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา จนกระทั้งขาดใจตาย การฝึกฝนเทคนิค เก้ามังกรเทพสงคราม จะสามารถกวาดล้างศัตรูได้โดยไม่มีวันแพ้! ขณะที่เขา มีความสามารถในการปรุงยา การสร้างอาวุธ และเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ … ทักษะทั้งหมดนี้ คือวิถีทางแห่งราชันย์!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset