Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 95 ฉันเป็นคนที่นายไม่สามารถมีเรื่องด้วยได้!

บทที่ 95 ฉันเป็นคนที่นายไม่สามารถมีเรื่องด้วยได้!

ตอนที่เฉินตงเดินเข้ามาในวิลล่าตระกูลโจว

ในอากาศ เคล้าไปด้วยควันไฟ

ระหว่างทางมีลูกน้องของโจวจุนหลงคอยเดินสำรวจ สวมชุดสูทและรองเท้าหนัง ท่าทีน่าเกรงขาม

ทั่วทั้งวิลล่าตระกูลโจว บรรยากาศเหมือนปิดผนึกเอาไว้

“มองอะไร? รีบเดินหน่อย!”

ข้างกาย ลูกน้องของโจวจุนหลงพูดตะคอก

แววตากูหลังฉายความเหี้ยมโหด กำลังจะใช้กำลัง ทว่ากลับถูกเฉินตงกดหัวไหล่ปรามเอาไว้

กูหลังอดกลั้น ทว่าภายในใจกลับสงสัย

เป้าหมายในการมาที่นี่ของเฉินตง คือการมาสวมชุดไว้อาลัยให้กับโจวเห้างั้นหรอ?

เป็นไปได้ยังไง!

ด้วยตำแหน่งและภูมิหลังของเฉินตง จะยอมให้เรื่องแบบนี้เหยียบย่ำตนจมลงไปในดินโคลนได้ยังไง?

ประตูใหญ่ของวิลล่าได้สร้างโถงไว้อาลัยเรียบร้อยแล้ว จัดแต่งด้วยผ้าสีขาว

อย่างแผ่วเบา ได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาจากด้านในโถงไว้อาลัย

ประจวบเหมาะในเวลานี้ ด้านในโถงไว้อาลัยขนาดใหญ่ ลูกน้องรีบวิ่งออกมา

คนที่เป็นผู้นำคือชายวัยกลางคน ในมือถือผ้าสีขาวเอาไว้

“ประธานโจวมีคำสั่ง ให้เฉินตงสวมชุดไว้อาลัย!”

เสียงของลูกน้องวัยกลางคนหยิ่งผยองทระนง โยนผ้าขาวในมือไปตรงหน้าเฉินตง

ครืน……

ผ้าขาวไว้อาลัยสองผืนตกลงบนพื้น

เฉินตงไม่แม้แต่จะชายตามอง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก:“ใครบอก ว่าฉันมาเพื่อสวมชุดไว้อาลัย?”

“หึๆ……ถ้าอย่างนั้นนายก็ลองดูสิ!”

ชายวัยกลางคนหัวเราะเยือกเย็น:“ประธานโจวบอกเอาไว้แล้ว ถ้านายไม่ยอมสวมชุดไว้อาลัยให้กับพี่เห้า ก็ให้นายตกอยู่ในสภาพเดียวกับพี่เห้า ถูกหามออกไป!”

เพิ่งสิ้นเสียง ลูกน้องของโจวจาวก็ปิดล้อมเอาไว้จนหมด

ชายชุดสูทและรองเท้าหนังกว่าสิบคนปิดล้อมเฉินตงและกูหลังเอาไว้

ในอากาศ เต็มไปด้วยกลิ่นดินปืนทันที

ขอเพียงมีคำหนึ่งที่ไม่พอใจ ก็พร้อมจะลงมือทันที

แววตากูหลังสั่นเทา ลอบระมัดระวัง

เผชิญหน้ากับคนนับสิบปิดล้อมในเวลาเดียวกัน แม้แต่เขาก็ไม่เคยเจอมาก่อน

แต่ตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมองเฉินตง กลับหยุดชะงัก

เฉินตงในเวลานี้ สีหน้ายังคงนิ่งงันเหมือนน้ำในบ่อบาดาล มือทั้งสองพาดเอาไว้ด้านหลัง ดูนิ่งสงบมาก

“โจวเห้า มีสิทธิ์อะไรให้ฉันสวมชุดไว้อาลัย?”

เฉินตงหัวเราะอย่างไม่ยี่หระ ยกขาขวาขึ้น เดินไปด้านหน้า เหยียบชุดไว้อาลัย แต่ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ เขาเดินเข้าไปในโถงไว้อาลัยนิ่งๆ

ภาพนี้ ทำให้ลูกน้องวัยกลางคนม่านตาหดเล็ก ความโมโหพลุ่งพล่าน

แต่เฉินตงยังคงนิ่งสงบ ทำให้ภายในใจของเขาหวาดกลัว

ถูกศัตรูโจมตี แต่ยังสามารถนิ่งสงบถึงขั้นนี้ได้ หรือเป็นเพราะมีแผนสำรอง?

แม้แต่กูหลัง ยังคิดไม่ถึงว่าเฉินตงจะทำแบบนี้

กลืนน้ำลายลง กูหลังรีบเดินตามเฉินตง แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ตัว หน้าผากมีเหงื่อผุดออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่

ลูกน้องทั้งสิบกว่าคนเคลื่อนไหวตามเฉินตง แล้วเดินตามมาช้าๆ

ทั้งๆที่เป็นฝ่ายชนะอย่างเห็นได้ชัด ความนิ่งสงบของเฉินตงกลับทำให้ทุกคนไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม

ในที่สุด เฉินตงก็เดินไปถึงด้านหน้าโถงไว้อาลัย

โจวจุนหลงที่กำลังสูบบุหรี่ซิการ์ยกหนังตาขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นเฉินตงไม่ได้สวมใส่ชุดไว้อาลัย ระเบิดอารมณ์ทันที

ปั้ง!

โจวจุนหลงตบเก้าอี้อย่างแรง เสียงดังสะท้านไปทั่วโถงไว้อาลัย

เขาลุกขึ้นกะทันหัน ตะคอกด่าพวกลูกน้องด้วยความโมโห:“พวกมึงมัวแต่ทำห่าอะไรกัน? คำพูดของกูเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาหรือไง?”

ลูกน้องสิบกว่าคนมองหน้ากัน

เฉินตงลูบจมูก แสยะยิ้ม:“นายยังไม่เลิกสูบซิการ์อีกหรอ?”

โจวจุนหลงหยุดหายใจ ใบหน้าแดงก่ำ

คำพูดของเฉินตง กำลังเย้ยหยันการตายของโจวเห้าอย่างเห็นได้ชัด เพราะเมื่อคืนเขาจุดบุหรี่ซิการ์!

“แก อยากตายหรือไง?” ใบหน้าของโจวจุนหลงบิดเบี้ยว กัดฟันแน่น

เต็มไปด้วยความอาฆาต พลุ่งพล่านออกมาอย่างไม่ปิดบังเอาไว้

อยู่ในวงการธุรกิจมานานหลายปี เขาไม่ใช่ผู้เก่งในวงการธุรกิจเต็มตัวเหมือนโจวเย่นชิว

จรรยาบรรณที่โจวจุนหลงเชื่อมั่น ทำให้อุปสรรคที่ขวางกั้น หายไปจนหมดเกลี้ยง!

เฉินตงยักไหล่:“ฉันอยากตาย ทำไมต้องมาที่นี่ด้วย?”

“หึๆ!”

โจวจุนหลงหรี่ตาลง แรงอาฆาตพุ่งทะยานขึ้นมา

ในเวลานี้เอง

ด้านนอกวิลล่า เกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน

โคร้ม!

เสียงดังสนั่น อื้ออึ้ง

ทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปจนหมด

มีเพียงมุมปากของเฉินตงเท่านั้นที่เผยรอยยิ้มมั่นใจ

กูหลังตัวสั่นเทา แววตาของเขาฉายแสงขึ้นมากะทันหัน

“ใครเป็นคนทำวะ?”

โจวจุนหลงเบิกตาโตด้วยความโมโห เห็นประตูที่สวนดอกไม้ด้านนอกวิลล่า ถูกรถที่ขับด้วยความเร็วสูงพุ่งชน

รถยนต์คันนั้นพุ่งชนอย่างจัง ตรงมายังโถงไว้อาลัย

เอี๊ยด!

เสียงเบรกแสบแก้วหู

รถยนต์จอดตรงหน้าประตูวิลล่า

ในเวลาเดียวกัน พวกลูกน้องที่ตกใจจนทำตัวไม่ถูกก็ดึงสติกลับมา รีบวิ่งไปล้อมรถยนต์คันนั้นเอาไว้

กรึก!

ประตูรถเปิดออก

ร่างกายแข็งแกร่งราวกับหอคอยเหล็กของคุนหลุน เดินลงมาจากที่นั่งคนขับด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก

รูปร่างกำยำ ใบหน้าเย็นยะเยือก ทำให้เกิดแรงกดดันขนาดใหญ่ที่ไม่มีรูปทรงขึ้นมา ลูกน้องที่ล้อมรอบเอาไว้ตกใจกลัวจนถอยหนี

“คุณชาย……”

คุนหลุนเห็นเฉินตงที่อยู่นอกกลุ่มคน ร้องเรียกด้วยความเคารพ

ตามด้วย เขาหมุนตัวไปเปิดประตูแถวหลังของรถยนต์

ท่านหลงที่อยู่ในชุดจีน ค่อยๆเดินลงมาจากรถ

เมื่อเห็นเฉินตง ยิ้มด้วยความใจดี:“คุณชาย…..”

ทำไมท่านหลงถึงมาด้วย?

เฉินตงพูดไม่ออกเล็กน้อย คุนหลุนทำงานไม่ได้เรื่องเกินไปแล้วรึเปล่า?

“คุณชาย?”

โจวจุนหลงทำสีหน้าเคร่งขรึม ขมวดคิ้วมองไปทางเฉินตง:“แก แกเป็นใครกันแน่?”

เขาไม่ใช่คนโง่ ในทางตรงกันข้ามเขาเป็นคนฉลาดมาก

ภูมิหลังของเฉินตงก่อนหน้านี้ เป็นแค่รองประธานในบริษัทเล็กๆของโจวเย่นชิวเท่านั้น

แต่การรวบซื้อไท่ติ่ง ทำให้โจวเย่นชิวช่วยเหลือ ทั้งยังถูกคนสองคนที่บุกเข้ามาในบ้านของเขาเรียกว่าคุณชาย

เห็นได้ชาย ไม่ใช่สิ่งที่รองประธานสามารถมีได้!

เฉินตงยิ้ม แววตาแหลมคม:“ฉันเป็นคนที่นายไม่สามารถมีเรื่องด้วยได้!”

น้ำเสียงหนักแน่นมีพลัง เหมือนเสียงฟ้าผ่า

หัวใจของโจวจุนหลงบีบแน่น ความนิ่งสงบและมั่นใจของเฉินตง ทำให้เขาเกิดความหวาดกลัว

แต่ตอนนี้อยู่ในถิ่นของเขา คนมากมายกำลังมองอยู่

เมื่อกี้เขารับปากคนในครอบครัวโจวเห้าด้วยตนเอง

ถ้าหากยอมแพ้ไปแบบนี้ ข่าวลือแพร่งพรายออกไป โจวจุนหลงไม่สามารถอยู่ในเมืองนี้ได้แล้ว!

“คนที่ฉันไม่สามารถมีเรื่องด้วยได้?”

โจวจุนหลงหัวเราะ พูดด้วยความโอหัง:“ในเมืองนี้ ไม่มีใครที่ฉันไม่กล้ามีเรื่องด้วย!”

เพิ่งสิ้นเสียง

ท่านหลงแสยะยิ้ม:“คุณชาย มดแค่นี้ ทำไมต้องเสวนากับมันด้วย?”

ขณะพูด คุนหลุนพยุงตัวท่านหลง เดินเข้าไปในโถงไว้อาลัย

ภายใต้แรงกดดันของคุนหลุน ลูกน้องของโจวจุนหลงไม่มีใครกล้าขวาง ตามด้วยท่านหลงและคุนหลุนเดินนำเข้ามา เปิดทางให้ช้าๆ

เมื่อเห็นภาพนี้ โจวจุนหลงโมโหทันที!

“ไอ้สวะพวกนี้ ทำไมถึงไม่ขวางมันเอาไว้!”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา ลูกน้องกว่าสิบคนร้องตะโกนเสียงดัง พุ่งตรงไปทางคุนหลุนและท่านหลง

“ใต้ฟ้านี้ ยังไม่มีที่ไหนที่ฉันไปไม่ได้” ดวงตาท่านหลงเป็นประกายแวววับ หัวเราะด้วยความทระนง

วินาทีต่อมา

คุนหลุนที่แข็งแกร่งราวกับหอคอยเหล็ก เหมือนสัตว์ดุร้าย พุ่งตัวออกไป

การพุ่งชนเพียงแค่ครั้งเดียว ทำให้ลูกน้องสามคนที่อยู่ด้านหน้าปลิวไปไกล!

อย่างกระชั้นชิด คุนหลุนร้องคำรามเหมือนเสือที่กระโจนเข้าไปในฝูงแกะ พุ่งตัวเข้าไปในฝูงคน ทั้งหมัดทั้งขาเคลื่อนไหวไปมา

เกิดเสียงดังขึ้น ร้องโอดครวญดังระงม

อย่างไม่มีข้อยกเว้น ระหว่างที่พวกลูกน้องกับคุนหลุนสู้กัน ก็ถูกคุนหลุนโยนออกมา

ไม่มีใครสามารถขวางเอาไว้ได้

ภาพนี้ ส่งผลต่อการมองเห็น

แม้จะเป็นคนที่เย่อหยิ่งและก้าวร้าวอย่างโจวจุนหลง ก็ยังนิ่งค้าง

ขณะที่กำลังชุลมุนวุ่นวาย ใบหน้าของท่านหลังกลับมีรอยยิ้ม เหมือนกำลังเดินเล่นอย่างสบายอารมณ์ เหมือนกำลังเดินเล่นโดยไม่มีใคร เดินไปที่โถงไว้อาลัยช้าๆ

แม้ว่าการต่อสู้ของโจวจาวจะรุนแรงแค่ไหน ลูกน้องของโจวจุนหลงก็ไม่สามารถเข้าใกล้ท่านหลงได้

“นี่ นี่มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว?” กูหลังตาค้าง เขารู้ว่าคุนหลุนเก่ง แต่เขาไม่รู้ว่าการต่อสู้ของคุนหลุนจะน่าเกรงกลัวมากขนาดนี้!

เฉินตงยิ้มเล็กน้อย คาดการณ์แต่แรกแล้ว

ราชาแห่งทหารที่สามารถถูกท่านหลงช่วยมาจากสนามรบ การต่อสู้ระดับนี้ ถือเป็นเรื่องปกติ!

เมื่อเห็นท่านหลงเดินเข้าไปในโถงไว้อาลัย เฉินตงยิ้มแล้วเดินไปด้านหน้า พยุงท่านหลงเอาไว้

“ท่านหลงมาที่นี่ได้ยังไงครับ สถานที่แบบนี้ ไม่เหมาะกับท่านหลง”

“รังเกียจที่ผมแก่หรอ?”

ท่านหลิงเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับยิ้ม จากนั้นหันไปมองโจวจุนหลง แสยะยิ้ม:“เมื่อกี้นายบอกว่า จะขวางทางฉัน?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset