Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 96 จัดการกับมด ตบฉากเดียวตาย

บทที่ 96 จัดการกับมด ตบฉากเดียวตาย

แสยะยิ้ม

เต็มไปด้วยความดูถูกที่ท่านหลงมีต่อโจวจุนหลง

เหมือนคนที่ยืนอยู่บนยอดเขา ก้มมองดูมดที่อยู่ตีนดอย

รังสีเหี้ยมโหดของโจวจุนหลงแผ่ซ่านไปทั้งตัว ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธเคือง

โถงไว้อาลัยที่เป็นพิธีการ เพียงชั่วพริบตาชลมุนวุ่นวายไปหมด

สิ่งที่ทำให้เขาอาเจียนเป็นเลือดยิ่งกว่าก็คือ

ลูกน้องของเขาตะลุมบอนเข้าไปหาเมืองผึ้ง แต่กลับไม่สามารถสู้คนแค่คนเดียวได้!

บอกว่าเป็นความชลมุนวุ่นวาย ความเป็นจริงคือคุนหลุนกำลังฆ่าล้างกลุ่มคน

ความสามารถในการต่อสู้ระดับนี้ แม้แต่โจวจุนหลงเองก็เสียวสันหลังวาบ

สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น ภาพในหัวของเขาปรากฏความคิดที่น่ากลัวยิ่งกว่า

เมื่อความคิดนี้ปรากฏออกมา ทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง หนาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว

เขาไม่ได้สนใจคำพูดของท่านหลง

ทว่ามองไปยังคุนหลุนที่กำลังต่อสู่ท่ามกลางกลุ่มคนด้วยความตกตะลึง

เขาเลี้ยงลูกน้องเอาไว้ แน่นอนต้องรู้ว่าการเลี้ยงม้าที่มีความสามารถแข็งแกร่ง ต้องใช้ความสามารถมากมายเท่าไหร่

แต่คุนหลุน ไม่ใช่ม้าแล้ว!

แต่เป็นเสือที่ดุร้าย เป็นมังกรที่บ้าคลั่ง!

การเป็นอยู่แบบนี้ ในเมือง ไม่มีใครสามารถเลี้ยงได้

และไม่มีใครมีความสามารถแบบนี้ ที่จะทำให้คนแบบนี้เชื่อฟัง

สามารถปราบพยศทำให้เสือดุร้ายมังกรบ้าคลั่งเชื่อฟังได้ ต้องเป็นคนที่เหี้ยมโหดและบ้าระห่ำเป็นทุนเดิม!

“หื้ม?!”

ท่านหลงอุทานเสียงเบา

ดังเข้าไปในหูของโจวจุนหลง ทว่ากลับน่าตกใจเหมือนฟ้าผ่า

ตัวของเขาสั่นเทา ขนในร่างกายตั้งชันขึ้นมาทันที มองท่านหลงและเฉินตงด้วยความตกใจกลัว

“แก ไม่สิ พวกแก พวกแก เป็นใครกันแน่?”

แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ตัว ตอนที่ถามคำถามนี้ออกไป เสียงของเขาสั่นเทามาก

หากไม่ใช่เพราะดำรงตำแหน่งสูงมานานหลายปี ฝึกฝนจนเคร่งขรึม เวลานี้ตัวของเขาคงจะสั่นเทาไปทั้งหมดแล้ว

เขาคิดจินตนาการไม่ได้จริงๆ

เมืองนี้มีมังกรที่แท้จริงตั้งแต่เมื่อไหร่!

และเฉินตง รายงานก่อนหน้านี้ เป็นแค่รองประธานตัวเล็กๆในบริษัทโจวเย่นชิวไม่ใช่หรอ?

“คนที่แกไม่สามารถมีเรื่องด้วยได้!”

เฉินตงพูดเสียงเย็นยะเยือก

แววตาโจวจุนหลงมึนงง นัยน์ตาว่างเปล่า

เมื่อกี้เขายังดูถูกคำพูดของเฉินตง แต่ตอนนี้เขากลับไม่สงสัยแม้แต่น้อย

ปั้ง!

เสียงดังขึ้น

ลูกน้องคนสุดท้ายถูกคุนหลุนต่อยหมัดจนตัวปลิว

คุนหลุนขยับไหล่ เดินไปข้างๆเฉินตงด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเย็นยะเยือก:“คุณชายครับ จัดการเรียบร้อยทั้งหมดแล้วครับ”

จัดการเรียบร้อยแล้ว?!

กูหลังตกตะลึง

โจวจุนหลงเองก็ตกตะลึง

มีแค่เฉินตงเพียงคนเดียวเท่านั้น เม้มริมฝีปากล่างเล็กน้อย พร้อมกับพูดเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม:“ช้าไปหน่อยนะ”

ตอนที่เขาอยู่ภายใต้การชี้แนะของคุนหลุน เข้าสู่การฝึกซ้อมที่เหี้ยมโหด เคยถามคุนหลุน

ในสถานการณ์เดียวกัน ตอนที่คุนหลุนเป็นราชาทหารรับจ้าง เคยพบเจอ ในตอนนั้นเขาใช้เวลาในจัดการห้านาที!

แน่นอน ตอนนั้นคนที่เขาเผชิญหน้าด้วยคือทหารรับจ้าง

ส่วนลูกน้องของโจวจุนหลง ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเป็นคนถือรองเท้าของทหารรับจ้าง

เวลา เห็นได้ชัดว่าต้องใช้น้อยหน่อย

คุนหลุนยิ้มแล้วพูด:“วางแผนเอาไว้หนึ่งนาที เพราะได้รับบาดเจ็บจึงไม่ได้ฝึกซ้อมอย่างดี ใช้เวลาเกินไปสามสิบวินาที ช้าไปจริงๆ”

ตึ้ง!

ในหัวของกูหลังมีเสียงดังตั้งขึ้น

หนึ่งนาทีสามสิบวินาที ล้มลูกน้องนับสิบคน ถือว่าช้า?

สีหน้าของโจวจุนหลงเปลี่ยนไปมาก ใบหน้าของเขาแทบจะบิดเบี้ยวจนรวมเข้าด้วยกัน

คำตอบของคุนหลุน เหมือนมือล่องหน ผลักเขาลงไปในเหวลึกแห่งความหวาดกลัว

ภายในโถงไว้อาลัย

กลับเข้าสู่พิธีเคร่งขรึมอีกครั้ง

สิ่งเดียวที่เปลี่ยนคือ เสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดแผ่วเบาของลูกน้องที่นอนอยู่บนพื้น

เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง

คนในครอบครัวของตระกูลโจวตกใจจนขดตัวอยู่ในมุม สั่นเทาไปทั้งตัว

มีแค่โจวจุนหลง ยืนอยู่ที่เดิม

เฉินตงเดินไปหน้าโลงศพของโจวเห้า

ก๊อกๆ

เคาะฝาโลงศพสองครั้ง พูด:“ตอนนี้ นายจะยังให้ฉันสวมชุดไว้อาลัยให้นายไหม?”

เสียงเบามาก แต่กลับดังก้องไปทั่วโถงไว้อาลัย

ตัวโจวจุนหลงสั่นสะท้าน มองเฉินตงด้วยความตกใจกลัว ริมฝีปากขยับเล็กน้อย

ยังไม่รอให้ได้พูดอะไร

คุนหลุนเดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าว มือใหญ่คว้าคอของเขาเอาไว้ ตามด้วยหิ้วตัวเขาขึ้นมา

ทันใดนั้น ความรู้สึกหายใจไม่ออกพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างรุนแรง

ใบหน้าโจวจุนหลงแดงก่ำ แววตาตกใจกลัว

ต้องการเอาตัวรอดของสัญชาตญาณทำให้เขาตะเกียกตะกาย มือทั้งสองข้างอยากจะแกะมือคุนหลุนทิ้ง

แต่มือของคุนหลุน กลับแข็งเหมือนเล็ก ไม่สามารถแกะออกได้!

“มดอย่างแก ฉันใช้แค่มือเดียวก็สามารถฆ่าตายแล้ว”

น้ำเสียงคุนหลุนเย็นยะเยือก เหมือนน้ำแข็งสะท้านเข้ากระดูก:“คนอย่างแก คู่ควรให้คุณชายของฉันสวมชุดไว้อาลัย? ไม่เจียมตัวจริงๆ!”

ปั้ง!

มือขวาของคุนหลุนขยับโบก โยนโจวจุนหลงลงพื้น

ลำคอปลดเปลื้องพันธนาการ ใบหน้าโจวจุนหลงแดงก่ำ ปากอ้ากว้าง พยายามสูดลมหายใจ

เมื่อสัมผัสได้ว่าปอดที่หดตัวถึงขีดสุดมีออกซิเจนเติมเต็มอีกครั้ง เขาจึงรู้สึกสบายตัวขึ้นเล็กน้อย

ความตายที่คุกคามเข้ามา ทำให้เขาไม่สนใจศักดิ์ศรีอะไรอีกแล้ว

รีบลุกขึ้น คุกเข่าอยู่บนพื้น หมอบกราบด้วยความรุนแรง

“ขอโทษครับ ผมมีตาหามีแววไม่ หลังจากนี้ในเมือง ที่ไหนที่มีคุณเฉินอยู่ ผมโจวจุนหลงไม่มีวันกล้าปรากฏตัวครับ!”

“หึ!”

เฉินตงหัวเราะในลำคอ

ท่านหลงที่อยู่ด้านข้างหัวเราะแล้วพูด:“คุณชาย จัดการมด ไม่จำเป็นต้องยอมอดทน ตบไปคราวเดียวก็จบเรื่องแล้ว ฐานะของคุณไม่จำเป็นต้องกลัวมดตัวเล็กๆ”

เฉินตงยิ้ม :“เข้าใจแล้วครับท่านหลง”

ก่อนหน้านี้เขารู้สึกกลัวและอดทนต่อโจวจุนหลงจริงๆ

แต่วันนี้ท่านหลงให้บทเรียนกับเขาแล้ว

และทำให้เขาเข้าใจว่าพวกคนยอดเยี่ยมของตระกูลเฉิน ทำไมถึงกล้าไม่สนใจชีวิตคน

ในสายตาของพวกเขา บางทีไม่ใช่การไม่สนใจชีวิตคน แต่เป็นเพราะ……ไม่สนใจชีวิตมดก็เท่านั้น!

ท่านหลงยิ้มด้วยความปลื้มใจ

ตามด้วย เขาเดินไปตรงหน้าโจวจุนหลงช้าๆ:“อยากมีชีวิตไหม?”

น้ำเสียงนิ่งสงบ แต่กลับทำให้หัวใจของโจวจุนหลงเต้นแรง

ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย โจวจุนหลงรีบพยักหน้า

เขารู้ว่าตนเตะโดนกระดานเหล็กแล้ว ท่าทีที่ท่านหลงแสดงออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย เพียงคำพูดเดียวของท่านหลง สามารถทำให้เขาตายที่นี่ได้

ดังนั้น เขาไม่กล้าไม่ยอม

“อยากมีชีวิต ก็ต้องขายชีวิต” ท่านหลงยิ้มแล้วพูด

เฉินตงเลิกคิ้วขึ้น สงสัยเล็กน้อย

แต่อย่างกระชั้นชิด คำพูดของท่านหลง กลับทำให้เขานิ่งค้าง

เห็นท่านหลงย่อตัวนั่งลงบนพื้น คล้ายกำลังลูบจับสัตว์เลี้ยงอย่างไรอย่างนั้น นำมือขวาวางลงบนศีรษะโจวจุนหลง

รอยยิ้มบนใบหน้า หายไป แทนที่ด้วยความเย็นยะเยือกที่เฉินตงไม่เคยเห็นมาก่อน

“เอาอสังหาริมทรัพย์ของนายและหุ้นออกมาหกสิบเปอร์เซ็นต์ ซื้อชีวิตแก”

ตึ้ง!

โจวจุนหลงตกตะลึง มองท่านหลงด้วยใบหน้าซีดขาว

บริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยมือตนเอง

ในเมืองนี้ เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเมืองนี้ แม้จะเทียบกับบริษัทของโจวเย่นชิว ห่างกันเล็กน้อยเท่านั้น

หุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่ราคาในตลาด ก็เป็นราคาที่สูงมากแล้ว!

สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ สำหรับการควบคุมบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง!

เมื่อยกให้แล้ว ก็เท่ากับประเคนบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงให้กับเฉินตง ส่วนเขาที่เป็นคนริเริ่ม กลายเป็นแค่ลูกจ้างของเฉินตง!

“ตั้งแต่นายหาเรื่องคุณชายของฉัน นายก็ไม่มีทางรอดแล้ว”

ท่านหลงหรี่ตาลงยิ้มอ่อนแล้วพูดขึ้น:“หรือว่า นายคิดว่าชีวิตของนาย ไม่มีค่าเท่ากับหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์?”

แม้ว่ากำลังยิ้ม แต่ใครก็สามารถสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวท่านหลง

ทั่วทั้งโถวงไว้อาลัย เหมือนอุณหภูมิลดลงหลายองศาในชั่วพริบตา

หลังจากเงียบอยู่หลายวินาที

เสียงเจ็บปวดของโจวจุนหลง ดังขึ้นในโถงไว้อาลัย

“ผมตกลง”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset