Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 99 แม่ลูกใจห่างกัน

บทที่ 99 แม่ลูกใจห่างกัน

เฉินตงมองดูเบอร์ที่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์

หลังจากกดตัดสาย เขาก็บล็อกเบอร์โทรศัพท์ของหวางหนันหนัน

ขณะที่กำลังจะบล็อกเพื่อนเธอในวีแชท

เป็นตริงตามนั้น หวางหนันหนันส่งข้อความมาถึงวีแชท

“เฉินตง ให้ฉันได้เจอคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ ไม่อย่างนั้นฉันจะตาย!”

เปี่ยมไปด้วยความแค้นเคือง คุกคามโดยไม่ซ่อนเร้นแม้แต่น้อย

กลับทำให้เฉินตงรู้สึกรังเกียจมากกว่าเดิม

เขาในตอนนั้น ดูแลหวางหนันหนันเป็นอย่างดี แทบจะใช้คำว่า “เอาอกเอาใจ” มาอธิบายก็ยังไม่เพียงพอ

แต่สุดท้ายล่ะ?

เอาใจเธอจนชีวิตของแม่เขาแทบจะไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้

“เฉินตง คุณอยากบีบให้ฉันตายหรอคะ?”

“พวกคุณอยากบีบให้ฉันตายหรอคะ?”

“เฉินตง อย่างน้อยก็เห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าๆของเรา ต่อให้ฉันจะทำผิดแค่ไหน แต่ฉันก็เคยเป็นผู้หญิงของคุณ”

“ฉันทำผิดไปแล้ว ฉันสามารถขอโทษคุณได้ คุณเจอฉันเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมคะ?”

วีแชทมีข้อความของหวางหนันหนันเด้งขึ้นไม่หยุด

แม้จะมีหน้าจอและตัวอักษรมาขวางกั้น ก็สามารถรับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงของหวางหนันหนัน

“สำนึกผิด? หึ……”

เฉินตงหัวเราะในลำคอ จากนั้นตอบกลับ

“ผมเล่นมายากลให้คุณดู”

“อะไรคะ???” หวางหนันหนันแปลกใจ

เฉินตงพิมพ์เลข“3”โดยไม่รีบร้อน

ตามด้วย“2”

สุดท้ายตอนที่พิมพ์เลข“1” เขาก็พิมพ์เพิ่ม “ผมไม่เจอ”

หลังจากส่งข้อความไปแล้ว เขาก็บล็อกหวางหนันหนันทันที

อีกด้านหนึ่ง

บ้านตระกูลหวาง

ก็อกๆๆ……

หวางหนันหนันมองดูข้อความสุดท้ายที่เฉินตงส่งมา กระวนกระวาย

ด้านนอกประตู จาวซิ่วจือเคาะประตูด้วยความร้อนใจ

“หวางหนันหนัน แกเปิดประตูให้ฉันเดี๋วยนี้ ไม่อย่างนั้น ไม่อย่างนั้นฉันจะให้พ่อของฉันพังประตู!” เสียงแหลมของตางซิ่วจือดังขึ้น

หวางหนันหนันแสร้งทำเป็นหูหนวก

เธอมองดูวีแชทของเฉินตง พิมพ์ข้อความ แต่กลับไม่สามารถส่งไปได้

เธอรู้ เฉินตงบล็อกเธอแล้ว

ดวงตาค่อยๆแดงก่ำ น้ำตารื้นขึ้นมา รินไหลลง

ร่างอรชรของเธอสั่นเทา สายตาของเธอกลับจับจ้องข้อความสุดท้ายของเฉินตง

“ผมไม่เจอ”

ทันใดนั้นเอง หวางหนันหนัน “ฮือ” ร้องให้เสียงดัง

“ฉัน……ฉันเป็นคนทิ้งคุณไป”

เสียงร้องไห้ ดังไปทั่วทั้งห้อง

ทำให้จาวซิ่วจือที่อยู่ด้านนอกก็หยุดเคาะประตู ตะโกนต่อว่า:“หวางหนันหนัน เจ้าเด็กคนนี้ ร้องไห้เพราะใครตายหรือไง?”

ร่างอรชนของหวางหนันหนันสั่นเทา ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา เมื่อได้ยินคำต่อว่า เธอเม้มกัดริมฝีปากแน่น ให้ตนเองลดเสียงร้องไห้

เพราะใช้แรงมากเกินไป ริมฝีปากของเธอถูกกัดจนเลือดออก

หลายวันที่ผ่านมานี้ ความกดดันที่เธอได้รับ ทำให้เธอแทบจะสติแตกแล้ว

คำด่าทอกล่าวโทษของพ่อแม่ หัวเราะเยาะเย้ยหยันของเพื่อนและญาติมิตร ทั้งยังต้องแบกรับความกดดันจากการซื้อบ้านให้กับหวางเห้า

เธอมีหวางเห้าเป็นน้องชายคนเดียว เรื่องงานแต่งงานของน้องชาย เธอจำเป็นต้องช่วย

เธอแบกรับทั้งหมดคนเดียว

หวนนึกถึงตอนที่อยู่กับเฉินตง รู้สึกเหมือนมีดแหลมคม กรีดแทงหัวใจของเธอ

หลังจากรู้ว่ากู้ชิงหยิ่งไปแล้ว เธอจึงรวบรวมความกล้าติดต่อเฉินตง

หวังว่าการพบเจอครั้งสุดท้าย สามารถทำให้เฉินตงกลับมา เพราะเธอจำได้ ครั้งหนึ่งเฉินตงเคยรักเธอมาก

ขอเพียงเฉินตงกลับมา ส่งที่เธอเป็นอยู่ในตอนนี้ ก็สามารถคลี่คลายได้ทั้งหมด

นับตั้งแต่วันนี้ เธอสาบานว่าจะใช้ชีวิตอยู่กับเฉินตงเป็นอย่างดี

แต่คำตอบของเฉินตง ทำลายความคิดทั้งหมดของเธอ

“ทำไม? ทำไม……เฉินตง……”

ร้องไห้ หวางหนันหนันพูดพึมพำ กลิ่นคาวเลือดแผ่ซ่านออกมา เธอไม่สนใจว่าเป็นเลือดหรือน้ำตา:“ฉันรักคุณมาก คุณเองก็รักฉันมาก ฉํนก็แค่เอาเงินค่ารักษาของแม่คุณมาสองแสนหยวนเองไม่ใช่หรอ?”

“ฉันทำผิดไปแล้ว แต่คุณก็โกหกฉัน ทั้งๆที่คุณยังมีเงินมากมายขนาดนั้น ฉันไม่ถือสาที่คุณโกหกหลอกลวงฉัน ทำไมต้องตัดขาดความสัมพันธ์เด็ดขาดแบบนี้ด้วย?”

……

“หวางหนันหนัน แกออกมาเดี๋ยวนี้ เร็วเข้า!”

จาวซิ่วจือตะคอกด่าเสียงดัง พร้อมทั้งเคาะประตูอย่างแรง

“พอได้แล้วๆ ไม่ได้ยินหรอว่าหนันหนันกำลังร้องไห้?” หวางเต๋อเกลี้ยกล่อม

“ร้องไห้? ยัยเด็กคนนี้ยังมีหน้ามาร้องไห้?”

จาวซิ่วจือถลึงตาโต คิ้วคว่ำหน้าบูด:“คนดีๆอย่างเฉินตง ยัยเด็กคนนี้กลับทำเขาหล่นหายไป ยังมีหน้ามาร้องไห้อะไร?”

ขณะพูด เธอก็ชี้ไปยังโทรทัศน์:“คุณดูสิ ตอนนี้เฉินตงไม่ได้เป็นแค่บอสของไท่ติ่ง แต่ยังเป็นเจ้าของหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงด้วย ลูกเขยคนนี้ของฉันเก่งมาก แต่กลับถูกยัยเด็กหวางหนันหนันที่ไม่รู้เรื่องอะไรทำหล่นหาย!”

ในโทรทัศน์ กำลังฉายข่าวบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงโอนย้ายหุ้นใหักับเฉินตง

ฟังทุกคำพูดในข่าว ภายในใจของจาวซิ่วจือมีเลือดรินไหล ลำไส้ของเธอเขียวช้ำไปหมด

ถ้าตอนนั้นไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น

ตอนนี้เงินของเฉินตง ก็เป็นเงินของครอบครัวพวกเขาแล้ว

เธอลำบากมาทั้งชีวิต มีเฉินติงอยู่ เธอกลายเป็นคุณหญิงที่ร่ำรวยมีชีวิตดีๆไปนานแล้ว

ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห จาวซิ่วจือทุบอกกระทืบเท้า กลิ้งตัวบนพื้นพร้อมกับร้องไห้

หวางเต๋อพูดเสียงเคร่งขรึม:“แต่คุณก็ไม่สามารถโยนความผิดทั้งหมดไปที่หนันหนันได้ ตอนนั้นทำไปเพื่องานแต่งงานของเสี่ยวเห้าไม่ใช่หรอ?”

“เจ้าคนชั่ว สรุปแล้วคุณช่วยฉันไหม?”

จาวซิ่วจือพูดเสียงเหี้ยม:“คุณรู้ไหมว่าตอนนี้เฉินตงมีเงินเท่าไหร่? บริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเมือง หมู่บ้านที่เราอยู่ ก็เป็นหมู่บ้านที่เมื่อก่อนบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงพัฒนา!”

“คุณ……”

หวางเต๋อโมโหเป็นอย่างมาก ทว่ารู้ดีว่าไม่สามารถเถียงชนะจาวซิ่วจือได้ สะบัดมือ กลับไปนั่งบนโซฟาด้วยความหดหู่

เอี๊ยด!

ประตูเปิดแล้ว

น้ำตาหวางหนันหนันเต็มหน้า เดินออกมาด้วยผมเพ้าที่ยุ่งเหยิง ดูน่าเวทนาอย่างมาก

หวางเต๋อเงยหน้าขึ้นมอง สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย รู้สึกปวดใจ

จาวซิ่วจือที่อยู่บนพื้นลุกขึ้น ไม่แคร์สภาพของหวางหนันหัน ยกนิ้วขึ้นกดขมับของหวางหนันหนัน พูดเสียงเหี้ยม

“ออกมาได้แล้วหรอ? เจ้าเด็กคนนี้เอาแต่อยู่ข้างใน สุดท้ายก็ออกมาได้แล้วใช่ไหม?”

“แกดูสิ แกดูสิว่าตอนนี้ลูกเขยของฉันประสบความสำเร็จแค่ไหน? ตอนนี้มีหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง!”

เพี๊ยะ!

หวางหนันหนันดึงมือจาวซิ่วจือออก

“พอได้แล้ว!”

เหมือนเธอบ้าไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น ร้องตะโกนเสียงแหลม

สิ่งที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้จาวซิ่วจือและหวางเต๋อตกใจและหยุดชะงักพร้อมกัน

น้ำตาเปื้อนใบหน้าสวยงามของหวางหนันหนัน ร้องตะโกนเสียงดัง:“โทษหนู โทษหนู โทษหนูทั้งหมด พอใจหรือยัง? ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ แม่ไม่รู้หรือไงคะ?”

“อั๊ยโย……แกเหิมเกริมแล้วใช่ไหม ถึงได้สั่งสอนแม่ตัวเอง?”

จาวซิ่วจือดึงสติกลับมา ใบหน้าของเธอดุร้าย

ทันใดนั้นเองหวางหนันหันตบหน้าตัวเอง:“ตีสิคะ! แม่ชอบลงไม้ลงมือไม่ใช่หรอ? ถ้าอย่างนั้นแม่ก็ช่วยทำบุญหน่อยแล้วกัน ตีหนูให้ตาย!”

แววตาจาวซิ่วจือนิ่งค้าง ตกใจกับการระบายอารมณ์ของหวางหนันหัน แต่ก็ยังคงพูดเสียงแข็ง:“เยี่ยมมาก แกโตแล้ว ปีกกล้าขาแข็งแล้ว บ้านนี้รับแกไว้ไม่ได้แล้ว ถ้าแกมีปัญญาก็ไสหัวออกไป!”

หวางหนันหนันเช็ดน้ำตา พูดด้วยเสียงสั่นเทา:“พ่อคะ แม่คะ……หนูเป็นลูกของพ่อกับแม่ และเป็นลูกแท้ๆของพ่อกับแม่ ทำไมต้องทำแบบนี้กับหนู? ทำไมคะ?”

“ไม่ว่าเรื่องอะไรก็เป็นหนู ไม่ว่าเรื่องอะไรก็โทษหนู พ่อกับแม่เห็นหนูเป็นอะไรกันแน่? หนูทำความผิดอะไรต่อครอบครัวนี้?”

“พ่อกับแม่โทษหนู ได้ค่ะ หนูไสหัวออกไป หนูไสหัวออกไปพอใจรึยังคะ?”

พูดจบ เธอก็ร้องไห้แล้ววิ่งออกไป

จาวซิ่วจือกรีดร้อง หวางเต๋อรีบลุกขึ้นอยากจะวิ่งตามไป

ปั้ง!

ประตูบ้านปิดอย่างแรง

เหลือทิ้งไว้เพียงใบหน้าตกตะลึงของหวางเต๋อและจาวซิ่วจือ

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset