Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 101หวางหนันหนันที่ฝัน

บทที่ 101หวางหนันหนันที่ฝัน

ค่ำคืนนี้

ด้านนอกโรงแรมไท่ซาน ฝนตกกระหน่ำ ดังไปด้วยเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า

หวางหนันหนันที่อยู่ในห้องสวีท กลับเหมือนอยู่ในความฝันที่สวยงามเป็นเวลาที่ยาวนานมาก

ราวกับว่าเธอได้กลับไปยังสวนสนุกในช่วงวัยเด็ก เล่นรถปั๊มเสร็จ ก็ไปเล่นรถไฟเหาะต่อ

มีความสุขและอบอุ่น เหมือนถูกคนที่รักใคร่เอ็นดู ถูกอุ้มชูเหมือนกับเจ้าหญิง

เธอเพิ่งจะรู้ว่า ที่แท้บทละครที่เจ้าชายตกหลุมรักซินเดอเรลล่านั้นได้ถูกดัดแปลงมาจากเรื่องจริง

เมื่อฝนหยุดตก ดวงอาทิตย์สาดส่อง

หวางหนันหนันที่ใส่เสื้อเชิ้ตของเทียนเซิง เดินไปหยุดอยู่ที่หน้าต่าง เปิดผ้าม่านออก

แสงอาทิตย์ที่นุ่มนวลอบอุ่น ได้ส่องมาที่ร่างกายของเธอ

เธอเหมือนกับแมวน้อย ยื่นมือสองข้างออกแล้วบิดขี้เกียจ พร้อมรอยยิ้มจางๆ

มองดูพระอาทิตย์ที่อบอุ่นค่อยๆขึ้นสู่ท้องฟ้า จู่ๆเธอมีความรู้สึกเหมือนกับมีชีวิตใหม่

ความทุกข์ยากทั้งหมด ได้หายไปตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่เธอเจอกับเทียนเซิง ทุกอย่างได้สิ้นสุดไปแล้ว

เฉินตงจะนับประสาอะไร?

เทียนเซิงนั้นถึงจะเป็นรักแท้ของเธอ

อีกอย่าง เธอมั่นใจ ด้วยฐานะทางบ้านของเทียนเซิง เมื่อพากลับบ้าน พ่อแม่จะไม่ปฏิบัติกับเธอเหมือนกับที่เคยทำมาก่อน

“ทำไมตื่นเช้าจัง?” ด้านหลัง น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของเทียนเซิงดังขึ้น

หวางหนันหนันหาวไปหนึ่งที “ยังรู้สึกเหนื่อยอยู่นิดหน่อย”

พูดจบ เธอก็หันเดินกลับไปที่เตียง

บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง

เฉินตงได้เข้ามาที่บริษัทแต่เช้า

ครั้งที่แล้วที่ตัดสินใจจะเปิดขายอสังหาริมทรัพย์สามแห่งในเวลาเดียวกัน เลยต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมด

เพียงแต่ ข้อดีมันอยู่ที่ ได้รับหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง ได้สร้างศักยภาพให้กับไท่ติ่งเป็นอย่างมาก

หากอาศัยคลื่นลมนี้ สิ่งที่พวกเสี่ยวหม่ากังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเปิดขายอสังหาริมทรัพย์สามแห่งในเวลาเดียวกัน บางทีอาจจะถูกขจัดไปทั้งหมด

เมื่อเป็นแบบนี้ แรงกดดันของเขาก็ลดลงไปอย่างมาก

เวลาใกล้เที่ยง เฉินตงวางงานในมือลง พิงพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้ สายตาที่ลึกซึ้งมองออกไปท้องฟ้าที่อยู่ด้านนอกหน้าต่าง

หลายวินาทีผ่านไป เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรไปหากู้ชิงหยิ่ง

โทรศัพท์ดังจนมันวางสายไปเอง ไม่มีคนรับสาย

เขาขมวดคิ้ว เปิดวีแชทขึ้นมา ค้นหาชื่อกู้ชิงหยิ่งจนเจอ: “คุณอยู่ทางโน้นเป็นยังไงบ้าง?”

กู้ชิงหยิ่งก็ตอบกลับอย่างรวดเร็ว “สบายดี”

คำตอบสั้นๆเพียงสองคำ กลับทำให้เฉินตงรู้สึกถึงความห่างไกลและห่างเหิน

ก็เหมือนกับเหรียญที่ถูกเผาจนแดง จู่ๆมันก็ถูกสาดด้วยน้ำเย็นยังไงอย่างนั้น

เฉินตงถูจมูกที่บวมของเขา เรื่องครั้งที่แล้ว จนบัดนี้แล้วกู้ชิงหยิ่งยังไม่หายโกรธเหรอ?

เรื่องแบบนี้ เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงให้กู้ชิงหยิ่งหายโกรธ สิ่งเดียวที่ทำได้ มีเพียงแค่รอ

โลกของผู้ใหญ่ มีแสงสว่างก็ต้องมีความมืด

เขากับกู้ชิงหยิ่งเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน ในเวลาที่จัดการปัญหา ก็ต้องมีความคิดไม่ตรงกันบ้าง

เขาที่คลานออกมาจากในความมืด การเผชิญกับเรื่องครั้งก่อน มันก็ต้องไม่เหมือนกับกู้ชิงหยิ่งที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย

เขาลังเลไปครู่หนึ่ง เฉินตงก็ได้ส่งข้อความไปทางวีแชทอีกครั้ง

“อยากให้ผมไปหามั้ย?”

ครั้งนี้ รอไปสิบนาที กู้ชิงหยิ่งก็ไม่ได้ตอบกลับ

เฉินตงยิ้มอย่างเซ็งๆ วางโทรศัพท์ลง ก็ทำงานที่ยุ่งๆต่อ

ในเวลาเดียวกัน

ห้องสูทที่โรงแรมโรงแรมไท่ซาน

หวางหนันหนันอาบน้ำเสร็จแล้ว และได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดเดรสยาวสีดำของ Chanel ที่เทียนเซิงให้พนักงานโรงแรมช่วยออกไปซื้อมา

ยืนอยู่หน้ากระจก ชื่นชมร่างอันสง่างามในกระจกที่สวมใส่ด้วยชุดเดรสยาวของ Chanel

ดวงตาของหวางหนันหนันเป็นเปล่งประกาย ยิ้มเล็กน้อย ความสิ้นหวังก่อนหน้านั้นได้หายไปหมดเลย

เกิดใหม่!

ใช่ มันคือการเกิดใหม่!

นี่คือสิ่งที่หวังหนันหนันนิยามขึ้นกับการพบเจอกันอย่างสวยงามของเมื่อคืนนี้

นี่ถึงจะเป็นชีวิตที่เธอต้องการ

อีกอย่าง เธอเชื่อว่าเทียนเซิงสามารถให้เธอได้ แค่รถยนต์ลัมโบร์กินีคันนั้น มันก็เพียงพอที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์

เทียนเซิงเดินเข้าไปในห้องน้ำ

กอดเอวของหวางหนันหนันจากด้านหลัง ยิ้มแล้วก็กระซิบที่ข้างหูของหวางหนันหนันด้วยไออุ่น: “คุณสวยจัง…….”

แก้มของหวางหนันหนันแดงขึ้นเล็กน้อย กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อน “คนผีทะเล ยังไม่พออีกเหรอ?”

เทียนเซิงยิ้มๆ “ไปเถอะ ออกไปขับรถเล่นกัน”

หวางหนันหนันยิ้มแล้วพยักหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยหลักหลายความรู้สึก ราวเป็นหญิงสาวที่เรียบร้อย ถูกเทียนเซิงจูงมือ ค่อยๆเดินตามเขาออกไป

หลังจากที่ทำเรื่องเช็คเอาท์แล้ว เข้าไปนั่งในรถลัมโบร์กินี

จู่ๆหวางหนันหนันก็เลิกคิ้ว “สามารถพาฉันไปวนรอบๆเขตวิลล่าเขาเทียนซานได้มั้ย? ได้ยินว่า วิวตรงนั้นสวยมาก”

แน่นอนเธอไม่ได้อยากไปดูวิวอะไรหรอก

เป็นเพราะว่าเฉินตงพักอยู่ตรงนั้น

ช่วงเวลานี้ ที่บ้านเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ทำให้ความเย่อหยิ่งของเธอในอดีตหายไป เวลาที่เผชิญหน้ากับเฉินตง ต้องเจียมตัวเหมือนฝุ่นที่อยู่บนพื้น

วันนี้เธอได้พบเจอกับเทียนเซิง ก็ต้องอยากที่จะไปโอ้อวดต่อหน้าเฉินตงเป็นธรรมดา กลับไปเชิดหน้าชูตาอีกครั้ง

เพียงแต่ คำพูดแบบนี้ไม่สามารถที่จะพูดกับเทียนเซิง

เพราะหวางหนันหนันรู้ดี มันจะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเขากับเทียนเซิง

“ได้สิ”

เทียนเซิงสตาร์ทรถ

เสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์ลัมโบร์กินีที่ทำให้เลือดของคนพลุ่งพล่าน เหมือนกับการกะพริบของสายฟ้าสีเหลือง เสียงรถที่ดังได้ขับไปทางเขตวิลล่าเขาเทียนซาน

อยู่ในรถมองดูวิวของเขาเทียนซานที่ด้านนอก ในใจของหวางหนันหนันกลับยิ้มอย่างเย็นชา

“เฉินตง คุณสามารถเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ สักวันหนึ่ง ฉันก็สามารถที่จะมาอยู่ในสถานที่ไฮเอนด์แบบนี้ได้เหมือนกัน”

เทียนเซิงที่อยู่ข้างๆมองหวางหนันหนันไปแวบหนึ่ง แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน: “ชอบมั้ย?”

“วิวที่นี่สวยมากจริงๆ” หวางหนันหนันยิ้มอย่างจับใจ

“ด้านหน้าก็คือวิลล่า เราไปดูกันหน่อยมั้ย?” เทียนเซิงถาม

หวางหนันหนันส่ายหัว “ช่างเถอะ ได้ยินมาว่ายามของวิลล่าเขาเทียนซานเข้มงวดมาก อย่าให้ถึงตอนนั้นแล้วเราถูกไล่ออกมาเลย”

“เข้มงวดมากเลยเหรอ?”

เทียนเซิงยิ้มอย่างเรียบเฉย เหยียบคันเร่งจนมิด เสียงรถลัมโบร์กินีดังสนั่น มุ่งหน้าขับไปยังเขตวิลล่าเขาเทียนซานด้วยความเร็ว

ดวงตาของหวางหนันหนันเปล่งประกาย ยังไม่ทันได้สติ ประตูทางเข้าของเขตวิลล่าเขาเทียนซานก็อยู่ด้านหน้าแล้ว

เทียนเซิงขับรถลัมโบร์กินีที่เสียงดังสนั่นไปถึงบริเวณประตูวิลล่า

“ทำความเคารพ!”

ทันใดนั้นยามของวิลล่าก็ยืนตัวตรง ทำความเคารพอย่างสุภาพ “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน!”

บู๊น!

หวางหนันหนันเหมือนถูกสายฟ้าฟาด มือที่เรียวยาวได้กุมปากแดงๆเอาไว้ เกือบจะตะโกนออกมา

โอ้มายก๊อด!

เทียนเซิงคุณพักอยู่ที่นี่เหรอ?

ด้านหน้าสายตา ประตูวิลล่าค่อยๆเปิดออก

ความเร็วของรถลัมโบร์กินีลดลงไปอย่างมาก ค่อยๆขับเข้าไปในวิลล่า

หวางหนันหนันกุมปากไว้ตลอดเวลา มีความรู้สึกเหมือนฝัน

สองข้างทางวิลล่าที่หรูหราเรียงต่อกันเป็นหลังๆ มันเหมือนกับค้อนหนักได้ทุบเข้ามาที่หัวของเธอ

จนกระทั่งรถลัมโบร์กินีได้หยุดอยู่หน้าวิลล่าหลังหนึ่งที่ติดภูเขาของเขาเทียนซาน

ในที่สุดหวางหนันหนันก็ไม่สามารถยับยั้งความตกใจของเธอเอาไว้ได้ “ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น เทียนเซิง คุณ คุณพักอยู่ที่นี่เหรอ?”

“ไม่อย่างนั้นละ?”

เทียนเซิงเลิกคิ้ว ดวงตาภายใต้แว่นตาประกายวิบวับ “ลงรถแล้วครับ เจ้าหญิงของผม”

คำพูดประโยคเดียว ทำให้หวางหนันหนันเหมือนลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า

เจ้าหญิง?

เธอแก้มแดงเล็กน้อย ก้มหน้าด้วยความเขินอาย ในใจอบอุ่นขึ้นมาทันที

รอเทียนเซิงที่เป็นสุภาพบุรุษเปิดประตูให้เธอ เธอจึงค่อยๆลงจากรถ

“ชอบมั้ย?”

เทียนเซิงถาม

หวางหนันหนันพยักหน้าเปิดเผย

เวลานี้เธอ ตื่นเต้น ดีใจ ใจเต้นระรัว หัวสมองว่างเปล่า

นี่ใช่ความฝันหรือเปล่า?

หากเป็นความฝัน หวังว่าชีวิตนี้อย่าตื่นจากความฝันนี้เลย!

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่นี่ก็จะเป็นบ้านของเจ้าหญิง”

เทียนเซิงที่ยิ้มได้ลูบไปที่หลังของหวางหนันหนันเบาๆ สายตากลับชำเลืองมองไปวิลล่าอีกหลังหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก แววตาแฝงไว้ด้วยความเย็นชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset