Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 109 หวางหนันหนันที่เป็นโรคประสาท

บทที่ 109 หวางหนันหนันที่เป็นโรคประสาท

หนึ่งสัปดาห์ถัดมา

สำหรับเฉินตงแล้ว มันช่างสงบเหลือเกิน

คลื่นเดียวที่มี ก็คือสิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้นานแล้ว

ร้านวัสดุก่อสร้างทั้งหมดได้ร่วมมือกันคว่ำบาตรไท่ติ่ง

ครั้งที่แล้วโจวเย่นชิวที่เป็นคนออกหน้า ช่วยไท่ติ่งผ่านอุปสรรคไปได้ แต่ครั้งนี้ก็ยังเป็นโจวเย่นชิวที่เป็นผู้นำในการทำเรื่องนี้

ในเวลาสั้นๆ เฉินตงไม่เคยมาก่อนเลยผู้ขายวัสดุจะยินยอมพร้อมใจคว่ำบาตรพร้อมกัน

โชคดีที่ยังมีบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ที่ขายวัสดุให้ไท่ติ่ง ทำให้โครงการย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง ไม่ถึงกับต้องหยุดการก่อสร้าง

ในเวลาเดียวกันโครงการสามแห่งที่จะเปิดให้จองล่วงหน้านั้น เฉินตงก็ยังไม่คิดที่จะระงับโครงการนี้

ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการคือเงินทุน เพื่อใช้มันมาสร้างโครงการที่ใหญ่กว่า

อีกอย่าง ในเมื่อเฉินเทียนเซิงประกาศสงครามแล้ว แผนแรกก็ใช้มีดอย่างโจวเย่นชิวมาจี้คอเขา

หากเป็นแบบนี้ต่อไป โครงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองก็ต้องใช้ระยะเวลาก่อนสร้างที่เพิ่มมากขึ้น ในระหว่างนี้ใครจะไปรู้ว่าเฉินเทียนเซิงนั้นจะมาไม้ไหนอีก?

อีกฝั่งหนึ่ง ที่โรงพยาบาลลี่จิง

ในห้องผู้ป่วย บรรยากาศตึงเครียด

หวางหนันหนันยังไม่ตาย สามารถรอดชีวิตมาได้ และก็ได้ตื่นนานแล้ว หน้าผากยังพันด้วยผ้าพันแผล แต่ว่าสติยังไม่ค่อยสมบูรณ์มากนัก

นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ทั้งวันเอาแต่จ้องเพดานห้อง น้ำตาไหลเป็นระยะแล้วบ่นพึมพำ “สกปรก……. สกปรก………”

ภาพนี้ ทำให้คนที่เฝ้าไข้อย่างหวางเต๋อเหมือนโดนมีดกรีดที่ใจ

ตั้งแต่วันนั้นที่หวางหนันหนันฆ่าตัวตาย ในที่สุดทั้งครอบครัวก็ได้สงบลงมาแล้ว

ในฐานะที่เป็นพ่อ หวางเต๋อไม่กล้าที่จะคิดเลย วันนั้นหวางหนันหนันนั้นรู้สึกแย่ขนาดไหน

แม้กระทั่งหวางเต๋อยังไม่รู้เลย ว่าครอบครัวของเขาเกิดอะไรขึ้น ทำไมจึงได้กลายเป็นแบบนี้?

เคยทำเวรทำกรรมอะไรไว้เหรอ?

มองดูหวางหนันหนันที่พูดคนเดียวอยู่บนเตียง หวางเต๋อตาแดง มือสั่น สงสารจนอยากจะไปกอดหวางหนันหนัน

แต่ยังไม่ทันได้กอด หวางหนันหนันก็ตัวสั่น จู่ๆก็หดตัวเป็นก้อน สั่นสะท้านไปทั้งตัว

ภาพนี้ ทำให้ใบหน้าที่อ่อนล้าของหวางเต๋อน้ำตาไหลเป็นทาง

พรึบ!

ประตูห้องถูกเปิดออก

จาวซิ่วจือกับหวางเห้าเดินเข้ามา

หวางเต๋อก็รีบเช็ดน้ำตาบนหน้า แต่ก็ยังถูกจาวซิ่วจือเห็นเข้า

จาวซิ่วจือมองบน แล้วก็บ่น “ไม่ได้เรื่องเลย ทำตัวเหมือนผู้หญิงไปได้ ร้องไห้ฟูมฟาย”

หวางเต๋อรู้สึกขุ่นเคือง สีหน้าขุ่นมัว

ตามมาด้วย จาวซิ่วจือก็ชี้ไปที่เตียงของหวางหนันหนัน พูดกลับหวางเห้าอย่างเย็นชา

“หวางเห้า ยังไม่ไปเรียกพี่แกกินข้าวอีก?”

หวางเห้าอึๆอะๆ ก็อดไม่ได้ที่จะพูด “แม่ พี่ก็เป็นแบบนี้แล้ว แม่พูดจาให้มันเพราะๆหน่อยเถอะ”

“เพราะห่าอะไรล่ะ หากไม่ใช่มัน บ้านเราจะกลายเป็นแบบนี้มั้ย?”

จาวซิ่วจือจ้องหวางเห้าอย่างหงุดหงิดแวบหนึ่ง: “ตอนนี้เป็นไง มันคนเดียวที่เป็นประสาท ทำให้คนทั้งบ้านต้องมาดูแลมัน ชาติที่แล้วฉันทำเวรกรรมอะไรไว้?”

หย่ากับเฉินตง ถูกเฉินเทียนเซิงทิ้ง

ทั้งสองเรื่องทำให้จาวซิ่วจือเก็บไว้ในใจมาโดยตลอด เธอมีโอกาสที่จะเป็นคุณนาย ตั้งสองครั้ง!

แต่ทั้งหมดถูกหวางหนันหนันทำพัง!

ลำบากมาครึ่งค่อนชีวิต จาวซิ่วจือที่อยู่ต่อหน้าตระกูลหวางหรือบ้านของตัวเอง ไม่เคยได้ยืนอย่างสง่าผ่าเผยมาก่อน ต้องกล้ำกลืนฝืนทน เธอหวังเพียงว่าลูกสาวจะมีสามีรวยทำให้เธอสุขสบายได้!

หวางเห้าก็เลยไม่พูดต่อ ถือปิ่นโตเดินไปที่ข้างกายหวางหนันหนัน: “พูดเบาๆ พี่ครับ ทานข้าวได้แล้ว”

หวางหนันหนันที่หดตัวเป็นก้อนอยู่จู่ๆก็ตัวสั่นขึ้นมา จ้องมองด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

ทันใดนั้น เธอเหมือนกับถูกไฟช็อก ดีดตัวขึ้นมา กอดหวางเห้าไว้แน่นๆ

“น้อง น้องไม่ต้องกลัวนะ……… พี่อยู่ตรงนี้…….. พี่ต้องช่วยนายอย่างแน่นอน………”

ภาพที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้หวางเห้าตกใจจนร้องเสียงดัง

หวางเต๋อที่อยู่ด้านข้างไม่ทันจะตั้งตัว

แต่กลับเป็นจาวซิ่วจือที่วิ่งตอบสนองอย่างรวดเร็ว

เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับใบหน้าที่ดุร้าย ยกมือไปตบที่หน้าของหวางหนันหนัน: “เธอปล่อยเสี่ยวเห้าเดี๋ยวนี้!”

เพี้ยดังขึ้นหนึ่งที เสียงดังชัดเจน

จนใบหน้าของหวางหนันหนันเอียง ใบหน้าก็ปรากฏด้วยรอยฝ่ามือ

“แม่ แม่ทำอะไรน่ะ?” หวางเห้าตกใจมากดก

ยังไม่ทันสิ้นเสียงพูด หวางหนันหนันที่กอดเขาไว้ “ฮือ” ก็ร้องไห้ด้วยเสียงดัง

เสียงที่แสบหู เจ็บปวดและสิ้นหวัง

จาวซิ่วจือฟังแล้วก็หงุดหงิด ไปกระชากผมของหวางหนันหนัน ก็ตบตีเธออย่างโหดร้าย พลางตีพลางด่า

“ไอ้ลูกบ้า เป็นสินค้าที่ขาดทุนยังไม่พอ ตัวเองมาเป็นโรคประสาทอีก ยังมาทรมานลูกชายฉันอีกเหรอ?”

“ปล่อย ฉันบอกให้ปล่อยไง ทำให้เสี่ยวเห้าเจ็บแล้ว วันนี้ฉันจะส่งเธอไปเจอยมบาล”

“ไอ้สินค้าที่ขาดทุน ไอ้ลูกชั้นต่ำ เธอดูสิว่าเธอให้ครอบครัวแย่ขนาดไหน?”

……

เพี้ยๆๆๆ……..

เสียงตบบ้องหูที่ดังและแรง

ในห้องผู้ป่วย เละเป็นโจ๊ก

หวางเห้าอยากจะห้าม แต่เพราะถูกหวางหนันหนันกอดไว้อย่างแนบแน่น ไม่สามารถที่จะห้ามจาวซิ่วจือได้เลย

หวางหนันหนันถูกตบจนตัวสั่นสะท้าน ร้องไห้อย่างน่าสงสาร

ทันใดนั้น

“คุณอาละวาดพอหรือยัง? ปล่อยหนันหนันเดี๋ยวนี้?!”

หวางเต๋อที่โกรธก็ลุกขึ้น กางฝ่ามือที่ใหญ่ ตบไปที่หน้าของจาวซิ่วจือ

ตบเต็มกำลัง ไม่ปรานีเลย

เพียงฝ่ามือเดียวก็ตบจนจาวซิ่วจือถอยหลัง อึ้งจนตาค้าง

พริบตาเดียว ใบหน้าครึ่งหนึ่งของจาวซิ่วจือก็บวมขึ้นมาทันที

กลับไม่ได้ตอบโต้กลับทันที ทำเพียงจ้องมองหวางเต๋อด้วยความหวาดกลัวและโกรธ เห็นได้ชัดว่าถูกฝ่ามือนี้ทำให้อึ้งไปแล้ว

แต่ไหนแต่ไร หวางเต๋อตามใจเธอมาโดยตลอด ยอมให้เธอกดขี่

อยู่ในบ้าน จาวซิ่วจือจึงเป็นผู้ที่ใหญ่ค้ำฟ้า

แต่วันนี้ หวางเต๋อที่ลงมืออุกอาจ มากพอที่จะทำให้จาวซิ่วจือกลัว

ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ

จู่ๆจาวซิ่วจือก็กรีดร้องขึ้นมา แล้วนอนลงบนพื้นกลิ้งตัวไปมา “โอ๊ย ไม่มีเหตุผล ไม่มีเหตุผลจริงๆ หวางเต๋อคนมันคนไร้ความสามารถที่เก่งแต่กับคนในบ้าน ฉันแต่งงานกับคุณ ถือว่าซวยไปแปดชาติ!”

หวางเต๋อโกรธจนตัวสั่น ถูกไฟโกรธแผดเผา

เขามองหวางหนันหนันที่ตัวสั่นอยู่บนเตียงอย่างสงสาร

คนที่เป็นพ่อ มีใครที่ไม่รักลูกสาวของตัวเอง?

แต่จาวซิ่วจือที่เป็นแม่ กลับไม่คิดถึงสถานการณ์ของลูกสาวตอนนี้เลย!

ทนกัดฟัน หวางเต๋อที่โกรธเคืองพูดกับจาวซิ่วจือ “หุบปากเดี๋ยวนี้ บ้านนี้มีคุณมันถึงได้เป็นแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะหลงลาภยศสรรเสริญ ทะเยอทะยาน บ้านจะเป็นแบบนี้มั้ย?”

จาวซิ่วจือกำลังจะแก้ตัว หวางเต๋อกลับยกฝ่ามือขึ้น

“ไสหัวไป คุณไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ อย่ามารบกวนการพักฟื้นของหนันหนัน!”

“หากคุณไม่ไป วันนี้ผมจะตีคุณให้ตาย หย่ากับคุณ!”

น้ำเสียงเหมือนเสียงฟ้าร้อง โกรธอย่างมาก

หวางเต๋อที่อ่อนแอ ในที่สุดก็กล้าลุกขึ้นมาสักครั้ง

มากพอที่จะทำให้จาวซิ่วจืออึ้ง สุดท้ายภายใต้การเกลี้ยกล่อมของหวางเห้า ก็จากไปด้วยความเศร้าหมอง

ในห้องผู้ป่วย หวางหนันหนันจู่ๆก็ร้องไห้กอดหวางเต๋อเอาไว้ “พ่อ หนู หนูกลัว………หนู หนูสกปรกแล้ว…….หนูช่วยเหลือน้องไม่ได้อีกแล้ว……..”

ได้ยินคำพูดนี้ หวางเต๋อลุกขึ้นพร้อมกันน้ำตาที่เห็นได้ยากของเขา

ด้านนอกโรงพยาบาน

จาวซิ่วจือด่าหวางเห้าอย่างไม่ปรานี “ไอ้เต่าหัวหด ทำไมต้องให้แม่ออกมา ทำไมไม่ขวางพ่อนายเลย!”

“แม่ พอได้แล้ว!”

หวางเห้าโมโหจนทุบหน้าอกและกระทืบเท้า “บ้านเราก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว เรารอให้พี่สาวหายดีก่อนค่อยคุยกัน ได้มั้ย?”

“จะให้แม่พอได้ยังไง? ต้องเป็นพี่แกทำอะไรผิดอย่างแน่นอน ล่วงเกินเทียนเซิง ไม่อย่างนั้นคนดีๆแบบเทียนเซิงจะเอาเงินล้านมาล้อเล่นพวกเราเหรอ?” จาวซิ่วจือขมวดคิ้วจนเป็นสระอี

ใช่!

เทียนเซิง!

หวางเห้าทำหน้าจริงจัง โกรธอย่างมาก

“ใช่ พี่สาวเป็นแบบนี้เพราะเขา ผม ผมจะไปหาเขา!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset