Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 116 เรื่องเล็ก

บทที่ 116 เรื่องเล็ก

ตอนที่เฉินตงไปถึงโรงพยาบาล

ท่านหลงก็มารออยู่ที่ก่อนแล้ว

เมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของเฉินตง ท่านหลงก็หรี่ตาลง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง

ยังไม่ทันได้พูดคุยกันมากนัก เฉินตงที่ใบหน้าซีดเผือดก็ถูกส่งตัวเข้าห้องไอซียู

ตุบ !

ท่านหลงหันกลับไปแล้วกำหมัดต่อยเข้าที่หน้าอกของคุนหลุนด้วยความโกรธอย่างรุนแรง

“ ไอ้โง่เอ๋ย ! ฉันให้แกจับตาดูคุณชายเอาไว้ให้ดี แล้วแกดูแบบนี้นะหรือ ?”

คุนหลุนถอนใจออกมาอย่างหดหู่ แล้วก้มหน้าก้มตายืนนิ่ง

“ท่านหลง……” กูหลังอยากจะพูดอธิบาย

เผียะ !

ท่านหลงใช้ฝ่ามือตบเข้าไปที่หน้าของกูหลังฉาดใหญ่

แล้วจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่บูดบึ้ง : “แกไม่มีสิทธพูดอะไรทั้งนั้น !”

กูหลังผงะไป จากนั้นจึงก้มหน้าก้มตายืนนิ่ง

“ท่านหลง เป็นความผิดของผมกับกูหลังเองที่ไม่ได้ดูแลคุณชายให้ดี” คุนหลุนพูดออกมาด้วยท่าทีสงบ

เป็นเพราะคอยติดตามนายท่านมานาน ฐานะของท่านหลงจึงเหนือกว่าเขามาก ถือได้ว่าเป็นคนสนิทที่แท้จริงของนายท่านเลยก็ว่าได้

อีกทั้งท่านหลง เป็นคนที่ทำสิ่งต่างๆ อย่างใจเย็น ดังนั้นการที่เขาระเบิดอารมณ์โกรธขึ้นมาในตอนนี้ แสดงให้เห็นว่าเขาคงจะโมโหจนถึงขีดสุดแล้วจริงๆ !

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เฉินตงได้รับบาดเจ็บจริงๆ

ในฐานะที่เป็นผู้ติดตาม บางครั้งไม่เกี่ยวว่าจะถูกหรือจะผิด ขอเพียงแค่คนที่เขาติดตามได้รับบาดเจ็บ ต่อให้ผู้ติดตามไม่ผิดก็ถือว่ามีความผิดอยู่ดี !

สักพัก

ท่านหลงที่กำลังโมโหได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา จากนั้นจึงพูดอย่างสงบว่า : “ลองพูดมาซิว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ?”

คุนหลุนเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวิลล่าออกมาอย่างละเอียดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง

สีหน้าของท่านหลงค่อยๆ เปลี่ยนไป ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วขึ้น

แม้กระทั่งตัวเขาเองก็คิดไม่ถึงว่าเฉินตงจะใช้วิธีนี้ในการแก้แค้น

ยอมเจ็บตัวไปพร้อมกับศัตรู !

คนที่จะใช้วิธีเช่นนี้ได้ จะต้องเป็นคนที่ใจร้ายกับตัวเองมากพอ ?

และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ นี่เป็นวิธีที่จะสามารถชนะได้ทั้งสองทาง !

“เฮ้อ……”

ใบหน้าของท่านหลงเต็มไปด้วยความตกใจที่ไม่อาจปิดบังไว้ได้ จนในที่สุดเขาถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า : “หลายปีมานี้ต้องลำบากคุณชายไม่น้อยจริงๆ”

ถ้าไม่ใช่เพราะประสบการณ์ที่มีมาตั้งแต่เด็ก ท่านหลงคงคิดไม่ออกเลยว่า คนที่อายุอย่างเช่นเฉินตง จะโหดเหี้ยมกับตนเองได้ถึงเพียงนี้ !

“ท่านหลง จะต้องทำอย่างไรต่อไป ?”คุนหลุนถามอย่างจริงจัง

“คุณชายได้เหลือทางออกสำหรับเรื่องนี้เอาไว้ให้นายท่านแล้ว หลังจากนี้นายท่านจะเป็นผู้ตัดสินเอง”

แววตาของท่านหลงดูลึกซึ้ง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความออกไป

รอเพียงไม่กี่วินาทีก็ได้รับข้อความตอบกลับมา

เมื่อเห็นข้อความแล้ว ท่านหลงก็แสยะยิ้มออกมาในทันที : “เฉินเทียนเซิงมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วจริงๆ”

“เกิดอะไรขึ้น ?” คุนหลุนเอ่ยถาม

กูหลังเองก็หันมองท่านหลงด้วยความอยากรู้

“เฉินเทียนเซิงนั่งเครื่องบินส่วนตัวกลับไปที่ตระกูลเรียบร้อยแล้ว” ท่านหลงพูด

คุนหลุนหน้าถอดสี : “เขาทำเช่นนี้เพราะตั้งใจที่จะกลับไปร้องเรียนที่ตระกูลก่อนใช่หรือไม่ ?”

“ฉันจำเป็นจะต้องกลับไปที่ตระกูลเฉินเดี๋ยวนี้ เรื่องนี้จะปล่อยให้เขาพูดอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้” ท่านหลงพูดอย่างจริงจัง

คุนหลุนรีบพูดว่า : “ท่านหลงรีบกลับไปเถอะ ส่วนเรื่องทางนี้ของคุณชาย ผมจะเป็นคนดูแลให้เอง”

เรื่องจำเป็นในตอนนี้ก็คือ จะต้องกลับถึงตระกูลเฉินให้ได้ก่อนที่เฉินเทียนเซิงจะลงมือ แล้วจัดการบิดเบือนเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เสีย

ถ้ากลับไปช้า หากมีการตัดสินเรื่องที่เฉินตงละเมิดกฎของตระกูลออกมา อย่าว่าแต่ท่านหลงเลย แม้แต่พ่อของเฉินตงเองก็ไม่อาจที่จะแก้ไขอะไรได้อีก !

……

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง

ในห้องพักผู้ป่วย มีกลิ่นฉุนของยาลอยฟุ้งไปทั่ว

เครื่องมือตรวจวัดค่อยๆ ขยับ

เฉินตงลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง เมื่อเห็นห้องพักผู้ป่วยของตนเอง ก็ยิ้มออกมาอย่างผ่อนคลาย

“คุณชาย ในที่สุดคุณก็ฟื้นสักที !”

คุนหลุนกับกูหลังรีบกรูกันเข้ามา

หลังจากที่ท่านหลงกลับไป พวกเขาทั้งสองก็เฝ้ารออยู่หน้าไอซียูตลอด

อาการบาดเจ็บของเฉินตงไม่รุนแรง แต่ระหว่างทางที่มาโรงพยาบาลนั้นสูญเสียเลือดไปมาก ดังนั้นจึงต้องมีการให้เลือดจนกระทั่งถึงดึก

เมื่อเห็นท่าทีวิตกกังวลของคุนหลุนและกูหลัง เฉินตงก็ยิ้มออกมาอย่างประหลาดใจ : “ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย พวกนายสองตนจะกังวลไปทำไม ?”

คุนหลุนและกูหลังหันมองหน้ากัน

คุนหลุนยิ้มออกมาอย่างหดหู่ : “จะไม่ให้กังวลได้อย่างไร ? ช่วงบ่ายคุณเข้าไปในห้องไอซียูได้ไม่นานก็หมดสติไป ต้องให้เลือดถึงแปดถุงจึงจะสามารถยื้อชีวิตกลับมาได้”

เฉินตงยิ้มเล็กน้อย จากนั้นจึงหันมองภายในห้องแล้วขมวดคิ้ว : “ท่านหลงล่ะ ?”

“หลังจากที่พวกเราออกจากวิลล่า เฉินเทียนเซิงก็นั่งเครื่องบินส่วนตัวกลับไปที่ตระกูลทันที”

คุนหลุนพูดอธิบาย : “ท่านหลงเกรงว่าไอ้สารเลวเฉินเทียนเซิงจะชิงลงมือร้องเรียนก่อน จนทำให้นายท่านเชื่อว่าคุณละเมิดกฎของตระกูล ดังนั้นจึงรีบเดินทางกลับไปที่ตระกูลทันที”

เฉินตงพยักหน้า

นี่คือเรื่องที่เขาคาดคะเนเอาไว้แล้วเช่นกัน

ที่เฉินเทียนเซิงรีบกลับตระกูลก่อน ก็เพื่อที่จะช่วงชิงความได้เปรียบ แล้วทำให้เขาถูกตัดสินว่าละเมิดกฎของตระกูล

เขาอุตส่าห์คิดทางหนีทีไล่เอาไว้ขนาดนี้แล้ว หากท่านหลงยังไม่สามารถทำได้สำเร็จอีก เช่นนั้นเขาก็คงไม่ใช่ท่านหลงแล้ว

เขาหันหน้าออกไปมองท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างอ่อนแรง

เฉินตงพึมพำขึ้นมาว่า : “ป่านนี้คงจะมีการตัดสินผลออกมาแล้ว ?”

คุนหลุนส่ายหัว : “ผมพยายามลองติดต่อท่านหลงอยู่ตลอด แต่โทรศัพท์ก็ปิดเครื่องอยู่ตลอดเวลา”

“อืม”

เฉินตงขานรับ แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ

ครั้งก่อนที่ท่านหลงกลับตระกูลเฉินก็ตัดขาดช่องทางการสื่อสาร ดังนั้นการที่ครั้งนี้กลับตระกูลเฉินแล้วตัดขาดช่องทางการสื่อสารอีกจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกอะไร

เฉินตงมองไปที่เพดาน แล้วแอบคำนวณเวลาด้วยตนเอง

แม่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลลี่จิง เรื่องที่เขาได้รับบาดเจ็บจะให้แม่รู้ไม่ได้ ดังนั้นตอนที่ส่งเข้าห้องไอซียูจึงเป็นโรงพยาบาลคนละแห่งกัน

ตอนนี้สิ่งที่เฉินตงเป็นกังวลที่สุดก็คือเรื่องการเปิดขายตึกล่วงหน้าทั้งสามตึกในต้นเดือนหน้า

เฉินเทียนเซิงกลับไปครั้งนี้ คงจะต้องสร้างความปั่นป่วนให้แก่ตระกูลเฉินเป็นการใหญ่อย่างแน่นอน เขาเกรงว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบต่อการเปิดขายล่วงหน้าในช่วงต้นเดือนหน้า !

ตอนนี้จึงทำได้เพียงแค่รออย่างเงียบๆ ดูว่าผู้เป็นพ่อที่เขาไม่เคยพบหน้ามาก่อนคนนั้น จะสามารถจัดการเรื่องวันนี้ที่บ้านตระกูลเฉินได้สำเร็จหรือไม่

ส่วนเรื่องอื่นเฉินตงไม่ได้คิดอะไรมาก

เฉินเทียนเซิงทำให้แม่ของเขาต้องเข้าโรงพยาบาล ความแค้นนี้ ในฐานะที่เขาเป็นลูกจึงจำต้องแก้แค้น แต่การที่เขายังสามารถเหลือทางหนีที่ไล่เอาไว้ได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว

คำพูดที่ว่าทุกอย่างให้เป็นไปตามลิขิตของสวรรค์ เขาถือว่าเขาทำดีที่สุดแล้ว ส่วนที่เหลือก็ต้องรอดู “ลิขิต” จากพ่อและตระกูลเฉินแล้ว !

ในคืนนั้นไม่มีการพูดคุยอะไรต่อ

เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินตงไม่ได้ปลุกคุนหลุนและกูหลังที่กำลังนอนหลับอยู่อย่างสบายให้ตื่นขึ้น

แต่กลับพยายามติดต่อท่านหลงด้วยตัวเอง

แต่ผลลัพธ์ก็ทำให้เขารู้สึกผิดหวัง โทรศัพท์มือถือของท่านหลงยังคงปิดเครื่องอยู่

“คุณชาย ทำไมตื่นเช้าขนาดนี้ครับ ?”

เสียงของคุนหลุนดังขึ้นเบาๆ เพื่อไม่ให้เป็นการปลุกกูหลังจนตื่นขึ้นมา

เฉินตงยิ้มอย่างหดหู่ : “สามารถนอนหลับได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว”

คุนหลุนหัวเราะออกมาอย่างจนใจ แล้วจึงพูดล้อเล่นว่า : “ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือครับ ?”

“กลัวมาตลอด แต่ถึงจะกลัวก็ต้องทำ” เฉินตงเลิกคิ้วแล้วพูดตอบ

ตอนนี้เอง กูหลังถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงรบกวน

เขาหันมองเฉินจงกับคุนหลุนแล้วลุกยืนขึ้น : “คุณเฉิน พี่คุนหลุน ผมจะไปซื้ออาหารเช้า”

“ไม่อยากกิน”

เฉินตงกับคุนหลุนพูดออกมาพร้อมกัน

กูหลังพยักหน้า จากนั้นจึงตัดสินใจหยิบบุหรี่ออกมา แต่หลังจากที่มองเฉินตงแล้ว เขาก็เก็บกลับเข้าไปตามเดิม

“ไม่เป็นไร สูบเถอะ”

เฉินตงยิ้มพลางพูดว่า : “เอาให้ฉันมวนหนึ่งด้วย”

กูหลังนำซองบุหรี่ออกมาใหม่ จากนั้นจึงหยิบให้เฉินตงและคุนหลุนคนละหนึ่งมวน

จากนั้นคุนหลุนและกูหลังก็จุดบุหรี่อย่างคล่องแคล่ว

ส่วนเฉินตง หลังจากจุดไฟเสร็จแล้วสูบเข้าไปหนึ่งครั้งแล้ว กลับสำลักจนตาแดงในทันที และไอออกมาอย่างรุนแรง

เขาดับบุหรี่อย่างจนใจ จากนั้นจึงโยนลงถังขยะ : “ยังไงเสียฉันก็ยังไม่สามารถใช้บุหรี่ดับความทุกข์ได้อยู่ดี”

ทันใดนั้นเอง

มีเสียงข้อความดังขึ้นในโทรศัพท์มือถือของเฉินตง

เขาหยิบออกมาดู แล้วจู่ๆ ก็นิ่งไป

คุนหลุนและกูหลังที่กำลังพ่นควันออกมา ต่างหันมองพร้อมกันด้วยความสงสัย

กูหลังถาม : “คุณเฉิน เกิดอะไรขึ้นหรือครับ ?”

เฉินตงวางโทรศัพท์มือถือลง แล้วยิ้มออกมาอย่างสบายใจ : “เรื่องเล็กน่ะ พ่อของฉันโอนเงินเข้ามาในบัตรธนาคารชงโคของฉันพันล้าน”

น้ำเสียงฟังดูผ่อนคลายและสงบ ราวกับว่ากำลังพูดเรื่องที่ไม่สำคัญอะไร

แต่เมื่อคำพูดนี้ดังเข้าไปในหูของคุนหลุนและกูหลัง กลับเหมือนเสียงระเบิดของฟ้าผ่า

วินาทีต่อมา

ทั้งสองต่างสำลักควันบุหรี่จนตาแดงพร้อมกัน และไอออกมาอย่างรุนแรง

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset