Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 122 เขาเป็นลูกชายของผม!

บทที่ 122 เขาเป็นลูกชายของผม!

โครม!

ท่านหลงกับคุนหลุนเหมือนถูกฟ้าผ่า ตกใจจนสุดขีด

ท่านหลงนั้นน้ำตาคลอเบ้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ทีนี้………..มันจบสิ้นแล้วจริงๆ!

“แก……….”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินโกรธจนถึงสุดขีด

ไอ้ลูกสวะคนหนึ่ง ก็กล้าทำแบบนี้กับเธอ?

มันช่างเหลวไหลสิ้นดี!

เธอที่ควบคุมอำนาจทั้งหมดของตระกูลเฉิน ฐานะนั้นสูงกว่าทุกอย่าง ต่อให้เป็นหัวหน้าของตระกูลก็ยังต้องเคารพเธอ

ในใจเธอ ต่อให้เฉินตงเป็นลูกของเจ้าบ้านตระกูลเฉิน

ในขณะที่เธอพอใจ ยังพอที่จะเรียกเฉินตงว่าไอ้ลูกสวะ

หากไม่พอใจ เฉินตงนั้นอะไรก็ไม่ใช่?

ลูกสวะก็ยังไม่ใช่เลย!

และแล้ว

เฉินตงก็ก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว เวลานี้ ท่าทางน่าเกรงขาม สายตาที่กดขี่

“ผมเคารพคุณ เพราะคุณเป็นคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน หากผมไม่เคารพคุณ ผมก็ไม่ใช่อะไรเลยงั้นเหรอ?”

คำพูดที่สะท้านเหมือนสายฟ้า ทำให้สีหน้าของคุณหญิงใหญ่ตระกูลแดงก่ำ

ด้วยนิสัยของเธอ เวลานี้หัวใจปั่นป่วน ไฟโกรธเต็มทรวง ใบหน้าแดงก่ำ กัดฟันอย่างแน่น

แต่ เฉินตงยังคงไม่ถอยหลัง

ยังคงก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว

“คุณมาถามหาความผิด ผมให้เกียรติคุณ แทงตัวเอง ใช้เลือดเพื่อแลกให้คุณยอมถอยหนึ่งก้าว”

“ผมหวังว่าคุณจะยอมถอยหนึ่งก้าว ไม่ใช่ให้คุณมาบีบบังคับผมทุกก้าว ยังสวด《กษิติครรภโพธิสัตวมูลปณิธานสูตร》บทสวดที่สวดให้คนตายให้กับผม!”

น้ำเสียงราวกับเสียงฟ้าคำราม แม้กระทั่งคนหูหนาวยังได้เยิน

เฉินตงไม่ใช่คนอ่อนแอ และไม่ใช่คนโง่

เมื่อเจอกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำของเธอ เห็นได้ชัดว่ามาถามหาความผิดโดยไม่ให้พ่อเขารู้ เพื่อจะได้ตบเขาให้ตายคาฝ่ามือ!

เขาสามารถยอมถอย ยอมอดทน ถึงขั้นสามารถที่จะคุกเข่า

แต่จะให้เขารอตาย เขาทำไม่ได้!

ในห้องโถง อากาศจับตัวเป็นก้อนจนหายใจไม่ออก

ชายวัยกลางคนที่มีจอนผมสีขาวขมวดคิ้วจนลึก สายตาที่มองเฉินตงที่ยิ่งอยู่ยิ่งคมเฉียบ

ท่านหลงกับคุนหลุนที่ใบหน้าเศร้าหมอง น้ำตาคลอเบ้า

ใครๆก็รู้ ถังดินปืนนั้นระเบิดแล้ว

ระเบิดโดยสิ้นเชิง!

ใบหน้าคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินดำคล้ำ หายใจหอบอย่างต่อเนื่อง สายตาที่มองเฉินตง อยากที่จะกลืนกินมันลงไปทันที

สถานะและอำนาจของตระกูลเฉิน ทำให้เธอที่ตั้งแต่เข้ามาตระกูลเฉิน ก็อยู่ในที่สูงส่งตลอด เหมือนนั่งอยู่บนเมฆ

ไม่ว่าจะมองใคร ก็เหมือนเทพเจ้าที่มองเห็นสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเหมือนกับมด

ชินกับการอยู่ในที่สูง วันนี้จู่ๆก็เจอคนโง่ที่กล้าฉุดเธอลงมาจากที่สูง ทำให้เธอยากที่จะใจเย็น

ทันใดนั้น คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้

จ้องมองเฉินตงเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ กัดฟันแล้วกล่าว “หนุ่มน้อย อย่าโอหังให้มันมากนัก!”

ข่มขู่ อย่างเปิดเผย!

แต่เฉินตงกลับหัวเราะออกมา

แล้วก็ก้าวเดินไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว กล่าวอย่างบังอาจ “ไม่โอหัง จะยังเรียกว่าหนุ่มน้อยได้เหรอ?”

โครม!

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเหมือนถูกฟ้าผ่า

อกของเธอกระพือขึ้นลงอย่างแรง เกือบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว

“แก แกมันไอ้ลูกสวะ…….วันนี้ฉันจะทำให้แกตายโดยไม่มีที่ฝัง ต่อให้พ่อแกเป็นหัวหน้าของตระกูล ก็ไม่สามารถที่จะปกป้องแกได้!”

ความอาฆาตที่รุนแรง

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินไม่เคยมีความคิดที่อยากจะฆ่าคนแบบสุดๆแบบนี้มาก่อน

วันนี้เมื่อเจอกับเฉินตง ทุกคำพูดทุกการกระทำของเฉินตง กลับทำให้ศักดิ์ศรีที่เธอสั่งสมมาหลายสิบปี ถูกถอดถอนออกจนหมด

“คุณแน่จริงก็ลองดู?”

เฉินตงเลิกคิ้ว สายตาจ้องมองลึกๆ แล้วก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย “ตอนนี้ผมห่างจากคุณ แค่สามก้าว!”

เต็มไปด้วยแรงฆ่าเหมือนกัน

ข่มขู่อย่างเปิดเผยเหมือนกัน

ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหน ก็ต้องสู้สุดชีวิต!

ตั้งแต่เล็กจนโต เขาที่แบกคำว่าลูกสวะเอาไว้ เดินออกมาจากในมุมมืดทีละก้าวจนมาถึงวันนี้

ถ้าคิดแต่ในมุมของตัวเอง เขามั่นใจว่าตัวเองนั้นได้มามากพอแล้ว!

ดังนั้น ต่อให้เป็นคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ก็ต้องเป็นที่รองศพให้กับเขา!

สำหรับคุณแม่และคนอื่นๆ มีพ่อปกป้อง ก็คงไม่มีเรื่องอะไร

เป็นจริงเช่นนั้น

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินใบหน้ากระด้าง รูม่านตาหดลงอย่างสุดขีด

พลังอำนาจของเธอ ถูกสร้างขึ้นโดยอำนาจบารมีทั้งหมดของเธอ

ร่างกายที่เหมือนไม้ใกล้ฝั่ง ห่างกันแค่สามก้าว หากเฉินตงเดินเข้ามาจริง ใช้เพียงมือเดียวก็สามารถบีบคอเธอตาย

ไม่ว่าจะเป็นเฉินเทียนเซิงหรือเฉินเทียนหย่าง ล้วนเป็นผู้เก่งกาจของตระกูล เคยได้รับการฝึกฝนทักษะการต่อสู้อย่างเป็นระบบ แต่พวกเขาล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินตง คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็ไม่ได้หวังว่าชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างกายเธอจะสามารถคุ้มกันเธอได้

อีกอย่าง เธอไม่สงสัยคำพูดของเฉินตง

ลูกสวะที่คนโง่ๆคนหนึ่ง มีเรื่องอะไรที่จะทำไม่ได้เหรอ?

ในห้องโถง เหมือนกับเวลาได้หยุดเดิน

ทุกอย่างถูกหยุดเอาไว้

ท่านหลงกับคุนหลุนหัวสมองว่างเปล่าไปนานแล้ว รู้สึกเหมือนฟ้าจะถล่มแล้ว

ชายวัยกลางคนสองที่มีจอนผมสีขาว ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาเลย เป็นเพียงผู้เฝ้าดูเหตุการณ์

เฉินตงกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ขิงก็ราข่าก็แรง ไม่มีใครยอมใคร

หากภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ต้องสะเทือนไปทั้งเมืองอย่างแน่นอน

ตระกูลเฉิน เป็นตระกูลที่สูงส่งมากด้วยอำนาจบารมีที่ไม่มีใครสามารถมาเทียบได้!

ไม่ว่าจะเป็นเทพแห่งสงคราม ตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจ ก็ยังต้องก้มหัวให้กับตระกูลเฉิน

แต่ตอนนี้ หนุ่มน้อยคนหนึ่ง จะปลิดชีวิตคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินภายในสามก้าว ให้เลือดกระเด็นไปสามฟุต!

เวลาค่อยๆผ่านไป

ด้านนอกห้องโถง ดังขึ้นด้วยเสียงน้ำไหลของลำธาร

ทันใดนั้น

เสียงที่ทุ้มเสียงหนึ่ง ที่แฝงความเย็นชาที่ไม่มีที่สิ้นสุด ดังมาจากหลังลานป่าไผ่ที่อยูด้านหลังของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินและชายวัยกลางคน

“คุณน้าสาม เขาเป็นลูกชายผม!”

คำพูดง่ายๆเพียงคำพูดเดียว มันเหมือนกับเสียงคำรามของสายฟ้า

ทุกคนล้วนตกตะลึงพร้อมมัน

“คุณ คุณท่าน……..เป็นคุณท่าน!”

แววตาของท่านหลงเปล่งประกายทันที ราวกับว่าคนที่กำลังจะตายได้คว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ได้

คุนหลุนก็ตื่นเต้นดีใจ กำมือแน่นทั้งสองข้าง

ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็ลุกขึ้นมาอย่างรีบร้อน คารวะอย่างสุขภาพ

“คำนับเจ้าบ้านตระกูลเฉิน!”

“ท่านเมิ่งมากพิธีไปแล้ว!”

หลังลานป่าไผ่ น้ำเสียงที่หนาและทุ้มต่ำ ตอบกลับวัยกลางคนอย่างสบายๆ

“ฮึ่ม!”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็ทำเสียงฮึ่มหนึ่งที หัวเราะอย่างโกรธเคือง “เต้าหลิน นายมาได้เร็วเหมือนกันนะ!”

“ก็ไม่ได้เร็วไปกว่าน้าสามนะ?”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินยิ้มมากขึ้น ยกมือขึ้นชี้ไปทางเฉินตง “นายมาดูหน่อย ลูกสวะที่ดื้อรั้นเช่นนี้ มีคุณสมบัติอะไรมาเทียบกับคนเก่งกาจของตระกูลเฉิน? ยิ่งไปกว่านั้นมีสิทธิ์อะไรมาเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเฉิน?”

ปกป้องชีวิตของเฉินตงไว้ได้แล้ว

พริบตาเดียว ในใจนั้นสับสนถึงสุดขีด

สายตาจ้องมองไปด้านหลังลานป่าไผ่

ระหว่างนั้น เขามองเห็นเงาดำที่ไม่ชัดเจนยืนอยู่ตรงนั้น

ยี่สิบกว่าปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเขาหลังจากที่เขาเกิด!

เฉินตงอดไม่ได้ที่จะหรี่ตามอง พยายามกดลูกตาตัวเอง อยากเห็นใบหน้าที่แท้จริงของชายที่อยู่ด้านหลังลานป่าไผ่

แต่ว่าที่ตรงนั้นมันมืดมาก มืดจนไม่สามารถที่จะมองเห็นมัน!

ตามมาด้วย เสียงของเฉินเต้าหลินค่อยๆดังขึ้นมา

“น้าสาม เขาทำอะไรผิดเหรอ?”

ประโยคที่ถามกลับ ทำให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินตัวแข็งทื่อไปเลย เฉินเต้าหลินก็ได้พูดต่อ “เขาไม่ใช่ลูกสวะ แต่เขาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของผมเฉินเต้าหลิน!”

โครม!

เฉินตงเหมือนโดนฟ้าผ่า ร่างกายกระตุกอย่างแรง

“เลือดเนื้อเชื้อไข” สี่คำนี้ เหมือนกับค้อนที่หนัก ได้ทุบลงบนหัวใจของเขา

เสียงของเฉินเต้าหลินยังไม่หยุด ยังคงพูดต่อ จังหวะจะโคนน้ำเสียงที่ชัดเจน

เฉกเช่นเดียวกับเฉินตงเมื่อกี้ น่าเกรงขาม องอาจไม่มีใครเหมือน!

“เขาไม่ใช่ดื้อรั้นทะนงตน ไม่ว่าใครที่ถูกกดไว้บนเขียง ก็ต้องสู้สุดชีวิต ไม่ว่าใครที่ทำให้แม่เขาอับอาย เขาก็ต้องเอาคืน เลือดเนื้อของเขา ไม่เสียทีที่เป็นลูกของผมเฉินเต้าหลิน!

“ในเมื่อเขาเป็นลูกของผม เหตุใดถึงจะไม่มีสิทธิ์ที่จะแข่งขันกับผู้เก่งกาจคนอื่นของตระกูลเฉินเพื่อชิงตำแหน่งผู้สืบทอด? เฉินเทียนหย่างผู้ที่เก่งกาจ วันนี้ยังรักษาอาการบาดเจ็บที่ขาอยู่ที่บ้าน เฉินเทียนเซิงหากไม่ถูกจำกัดโดยกฎของบ้าน วันนี้ก็ได้ฝังไปแล้ว คุณว่าลูกผมเทียบไม่ได้กับผู้เก่งกาจเหล่านั้น?”

“น้าสาม ผมถึงจะเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉิน ในตระกูลเฉิน ผมเท่านั้นที่มีสิทธิ์พูดสิทธิ์การตัดสินใจ!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset