Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 129 นั่นไม่ใช่หนุ่มที่มีความสามารถธรรมดา เขาคือเขยมังกร!

บทที่129 นั่นไม่ใช่หนุ่มที่มีความสามารถธรรมดา เขาคือเขยมังกร!

คำพูดนี้พูดออกมา

ในห้องโถงเหมือนกับเวลานั้นได้หยุดเดินทันที

ท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิวตื่นตกใจ หน้าผากมีเหงื่อไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง

เหล่าเจิ้งนั้นกลับมองอย่างมีอำนาจ จ้องมองเฉินตงด้วยความรังเกียจ

ตรงหน้าของกู้ชิงหยิ่งเปลี่ยนเป็นสีดำชั่วขณะ และร่างกายของเธอก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทา

พ่อแม่โกรธแล้ว การเจอผู้ใหญ่ครั้งแรกพังอย่างยับเยินแบบนี้!

แล้วต่อไปนี้ เธอกับเฉินตงควรจะทำยังไง?

ริมฝีปากแดงขยับไปมา กู้ชิงหยิ่งค่อยๆเอ่ยปากขึ้น “เฉินตง……….”

เพิ่งจะพูดออกมา

จู่ๆเฉินตงก็ยิ้มขึ้นมา รอยยิ้มอบอุ่นเหมือนสายลม

ในใจนั้นกลับเต็มไปด้วยความหดหู่ กดดันอย่างมาก

《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》ของถังป่อหู่ท่านหลงเป็นคนเอาให้เขา เขามั่นใจว่าท่านหลงไม่มีทางที่จะเอาภาพปลอมมาให้เขา

ต่อให้ภาพนี้เดิมทีจะมอบให้ท่านเมิ่ง ก็ไม่มีทางที่จะเป็นของปลอม

คนที่ทำให้ใจเขารู้สึกหดหู่นั้นเป็นท่าทีของเจิ้งโก๋โส่ว อาศัยแค่ดูแวบเดียว ก็ฟันธงว่าภาพเขียนเป็นของปลอม นี่หรือคือผู้เชี่ยวชาญ ดูมั่วหรือเปล่า!

เป็นเพราะการตัดสินที่ผิดพลาดของเหล่าเจิ้ง ทำให้การเจอผู้ใหญ่ที่มีความสุขอย่างวันนี้ พังยับเยินโดยสิ้นเชิง!

ได้ยินเสียงของกู้ชิงหยิ่ง เฉินตงยิ้มพูดกับเธอ “ชิงหยิ่ง ผมไม่เป็นไร งั้นผมไปก่อนนะ”

สถานการณ์ถูกกำหนดแล้ว ถ้าเขายังอยู่ต่อ มันเพียงแต่จะทำให้กู้ชิงหยิ่งที่อยู่ตรงกลางจะลำบากใจ

กู้ชิงหยิ่งกลับมาอยู่ข้างกายเขา ในขณะที่เขากำลังมีปัญหา สำหรับความสัมพันธ์ที่ได้มาไม่ง่ายนี้ เขานั้นทะนุถนอมมันเป็นพิเศษ

เห็นกู้ชิงหยิ่งที่ลำบากใจ มันเพียงแต่จะทำให้เฉินตงนั้นปวดใจ

“เฉินตง……….”

กู้ชิงหยิ่งอยากจะร้างเขาเอาไว้

แต่กู้โก๋ฮั้วได้ดึงตัวเธอเอาไว้ “เสี่ยวหยิ่ง หรือว่าลูกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”

“พ่อคะ………..พ่อจะให้หนูเข้าใจอะไร?” ดวงตาที่สวยงามคลอไปด้วยน้ำตา เม้มริมฝีปากเอาไว้

“หลานสาว ชายคนนี้อาจถือได้ว่าเป็นชายหนุ่มที่มีความสามารถในเมืองนี้ แต่ครั้งแรกที่เจอกันก็ใช้ภาพวาดปลอมมาเป็นของขวัญ ของขวัญนั้นไม่ต้องมีราคาแพงแต่ต้องเป็นของจริง ไม่มีความจริงใจ นิสัยแบบนี้ใช้ไม่ได้!”

เหล่าเจิ้งกล่าวกับกู้ชิงหยิ่งด้วยคำพูดที่ชอบธรรมและมีเหตุผล “พ่อของหนูเรียกพวกอามาช่วยหนูทดสอบทองคำชิ้นนี้ ถือว่าได้เรียกถูกคนแล้ว ไฟกองนี้อย่างอา ก็ได้เผาท่าแท้ของเขาออกมาแล้ว”

กู้โก๋ฮั้วและสาวสวยมองสบตากันแวบหนึ่ง แล้วถอนหายใจพร้อมกัน

ด้วยฐานะของตระกูลกู้ พวกเขาไม่ได้ใส่ใจว่าเฉินตงจะมีเงินมากแค่ไหน เพราะในสายตาของกู้โก๋ฮั้ว ต่อให้เขาจะมีเงินก็ไม่มีทางมากกว่าของตระกูลกู้

สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญคือจิตใจของเฉินตง หากเฉินตงจริงใจต่อกู้ชิงหยิ่งจริงๆ

ดังนั้นต่อให้จะรู้ว่าเฉินตงเคยผ่านการหย่าร้าง แต่กู้โก๋ฮั้วก็ยินดีที่จะพบเขาสักครั้ง อีกทั้งเมื่อรู้ข่าวว่าเฉินตงพีรเซลล์โครงการพร้อมกันสามโครงการ ก็ชื่นชมโดยที่ไม่ปิดบัง

ถึงขึ้น เขากับภรรยาได้แอบตัดสินใจกันแล้ว หากเฉินตงเป็นคนที่ไม่เลวจริงๆ ก็จะไม่เข้มงวดมากนัก

ไม่ว่ายังไง……..ก็เป็นคนที่ลูกสาวชอบ

แต่เมื่อทดสอบแล้ว กลับได้ผลลัพธ์แบบนี้!

“เหล่าเจิ้ง วันนี้ต้องขอบคุณนายแล้ว”

กู้โก๋ฮั้วทำท่าคารวะเพื่อแสดงความขอบคุณเจิ้งโก๋โส่ว จากนั้นก็ถอนหายใจ แล้วพูดกับกู้ชิงหยิ่งอย่างเคร่งขรึม: “เสี่ยวหยิ่งอนาคตพ่อแม่นั้นไม่ได้ขอให้หนูร่ำรวยล้นฟ้า ต่อให้เฉินตงจะไม่มีอะไร แต่เงินของครอบครัวเราก็เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตของพวกเธอในคนาคต”

แต่พ่อกับแม่อยากให้ลูกมีความสุข การแต่งงานขึ้นอยู่กับคนที่เรารัก แต่เรื่องของวันนี้ หนูรู้สึกว่าเฉินตงคนนี้จะเป็นสามีที่ดีเหรอ?

กู้ชิงหยิ่งตัวสั่น ดวงตาที่บวมแดงเต็มไปด้วยน้ำตา นิ่งเงียบและไม่พูด

ในเวลานี้

“ไอ้เจิ้งหัวรั้น นายมันไอ้สารเลวที่มีตาแต่ไร้แวว นายมีตาแต่ไม่รู้จักหยกฝังทองนะ!” ผู้อำนวยการหลิวที่จู่ๆก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่ ทุบที่อบหน้า ด่าเหล่าเจิ้งขึ้นมา

ภาพที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

ทำให้ครอบครัวของกู้โก๋ฮั่วกับเหล่าเจิ้งตะลึงไปทันที

เหล่าเจิ้งกำลังจะโต้เถียง จู่ๆผู้อำนวยการหลิวก็กัดฟันอย่างแรง แล้วใช้มือผลักหน้าอกของเหล่าเจิ้ง ผลักจนเหล่าเจิ้งเซไปข้างหลัง

“นายมันไอ้หัวรั้น เมื่อกี้เราก็ห้ามนายไม่ได้เลย!”

“ไอ้หลิว นายหมายความว่ายังไง? อยากจะต่อยกันใช่มั้ย?” ทันใดนั้นเหล่าเจิ้งก็โมโหขึ้นมาทันที

พวกเขาล้วนเป็นเพื่อนกันมานาน ต่างคนต่างเป็นผู้สูงสุดในสาขาอาชีพของตัวเอง ก็ต้องมีอารมณ์เป็นธรรมดา

ปกติทุกคนคุยกันอย่างมีความสุข แต่เมื่อถึงเวลาลงมือ มันก็ไม่มีใครยอมใครเลย!

ตาของผู้อำนวยการหลิวแดงแล้ว ก็กัดฟันด่า “นายมันเป็นไอ้หัวรั้นที่หวังดี เรื่องชกต่อยนายคิดว่าฉันกลัวนายเหรอ? ฉันแพ้ฉันก็ส่งตัวเองไปโรงพยาบาล ถ้านายแพ้ ยังต้องขอร้องให้ฉันรักษา!”

“นาย…….” เหล่าเจิ้งหน้าแดงหูแดง โกรธอย่างมาก

สถานการณ์ ก็ร้อนระอุขึ้นมาทันที

ใบหน้ากู้โก๋ฮั้วมีความตื่นกลัว รู้สึกประหลาดใจ

ทำไมเพื่อนรักของตัวเองจู่ๆก็ทะเลาะกันเองล่ะ?

ประจวบเหมาะในเวลานี้

ท่านเมิ่งก็ก้าวออกมาหนึ่งก้าว มองเหล่าเจิ้งด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย “เหล่าเจิ้งนะเหล่าเจิ้ง ครั้งนี้เป็นเพราะนายเลอะเลือนแล้วจริงๆ ที่เหล่าหลิวด่านายนั้นไม่ผิดเลยจริงๆ”

“เหล่าเมิ่ง นายทำไมก็………..”

เหล่าเจิ้งแข็งทื่อไปทันทัน สีหน้าตกตะลึง

ตามมาด้วยดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง เหมือนจะรู้ตัวแล้ว

คนที่อยู่ในนี้ ท่านเมิ่งเป็นคนที่หนักแน่นที่สุด ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถที่จะมีตำแหน่งที่สูงแบบนี้

“เหล่าหลิว เหล่าเมิ่ง นายสองคนหมายความว่ายังไง?” กู้โก๋ฮั้วร้อนใจแล้ว จึงเอ่ยปากถาม

สาวสวยกับกู้ชิงหยิ่งมองท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิวอย่างไม่เข้าใจ

ผู้อำนวยการหลิวนิสัยใจร้อนกว่า กระทืบเท้าอย่างแรงไปหนึ่งที แล้วชี้ไปที่《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》แล้วกล่าวกับเหล่าเจิ้งด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน

“นายช่วยดูภาพนี้โดยละเอียดอีกครั้ง หากภาพที่เฉินตงมอบให้นั้นเป็นภาพปลอม วันนี้กูจะกินภาพนี้เข้าไป!”

โครม!

เหล่าเจิ้งเหมือนโดนฟ้าผ่า อึ้งไปทันที

ท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิวทวงความยุติธรรมให้กับเฉินตงพร้อมกัน

หรือว่า…….ตัวเองนั้นจะดูผิดไปจริงๆ?

ขณะนั้น เหล่าเจิ้งจึงได้หยิบ《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》ออกมากางบนโต๊ะ ถึงขั้นหยิบแว่นขยายออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เพื่อมาส่องดูอย่างละเอียด

เมื่อเทียบกับเมื่อกี้ ดูเคร่งขรึมและจริงจังกว่ามาก

ในห้องโถง เงียบจนเข็มหลุนยังสามารถได้ยิน

ครอบครัวกู้โก๋ฮั้วนั้นร้อนใจยิ่งกว่า

ท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิวรู้สึกอับอายและไม่พอใจ

เตรง………

ทันใดนั้น แว่นขยายที่อยู่ในมือของเหล่าเจิ้งก็หลุนลงบนพื้น

เขาเบิกตากว้าง ค่อยๆเงยหน้าขึ้นโดยไม่อยากจะเชื่อ “จริง……..ของจริง………ภาพนี้เป็นของถังป่อหู่จริง!”

น้ำเสียงที่สั่นเครือ เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》ที่ถูกผู้ลึกลับประมูลไปเมื่อสามปีก่อน ทำไมถึงมาอยู่ในมือของเด็กหนุ่มคนนี้ได้?

โครม!

คำพูดนี้ได้เข้าไปในหูของครอบครัวกู้โก๋ฮั้ว พริบตาเดียวมันก็ดังเหมือนเสียงสายฟ้าคำราม

ทันใดนั้นสีหน้าของกู้โก๋ฮั้วกับสาวสวยก็เปลี่ยนอย่างมาก

ทันใดนั้นดวงตาแดงที่เต็มไปด้วยน้ำตาของกู้ชิงหยิ่งก็เบ่งบานขึ้นมา เธอก็จับแขนพ่อแม่ของเธอทันที “พ่อคะแม่คะ มันเป็นของจริง! หนูก็พูดแล้ว เฉินตงไม่ทางโกหกพวกท่าน!”

กู้โก๋ฮั้วกับสาวสวยในใจรู้สึกสับสน สีหน้ากระอักกระอ่วน

หากภาพวาดนี้เป็นของจริง เมื่อกี้ก็เท่ากับว่าพวกเขาใส่ร้ายเฉินตงหรอกเหรอ?

“เฮ้ย………”

ท่านเมิ่งเดินไปตรงหน้ากู้โก๋ฮั๋วที่อึ้งอยู่ กล่าวอย่างมีเลศนัย “เหล่ากู้ เรื่องบางเรื่องเราไม่สามารถที่จะพูดออกมาตรงๆ แต่ว่าที่ลูกเขยที่เสี่ยวหยิ่งเลือกนั้น ไม่ใช่แค่เป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถเท่านั้น แต่เป็นถึงเขยมังกรเชียวนะ”

เมื่อคิดถึงภาพที่เห็นกับตาที่เจ้าบ้านตระกูลเฉิน กล้าไล่คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินไปตายเพื่อเฉินตง ท่านเมิ่งก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความเศร้าใจ

กู้โก๋ฮั้วนั้นรวยจริง แต่เมื่อเทียบกับตระกูลเฉิน ห่างกันราวฟ้ากับดิน!

เป็นเพราะความสะเพร่าชั่วครู่ของเหล่าเจิ้ง จึงได้ขับไล่มังกรตัวจริงที่แฝงตัวอยู่ในเมืองนี้ออกไป และเขากับผู้อำนวยการหลิวได้รับปากเฉินตง ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมา ในเวลานี้ทำได้พูดเตือนอย่างอ้อมๆ

อารมณ์ของกู้โก๋ฮั้วนั้นสับสน แววตาล่องลอย กำลังจะเอ่ยปากพูด

ผู้อำนวยการหลิวที่อยู่ด้านข้างก็กระทืบเท้าด้วยความแรงหนึ่งที กัดฟันและตักเตือนเหล่าเจิ้งเหอที่ห่อเหี่ยว

“เหล่าเจิ้ง เราที่เป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปี เราหวังดีกับนายทั้งนั้น หากนายยอมฟัง ก็รีบตามไปขอโทษเลย ไม่อย่างนั้นหายนะมาเยือนนายอย่างแน่นอน”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset