Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 130 ปีนสูงแล้ว!

บทที่ 130 ปีนสูงแล้ว!

เจิ้งโก๋โส่วตัวสั่น มีท่าทีสับสน

เขาเป็นปรมาจารย์ด้านจิตรกรรมจีน เขาที่อยู่ในสาขาอาชีพของตัวเองที่อยู่ในระดับที่สูงสุด

ก็ต้องมีความหยิ่งผยองและศักดิ์ศรีของตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นต่างประเทศ ก็เป็นแขกที่เจ้าภาพเคารพนับถือ

คนที่อยู่ในฐานะอย่างเขา คำว่าขอโทษได้หายไปจากพจนานุกรมของเขาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ยังต้องไปขอโทษคนที่มีอายุน้อยกว่า

เห็นเจิ้งโก๋โส่วยืนอึ้งไม่ขยับ

ผู้อำนวยการหลิวที่คันไม้คันมือ “ไอ้แก่หัวรั้น นายไม่เชื่อฉันหรือว่าไม่เชื่อเหล่าเมิ่ง?”

ท่านเมิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “ไปเถอะ ไม่ถือว่าเสียหน้าหรอก”

ในฐานะที่เป็นลูกชายแท้ๆของเจ้าบ้านตระกูลเฉิน สามารถทำให้เจ้าบ้านตระกูลเฉินอกตัญญูต่อผู้ใหญ่ จะรับคำขอโทษของปรมาจารย์ด้านภาพวาดจีนไม่ได้เลยเหรอ?

ดวงตาของเจิ้งกั๋วโส่วมืดลงในทันที

คำพูดของผู้อำนวยการหลิวเขาจะไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้แม้แต่ท่านเมิ่งก็พูดเช่นนี้แล้ว

ต่อให้เขาจะรั้นแค่ไหน ก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ปกติแล้ว!

สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เจิ้งโก๋โส่วก็ก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว

ความเข้าใจผิดถูกไขความกระจ่างแล้ว สำหรับเธอ ก็คือวินาทีหนึ่งคือนรกอีกวินาทีหนึ่งก็กลายเป็นสวรรค์

ในฐานะที่เป็นลูกสาว ใครจะไม่อยากจะให้พ่อแม่ของตัวเอง ชอบคนที่เราชอบล่ะ?

เจิ้งโก๋โส่วอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าในการเดิน

ในห้องโถง เงียบจนแม้แต่เข็มตกลงพื้นยังสามารถได้ยิน

กู้โก๋ฮั้วสองสามีภรรยายังมึนงงอยู่เล็กน้อย

เรื่องทั้งหมดของคืนนี้ เปลี่ยนแปลงได้เร็วมาก

จากความยินดี มาถึงความโกรธ จนมาถึงความหวาดกลัว

สองสามีภรรยาแค่อยากชวนเพื่อนเก่ามาสังสรรค์ ในเวลาเดียวกันก็ช่วยลูกสาวดูว่าพี่ลูกเขย ใครจะไปรู้ว่ามันจะเกิดเรื่องเข้าใจผิดแบบนี้ได้?

คิดถึงท่าทีเมื่อกี้ของเฉินตง แก้มของสองสามีภรรยารู้สึกร้อนขึ้นเล็กน้อย

กู้โก๋ฮั้วสายตามองลอยไปทางท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิว

“เป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ว พวกนายยังจะปิดบังเรื่องนี้อีก?”

เห็นได้ชัด ว่าหมายถึงเฉินตง!

“พูดไม่ได้”

ท่านเมิ่งส่ายหัว พูดด้วยสายตาที่ลึกๆ “เหล่ากู้ นายรู้สึกใช่มั้ยว่าวันนี้ตัวนาย ร่ำรวยมั่งคั่ง อยู่ต่างประเทศธุรกิจก็ไปได้ดีมาก?”

กู้โก๋ฮั้วนิ่งไปสักพัก จึงพยักหน้า

เขาไม่ใช่คนที่ดูถูกตัวเอง ความมั่งคั่งของตัวเองในต่างประเทศ เป็นดั่งที่ท่านเมิ่งพูดจริงๆ ไม่อย่างนั้นคู่ที่เขาจัดให้กู้ชิงหยิ่งไปนัดบอด ก็คงจะไม่ใช่พวกผู้ประกอบการน้ำมัน ลูกหลานซิลิคอนวัลเลย์หรอก

มีเพียงแต่ทุกคนยืนในเวทีเดียวกัน จึงจะสามารถคบกันได้!

ไม่อย่างนั้น ใครจะให้เกียรติเขา?

ท่านเมิ่งยิ้มๆ แฝงด้วยความดูถูกเล็กน้อย “ต่อให้นายมีเงินมาก ก็ไม่มากเท่าเขา!”

พรึบ!

กู้โก๋ฮั้วอึ้งไปทันที หน้าแดงหูแดง

คำพูดของท่านเมิ่ง แค่เพียงคำพูดเดียวก็ได้พูดโดนใจเขาในความรู้สึกแรกที่เขาเจอเฉินตง เหมือนเสียงตบที่ดังสนั่น ได้ตบเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างแรง

ไม่รอที่ให้กู้โก๋ฮั้วจะตั้งสติได้ ผู้อำนวยการหลิวก็พยักหน้า “เหล่าเมิ่งพูดถูก”

พรึบ!

รูม่านตาของกู้โก๋ฮั้วหดลง ราวกับว่าถูกตบที่บ้องหูอีกครั้ง

“อาทั้งสอง ช่วยไขความกระจ่างหน่อย” แม่ของกู้ชิงหยิ่งกล่าวขึ้น

ท่านเมิ่งส่ายหัว มองกู้โก๋ฮั้ว “รักษาไว้ให้ดี เสี่ยวหยิ่งปีนสูงไปแล้ว จะสามารถเข้าบ้านเขยมังกรหรือเปล่า ก็มาดูตระกูลกู้ของแกจะเกิดเรื่องหรือเปล่า!”

พูดจบ เขากับผู้อำนวยการหลิวก็จากไปพร้อมกัน ทิ้งกู้โก๋ฮั้วกับภรรยาที่กำลังสับสน กำลังครุ่นคิด

เฉินตงส่งสัญญาณไม่ให้พวกเขาพูด เขาสองคนสามารถพูดมาถึงขนาดนี้ ก็เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์หลายสิบปี

ครู่ใหญ่

แม่ของกู้ชิงหยิ่งจึงค่อยๆพูดขึ้น “โก๋ฮั้ว คุณเชื่อมั้ย?”

กู้โก๋ฮั้วยิ้มอย่างขมขื่น ถอนหายใจออกมาอย่างแรง “เหล่าเมิ่งกับเหล่าหลิวไม่มีทางที่จะเอาเรื่องนี้มาล้อเล่น”

“แล้วเฉินตง………เมื่อกี้ท่าทีที่เรามีต่อนายเฉินตง ไม่ดีเลยนะ” หลี่หวั่นชิงขมวดคิ้วที่โก่งเล็กน้อย

เดิมเป็นงานที่พบกันดีๆงานหนึ่ง เพราะความเข้าใจผิดของภาพหเพียงภาพเดียว เลยทำให้มันกลายเป็นแบบนี้

กับเฉินตง ในใจเธอรู้สึกผิด

นิ่งไปครู่หนึ่ง หลี่หวั่นชิงก็กล่าว “เอางี้ดีมั้ย เราก็อยู่ที่นี่อีกสักสองสามวัน หาเวลาจัดงานเลี้ยงใหม่เพื่อพบเฉินตงใหม่ และขอโทษเขา มาคลายความเข้าใจผิดนี้? “

“ขอโทษ?” กู้โก๋ฮั้วขมวดคิ้วจนเป็นเส้นตรง เราขอโทษเขา มันเหมาะสมเหรอ?

หลี่หวั่นชิงพูดอย่างโกรธเคือง “งั้นคุณจะทนดูเสี่ยวหยิ่งที่อยู่ตรงกลางต้องลำบากใจเหรอ? คุณเป็นพ่อนะ เวลาสำคัญแบบนี้ทำไมไม่ใส่ใจลูกสาวบ้าง?”

“เอาล่ะ” กู้โก๋ฮั้วถอนหายใจ ถือว่ารับปากแล้ว พูดอย่างสบายๆ “เพียงแค่เสียเวลาตรงนี้สองสามวัน เกรงว่าเมื่อติดต่อกับตระกูลเฉิน ก็ต้องเสียเวลาอีก”

พูดถึงตรงนี้ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย

“ฉันรู้ว่าคุณต้องการอาศัยอำนาจของตระกูลเฉิน เพื่อขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้นไปอีกขั้น ฉันก็เห็นด้วย อีกอย่างฉันก็สนับสนุนคุณอย่างมาก”

น้ำเสียงที่อ่อนโยนของหลี่หวั่นชิง แววตาก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยน “แต่โก๋ฮั้ว เรามีเสี่ยวหยิ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว ความสำเร็จของคุณมีคนมากมายที่อยากจะได้ เงินพอใช้ก็พอแล้ว ความสุขของเสี่ยวหยิ่ง จึงจะเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของเรา!”

“แต่ว่า……….” กู้โก๋ฮั้วยังอยากที่จะโต้แย้ง

“ฉันไม่อยากให้การตัดสินใจผิดของเรา ทำให้เสี่ยวหยิ่งเสียความสัมพันธ์ที่ดีไป ไม่พูดถึงเรื่องชาติตระกูลของเฉินตง ตอนนี้การงานเขาก็กำลังไปได้ดี หากเสี่ยวหยิ่งกับเฉินตงต้องแยกจากกันเพราะเรา คนที่เป็นพ่ออย่างคุณจะเสียใจมั้ย?”

น้ำเสียงที่พูดจาของหลี่หวั่นชิงสูงขึ้นเล็กน้อย “บางทีคุณอาจจะคิดว่า เสี่ยวหยิ่งอาจจะสนใจพวกผู้ประกอบการน้ำมัน หรือลูกหลานของซิลิคอนวัลเลย์เหรอ?”

กู้โก๋ฮั้วท่าทางห่อเหยี่ว ยิ้มอย่างขมขื่น

จากนั้น เขาก็กล่าวอย่างองอาจ “เอาอย่างนี้ วันมะรืนเรายังอยู่ จัดงานเลี้ยงใหม่ ขอโทษเฉินตง ก็คือเป็นการเจอผู้ใหญ่อย่างแท้จริงละกัน?”

“แบบนี้ถึงจะเป็นพ่อที่ดี!” หลี่หวั่นชิง ยิ้มอย่างอ่อนโยน

……

เมื่อกู้ชิงหยิ่งกับเหล่าเจิ้งวิ่งไปถึงลานจอดรถของคลับสี่ยิ่น เฉินตงได้จากไปนานแล้ว

เห็นเพียงรถโรลส์-รอยซ์คันหนึ่งแล่นตัวออกไปทางด้านนอกคลับสี่ยิ่น

กู้ชิงหยิ่งขมวดคิ้ว

เหล่าเจิ่งรีบเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมาถาม

เมื่อรู้ว่าเฉินตงนั่งรถโรลส์-รอยซ์ออกไปแล้ว ทันใดนั้นเขาก็มีความรู้สึกที่ซับซ้อนขึ้นมาทันที

ในสมอง ก็ปรากฏขึ้นด้วยคำพูดและท่าทีของท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิว ทำให้หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น

กู้ชิงหยิ่งได้ยินที่เหล่าเจิ้งคุยกับพนักงานรักษาความปลอดภัย

เขารีบร้อนหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเฉินตง

เพิ่งจะดังหนึ่งครั้ง โทรศัพท์ก็ถูกรับสาย

“ฮาโหล เฉินตง! ไอ้คนโง่ ทำไมไปเร็วแบบนี้? อย่าโกรธเลยได้มั้ย?”

เมื่อโทรติด กู้ชิงหยิ่งก็พูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร

“ผมไม่ได้โกรธ” ปลายสาย เฉินตงหัวเราะพูด

ไม่โกรธ?

เป็นไปได้ยังไง!

กู้ชิงหยิ่งอธิบาย “ความเข้าใจผิดได้ถูกไขความกระจ่างแล้ว “คุณอาเจิ้งได้ดูภาพอีกรอบ ยืนยันว่าภาพเป็นภาพจริง เขากำลังตามหาคุณเพื่อขอโทษคุณ อย่าเพิ่งไปได้มั้ย ฉันขอโทษแทนพ่อกับแม่ของฉันด้วย”

สถานการณ์ตอนนั้น เป็นใครก็ลำบากใจทั้งนั้น

เขาที่ไม่พอใจแทนเฉินตง แต่เธอก็ไม่สามารถที่เปลี่ยนแปลงมัน

วันนี้ความเข้าใจผิดได้รับกระจ่าง เขาไม่อยากให้เฉินตงเข้าใจพ่อแม่ตัวเองผิด

“เอาล่ะ ยัยโง่ สถานการณ์ตอนนั้น ถ้าผมไม่ออกมาแล้วอยู่ต่อมันจะทำให้คุณลำบากใจทั้งสองฝ่าย ผมไม่เป็นไรจริงๆ พักผ่อนเร็วๆละ” เฉินตงพูดจบ ก็วางสายทันที

บนรถโรลส์-รอยซ์

ท่านหลงมองดูเฉินตงที่วางสาย ยิ้มๆ “คุณชายไม่โกรธจริงเหรอ?”

“เสี่ยวหยิ่งมาอยู่ข้างกายผมในตอนที่ผมอับจนที่สุดโดยไม่ลังเลเลย เธอใช้ทั้งชีวิตของเธอเป็นเดิมพัน”

เฉินตงส่ายหัว ยิ้มอย่างอ่อนโยน “เรื่องแค่นี้ผมจะไปโกรธพ่อแม่ของเธอทำไม?”

พูดจบ ท่าทางของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมา “สิ่งที่ไม่สบอารมณ์ ก็คือคุณ ภาพวาดราคายี่สิบกว่าล้าน ผมแค่มาทานข้าวกับท่านเมิ่งเท่านั้น คุณก็ให้ผมมอบของขวัญราคายี่สิบกว่าล้าน? รู้จักผิดชอบชั่วดีหรือเปล่า?”

เผชิญหน้ากับเฉินตงที่จู่ๆก็โกรธขึ้นมา ท่านหลงทำหน้าไม่รู้เรื่อง “ยี่สิบล้านเยอะเหรอ?”

“ไม่เยอะเหรอ?” เฉินตงถาม

ท่านหลงยักไหล่ พ่อของคุณเวลาที่ให้ของขวัญราคาไม่ต่ำกว่าเก้าหลัก ครั้งที่แล้วที่ไปทานข้าวกับผู้ประกอบการน้ำมันฝั่งตะวันตก พ่อของคุณยังไม่ได้มอบบ่อน้ำมันให้เขาหนึ่งบ่อ

เฉินตง “…….”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset