Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 141 งานเลี้ยง

บทที่ 141 งานเลี้ยง

หลังจากที่เฉินตงรับสายของหวางหนันหนันแล้ว

ใจก็ไม่ได้อยู่ที่งานเลย สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ถึงขนาดที่ว่า ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองนั้นออกไปจากบริษัทยังไง

หลังจากที่ได้สติแล้ว ก็ได้มายืนอยู่ที่ด้านนอกร้านอาหารBlue Enchantressแล้ว

ภาพที่คุ้นเคย ภาพยังคงเหมือนเดิมแต่คนนั้นได้เปลี่ยนไปนานแล้ว

เขายิ้มๆ รอยยิ้มนั้นแฝงไว้ด้วยความขมขื่น

เฉินตงเดินเข้าไปในร้านอาหาร แต่ไกลเฉินตงก็มองเห็นหวางหนันหนันที่นั่งอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับหน้าต่าง

ลมพัดเบาๆ แสงแดดที่อบอุ่น ทุกอย่างกำลังดี

หวางหนันหนันที่สวมกระโปรงสีขาวกำลังนั่งอยู่อย่างเงียบๆ ผมยาวที่ปล่อยสหยายอยู่บนหลัง สงบนิ่งๆ

“มาแล้วเหรอ?”

เมื่อเห็นเฉินตง หวางหนันหนันก็ยิ้มๆ

เฉินตงก็พยักหน้า หลังจากนั่งลงแล้ว ก็ถามอย่างใจเย็น “มีเรื่องอะไรเหรอ?”

“วันนี้ฉันก็จะย้ายบ้านแล้ว”

หวางหนันหนันเอียงกายบิดขี้เกียจ ยิ้มอย่างอ่อนหวาน “ไปจากเมืองนี้ ที่ตรงนี้มีเรื่องราวที่น่าเศร้าใจมากเกินไป”

“ก็ดี เปลี่ยนที่อยู่เปลี่ยนการดำเนินชีวิตอีกแบบ” เฉินตงพูดอย่างใจเย็น

“ขอโทษ”

หวางหนันหนันจู่ๆก็กล่าวขึ้น “หลังจากเลิกกับคุณ ฉันถึงได้รู้ความดีที่คุณเคยมีต่อฉัน เป็นฉันที่ไม่คู่ควรกับคู่ เป็นฉันที่ทิ้งคุณเอง”

เฉินตงรู้สึกตกใจ และคาดไม่ถึง

หวางหนันหนันนั้นถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก ความหยิ่งผยองนั้นซึมลึกเข้าไปในกระดูก จินตนาการไม่ออกเลย ว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของเธอ

อีกอย่าง มันยังออกมาจากจริงใจ

เมื่อสบตากับหวางหนันหนัน ราวกับเวลามันได้หยุดเดิน

ครู่ใหญ่

เฉินตงยิ้มอย่างขมขื่น “ทุกอย่างมันไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปได้อีกแล้ว”

พูดจบ เขาก็ลุกขึ้น เดินออกไปข้างนอก

หวางหนันหนันที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ มองเฉินตงที่เดินจากไป ดวงตาที่สวยงามน้ำตาก็ค่อยๆเอ่อล้นออกมา

เขายกมือขึ้น เช็ดน้ำตา บ่นพึมพำ “หนันหนัน ไม่ร้อง”

ได้กล่าวลาในขณะที่ทั้งสองคนเจอกันเพียงไม่กี่นาที ในซอยของด้านนอกร้านอาหาร มีใครคนหนึ่งกำลังถือโทรศัพท์เอาไว้ แอบถ่ายทุกอิริยาบถของเขาทั้งสอง

……

กลับถึงบริษัท เฉินตงก็ปรับอารมณ์ให้กลับสู่ปกติ แล้วก็มุ่งมั่งสู่การทำงาน

หวางหนันหนันนั้นเป็นเพียงอดีต

สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ควรใส่ใจเเละอยู่กับปัจจุบันที่เป็นอยู่ดีกว่า

เขานั้นถ่อมตัวมาก แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือความได้คืบจะเอาศอกของตระกูลหวาง

บทสรุปของตัวตระกูลหวางในวันนี้ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นโทษที่มาจากการกระทำของตัวเอง

สามวันให้หลัง

การเข้ามาตั้งถิ่นฐานของบริษัทชิงหยิ่นกับยี่เคอกรุ๊ป ยังคงส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง และได้รับการผลักดัน

ราคาบ้านอยู่ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น

และไท่ติ่ง ก็จะยังคงจำกัดการซื้อ ปริมาณการส่งมอบอยู่ที่วันละห้าสิบหลัง การซื้อบ้านแบบนี้ทำให้ผู้ซื้อแทบคลั่ง

ยิ่งทำให้คนที่คืนบ้านก่อนหน้านั้น เจ็บใจอย่างมาก ถึงขนาดทุบอกกระทืบเท้า

ทุกคนรู้ดีว่าไท่ติ่งนั้นกำลังชะลอราคาบ้าน เพราะต้องการรอจนกว่าราคาบ้านเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุด แล้วค่อยเข้าสู่กระบวนการพรีเซลล์ขนาดใหญ่

แต่สิ่งที่แปลกคือ

สิ่งที่เสี่ยวหม่ากังวลเกี่ยวกับความคิดของประชาชน กลับไม่เกิดขึ้นเลย

ไม่ใช่ว่ามันไม่ได้ถูกส่งต่อไปในหมู่ประชาชนของเมืองนี้ แต่ … เพราะมันไม่สามารถสร้างความคิดเห็นในสื่อสาธารณะได้

ในเวลาสามวัน การรายงานข่าวของสื่อสำนักใหญ่ๆแต่ละสำนักในเมืองนี้ มุ่งเน้นไปที่การเข้ามาตั้งถิ่นฐานของ บริษัทชิงหยิ่นและยี่เคอกรุ๊ป

สำหรับราคาบ้านฝั่งตะวันตกของไท่ติ่ง นั้นรายงานน้อยมาก!

คืนนี้

เฉินตงเลิกงานแต่เช้า

เมื่อเดินไปถึงใต้ตึกบริษัทนั้น รถโรลส์-รอยซ์ก็ได้จอดรถอยู่ที่ข้างทางแล้ว

เมื่อขึ้นรถ เฉินตงก็ถาม ท่านหลง “ของขวัญเตรียมเรียบร้อยแล้วหรือยัง?”

“ตามที่คุณชายสั่ง ได้จัดการเรียบร้อยแล้วครับ” ท่านหลงยิ้มๆ

คนที่ขับรถคือคุนหลุนก็พูดติดตลก “คุณชาย ของขวัญที่มีมูลค่ามากขนาดนี้ ไปสู่ขอสาวเหรอ?”

“พูดให้น้อยๆหน่อย”

เฉินตงยิ้มๆ กล่าว “ครั้งนี้พ่อของเสี่ยวหยิ่งช่วยฉันมากขนาดนี้ ไม่น้อยไปกว่าการช่วยชีวิตเลย ของขวัญแค่นี้จะแค่ไหนเชียว?”

คืนนี้ เป็นงานเลี้ยงที่เขาจัดขึ้นเพื่อขอบคุณบุญคุณของกู้โก๋ฮั้วที่ช่วยชีวิต

วิกฤตครั้งนี้ของไท่ติ่ง เหมือนตึกที่กำลังจะถล่ม

ต่อให้สุดท้ายพ่อของเขาจะเอาคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินอยู่หมัด แล้วให้ยี่เคอกรุ๊ปเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองนี้

แต่กู้โก๋ฮั้วสามารถช่วยเขาในขณะที่เขากำลังจะหมดลมหายใจ ในสถานการณ์ที่กำลังจะตายไม่ตายแบบนี้ ยื่นมือมาช่วยเขา บุญคุณนี้ จำเป็นต้องตอบแทน บุญคุณแม้เพียงน้ำหยด ก็ควรตอบแทนให้ได้ดั่งสายธาร

ยิ่งไปกว่านั้นมันคือบุญคุณการช่วยชีวิต!

จากนั้น

ท่านหลงยิ้มๆ กล่าวด้วยสายตาที่ลึกๆ “เพียงแต่ หากคุณชายจะไปขอสาวจริง กระผมสามารถช่วยคุณชายเตรียมของขวัญอย่างดี อีกอย่างของขวัญที่กระผมเตรียมนั้นต้องทำให้ตระกูลกู้ชอบใจอย่างแน่นอน”

“ของขวัญอะไร?” เฉินตงสงสัย

ท่านหลงหัวเราะอย่างอดไม่ได้ หันไปพูดกับคุนหลุน “คุณหลุน ยังไม่ขับรถอีก? ดูเหมือนคุณชายมีความคิดที่อยากจะสู่ขอลูกสาวของตระกูลกู้แล้ว?”

คำพูดเพียงประโยคเดียว ก็ทำให้เฉินหน้าแดง

คุนหลุนที่ขับรถอยู่ก็หัวเราะขึ้นมา

คลับสี่ยิ่น

ในลานป่าไผ่ สว่างไสวด้วยแสงไฟ

เสียงเปียโนดังก้อง ไม้จันทน์หอมระเหย

ในห้องอาหาร ครอบครัวของกู้ชิงหยิ่งกับท่านเมิ่ง เจิ้งโก๋โส่วได้นั่งประจำที่แล้ว

กู้ชิงหยิ่งมองออกไปด้านนอกเป็นระยะ ตั้งหน้าตั้งตารอ

หลี่หวั่นชิงที่อยู่ข้างกายเธอ จับมือเธอเอาไว้ นั่งฟังกู้โก๋ฮั้วกับเพื่อนที่คุยกันอย่างเงียบๆ

“ไอ้เมิ่ง ฉัน ฉันต้องก้มหัวขอโทษจริงๆเหรอ?” เจิ้งโก๋โส่วที่มีสีหน้าลังเล ยังคงมีความไม่เต็มใจอยู่เล็กน้อย

เขาเป็นปรมาจารย์จิตรกรรมจีน มีชื่อเสียงในระดับสากล และสถานะที่โดดเด่น

โดยปกติ ต่อให้ไปงานเลี้ยงของครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอำนาจ เจ้าภาพยังต้องให้ความเคารพ เชิดชูให้อยู่ในที่สูง เพลิดเพลินกับคำเยินยอของผู้คนรอบข้าง

ให้เขาก้มหัวขอโทษ ยังต้องขอโทษเด็กที่อายุยี่สิบกว่าคนหนึ่ง ในใจเขานั้นยังคงทำใจไม่ได้

แม้ว่า รู้ว่าตัวเองนั้นผิดก็ตาม

ได้ยินเช่นนี้

กู้โก๋ฮั้วก็ขมวดคิ้วมองท่านเมิ่ง ไอ้เมิ่ง “คงไม่ร้ายแรงขนาดนั้นมั้ง? ไม่อย่างนั้นก็ให้ฉันกับเสี่ยวหยิ่งพูดแทนไอ้เจิ่ง”

กู้ชิ่งหยิ่งที่ได้สติ ก็พยักหน้ากล่าว “ใช่ค่ะคุณอาเมิ่ง เฉินตงเป็นคนใจกว้างมากค่ะ”

เธอนั้นรู้ฐานะอายุของเจิ่งโก๋โส่ว ให้เขาขอโทษเฉินตง มันเป็นการฝืนใจจริงๆ

ท่านเมิ่งนั่งอย่างสง่าผ่าเผย ยิ้มๆ “สิ่งที่ควรพูดก็พูดแล้ว ไอ้เจิ้ง ฉันหวังดีกับนาย นายก็ชั่งใจเองละกัน ภาพ《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》ด้วยสถานะของเฉินตงนั้นสามารถมอบของขวัญแบบนี้จริงๆ เพียงแต่เรื่องบางเรื่อง สิ่งที่นายเห็นอาจจะไม่ใช่ความจริง”

ใบหน้าของเจิ้งโก๋โส่วแดงก่ำ ก้มหน้าครุ่นคิด

กู้โก๋ฮั้วที่ท่าทีแปลกๆ ก็กล่าวขึ้น “ไอ้เมิ่ง นายกับไอ้หลิวเป็นอะไรกันแน่? แต่ละคนท่าทางแปลกๆมีอะไรซ่อนอยู่ มีอะไรที่ไม่สามารถพูดกันต่อหน้าเหรอ?”

ท่านเมิ่งเหลือบตามองกู้โก๋ฮั้วแวบหนึ่ง ยิ้มแบบไม่ปฏิเสธและไม่ยอมรับ

พูดกันต่อหน้า?

พูดกันต่อหน้า ฉันกล้าพูด พวกนายจะกล้าเชื่อมั้ย?

หากไม่ใช่เห็นกับตา เขาก็ไม่กล้าเชื่อชาติตระกูลของเฉินตง

ในความเป็นจริง ด้วยกำลังของท่านเมิ่ง หากอยากจะตรวจสอบ มันง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ

แต่ในเอกสารเห็นได้ชัด เฉินตงตั้งแต่เกิดมานั้นเป็นเด็กกำพร้า ใช้ชีวิตกับแม่สองคน ฐานะยากจน ก้าวเดินมาทีละก้าวจนมาถึงวันนี้

การแต่งงานที่โชคร้าย เกือบจะทำให้แม่ของเฉินตงเสียชีวิต

จากนั้นก็การเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง สิ่งที่ประสบมาในช่วงระยะเวลานี้ ทำให้ท่านเมิ่งนั้นประหลาดใจอย่างมาก

ไม่รอให้กู้โก๋ฮั้วถามต่อ เจิ้งโก๋โส่วก็ถอนหายใจไปหนึ่งที “ฉัน ฉันลองดูละกัน”

พอดีในเวลานี้

ด้านนอกประตู ก็มีเสียงๆหนึ่งดังเข้ามาข้างใน

“เจ้านาย เฉินตงมาถึงแล้ว”

ได้ยินเช่นนี้

ท่านเมิ่งก็ลุกขึ้นมากะทันหัน ราวกับโดยไฟฟ้าช็อต

ภาพนี้ ทำให้คนที่อยู่ในนี้ล้วนตกใจ

ปฏิกิริยาแบบนี้……โอเวอร์ไปหรือเปล่า?

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset