Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 142 เตรียมของขวัญ

บทที่ 142 เตรียมของขวัญ

เมื่อเฉินตงเดินเข้ามาในห้องโถง

ก็เห็นกู้ชิงหยิ่งและคนอื่นๆยืนรออยู่กลางห้องโถง

กู้ชิงหยิ่งยิ้มอย่างอ่อนหวาน เดินเข้าไป คล้องแขนของเฉินตงเอาไว้ “เจ้าทึ่ม มาช้าจัง พวกคุณพ่อรอคุณอยู่นะ”

ดูเหมือนกำลังต่อว่า เธอนั้นเข้าใจดี ไท่ติ่งเพิ่งจะผ่านวิกฤต เป็นช่วงเวลาที่งานของเฉินตงกำลังหนัก

ที่พูดแบบนี้ ก็เพื่อหาทางลงให้กับเฉินตง

เฉินตงยิ้มอย่างขอโทษให้กับกู้โก๋อั้วและคนอื่นๆ “ขอโทษด้วยครับคุณอา คุณลุงเมิ่ง คุณอาเจิ้ง บริษัทมีเรื่องงานให้จัดการเยอะมาก ก็เลยทำให้มาช้าไปหน่อย”

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร คนมาครบแล้ว ทุกคนนั่งลงกันเถอะ”

กู้โก๋ฮั้วยิ้มอย่างเบิกบานใจ มองท่านเมิ่งอย่างสงสัยแวบหนึ่ง

ท่านเมิ่งก็รีบเร่งฝีเท้าเดินไปต้อนรับที่กลางห้องโถง จึงทำให้พวกเขาเดินตามกันออกมา

กล่าวทักทายกัน

ท่านเมิ่งเห็นกู้โก๋ฮั้วที่บอกให้ทุกนั่ง เขาจึงได้เดินเข้าไปยิ้มทักทาย ยื่นมือขาวออกไป “เฉินตง เจอกันอีกแล้ว”

“คุณลุงเมิ่ง”

เฉินตงยิ้มแล้วยื่นมือออกไปจับมือกับท่านเมิ่ง

เพียงแค่การทักทาย กลับทำให้กู้โก๋ฮั้ว หลี่หวั่นชิงกับเจิ้งโก๋โส่วอึ้งกันไปเลย

การทักทายของท่านเมิ่ง ดูเหมือนสุภาพ

แต่คนที่สนิทกับเขาต่างก็รู้ คนที่สามารถทำให้ท่านเมิ่งไปทักทายได้ นั้นเห็นได้น้อยมาก

โดยเฉพาะเจิ้งโก๋โส่ว สายตาที่มองเฉินตงนั้นยิ่งสับสนมากกว่าเดิม

เฉินตงกลับพูดขึ้น “คุณอาทั้งสอง ครั้งที่แล้วมาอย่างรีบร้อน เตรียมตัวไม่พร้อม วันนี้จึงได้เตรียมของขวัญมาเล็กน้อย เพื่อเป็นการขอโทษคุณอาทั้งสอง”

ทุกคนได้หยุดฝีเท้าลง

หลี่หวั่นชิงยิ้มอย่างอ่อนโยน “เจ้าเด็กคนนี้นี่ ครั้งที่แล้วก็ได้บอกนายแล้ว คนมาก็พอแล้ว ทำไมยังสิ้นเปลืองไปซื้อของขวัญอีกล่ะ?”

เฉินตงยิ้มอย่างอบอุ่น “ต้องครับ พวกท่านเป็นพ่อแม่ของเสี่ยวหยิ่ง ต้องมีพิธีรีตองกันหน่อย”

กู้โก๋ฮั้วกับหลี่หวั่นชิงนั้นมองสบตากัน ก็ไม่ได้พูดต่ออีก

เฉินตงมีน้ำใจต่อพวกเขา พวกเขาก็ไม่ควรที่จะมองข้าม

พรึบๆ…..

เฉินตงปรบมือ

พริบตาเดียว ลานด้านนอกห้องโถง ก็ดังขึ้นด้วยเสียงฝีเท้า

ผู้คนจำนวนมากเดินเข้ามาก พลังนั้นดูยิ่งใหญ่อลังการ

และด้านหลังของผู้คน ท่านหลงกับคุนหลุนก็เดินขึ้นมาด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

ท่านหลงที่ถือรายการของขวัญ แล้วอ่านอย่างเสียงดัง

“โสมพันปีหนึ่งคู่!”

“ปะการังเลือดพันปีหนึ่งคู่!”

“หินนำโชคธิเบต18ตาหนึ่งอัน!”

……

ในลาน ดังด้วยเสียงอ่านรายการของท่านหลง

จากนั้นก็ได้เปิดกล่องของขวัญที่ยกเข้ามา ของขวัญมากมายที่น่าตื่นตาตื่นใจได้โดนตาของทุกคนในทันที

โครม!

แม้แต่กู้โก๋ฮั้วและคนอื่นๆที่เคยเห็นโลกกว้างมาแล้ว ยังเหมือนถูกฟ้าผ่า อึ้งกันเป็นแถว

นี่…….คือของขวัญเล็กน้อยเหรอ?

ของขวัญในรายการ มีชิ้นไหนที่ราคาไม่สูงลิบลิ่ว?

หากนี่เป็นของขวัญเล็กน้อย งั้นภาพวาด《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》ครั้งที่แล้วคืออะไร?

เสียงอ่านรายการของขวัญ ดังอย่างต่อเนื่อง

อีกอย่าง ยิ่งท้ายๆ ของขวัญยิ่งมีราคา

“ยันต์แท้ของเทพอักษรหวางซีจือ《ผิงอันเถี่ย》หนึ่งแผ่น!”

โครม!

เมื่อท่านหลงอ่านรายการของขวัญชิ้นสุดท้ายนั้น

เสียงเหมือนท้องฟ้าคำราม ดังสนั่นหวั่นไหว

ในห้องโถง ครอบครัวของกู้ชิงหยิ่งกับท่านเมิ่งอึ้งกันไปหมดทุกคน

ช่วงเวลาที่เจิ้งโก๋โส่วได้ยินคำว่า《ผิงอันเถี่ย》นั้น ใบหน้าก็แดงมากขึ้น ร่างกายสั่นเทา

“《ผิงอันเถี่ย》ของแท้? ตอนนั้น มันถูกประมูลออกไปในราคาสามร้อยล้านนะ!”

เสียงอุทานอย่างเบาๆ แต่ทุกคนที่อยู่ในนี้กลับได้ยินอย่างชัดเจน

ยันต์แผ่นเดียว สามร้อยล้าน?

นี่มันของขวัญเล็กน้อยตรงไหน?

“จบรายการของขวัญ!”

น้ำเสียงของท่านหลงดังสะท้อน เก็บใบรายการของขวัญ หันกายเดินจากไป

คนกลุ่มนี้ก็ได้เดินออกไปจานลานป่าไผ่ เหลือเพียงกล่องขนาดใหญ่ที่มีของกำนัลมากมาย

ระยะเวลาในการอ่านรายการของขวัญ จะว่ายาวก็ไม่ยาว จะว่าสั้นก็ไม่สั้น

แม้ว่าท่านหลงและคนอื่นๆเดินจากไปแล้ว คนที่อยู่ในห้องโถงสติยังไม่กลับคืนมา

ครู่ใหญ่

เจิ้งโก๋โส่วที่ตัวสั่นได้พุ่งตัวเข้าไปด้านหน้ากล่องของขวัญ หยิบกล่องใบเล็กที่อยู่บนสุด

ด้านในนั้นก็คือ《ผิงอันเถี่ย》

มองดูอย่างละเอียด ร่างกายที่สั่นของเจิ้งโก่โส่วกลับสั่นเพิ่มความรุนแรงขึ้น หายใจหอบ “เป็น…เป็นผิงอันเถี่ยที่ราคาสามร้อยล้านจริงๆ”

คำอุทานเพียงคำเดียว ก็ทำให้กู้โก๋ฮั้วและคนอื่นๆได้สติในที่สุด

กู้ชิงหยิ่งใช้มือกุมปากเอาไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง

กู้โก๋ฮั้วสองสามีภรรยากับท่านเมิ่ง ต่างมองเฉินตงด้วยความตกตะลึง

“ลูกเอ๊ย…….นี่ ของขวัญเหล่านี้มันเท่าไหร่แล้ว? นี่ยังว่าเป็นของขวัญเล็กน้อยอีกเหรอ?”

น้ำเสียงของกู้โก๋ฮั้วสั่นเล็กน้อย แผ่นอักษรแผ่นเดียวก็สามร้อยล้าน บวกกับของขวัญอื่นๆ มูลค่าล้นฟ้าแล้ว!

ด้วยฐานะของเขา หลักร้อยล้านนั้นเป็นเพียงเป้าหมายเล็กๆของเขา แต่ให้ของขวัญกับคนอื่นก็ไม่จำเป็นต้องมอบเป้าหมายเล็กๆออกไปมั้ง

สี่ร้อยแปดสิบล้าน!

ในใจเฉินตงนั้นมีตัวเลข เพียงแต่เขาไม่ได้ใส่ใจเลย และพอใจกับของขวัญที่ท่านหลงเตรียมให้

เขาไม่ขาดแคลนเงินทอง ตระกูลเฉินยิ่งไม่ขาดแคลนเงินทอง!

เพียงแค่สี่ร้อยแปดสิบล้าน กับพ่อที่คุยกันไม่รู้เรื่องก็จะมอบบ่อน้ำมันให้คนอื่นเทียบกันแล้ว มันเทียบกันไม่ได้เลย

กู้โก๋ฮั้วกับหลี่หวั่นชิงนั้นเป็นพ่อแม่ของกู้ชิงหยิ่ง อยู่ในใจเขา แค่เงินสี่ร้อยแปดสิบล้านไม่มีค่าให้เอ่ยถึงเลย

ของขวัญนั้นมีมูลค่า แต่น้ำใจนั้นประเมินค่าไม่ได้!

เฉินตงยิ้มๆ กล่าวอย่างใจเย็น “ คุณอา ไม่เท่าไหร่หรอกครับ เป็นเพียงน้ำใจเล็กน้อย”

หางตาของกู้โก๋ฮั้วกระตุกอย่างแรง สายตาที่มองเฉินตงก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว

หลี่หวั่นชิงถึงกลับรีบพูด “เฉินตง น้ำใจของนายพวกเราซาบซึ้งแล้ว แต่ว่าของขวัญพวกนี้มันแพงเกินไป ตอนนี้ธุรกิจของนายเพิ่งจะเริ่มต้น ไม่ควรที่จะมือเติบแบบนี้”

เงินหลักร้อยล้านสำหรับตระกูลกู้แล้ว ก็ไม่เท่าไหร่

แต่ในความคิดของหลี่หวั่นชิง เงินก้อนนี้เมื่ออยู่ในมือของเฉินตงต้องถือเป็นเงินก้อนใหญ่

เมื่อเทียบกับการมอบให้พวกเขา เห็นได้ชัดว่าเอาไปลงทุนทางธุรกิจ นั้นจะดีกว่า!

“น้ำใจที่คุณอาทั้งสองมีต่อผม มันคือบุญคุณที่ช่วยชีวิต แค่ของขวัญเล็กน้อย เฉินตงยังรู้สึกน้อยเลย ไม่มากหรอกครับ” เฉินตงส่ายหัว

บริษัทชิงหยิ่นเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองนี้ ทั้งหมดก็เพื่อช่วยไท่ติ่งของเขา

มูลค่าของขวัญที่เขามอบให้นั้น เมื่อเทียบกับความเสียสละของบริษัทชิงหยิ่น มันเทียบกันไม่ได้เลย

“คุณมันโง่จริงๆเลย!” หลังจากที่กู้ชิงหยิ่งได้สติ สายตาที่มองเฉินตงก็เปลี่ยนไปเลย

“เสี่ยวหยิ่ง อย่าพูดไปเรื่อย!” หลี่หวั่นชิงจ้องมองด้วยดวงตาที่สวยงาม ทำให้กู้ชิงหยิ่งตกใจจนอ้ำๆอึ้งๆ

เห็นกู้โก๋ฮั้วกับหลี่หวั่นชิงยังจะโต้แย้งอีก ท่านเมิ่งจึงได้กล่าวขึ้น “ไอ้กู้ เฉินตงเขามีใจอยากจะตอบแทนนาย พวกนายรับไว้ก็พอแล้ว”

“แต่……….” กู้โก๋ฮั้วขยับริมฝีปากไปมา

ท่าทีที่จริงจังของท่าเมิ่ง “นายเสียเงินไปหลายร้อยล้าน ถือว่าเอาคืนจากเฉินตง ก็ไม่เป็นไรแล้ว”

ได้ยินเช่นนี้ เฉินตงกับกู้โก๋ฮั้วก็หัวเราะพร้อมกัน

กู้โก๋ฮั้วยกมือ ก็เท่ากับว่าได้รับของขวัญไว้แล้ว แต่สายตาที่มองเฉินตงนั้น เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

ของขวัญที่มีราคาแพงขนาดนี้ คืนนี้เจ้าหนุ่มคนนี้ต้องมีเรื่องอื่นอย่างแน่นอน!

เพียงแต่ สายตาที่ล้ำลึกของกู้โก๋ฮั้วมองไปด้านนอกห้องโถง ก็ขมวดคิ้วแน่น

เมื่อกี้เสียงที่อ่านรายการของขวัญ ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยมาก

แต่เพราะระยะห่างและสาเหตุของแสงไฟ สุดท้ายเขาก็เห็นไม่ชัด

“พ่อคะ อึ้งอยู่ทำไม กลับไปนั่งพร้อมกันเถอะ” เสียงแรกของกู้ชิงหยิ่ง ทำให้สติของกู้โก๋ฮั้วกลับมา

“ตกลงเคยเจอกันที่ไหนนะ?” กู้โก๋ฮั้วหัวเราะอย่างเจื่อนๆ หันกายเดินเข้าไปในห้องอาหาร

และเจิ้งโก๋โส่ว ในเวลานี้พลางเดิน พลางถือกล่อง《ผิงอันเถี่ย》ไว้ในอ้อมอกอย่างระมัดระวัง

เวลานี้ เขาถึงขั้นมีความรู้สึกเหมือนหัวใจจะหลุดออกมาด้านนอก

เมื่อเขาเดินไปถึงยังห้องอาหาร ก็เงยหน้ามองเฉินตงอย่างจริงจัง พร้อมสายตาที่แน่วแน่!

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset