บทที่ 9 ฉันสามารถกลายเป็นผู้ชนะได้
ในบ้านเช่า
ท่านหลงที่สวมชุดถังจวงสีแดงนั่งอยู่บนโซฟา มองเฉินตงด้วยสายตาเคร่งขรึม
“คุณชาย การซื้อไท่ติ่งของคุณชายในครั้งนี้ บ้าบิ่นเกินไป โครงการก่อสร้างที่ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองที่ไท่ติ่งเพิ่งเซ็นต์สัญญาไป มากพอที่จะทำให้ไท่ติ่งล้มละลาย”
หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากเฉินตงว่าอยากซื้อบริษัท ท่านหลงก็ติดต่อในทันที จากปูมหลังและให้ราคาไท่ติ่งสูงกว่าราคาตลาดสามเปอร์เซ็นต์ทำให้เสร็จสิ้นการซื้อได้อย่างรวดเร็ว
แต่ว่าหลังจากที่เขาตรวจสอบไท่ติ่งหลังจากที่เกิดเรื่อง ก็ปวดหัวขึ้นมาทันใด
ถ้าเกิดว่าเป็นไท่ติ่งเมื่อก่อนที่มีกำไรพุ่งสูง หลังจบการซื้อขาย กิจการนี้ไม่มีทางขาดทุน อย่างมากก็แค่จ่ายสักร้อยล้านให้คุณชายได้ลองฝึกฝนก็แค่นั้น
คุณชายอยากจะพามารดากลับเข้าไปในตระกูล ขาดการฝึกฝนเรื่องแบบนี้ไม่ได้
กิจการในอนาคต ก็มีเพียงแค่ยิ่งทำก็ยิ่งใหญ่ขึ้น ใหญ่จนถึงขนาดที่ว่าคนในตระกูลที่ชอบซุบซิบกันต้องหุบปาก
แต่กระดาษสัญญาแผ่นเดียว กลับทำให้กิจการนี้กลายเป็นขัดตา
ไท่ติ่งล้มละลายนั้น ก็ในเร็วๆนี้แหละ
มันไม่ใช่เรื่องที่ว่าห้ามขาดทุน เพียงแค่เงินในบัตรธนาคารลายดอกชงโคที่นายท่านให้กับคุณชายก็พันล้าน เงินเล็กน้อยขนาดนี้ไม่ถือว่าเป็นอะไร
ที่สำคัญก็คือ สงครามครั้งแรกของคุณชายพ่ายแพ้ หลังจากนี้ถ้าเกิดว่าโดนคนพวกนั้นในตระกูลรู้เข้า ก็จะให้ฉายาคนไร้ความสามารถกับคุณชาย คุณชายคิดอยากที่จะพามารดากลับเข้าตระกูล อย่างนั้นก็ยากขึ้นแล้ว
“ท่านหลงพูดถูก ที่จริงผมทำลงไปได้บ้าบิ่นมาก” เฉินตงไม่ได้ปฏิเสธ โปรเจกต์การก่อสร้างที่ย่านสลัมเขานั้นคิดไม่ถึงจริงๆ
ท่านหลงพูดออกมาอย่างใจกว้าง “นายท่านส่งผมมาให้ดูแลคุณชาย เพราะหวังว่าคุณชายจะโตขึ้น ทำคะแนนออกมาได้โดดเด่น ในอนาคตท่านก็จะได้ส่งกิจการในตระกูลให้คุณชายต่ออย่างสง่า รับคุณชายและแม่เข้ามาในตระกูลอย่างเปิดเผย แต่ว่าการซื้อไท่ติ่งที่ล้มละลายเรื่องนี้ ถ้าเกิดว่าโดนคนพวกนั้นในตระกูลจับได้…….”
ก๊อกๆ!
เฉินตงเคาะลงบนโต๊ะ ยิ้มออกมา “ใครบอกว่าผมจะขาดทุน?”
ท่านหลงชะงักไป
“ไม่ใช่ว่าเขาอยากเห็นผมทำคะแนนหรอกเหรอ? ดังนั้นผมซื้อไท่ติ่งมา”
เฉินตงมีรอยยิ้มมั่นใจเต็มใบหน้า แต่ว่าแววตากลับมีแววเคืองโกรธ “ทิ้งผมกับแม่ผมเอาไว้ยี่สิบกว่าปี ขาดทุนนิดๆหน่อยๆ จะเป็นอะไรไป?”
ท่านหลงร้อนใจขึ้นมาเล็กน้อย “นี่ไม่ใช่เรื่องของเงิน!”
“โปรเจกต์ก่อสร้างย่านสลัมเซ็นต์สัญญามาในราคาที่แพงกว่าสามสิบล้าน เรื่องนี้ผมคิดไม่ถึงจริงๆ แต่ว่าผมก็ไม่ใช่เด็กหัดเดินในสายตาพวกคุณเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นเวลาสามปีผมจะไต่ขึ้นมาจนได้ตำแหน่งผู้ช่วยรองผู้จัดการได้ยังไง?”
เฉินตงแววตาคมปลาบ ความมั่นใจที่แสดงออกมาทำให้ท่านหลงขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น เขาพูดต่อ “คุณบอกให้เขาวางใจได้ ผมเผชิญกับคำด่าว่าลูกนอกสมรส ค่อยๆเดินทีละก้าวมาจนถึงวันนี้ คะแนนที่เขาอยากได้ ผมจะทำมันออกมา ความโดดเด่นเก่งกาจที่เขาต้องการ ผมก็จะทำให้เขาได้เห็น!”
“ผมไม่ได้แค่จะทำ ผมยังจะทำจนเขานั้นต้องเบิกตากว้างแล้วพูดไม่ออก! เขาต้องรับผมกับแม่เข้าตระกูลอย่างเปิดเผย เอาแสงแห่งเกียรติยศมารายล้อมตัวแม่ของผม พูดออกมาได้! นั่นเป็นสิ่งที่แม่ผมควรจะได้รับ! ผมจะเอามันมาให้แม่ด้วยมือของผมเอง!”
จบจากคำพูดเสียงดังเหมือนฟ้าร้อง
มากไปกว่านั้นคือท่านหลงมีท่าทีใจเย็นเหมือนกับน้ำ ก็เปลี่ยนสีหน้าโดยไม่รู้ตัว
เขาเปิดปากกำลังจะพูดโน้มน้าว ประโยคถัดไปของเฉินตง กลับทำให้เขาชะงักไปในทันที
“ไท่ติ่งในมือของผมไม่มีทางล้มละลาย มันทำได้แค่รุ่งโรจน์ยิ่งๆขึ้นไป โปรเจกต์ก่อสร้างที่ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองไม่ได้เพียงแต่จะไม่ขาดทุน แต่ยังจะทำเงินอีกด้วย!”
เฉินตงยิ้มออกมาแล้วยกนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว “ให้เวลาผมสามวัน ขอแค่ท่านหลงช่วยผมเรื่องหนึ่ง ผมก็มั่นใจที่ว่าจะพลิกหมากเกมนี้ได้ทั้งกระดาน!”
ถ้าเกิดว่าเป็นเฉินตงในตอนเมื่อก่อน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องซื้อไท่ติ่งเลย แค่เรื่องมีเงินซื้อกิจการ เผชิญกับเรื่องแบบนี้ เขาเองก็ไม่มีหนทาง ทำได้แค่ยอมรับความพ่ายแพ้
แต่ว่าตอนนี้ ไม่เหมือนกัน
นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงตกใจเพียงแค่ครู่เดียวหลังจากที่รู้ว่าเจ้าหลี่เซ็นต์สัญญาในราคาสูงลิบ
เขามั่นใจที่จะพลิกสถานการณ์ได้!
“คุณชาย จะทำเงินได้จริงๆเหรอครับ?”
ท่านหลงตื่นเต้นแล้ว เขานั้นมาช่วยเหลือคุณชาย ถ้าเกิดว่าคุณชายแพ้ในสงครามครั้งแรก เขาเองก็ไม่มีหนทางที่จะบอกกับนายท่าน แต่ว่าความมั่นใจกับแน่วแน่ของเฉินตง ทำให้เขามีความหวังอยู่ขึ้นมาเล็กน้อย “คุณชายท่านบอกมา ผมจะทำให้เต็มที่!”
สิบนาทีหลังจากนั้น ท่านหลงก็ออกไปจากบ้านเช่าอย่างอารมณ์ดี
หลังจากที่ได้ขึ้นไปนั่งบนรถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อม เขาก็รีบโทรออกอย่างอดรนทนไม่ไหว
“นายท่าน ดูเหมือนว่าพวกเราจะมองคุณชายผิดไปตลอดเลยครับ สองสามปีมานี้ เขาโตมากกว่าที่พวกเราคิดเอาไว้มาก”
โทรศัพท์เพิ่งจะโดนรับสาย ท่านหลงก็รีบพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “การซื้อกิจการในครั้งนี้ ถ้าเกิดว่าตามการแผนการที่คุณชายคิดออกมาล่ะก็ จะต้องเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ครับ! เงียบไปไม่กี่วินาที หลังจากนั้น ท่านหลงก็ถอนหายใจ แล้วพูดอย่างคนหมดหนทาง “แต่ว่า…..ท่าทางของคุณชายที่มีต่อเรื่องในปีนั้น ยังคงมีความขุ่นข้องในใจครับ ความแค้นของเขา…….”
ภายในบ้านเช่า เฉินตงกลับไม่ได้รู้ว่าท่านหลงกำลังโทรศัพท์ไปรายงานเรื่องทุกอย่างของเขาให้บิดาฟัง
เขาถูหน้า ทำจิตใจให้สงบลง เฉินตงลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัว แม่กำลังฟื้นฟูร่างกายอยู่ในโรงพยาบาล สารอาหารที่จำเป็นจะต้องตามให้ทันกัน
ถึงแม้ว่าเดลิเวอรี่ด้านนอกจะสะดวก แต่ว่าเขาไม่วางใจ ต่อให้ยุ่งแค่ไหน เขาก็เลือกที่จะต้มซุปให้แม่ทานเอง
หลังจากเรียนจบ เขาทุ่มเทหาเงิน มีความต้องการหวางหนันหนัน แล้วก็ยังมีความคิดต้องการจะตอบแทนบุญคุณแม่ให้แม่สุขสบาย
ครอบครัวของหวางหนันหนันเขาแบกเอาไว้ไม่ไหว หลังจากหย่าร้างกัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปความสนใจทั้งหมดของเขาจะทุ่มเทให้กับการงานและการกตัญญูต่อแม่
นำของใส่ลงไปในหม้อตุ๋นอย่างชำนาญ ปรับเป็นไฟอ่อนค่อยๆเตี่ยว ตอนนี้เฉินตงถึงค่อยกลับเข้าไปพักในห้องรับแขก
ในเวลานี้ วีแชทในโทรศัพท์ก็มีเสียงแจ้งเตือนเพิ่มเพื่อนขึ้น
หลังจากที่เห็นอีกฝ่าย เฉินตงก็หัวเราะออกมาอย่าหน่ายใจ อดีตน้องสะใภ้คนนี้ ได้รับบทเรียนไปไม่ลึกซึ้งมากพอหรือยังไง?
หลังจากที่กดตกลงรับเพื่อน หลินเสว่เอ๋อก็รีบส่งข้อความมาหนึ่งข้อความ
“คุณเฉิน เย็นนี้มีเวลาว่างหรือเปล่าคะ? เสว่เอ๋ออยากชวนคุณออกมาทานข้าวเย็นด้วยกัน”
ดูแล้วการสั่งสอนครั้งก่อนยังไม่ค่อยรุนแรงเท่าไหร่ใช่ไหม!
เฉินตงบีบจมูก หวางหนันหนันทุ่มเทพยายามให้เขาช่วยให้น้องชายได้สู่ขอหลินเสว่เอ๋อ หลินเสว่เอ๋อกลับวิ่งมาหาเขา พวกเขารู้เข้า จะมีปฏิกิริยาแบบไหนกันนะ?
เขารีบส่งข้อความตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว “ขอโทษด้วย แม่ของผมเข้าโรงพยาบาล ผมจำเป็นต้องดูแลแม่ อีกอย่าง คุณทำอย่างนี้ถือว่าเป็นการคุกคามนะ”
หลินเสว่เอ๋อแค่ไม่กี่วินาทีก็ตอบกลับมา “คุกคาม? คนเขาคุกคามแล้วไง คุณเฉินแย่ๆ”
เฉินตงยิ้มอย่างดูถูก กำลังจะวางโทรศัพท์ลงข้างๆ ไม่สนใจอีกแล้ว
อยู่ๆ บนหน้าจอเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่เคยติดต่อกันเลย ก็ส่งข้อความมา
เฉินตงมองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยอาการเหม่อลอยเล็กน้อย
อีกฝ่ายส่งข้อความมาหนึ่งข้อความ “เฉินตง ได้ยินมาว่านายหย่ากับหนันหนันแล้ว?”
บีบจมูกเล็กน้อย เฉินตงยิ้มออกมาอย่างข่มขื่น
เรื่องที่เขากับหวางหนันหนันหย่ากัน ยังไงเสียก็ต้องคนโดนคนรอบข้างรู้ จากนิสัยของตระกูลหวาง ยิ่งไม่มีทางแพร่งพรายเรื่องโดนชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างเขา “ทิ้ง” หรอก ต้องเก็บเอาไว้
เพียงแต่ ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็ได้ คนที่มาถามเขาเรื่องนี้เป็นคนแรก กลับเป็นเธอ
ตอบกลับไปง่ายๆแค่คำว่า “อืม” หลังจากนั้น เฉินตงก็ปิดเครื่องโทรศัพท์ แล้วกลับมาในครัวใหม่อีกครั้ง ทำซุปให้มาอย่างใส่ใจ
อีกด้าน หลินเสว่เอ๋อขดตัวอยู่บนเตียง ผมเผ้ายุ่งเหยิง เปิดเผยไหล่ขาวบางกลิ่นหอม คิ้วเรียวขมวดแน่นมองไปที่โทรศัพท์
“ทำไมถึงไม่ตอบแล้วล่ะ? ฉันก็อุตส่าห์ออกตัวไปขนาดนี้ เขาไม่เข้าใจหรือยังไง?”
หลินเสว่เอ๋อส่ายหน้า โดนความคิดนี้ของตัวเองทำให้หัวเราะออกมาแล้ว
ไม่เข้าใจ?
ถ้าเกิดไม่เข้าใจจริงๆ ครั้งก่อนทำไมทำเข้าถึงได้เข้าประเด็นมาเลยตรงๆ?
แววตาของแน่วแน่ ลังเลอยู่เล็กน้อย แล้วก็ส่งข้อความไปหาเฉินตงอีกหนึ่งข้อความ “คุณเฉิน คุณน้าป่วยเหรอคะ? เธออยู่ที่โรงพยาบาลไหนเหรอคะ? ฉันอยากจะไปเยี่ยมคุณน้าเสียหน่อย”
เธอรู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไร นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงยอมที่จะแต่งงานกับหวางเห้า
แต่ว่า ในตอนที่มีเป้าหมายที่ดีกว่า เธอก็ไม่รังเกียจที่จะต้องมุ่งหน้าไปจับเอาไว้
ต่อให้เคยโดนทำลายศักดิ์ศรีต่อหน้าผู้ชายคนนั้น โดนเหยียบย่ำตามอำเภอใจ
หัวใจของผู้ใหญ่คิดก็แต่เรื่องผลได้ผลเสีย ไม่คิดเรื่องถูกผิด
ส่วนในตอนนี้ก็วางศักดิ์ศรีของตัวเองลง เปิดรับเฉินตงด้วยความใจกว้าง ในใจของเธอ ข้อดีมากกว่าข้อเสีย
รอมาตั้งนาน ก็ไม่ได้การตอบกลับจากเฉินตง คิ้วเรียวของหลินเสว่เอ๋อขมวดแน่นยิ่งกว่าเดิม รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย
ในเวลานี้พอดี หวางเห้าก็ส่งข้อความมา
“เสว่เอ๋อ เธอกำลังทำอะไรอยู่น่ะ? มาเล่นเกมกันเถอะ พ่อแม่ฉันบอกแล้วนะ อีกหนึ่งอาทิตย์ก็จะรวมเงินค่าสินสอดครบแล้ว พอถึงตอนนั้นพวกเราก็หมั้นกันได้แล้ว เตรียมที่จะแต่งงาน”
“รำคาญ!”
หลินเสว่เอ๋อด่าออกมาอย่างรำคาญ จากนั้นก็รีบตอบกลับไป “โอเคจ้า รู้แล้วจ้า ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”