Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 155 ขู่กรรโชก

บทที่ 155 ขู่กรรโชก

ภายในลาน

สายลมโชยอ่อน มีกลิ่นหอมของดอกไม้ลอยอบอวลอยู่

แต่กู้ชิงหยิ่งกลับยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ใบหน้าของเธอไม่ได้ส่องแสงเป็นประกายเหมือนเมื่อครู่อีกต่อไป

สีหน้าของเธอเศร้าหมอง แววตาเหม่อลอย

ของที่อยู่ในซองจดหมาย เหมือนกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาในวันที่อากาศแจ่มใส เพียงแค่เปรี้ยงเดียว ก็ทำให้ภาพความงดงามและความปรารถนาที่เธอวาดฝันเอาไว้ทั้งหมด พังทลายลงในชั่วพริบตา

นี่คือรูปถ่ายหนึ่งรูป

บนรูปถ่าย เป็นภาพของเฉินตงและหวางหนันหนันที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกันในร้านอาหาร Blue Enchantress

พวกเขาทั้งสองคน กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งอย่างนั้นหรือ ?

ถ้าเช่นนั้นทำไมเขาถึงต้องขอฉันแต่งงาน ?

ขณะนั้น ในใจของกู้ชิงหยิ่งรู้สึกสับสนวุ่นวาย สมองว่างเปล่าจนคิดอะไรไม่ออก

เธอสอดรูปถ่ายกลับเข้าไปในซองจดหมาย จากนั้นจึงหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้านด้วยความเศร้าหมอง

กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงที่นั่งจิบชาและคอยเฝ้าดูกู้ชิงหยิ่งอยู่ตลอด รู้สึกตกใจพร้อมๆ กัน

สองสามีภรรยาเห็นพนักงานคนหนึ่งของคลับสี่ยิ่นนำซองจดหมายมามอบให้

จากนั้นก็เห็นว่า หลังจากที่ลูกสาวของตนเห็นสิ่งที่อยู่ในซองจดหมายแล้วก็หน้าถอดสีทันที

“เสี่ยวหยิ่ง ของข้างในมันคืออะไร ?” กู้โก๋ฮั๋วเอ่ยปากถามขึ้นมาก่อน

กู้ชิงหยิ่งที่เดินเข้ามาอย่างโศกเศร้ายืนตัวสั่นเทา รีบนำซองจดหมายไปซ่อนเอาไว้ด้านหลัง จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองพ่อกับแม่แล้วส่ายหน้า พยายามฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า : “ไม่มีนี่คะ ไม่มีอะไรค่ะพ่อ”

พูดจบ เธอก็หันหลังเดินกลับเข้าห้องนอนไป

ภาพที่เกิดขึ้น จะรอดพ้นจากสายตาของกู้โก๋ฮั๋วสองสามีภรรยาไปได้อย่างไร ?

เดิมทีกู้โก๋ฮั๋วตั้งใจจะตามไปถามให้รู้เรื่อง แต่กลับถูกหลี่หวี่นชิงดึงเอาไว้

“ลูกก็บอกแล้วนี่คะว่าไม่มีอะไร” หลี่หวั่นชิงพูด

กู้โก๋ฮั๋วรู้สึกร้อนใจขึ้นในทันที : “เสี่ยวหยิ่งเป็นขนาดนั้นแล้ว ยังบอกว่าไม่มีอะไรอีก คุณเชื่อที่เธอพูดหรืออย่างไร ?”

“ลูกโตแล้วนะคะ !” หลี่หวั่นชิงส่ายหัวด้วยความจนใจ “เธอไม่ใช่สาวน้อยตัวเล็กๆ ที่คุณจะกอดเอาไว้ในอ้อมอกอีกต่อไปแล้ว เรื่องบางเรื่อง หากเธอไม่ยินดีที่จะเล่า หากคุณไปเค้นถาม ก็จะยิ่งทำให้เธอลำบากใจ”

กู้โก๋ฮั๋วผงะไป ได้แต่ยืนกัดฟันด้วยความจนใจ

หลังจากกลับเข้าไปในห้องแล้ว กู้ชิงหยิ่งหยิบรูปถ่ายใบนั้นออกมาอีกครั้ง แล้วนั่งดูอย่างเหม่อลอย

ดวงตาของเธอค่อยๆ แดงก่ำ

เธอรู้สึกคัดจมูกเล็กน้อย ถึงแม้จะพยายามฝืนทน แต่ในที่สุดน้ำตาของกู้ชิงหยิ่งก็ไหลออกมา

กู้ชิงหยิ่งรีบล้มตัวลงบนเตียง จากนั้นจึงใช้หมอนกดหัวของตัวเองเอาไว้ แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเองเอาไว้จนมิดชิด

เธอกลัวว่าพ่อกับแม่จะได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอ และทำให้พวกเขาต้องรู้สึกเป็นห่วง

และเป็นเวลาที่กู้ชิงหยิ่งรู้สึกเสียใจและสับสนเป็นอย่างมาก

ที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง

กูหลังเองก็ถือซองจดหมายขึ้นมาวางเอาไว้บนโต๊ะทำงานของเฉินตง

“ใครส่งมา ?” เฉินตงถาม

กูหลังส่ายหัว : “เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตึกใหญ่เก็บขึ้นมาจากพื้นครับ มีชื่อของคุณเขียนเอาไว้ จึงได้นำมาส่ง”

“ต่อไปจดหมายพวกนี้ ให้โยนทิ้งให้หมด”

เฉินตงพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม แล้วโบกมือให้กูหลังออกไป

เขาลังเลอยู่สักพัก จึงได้ฉีกซองจดหมายออกดู

เป็นรูปถ่ายหนึ่งรูปพร้อมด้วยกระดาษโน๊ตหนึ่งแผ่นหล่นลงมาพร้อมกัน

ตอนที่เห็นรูปถ่าย มีเสียง “ฟ้าผ่า” ดังขึ้นในหัวของเฉินตง

ใบหน้าที่สงบนิ่งของเขา เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวในทันที

เส้นเลือดที่หางตาของเขาปูดขึ้นมาและกระตุกอย่างรุนแรง

ในรูปถ่าย เป็นตอนที่เขานัดพบกับหวางหนันหนัน เป็นภาพที่ทั้งสองนั่งอยู่ตรงกันข้ามกัน

นี่เป็นเพียงแค่ภาพของ “การบอกลา” ธรรมดาๆ เท่านั้น !

แต่ภาพนี้เมื่อถูกถ่ายออกมา บรรยากาศภายในภาพกลับดูเกินจริงไปมาก

ขณะที่กำลังโมโหอยู่นั้น เฉินตงก็ก้มลงเก็บกระดาษน๊ตขึ้นมา แล้วเขาก็กัดฟันด้วยความโกรธในทันที เขาใช้นิ้วหัวแม่มือของเขาบีบกระดาษโน๊ตแผ่นนั้นอย่างแรง

ในกระดาษโน๊ตมีเพียงข้อความสั้นๆ

“ถ้าไม่อยากให้กู้ชิงหยิ่งรู้เรื่อง เอาเงินมาให้ฉันร้อยล้าน !”

ด้านล่างของข้อความ ยังมีเลขที่บัญชีเขียนเอาไว้ด้วย

เมื่อเห็นเลขที่บัญชี เฉินตงก็รู้สึกโกรธเกรี้ยวและเดือดดาลขึ้นทันที

เขากัดฟันพูดว่า : “วางแผนที่แล้วใช่ไหม ? จงใจที่จะขู่กรรโชกใช่ไหม ?”

เมื่อเฉินตงเห็นหมายเลขบัญชีนี้แล้วก็รู้สึกไม่แปลกตาเลย

เพราะตลอดสามปีที่ผ่านมา เงินของเขา พูดฝากเข้าไปในหมายเลขบัญชีนี้นับครั้งไม่ถ้วน !

เพื่อใช้ตอบสนองความต้องการของตระกูลหวาง !

บัญชีนี้……เป็นของหวางหนันหนัน !

“หวางหนันหนัน ดี คุณใจร้ายจริงๆ ! ตระกูลหวางของคุณ โหดร้ายจริงๆ !”

เฉินตงตัวสั่นเทา กำกัดฟันและเดือดดาลด้วยความโกรธ ตอนนี้เหมือนมีภูเขาไฟลูกใหญ่มาสุมอยู่ในอกของเขา : “ร้อยล้าน ? มันก็แค่ร้อยล้านมิใช่หรือ ผมจะให้คุณ ผมจะยอมจ่ายให้คุณ !”

เขาไม่ได้สนใจเงิน

ครั้งหนึ่งเขาเคยสนใจเงินมาก่อน แต่ตอนนี้ เงินสำหรับเขาแล้วก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น

อย่าว่าแต่ร้อยล้านเลย ต่อให้เป็นพันล้าน เขาก็ยินดีที่จะจ่าย

ขอเพียงแค่สามารถรักษาความสัมพันธ์ระหว่างเขาและกู้ชิงหยิ่งเอาไว้ให้ได้เท่านั้น !

ความสัมพันธ์ในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เขาจึงเห็นคุณค่าอย่างมาก

ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่กู้ชิงหยิ่งทำให้กับเขา หรือแม้กระทั่งสิ่งที่พ่อและแม่ของกู้ชิงหยิ่งทำให้กับเขา ล้วนแล้วแต่ทำให้เขารู้สึกเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ในครั้งนี้ทั้งสิ้น

ถ้าหากรูปถ่ายใบนี้ตกไปอยู่ในมือของกู้ชิงหยิ่งแล้วล่ะก็ เรื่องที่เขาเตรียมที่จะขอแต่งงานตอนปลายเดือน คงจะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน

อีกทั้ง ในเมื่อหวางหนันหนันคิดวางแผนเอาไว้นานแล้ว คงจะไม่ได้มีเพียงแค่รูปถ่ายธรรมดาๆ รูปนี้เพียงแค่ใบเดียวหรอกกระมัง ?

ถ้าหากหลังจากนี้จะมีรูปถ่ายที่ทำให้คนอื่นยิ่งรู้สึกเข้าใจผิดปรากฏออกมา เฉินตงก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย

เขาพยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับความโกรธของตนเอง

ใบหน้าของเฉินตงเย็นชาราวกับน้ำแข็ง เหมือนกับสัตว์ร้ายที่จ้องจะกินคนเข้าไป มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มของความชั่วร้ายออกมา จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ยกโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วพิมพ์ข้อความส่งให้หวางหนันหนันหนึ่งฉบับ

“มะรืนนี้ ผมจะไปส่งคุณด้วยตัวเอง ! ส่งคุณทั้งครอบครัว !”

ปัง !

โทรศัพท์ถูกทุบลงไปบนโต๊ะอย่างแรง เสียงภายในบ้านเงียบสงัด

บ้านตระกูลหวาง

หวางหนันหนันซึ่งเก็บกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้ว เอนหลังลงบนเก้าอี้ที่วางอยู่ข้างหน้าต่าง จากนั้นจึงหันมองห้องนอนที่ว่างเปล่า ในแววตาเต็มไปด้วยภาพความทรงจำ

ดวงตาของเธอค่อยๆ แดงก่ำ

เมื่อผ่านประสบการณ์มาแล้ว ถึงได้เข้าใจ

เมื่อสูญเสียไปแล้ว ถึงได้เข้าใจ

ความฝันพังทลายลงแล้ว คนตื่นขึ้นมาแล้ว ความรู้สึกเกลียดชังที่มีต่อเฉินตงที่เคยครอบงำจิตใจเอาไว้ ตอนนี้กลับสูญสลายกลายเป็นควันไปหมดสิ้นแล้ว

หวางหนันหนันบิดขี้เกียจแล้วยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ : “ในที่สุดก็จะต้องไปจากที่นี่แล้ว ฝันร้ายในครั้งนี้ คงจะค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับชีวิตที่ต้องเดินก้าวไปข้างหน้าสินะ ?

ตึ๊ง ตึ๊ง !

เสียงเตือนข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้น

หวางหนันหนันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็เห็นก็ความที่เฉินตงส่งเข้ามา

แววตาของเธอเต็มไปด้วยความงุนงง แต่มุมปากกลับปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ

เธอวางโทรศัพท์ลง แล้วยิ้มออกมาอย่างเบิกบาน : “ถ้าอย่างนั้น ก็บอกลากันเป็นครั้งสุดท้ายเถอะนะ”

ส่วนด้านนอกห้อง

หวางเต๋อกำลังเก็บของที่ระลึกใส่กระเป๋าเดินทางทีละชิ้นๆ ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง เขาหยิบภาพถ่ายครอบครัวที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา แล้วยิ้มอย่างหดหู่ สุดท้ายก็เก็บใส่เข้าไปในกระเป๋าเดินทาง

บ้านมีเจ้าของใหม่รออยู่แล้ว มีการทำเรื่องโอนย้ายในวันพรุ่งนี้

ถึงเวลานั้น ครอบครัวหนึ่งครอบครัวย้ายไปอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ ไม่แน่ว่า……บ้านหลังนี้อาจจะสงบสุขขึ้นก็ได้

เมื่อคิดถึงตอนนี้ หวางเต๋อก็หันไปมองที่ห้องของหวางหนันหนัน แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

สุดท้ายเขาก็หันไปมองที่ห้องนอนใหญ่ของเขากับจางซิ่วจือด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

เขาเป็นอาจารย์ สิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือหน้าตา

แต่ตอนนี้ เพื่อรักษาหน้าเอาไว้ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องลาออกก่อนกำหนด และออกจากเมืองนี้ไป

“เฮ้อ……” หวางเต๋อถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จากนั้นจึงก้มหน้าลงไปเก็บของต่อ

ภายในห้องนอนใหญ่

หวางเห้าและจางซิ่วจือนั่งอยู่ด้วยกัน

หวางเห้าพูดขึ้นมาด้วยความลังเลว่า : “แม่ ต้องเอาถึงร้อยล้านเชียวหรือ ? นี่มันจะมากเกินไปหรือเปล่า ?”

“มากเหรอ ? เฉินตงไม่ได้สนใจเงินร้อยล้านนี้ด้วยซ้ำ สิ่งที่เขามีก็คือเงิน” ใบหน้าของจางซิ่วจือเต็มไปด้วยความชั่วร้าย

หวางเห้าส่ายหัว : “ไม่ ผมรู้ว่าเขามีเงินมากมาย แต่ผมกลัวว่า เขาจะไม่ยอมให้น่ะสิ”

“ไม่ให้ ?”

จางซิ่วจือขมวดคิ้ว แล้วแสดงท่าทีมั่นใจ อีกทั้งยังยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ : “ถ้าเขาไม่ให้ล่ะก็ เขาก็รอที่จะเลิกกับกู้ชิงหยิ่งได้เลย แม่มีรูปภาพพวกนี้อยู่ในมือ ก็จัดการเขาได้อยู่หมัดแล้ว”

“เขาทำลายตระกูลหวางของเราจนย่อยยับขนาดนี้ คิดที่จะสูบเลือดสูบเนื้อของเราจนหมด แล้วเฉดหัวตระกูลหวางของเราออกจากเมืองนี้อย่างนั้นหรือ ? ฝันไปเถอะ ถ้าไม่ได้กัดเขาให้จมเขี้ยวสักครั้ง แม่คงนอนตายตาไม่หลับ !”

“ร้อยล้าน……” ใบหน้าของหวางเห้าเต็มไปด้วยความโหยหา

ส่วนจางซิ่วจือกลับมีแววตาที่โหดร้าย พร้อมกับรอยยิ้มที่แปลกประหลาด

สิ่งที่เธอต้องการ ไม่ใช่เพียงแค่กัดเฉินตงให้จมเขี้ยวเท่านั้น !

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset