Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 163 แสงที่เจิดจรัส สำหรับผู้หญิงสวยเท่านั้น

บทที่ 163 แสงที่เจิดจรัส สำหรับผู้หญิงสวยเท่านั้น

กู้ชิงหยิ่งแก้มแดงระรื่น

เมื่อความเข้าใจผิดได้รับความกระจ่าง หลุมที่อยู่ในใจก็ได้หายไปแล้ว

เหลือเพียงแต่ ภาพการขอแต่งงาน

เธอรอภาพนี้ มาสามปีแล้ว

สามปีก่อน เธอเป็นเพื่อนเจ้าสาว เป็นคนส่งเฉินตงกับหวางหนันหนันเข้าไปในห้องโถงที่จัดพิธีแต่งงาน

วันที่สอง เธอก็ข้ามมหาสมุทรไปยังอีกซีกโลกหนึ่ง

สามปีมานี้ ภาพนั้นยังคงอยู่ในความคิดของเธอ ทำให้เธอปฏิเสธลูกคนรวยเป็นจำนวนมาก

บัดนี้………ในที่สุดก็สมดั่งปรารถนาแล้ว

“เสี่ยวหยิ่ง…….เดี๋ยวลูกต้องสงวนท่าทีบ้างนะ อย่าทำให้ตระกูลกู้ต้องขายหน้าละ” จู่ๆกู้โก๋ฮั้วก็กล่าวขึ้น

หลี่หวั่นชิงที่อยู่ด้านข้างก็กล่าวอย่างต่อว่า คุณนี่มันเป็นพ่อประสาอะไร? ชั่วชีวิตลูกก็มีแบบนี้เพียงครั้งเดียว อะไรคือสงวนท่าที? คุณพูดแบบนี้ ก็เพราะเมื่อกี้ต่อว่าเฉินตง ตอนนี้ก็เลยไม่รู้จะทำหน้ายังไง?

คำพูดเพียงประโยคเดียวก็ทำลายความคิดของกู้โก๋ฮั้ว

กู้โก๋ฮั้วเกาหัว ก้มหน้ายิ้มเจื่อนๆ

บนยอดเขาเทียนซาน

เวลานี้สว่างไสวไปด้วยดวงไฟ

จุดศูนย์กลาง เวทีได้จัดเตรียมเสร็จนานแล้ว

พนักงานของไท่ติ่งก็ได้รวมกลุ่มไว้ด้วยกัน

และมีแขกจำนวนมากที่เฉินตงเชิญมา

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่รถของเฉินตงเคลื่อนตัวออกไป ทุกคนก็มองหน้ากันและกัน เหมือนกับคาดไม่ถึง

คืนนี้เป็นพิธีขอแต่งงานของเฉินตง

ทำไมนางเอกถึงไม่มา พระเอกก็มาจากไปเสียแบบนี้?

“ไอ้เมิ่ง นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” เจิ้งโก๋โส่วที่สีหน้าตกตะลึง “ไม่ใช่เพราะไอ้กู้โรคดื้อรั้นกำเริบหรอกนะ?

“เหี้ย แกนึกว่าไอ้กู้มันมีนิสัยที่ดื้อรั้นเหมือนแกเหรอ?” ผู้อำนวยการหลิวเหลือบมองเจิ้งโก๋โส่วแวบหนึ่ง

ท่านเมิ่งที่มองด้วยสายตาลึกๆ ถอนหายใจกล่าวอย่างเบาๆ “ตอนนี้รอเพียงโชคชะตา หวังว่าไอ้กู้คงจะไม่พลาดโอกาสนี้”

ได้ยินแบบนี้

ผู้อำนวยการหลิวพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ส่วนเจิ้งโก่โส่วนั้นใบหน้าเต็มไปด้วยความมึนงง

พวกเขาสามคน ล้วนเป็นคนที่เฉินตงเชิญมา

ในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทของกู้โก๋ฮั้ว และก็ยังเป็นผู้อาวุโสที่กู้ชิงหยิ่งเคารพ

ภาพในคืนนี้ ก็ต้องมีพวกเขาอยู่ในนี้ด้วย

“มาแล้ว!”

ทันใดนั้น ในกลุ่มคนก็มีคนตะโกนขึ้น

บนทางขึ้นเขา รถโรลส์-รอยซ์ขับมาพร้อมไฟที่สว่าง

“ทุกคนประจำที่!”

เสี่ยวหม่ารีบสั่งการ

พนักงานไท่ติ่งทุกคนก็กระจายตัว เตรียมพร้อมประจำที่

และด้านข้าง ท่านหลงกับหลี่หลาน และฟ่านลู่ยืนอยู่ในมุมมืด

มองดูรถโรลส์-รอยซ์และรถเบนซ์จิ๊บขับเข้ามา

ท่านหลงแอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา รีบส่งข้อความออกไป คุณชาย ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมแล้วครับ

เอี๊ยด!

เมื่อรถหยุดลง

เฉินตงนั้นลงจากรถก่อน แล้วรีบก้าวเดินไปเปิดประตูรถเบนซ์จิ๊บอย่างรวดเร็ว

“เสี่ยวหยิ่ง ตามผมมา!”

เขายื่นมือขวาออกไป จับมือกู้ชิงหยิ่งลงรถ

จากนั้นทั้งสองคนค่อยๆเดินไปบนเวที

กู้โก๋ฮั้วกับหลี่หวั่นชิงก็ลงรถตาม แวบเดียวก็เห็นท่านเมิ่งสามคนที่ขอบเวที

ทั้งสองคนก็ก้าวเดินไปอย่างรวดเร็ว กู้โก๋ฮั้วกล่าวด้วยความตกใจ “พวกนาย ทำไมถึงมาอยู่นี่ได้?”

“ก็ต้องมาเป็นพยานน่ะสิ” ท่านเมิ่งยิ้มๆ กล่าวอย่างจริงจัง “คืนนี้ นายอาจจะเป็นคนที่ยิ้มอย่างมีความสุขมากที่สุด”

กู้โก๋ฮั้วยกมือห้ามอย่างไม่สบอารมณ์ “อย่าพูดถึงมันอีกเลย เมื่อกี้ตอนอยู่ข้างล่างโกรธมากเลย”

ยังไม่ทันที่พวกเขาจะถาม

บนเวที แสงไฟก็ได้สว่างไสวขึ้น

เฉินตงพากู้ชิงหยิ่งเดินไปตรงกลางเวที

“เตรียมพร้อมหรือยัง?” เฉินตงถามอย่างยิ้มๆ

กู้ชิงหยิ่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพยักหน้า

“ดูหน้าจอ!”

เฉินตงเงยหน้ามองหน้าจอที่อยู่บนเวที

ในเวลาเดียวกัน หน้าจอก็สว่างขึ้นด้วยแสง

จากนั้นก็มีภาพถ่ายปรากฏขึ้นมา ภาพสลับไปมาอย่างช้าๆ

เมื่อมองไปที่ภาพบนหน้าจอ กู้ชิงหยิ่งนั้นอึ้งไปเป็นอันดับแรก

ตามมาด้วย เธอก็เซอร์ไพรส์ทันที ใช้มือที่เรียวสวยกุมปากเอาไว้

“นี่ นี่มันเป็นรูปถ่ายสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของเรา?”

“ผมหามันมาหมดแล้ว!”

เฉินตงพยักหน้าอย่างจริงจัง

กู้ชิงหยิ่งตกตะลึงไปเลย มองภาพแต่ละภาพบนจอ มีความรู้สึกเหมือนฝันไป

รูปบางรูป แม้แต่ตัวเธอเองยังจำไม่ได้แล้ว

กว่าเฉินตงจะรวบรวมรูปภาพเหล่านี้จนครบ คงต้องใช้พละกำลังที่เยอะพอสมควร!

พิธีขอแต่งงานที่เธอต้องการ ไม่ใช่พิธีที่สั่นสะเทือนไปทั่วฟ้าดิน เหมือนแบบนี้ที่เป็นความทรงจำเล็กน้อย อ่อนโยนเหมือนสายน้ำ

ด้วยการสลับภาพ “คนที่นั่งข้างโต๊ะอย่างคุณ” ดังขึ้นทางซ้ายและขวาของเวที

ชั่วพริบตาเดียว เสียงเพลงก็ได้ดึงกู้ชิงหยิ่งกลับไปยังสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย

เปิดแฟ้มแห่งความทรงจำ

ภาพแต่ละภาพในอดีต เหมือนกับรูปภาพบนจอ ผุดขึ้นที่หัวสมองของเธออย่างต่อเนื่อง

เดิมเบ้าตาที่แดงและบวม ค่อยๆคอลขึ้นด้วยน้ำตาอีกครั้ง

เฉินตงยกมือขึ้น ค่อยๆเช็ดหางตาที่เปื้อนน้ำตาของกู้ชิงหยิ่ง “ยัยโง่ แค่นี้เอง ก็จะร้องไห้แล้วเหรอ?”

“นี่ยังไม่พออีกเหรอ?” กู้ชิงหยิ่งถามกลับ

รูปภาพบางรูปแม้แต่เธอยังจำไม่ได้แล้ว แค่คิดก็รู้ เฉินตงหากอยากจะคิดรวบรวมจนครอบ ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน?

แต่

เฉินตงยิ้มจางๆ “เธอเป็นผู้หญิงของผมเฉินตง ให้คุณแค่นี้ จะพอได้อย่างไร?”

เพิ่งจะสิ้นเสียงพูด

โครม!

ในระยะไกล พลุก็ได้พุ่งขึ้นไปสู่บนท้องฟ้า

เมื่อดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืน มันก็คำรามอีกครั้ง และระเบิดเป็นดอกไม้ไฟทั่วท้องฟ้า

ตามติดมาด้วย

โครม! โครม! โครม!

……

รอบๆเวที พลุได้พุ่งทะยานสู่บนท้องฟ้า

ท้องฟ้าในยามค่ำคืน กลายเป็นกลุ่มดอกไม้ที่พร่างพราว

กระจัดกระจายเต็มท้องฟ้า

ภูเขาเทียนซานทั้งลูกสว่างไสวราวกับกลางวัน

แสงที่เจิดจรัส สำหรับผู้หญิงสวยเท่านั้น!

เฉินตงกอดกู้ชิงหยิ่งยืนอยู่บนเวที เงยหน้ามองพลุดอกไม้ไฟที่กระจัดกระจายเต็มท้องฟ้า

ท่าทีที่ตะลึงของกู้ชิงหยิ่ง ทำให้เธอเข้าสู่ห้วงแห่งพลุดอกไม้ไฟที่งดงาม

และคนที่อยู่ในงาน ภายใต้แสงที่เจิดจรัสเปล่งประกายนี้ ก็ทำให้เกิดเสียงอุทานออกมาเป็นระยะ

ไม่เพียงเท่านี้

ที่ด้านล่างเขาเทียนซาน เพราะการควบคุม ดังนั้นสื่อทุกสำนักไม่สามารถขึ้นมาทำข่าวได้

แต่ด้วยท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สว่างไสวเหมือนกลางวัน

สื่อทุกสำนักต่างบ้าคลั่งกันแล้ว

เลนส์กล้องยาวและเลนส์กล้องสั้นทั้งหมดต่างมุ่งเป้าไปที่ยอดเขาเทียนซานบันทึกภาพที่งดงามนี้

ในเวลาเดียวกัน

การเคลื่อนไหวบนภูเขาเทียนซาน สร้างความตกใจให้กับคนทั้งเมืองที่อยู่ใต้ภูเขา

เพราะการควบคุมที่เข้มงวดของภูเขาเทียนซาน มันได้ดึงดูดความสนใจของคนในเมืองนานแล้ว

ตอนนี้แสงเจิดจรัสเปล่งประกายที่เกิดขึ้นบนเขาเทียนซาน ยิ่งทำให้คนในเมืองแตกตื่น

ทุกคนต่างพากันสงสัย คืนนี้ที่เขาเทียนซาน เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

จนกระทั่ง มาถึงพลุดอกไม้ไฟ ที่เต็มทั่วท้องฟ้า

จนสุดท้ายมันกลายเป็นลูกศรขนาดใหญ่ปักเข้าที่หัวใจ

ร้อนระอุไปทั้งเมืองแล้ว

ขอแต่งงาน!

นี่มีคนกำลังขอแต่งงาน!

โอ้พระเจ้า ใครกันนะที่ขอแต่งงานบนภูเขาเทียนซาน?

ไม่เพียงแต่ปิดภูเขา ยังยังคงอวดให้โลกได้รับรู้ถึงความรวยและมือเติบ?

บนยอดเขาเทียนซาน

กู้ชิงหยิ่งมองไปสิ่งที่แขวนอยู่บนท้องฟ้าในยามค่ำคืนด้วยความประหลาดใจ และลูกศรปักหัวใจที่เจิดจรัส

เวลานี้ ใจเธอเต้นแรงมาก ราวกับจะทะลุออกมาอย่างนั้น

“เร็วแบบนี้เหรอ ก็เข้าสู่ภาพนี้แล้ว?”

แม้ว่าเธอนั้นได้เตรียมความพร้อมมาแล้ว แต่เมื่อเห็นลูกศรปักกลางหัวใจ และรู้ถึงภาพที่จะตามมานั้น ก็ยังคงประหม่าเล็กน้อย

แต่ ข้างหูกลับดังขึ้นด้วยเสียงที่อ่อนโยนของเฉินตง

“ยังไม่เพียงเท่านี้ คุณชอบดอกกุหลาบ จะขาดมันได้อย่างไร?”

เพิ่งจะสิ้นเสียงพูด

โครม……….

ท้องฟ้าในระยะไกล เสียงคำรามของใบพัดดังมาแต่ไกล

เฮลิคอปเตอร์ห้าลำ บินเข้ามาเขาเทียนซานอย่างรวดเร็ว

ลำแสงห้าดวงพุ่งลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ปกคลุมร่างของเฉินตงและกู้ชิงหยิ่งที่อยู่บนเวที

วินาทีต่อมา

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดอกไม้ โปรยปรายลงมา

กระจัดกระจายเต็มท้องฟ้าและพื้น พลิ้วไหวสวยงาม

ทั้งหมดนี้ เหมือนอยู่ในความฝัน

ทุกคนต่างอุทานขึ้นอีกครั้ง

และกู้ชิงหยิ่ง ก็เงยหน้ามองดอกไม้ที่เต็มท้องฟ้า จนตกอยู่ในภวังค์

เธอนั้นไม่รู้ตัวเลย เฉินตงที่อยู่ข้างกาย ค่อยๆคุกเข่าด้วยขาข้างเดียวลงบนพื้น……….

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset