Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 166 พ่อตาบ้าไปแล้ว? สะดุดตาคนทั้งเมือง!

บทที่ 166 พ่อตาบ้าไปแล้ว? สะดุดตาคนทั้งเมือง!

หลี่หวั่นชิงที่ไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

กู้โก๋ฮั้วจ้องตาอย่างดุดัน “เมียจ๋าถ้าคุณไม่ตบผม ผมก็จะตบคุณแล้วนะ!”

เพียะ!

บ้องหูดังขึ้นด้วยเสียงตบ

กู้โก๋ฮั้วจับแก้มเอาไว้ หมุนตัวไปหนึ่งรอบ เกือบจะล้มลงไปบนพื้นแล้ว

เขาจับแก้มที่บวมไปครึ่งหนึ่งเอาไว้ ไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่กลับหัวเราะขึ้นมา “ฮ่าๆ………เรื่องจริง มันคือเรื่องจริง!”

“คุณเป็นคนให้ฉันตบคุณเองนะ!”

หลี่หวั่นชิงมองดูท่าทางที่กู้โก๋ฮั้วหัวเราะ ตกอกตกใจ “เสี่ยวหยิ่ง พ่อหนูคงไม่ได้บ้าไปแล้วใช่มั้ย”

กู้ชิงหยิ่งก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง และเป็นห่วงมาก

เวลานี้ ท่านเมิ่งเขาสามคนเดินเข้ามา

เมื่อเห็นท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิว กู้โก๋ฮั้วจู่ๆก็หัวเราะ แล้วก็กอดเขาสองคนอย่างเต็มแรง

“ไอ้เมิ่ง ไอ้หลิว ขอบคุณตอนแรกที่พวกนายเตือนฉัน!”

ขอบคุณด้วยความจริงใจ เกิดความตื่นเต้นและความปีติยินดีโดยไม่ปิดบัง

หลายปีมานี้ เขาขอร้องตระกูลอย่างไม่มีหนทาง กลับไม่เคยคิด ชั่วพริบตา ลูกสาวของตัวเองได้เอาเขยมังกรอย่างตระกูลเฉินมาถึงตรงหน้าเขา

กู้โก๋ฮั้วนั้นยิ่งมั่นใจ ท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิวตอนแรกที่เห็นเฉินตงนั้น ต้องรู้ฐานะและตัวตนของเฉินตงแล้วอย่างแน่นอน

ตอนนั้นหากไม่ใช่การเตือนของทั้งสองคน ก็คงจะไม่มีเขาในวันนี้!

“ไอ้กู้ ไม่ใช่ตอนนั้นเราไม่อยากจะพูดให้มันชัดเจน แท้จริงแล้วเป็นเฉินตงที่ไม่ให้พวกเราพูด” ผู้อำนวยการหลิวก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” กู้โก๋ฮั้วยกมือขึ้นห้าม

เจิ้งโก๋โส่วใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “เฮ้ยเพื่อน พวกนายกำลังเล่นใบ้ปริศนาอะไรกันอยู่?”

กู้โก๋ฮั้วใช้มือกอดไหล่ของเจิ้งโก๋โส่วเอาไว้ “ไอ้เจิ้งเอ๊ย ตอนนั้นโชคดีที่แกฟังคำเตือนของไอ้เมิ่งกับไอ้หลิว เก็บนิสัยที่ดื้อรั้นเอาไว้ ไม่อย่างนั้น……….เห็นมั้ย ลูกเขยฉันแม้แต่เครื่องบินรบยังสามารถหามาเพื่อใช้ในการขอแต่งงานกับลูกสาวฉันเลย!”

ขณะที่พูด เขาก็ชี้ไปที่ท้องฟ้า

ตอนแรกที่เห็นพิธีของแต่งงาน กู้โก๋ฮั้วนั้นยังตกใจ และในเวลานี้ กลับเต็มไปด้วยการอวดและความภาคภูมิใจ

ได้เขยมังกรเข้าบ้านตระกูลกู้ แม้แต่กู้โก๋ฮั้วที่ร่ำรวยมากประสบการณ์ ก็ยากที่จะควบคุมความตื่นเต้นยินดีนี้เอาไว้ได้

เจิ้งโก๋โส่วนั้นงงเป็นไก่ตาแตก เห็นได้ชัดว่ายังไม่เข้าใจ

แต่กลับเป็นกู้ชิงหยิ่งที่เดินมาข้างหน้า “พ่อคะ พ่อเป็นอะไรกันแน่? เฉินตงแค่ขอหนูแต่งงาน ยังไม่ได้จัดงานแต่งเลย ทำไมจู่ๆพ่อก็กลายเป็นแบบนี้?”

“ลูกสาวที่น่ารัก หนูช่างเป็นลูกสาวที่น่ารักของพ่อจริงๆ!”

กู้โก๋ฮั้วหันไปกอดกู้ชิงหยิ่งเอาไว้ ตาคู่นั้นก็ค่อยๆแดงขึ้น ถอนหายใจอย่างแรง กล่าวอย่างโล่งใจ “ลูกรู้หรือเปล่า เพราะเรื่องนี้ พ่อทรมานมากี่ปีแล้ว? ลูกได้พาเขยมังกรมาตรงหน้าพ่อแล้ว พ่อนั้นต้องขอบคุณลูกจริงๆ”

กู้ชิงหยิ่งก็งงเหมือนกัน

หลี่หวั่นชิงขมวดคิ้ว กำลังครุ่นคิด

ในที่สุด ท่านเมิ่งจึงกล่าวขึ้น ไอ้กู้ “นายพูดไม่ตรงประเด็นเลย เฉินตงนั้นเป็นคนของตระกูลเฉิน มันพูดยากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

โครม!

คำพูดเหมือนเสียงฟ้าร้อง

ใบหน้าของเจิ้งโก๋โส่วซีดลงทันที กล่าวอย่างตกใจ “คน คนของตระกูลเฉิน? ตระกูลเฉินนั้น?”

ท่านเมิ่งพยักหน้า

เจิ้งโก๋โส่วขยับร่างของเขา เกือบจะเป็นลมไปแล้ว ตามมาด้วยได้จับไหล่ของท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิวเอาไว้ “ขอบคุณเพื่อนทั้งสองเป็นอย่างมากที่ชี้แนะฉัน ไม่อย่างนั้น……..ชื่อโก๋โส่วของฉันคงได้หายสาบสูญไปอย่างกะทันหัน!”

อำนาจของตระกูลเฉิน เจิ้งโก๋โส่วนั้นไม่สงสัยเลย

แม้ว่าเขาจะมีชื่อเสียงในระดับสากล แต่ในสายตาของตระกูลเฉินเขาก็เหมือนมด

“เป็นตระกูลเฉินนั้นจริงๆเหรอ?” จู่ๆหลี่หวั่นชิงก็อุทานขึ้นมา ใบหน้ารูปไข่ที่สวยงามเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ด้วยท่าทางที่สง่างามของเธอ เวลานี้ก็ยากที่จะมากังวลเกี่ยวกับมารยาท

สีหน้าของกู้ชิงหยิ่งก็เปลี่ยนไป ตอบสนองทันที เธอรู้แผนของพ่อเธอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ในสายตาของบุคคลภายนอก บริษัทชิงหยิ่น เติบโตขึ้นอย่างมาก และแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

แต่เธอนั้นทราบดี และพ่อของเธอพูดถึงมันมากกว่าหนึ่งครั้ง

บริษัทชิงหยิ่นได้พบกับการพัฒนาขวดบรรจุเหล้าแล้ว แม้ว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในโลก แต่ก็ไม่สามารถก้าวข้ามคอขวดนั้นไปได้!

และตระกูลเฉิน เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ บริษัทชิงหยิ่นในการก้าวข้ามคอขวด!

ทันใดนั้น หัวของกู้ชิงหยิ่งก็ดังขึ้นด้วยเสียงโครมๆ ดวงตาคู่สวยกะพริบๆ แล้วหายใจเข้าลึกๆ

“เฉินตง……….ก็คือคนของตระกูลเฉินนั้น?”

โอ้พระเจ้า!

เจ้าทึ่มนั่นปิดบังหนูมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย?

“ไปๆ ไปจากตรงนี้ค่อยคุยกัน คิดว่านักข่าวที่อยู่ใต้ภูเขาคงอิจฉากันนานแล้ว”

มือที่ใหญ่ของกู้โก๋ฮั้วได้โบกขึ้น เดินไปทางรถที่จอดอยู่ “เขยมังกรเข้าบ้าน บรรพชนของตระกูลกู้ต้องสั่งสมความดีไว้มาก ถึงได้มีเรื่องดีๆแบบนี้ เรื่องในวันนี้ ต้องดื่มฉลองกันหนักๆ!!”

……

ทุกอย่างบนเขาเทียนซาน เป็นที่สนใจของคนทั้งเมือง

ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ไฟ ดอกไม้ที่ถูกโปรยด้วยเฮลิคอปเตอร์ หรือเสียงคำรามของเครื่องบินรบที่ปล่อยแถบแสงสีรุ้ง

มันเพียงพอที่ทำให้คนตื่นเต้น!

อุทานกันไปทั้งเมือง

ใครกันแน่ที่มีความสามารถเพียงนี้ ปิดภูเขาเทียนซาน เพียงเพื่อขอสาวแต่งงาน?

และมีหญิงสาวจำนวนไม่น้อย ต่างอิจฉาผู้หญิงที่ถูกขอแต่งงาน

มันจะมีความสุขมากแค่ไหน?

ไม่ว่าถามผู้หญิงคนไหน มีใครบ้างที่ไม่ต้องการให้คนรักของตัวเอง แสดงความรักที่อลังการแบบนี้ละ?

และเมื่อทุกคนรอคอย หวังจะรู้ว่าใครกันแน่ที่ทำเรื่องเอิกเกริกนี้นั้น

การรายงานของสื่อ ก็ทำให้ผิดหวังไปทั้งเมือง

ไม่ว่าจะเป็นสื่อสำนักใหญ่ๆ หรือสื่ออิสระเล็กๆ

การรายงานทั้งหมด เกี่ยวกับการปิดล้อมภูเขาเทียนซาน กับภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจบนยอดเขา

สำหรับพระเอกเป็นใครนั้น ไม่มีคนรู้!

สื่อแต่ละสำนักก็มีความลำบากใจที่พูดไม่ได้

ภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้ หากสื่อสำนักจะไม่รู้ว่าหากถ่ายเจอพระเอก สามารถที่จะไปสร้างความตื่นเต้นได้อีกหลายระดับชั้น?

ดังนั้นเมื่อภูเขาเทียนซานถูกปิดกั้น พวกเขาที่ได้ข่าวก็มาตั้งกล้องแต่เนิ่นๆ ก่อให้เกิดการปิดล้อมเขาเทียนซานไปอีกหนึ่งชั้น

แต่จนกระทั่งภูเขาเทียนซานกลับสู่ความสงบ ไม่มีสื่อสำนักไหนขวางพระเอกบนถนนบนภูเขาเอาไว้ได้

สิ่งเดียวที่ปรากฏในกล้อง คือรถเบนซ์จิ๊บสีดำที่ไม่เคยลงไปข้างล่างหลังจากขึ้นไปบนภูเขา และการขึ้นเขาลงเนินที่เร่งรีบ เช่นเดียวกับรถธรรมดาที่ถูกขับออกไป

ถึงกระนั้น มันก็ไม่ใช่ปัญหาที่ให้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนภูเขาเทียนซานกลายเป็นจุดสนใจ และกลายเป็นเรื่องที่ถกเถียงกัน

ถึงขนาดที่ว่า สื่ออิสระได้นำคลิปวิดีโอไปปล่อยในโซเชียล คลิปได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้อิจฉากันไปทั้งโซเชียล

เมื่อเฉินตงกลับถึงบ้านนั้น เป็นเวลาใกล้รุ้งแล้ว

ท่านหลงยิ้มในขณะที่พูด “คาดว่าคืนนี้สื่อพวกนั้นต้องบ้ากันอย่างแน่นอน?”

“ฮ่าๆๆ………..พวกเขารออยู่ที่ใต้เขาอย่างตื่นเต้น แต่คิดไม่ถึงว่าเราพักอยู่ตรงกลางเขา” คุนหลุนอดไม่ได้ที่จะยิ้ม

เฉินตงผู้ซึ่งยังคงจมอยู่กับความสุขการขอแต่งงาน กลับยิ้มเล็กน้อย “แต่พวกเสี่ยวหยิ่งตอนลงเขานั้น คาดว่าคงจะมีความวุ่นวายเล็กน้อย”

“คิดมากไปแล้ว ไม่มีทางถูกเปิดเผยหรอก” ท่านหลงยิ้มอย่างมีเลศนัย

กลับถึงห้องนอน เฉินตงไม่มีความคิดที่จะนอน

แต่กลับพิงอยู่ที่เตียง คิดย้อนไปถึงเรื่องคืนนี้ทั้งหมด ทั้งอบอุ่นทั้งมีความสุด

เพียงแต่ตอนที่หัวสมอง เข้าสู่ภาพเครื่องบินรบนั้น เขามีความเหม่อลอยเล็กน้อย

สายตาที่ลึกๆ เฉินตงก็ถูจมูกไปมา ยิ้มอย่างขมขื่น

พอดีในเวลานี้

กู้ชิงหยิ่งก็ได้ส่งข้อความมา

เฉินตงหยิบขึ้นมาดู ทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นรอยยิ้มที่อ่อนโยน

ข้อความของกู้ชิงหยิ่งนั้นเรียบง่ายมาก

“เจ้าทึ่ม คุณเป็นคุณชายของตระกูลเฉินจริงๆเหรอ? คุณเห็นฉันเป็นคนโง่เหรอ ปิดบังฉันนานแค่ไหนแล้ว?”

เฉินตงตอบข้อความกลับ ฐานะคุณชายเฉินของผม สามารถทำเหมือนไม่มีชั่วคราว รีบพักผ่อนเถอะ ในฝันห้ามล่วงเกินผมนะ(อิโมจิยิ้มชั่วร้าย)

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset