Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 174 ตระกูลเฉินผมยังไม่กลัวเลย แล้วจะกลัวตระกูลหลี่เหรอ?

บทที่ 174 ตระกูลเฉินผมยังไม่กลัวเลย แล้วจะกลัวตระกูลหลี่เหรอ?

เฉินตงตกตะลึง

คำพูดของแม่ เหมือนเสียงฟ้าผ่าที่ระเบิดใส่หู

“เชิญผมกลับไปตระกูลหลี่ เพื่อสืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้าน?”

ชั่วพริบตาเดียว ในหัวสมองของเฉินตงก็เต็มไปด้วยความสงสัย

พฤติกรรมของตระกูลหลี่ ในเมื่อตอนนั้นไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือด แย่งกิจการที่พ่อเหลือไว้ไปด้วยความโลภ ตอนนี้ทำไมถึงมาเชิญเขากลับไปรับตำแหน่งเจ้าบ้านล่ะ?

มันหมายความว่ายังไง?

จะให้ศัตรูขึ้นไปเป็นเจ้าบ้าน มือถือมีด เพื่อฆ่าพวกเขาเหรอ?

“เห่อๆ เพราะเขารู้ดี ลูกชายสุดที่รักทั้งหมดของเขา เป็นพวกที่ไร้ประโยชน์ทั้งนั้น!”

หลี่หลานยิ้มพูดอย่างดูถูก “พี่ชายเหล่านั้นของแม่ แต่ละคนนั้นไม่ได้เรื่องเลย พวกเขาเอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ จะนำพาตระกูลหลี่ให้รุ่งโรจน์ได้อย่างไร? ด้วยความสามารถของแม่ ตอนนั้นแม้ว่าจะไม่อาศัยเงินทุนของตระกูลหลี่ ผลงานที่ทำออกมายังดีกว่าพวกเขาที่มีพึ่งอย่างตระกูลหลี่ ดีกว่าเป็นร้อยเท่า!”

“แต่น่าเสียดาย แม่เกลียดที่ตัวเองเป็นผู้หญิง! ก็เพศสภาพที่เป็นหญิง ได้พรากทุกสิ่งอย่างไปจากแม่ ได้มาซึ่งหายนะที่โหดร้ายและเลือดเย็นของตระกูลหลี่ “”

หลี่หลานกำหมัดแน่น แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ตระกูลหลี่ในวันนี้ ภายนอกดูดีแต่ภายในนั้นพังไม่เป็นท่านานแล้ว เขานั้นเข้าใจอย่างถ่องแท้ ดังนั้นพยายามต้านมันเอาไว้ แม้ตายยังไม่กล้าเลย เพราะเขาเข้าใจดี ขอเพียงเขาตาย ตระกูลหลี่มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเทียนจื่อเจี่ยว ก็จะล้มลงทันที”

“และด้วยความคิดที่รักลูกชายมากกว่าลูกสาว ทำให้ตระกูลหลี่ในวันนี้ หาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมาสืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านไม่ได้แม้แต่คนเดียว!”

“ดังนั้น ในขณะที่ไม่มีทางเลือก อีกทั้งยังอยากจะรักษาสถานการณ์ของตระกูลหลี่เอาไว้ เขาจึงมาหาเราอย่างหน้าด้านๆ?”

เฉินตงยิ้มแล้ว พร้อมกับความดูถูกที่รุนแรง “มันต้องหน้าหนาขนาดไหนเนี่ย?”

“เขาสนใจเรื่องยางอายมั้ย? หลี่หลานหัวเราะ หากสนใจ ตอนนั้นเขาก็คงไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอก!”

อารมณ์ของหลี่หลานดีขึ้นมากแล้ว มองเฉินตงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยประกาย

“ตงเอ๋อ ลูกนั้นเก่งมาก ลูกเป็นความภูมิใจของแม่ ลูกรู้หรือเปล่า ตอนที่เขาหาแม่นั้น บอกกับแม่ว่าจะเชิญลูกกลับไปเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านนั้น แม่เหมือนมีความสุขที่ได้ระบายความโกรธความขยะแขยงในตอนนั้นออกมา “

ขณะที่พูด หลี่หลานก็จับมือของเฉินตงเอาไว้

“ความโกรธเหล่านี้ มันได้กดทับอยู่ในใจแม่มายี่สิบปีแล้ว แม่โกรธ แม่เกลียด แต่ไม่มีกำลังในการต่อต้าน แต่ตงเอ๋อลูก ได้ตบหน้าเขา ได้ช่วยแม่คลายความโกรธนี้!”

สายตาที่ลึกๆของเฉินตง ได้ระงับความโกรธที่มีต่อตระกูลหลี่ไว้ในใจ

เขาพูดอย่างเรียบเฉย “แล้วความหมายของแม่คือ?”

หลี่หลานอึ้งไปครู่หนึ่ง

จากนั้น ท่าทีของเธอก็ค่อยๆอ่อนโยนขึ้น

ไม่ได้ดูดุร้ายเหมือนเมื่อกี้แล้ว และไม่ได้ผยองเหมือนเมื่อกี้

มีเพียงความสงบ

“แม่แค่อยากจะช่วยลูกปฏิเสธ ครอบครัวที่เลือดเย็นครอบครัวนี้ ชาตินี้แม่ไม่อยากจะกลับไปอีก”

หลี่หลานกล่าวเบาๆ “แต่ในเมื่อลูกรู้เรื่องนี้แล้ว แม่ก็จะเคารพการตัดสินใจของลูก”

น้ำเสียงนั้นจริงจังมาก

เพราะหลี่หลานนั้นเข้าใจดี

แม้ตระกูลหลี่จะเทียบตระกูลเฉินไม่ได้ แต่ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็ยังเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองหลวง

แม้ว่าภายในนั้นจะแย่ แต่ว่าอูฐที่อดตายยังไงก็ใหญ่กว่าม้า (จะตกต่ำแค่ไหนแต่ก็เคยยิ่งใหญ่มาก่อน)

ขอเพียงเฉินตงพยักหน้า กลับไปตระกูลหลี่ก็จะได้ตำแหน่งเจ้าบ้าน

หากเป้าหมายเป็นตระกูลเฉิน เฉินตงยังต้องต่อสู้อย่างสู่ความสามารถ เพื่อชนะผู้ที่มีสิทธิ์เป็นผู้สืบทอดทุกคน จึงจะได้ตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลเฉิน

ด้วยความสามารถของเฉินตง หากเลือกตระกูลหลี่ ก็จะสามารถนำพาตระกูลหลี่ไปสู่ความรุ่งโรจน์ ได้ในเวลาที่รวดเร็ว

มันจะง่ายกว่าที่เฉินตง เลือกตระกูลเฉิน

หากตระกูลเฉินเป็นถนนเล็กที่เต็มไปด้วยบ่อหลุม งั้นตระกูลหลี่ก็จะเป็นถนนใหญ่ที่สู่สวรรค์โดยตรง!

แม้ว่าหลี่หลานนั้นจะเข้าใจลูกตัวเอง แต่เวลานี้ก็อดไม่ได้ที่จะประหม่าตื่นเต้น

เส้นทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งสองทาง ล้วนสามารถพาเฉินตงไปยังจุดที่สูงที่สุดได้

ตัวเลือกแบบนี้ หลี่หลานไม่กล้าที่จะไปคาดเดาว่าเฉินตงนั้นจะเลือกยังไง

ในรถ แสงไฟสลัว

และมันก็เงียบมาก

ทันใดนั้น ก็ดังขึ้นด้วยเสียงหัวเราะของเฉินตง

เฉินคงถูจมูกไปมา “แม่ครับ ยี่สิบปีมานี้ ต่อให้เราสองแม่ลูกต้องลำบากขนาดไหน เราเคยต้องคุกเข่ามั้ย?”

หลี่หลานส่ายหัว

เฉินตงเลิกคิ้ว “งั้นก็ถูกแล้ว และก็ไม่ต้องเลือกด้วย ช่วงชีวิตที่ลำบากที่สุดเรายังผ่านมันมาได้แล้ว ทำไมวันนี้เรายังจะต้องไปคุกเข่าเพื่อกินข้าวที่เลือดเย็นของตระกูลหลี่อีกล่ะ?”

ขณะที่พูด เฉินตงก็เปิดประตูรถ

“สิ่งที่ผมเฉินตงต้องการ ผมก็จะไปคว้ามันด้วยตัวเอง แม้ว่าตระกูลเฉินจะเต็มไปด้วยอันตราย ผมก็ต้องเดินเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผย ให้ผมคุกเข่าแล้วรับตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลหลี่ กระดูกของผมค่อนข้างแข็ง ผมคุกเข่าไม่ลง!”

น้ำเสียงไม่แยแส แต่ดังและทรงพลัง

ดวงตาของหลี่หลานเป็นประกาย ในที่สุดใบหน้าก็ปรากฏด้วยรอยยิ้ม

มองไปยังเฉินตง เธอค่อยๆสงบลงมา ความคิดก็แล่นขึ้น

หลี่หลานกล่าวด้วยเสียงต่ำ “หากลูกเลือกแบบนี้ ตระกูลหลี่อาจจะไม่ยอมปล่อยเราสองแม่ลูก”

“ตระกูลเฉินผมยังไม่กลัวเลย แล้วจะกลัวตระกูลหลี่เหรอ?”

เฉินตงยิ้มเยาะ หันหน้าไปพูดกับหลี่หลาน “แม่ รีบไปพักผ่อนเถอะ เรื่องแบบนี้ต่อไปแม่ก็ไม่ต้องไปกังวลอีก หากพวกเขามา ให้คุนหลุนออกไปจัดการก็สิ้นเรื่อง”

เมื่อรู้เรื่องราวในตอนนั้นแล้ว เฉินตงก็มีความเกลียดชังเล็กน้อย

เกลียดตอนที่อยู่ที่บ่อฉุยส่วยนั้น ฝ่ามือที่ตบนั้นเบาเกินไป!

คนที่ดูดเลือดดูดเนื้อคนอื่น ยังมีหน้ามาขอร้องให้แม่และตัวเองกลับบ้านกับเขา

ยังอาศัยฐานะที่พิเศษของตัวเอง ตบแม่

หนึ่งฝ่ามือ มันจะเพียงพอกับความโกรธแค้นยี่สิบปีของแม่ได้อย่างไร?

หนึ่งฝ่ามือ จะชดใช้ความทุกข์ยากลำบากตั้งยี่สิบปีของพวกเขาสองแม่ลูกได้อย่างไร?

หลังจากที่พยุงแม่กลับห้องแล้ว

เฉินตงกลับมาที่ห้องของตัวเองด้วยใบหน้าที่เย็นชา นอนอยู่บนเตียง แต่ก็ไม่ง่วง

มองดูเพดานบนห้อง แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา

รู้เรื่องราวในตอนนั้นแล้ว เฉินตงรู้สึกหดหู่ในอกอย่างรุนแรง ราวกับว่าภูเขาไฟทับอยู่ โดยไม่มีที่ให้ปะทุ

เด็กกำพร้ากลับแม่หม้ายสมควรรังแกเหรอ?

มีเงินมีอำนาจก็สามารถรังแกคนเหรอ?

เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยขี้ขลาด และก็ไม่สามารถที่จะยิ้มแล้วกล่าวขอบคุณ กับคนที่แทงตัวเอง

หากตระกูลหลี่ยังคงไร้ยางอาย เขาก็ไม่ถือสาที่จะใช้มีดแทงกลับไป!

……

สองสามวันมานี้

ทุกอย่างเงียบสงบ

การพรีเซลล์ของโครงการทั้งสี่แห่งของบริษัทไท่ติ่ง ได้เริ่มต้นอย่างเงียบ ๆ

ไม่สร้างกระแส ไม่มีพิธีตัดริบบิ้น และไม่มีสื่อรายงาน

แต่ก็ยังสร้างความฮือฮาไปทั้งเมือง

ราคาบ้านทางฝั่งตะวันตกของเมืองสูงขึ้นจนแซงฝั่งตะวันออกของเมืองแล้ว และผู้ซื้อทุกคนต่างวิตกกังวลมานาน

แต่ไท่ติ่งก็จำกัดซื้อมาโดยตลอด ทำให้ผู้ที่จะซื้อบ้านทั้งหมดอกจะระเบิด

ในตอนเช้าของการเปิดตัวโครงการทั้งสี่แห่ง คนนั้นน้อยจริงๆ

แต่เมื่อข่าวไม่จำกัดการซื้อถูกเผยแพร่ออกไป สำนักงานขายของโครงการทั้งสี่แห่ง ก็ถูกผู้ซื้อที่ต้องการจะซื้อบ้านนานแล้วมาถล่มโดยตรง!

การทุ่มขายอย่างบ้าคลั่ง สิ่งที่ได้มานั้นคือการคืนทุนจำนวนมาก

หลายวันนี้ เป็นช่วงเวลารื่นเริงของไท่ติ่ง

และยังเป็นช่วงเวลาที่เฉินตงได้ก้าวไปใกล้กับเป้าหมายของเขาอีกหนึ่งก้าวใหญ่ๆ

แต่เฉินตง ไม่ได้ร่วมรื่นเริงกับบริษัท

แม้ว่าเสี่ยวหม่าและคนอื่นๆจะเรียนเชิญ เขาทำเพียงแค่โบกมือ เอาเงินก้อนใหญ่ให้เสี่ยวหม่าพาทุกคนไปรื่นเริงกัน

และเขา ยังคงรักษาสภาพชีวิตประจำวันของเขาไม่ทำงานก็กลับบ้าน

เพราะเขารู้ดี นี่เป็นเพียงก้าวแรกที่เขาเดินไปยังตระกูลเฉินเท่านั้น ยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะรื่นเริงได้จริงๆ

ทางของเขายังอีกยาวไกล ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ยังไม่อาจรู้ได้ ไม่กล้าหย่อนแม้แต่น้อย

เช้าวันนี้

เฉินตงกับคุนหลุนหลังจากที่ฝึกวิชาปีศาจเสร็จแล้ว เพิ่งจะกลับถึงบ้าน

ก็มีข้อความส่งมาที่โทรศัพท์ของเขา

“วันนี้เที่ยง เจอกันที่คลับสี่ยิ่น หลานรักจำเป็นต้องมา จากคุณตา”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset