Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 195 คำเชิญ ตระกูลจางแห่งเมืองหลวง

ไม่กี่วันให้หลัง

เฉินตงยุ่งอีกครั้ง ต้องเป็นผู้นำโครงการของไท่ติง

และต้องสร้างโครงสร้างบริษัทการเงินกับฉินเย่ด้วย หลังจากนั้นแค่เป็นน้าวนำฉินเย่ก็พอ

ส่วนเมืองหลวง เพราะข่าวก่อความวุ่นวายของตระกูลหลี่ เขาจึงไม่ใส่ใจ

ตระกูลหลี่เช่นนั้น แม้เสื่อมโทรมกำลังจะล่มจม ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา

ทุกวันเวลาสองทุ่ม เลิกงานแล้วกลับบ้าน กู้ชิงหยิ่งมาอยู่เป็นเพื่อนหลี่หลานที่เขตวิลล่าเขาเทียนซานทุกวัน เพราะเรื่องที่หลี่หลานโดนลักพาตัวนั่น

และสอนฟ่านลู่ทำอาหารด้วยบางครั้ง

เรียบง่ายและมีความสุข ทำให้เฉินตงรู้สึกอบอุ่นหัวใจ

แต่ที่เฉินตงไม่สนใจเรื่องตระกูลหลี่ในเมืองหลวง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ได้จริงๆ

พลบค่ำ

เฉินตง ท่านหลง คุนหลุน และฉินเย่ทั้งสี่คนนั่งดื่มเบียร์ตากลมกันบนดาดฟ้า

ดาดฟ้าชั้นบนสุดของคฤหาสน์ กลายเป็นที่สำหรับพักผ่อนในยามว่างของทั้งสี่คน

“คุณชาย ช่วงนี้เรื่องในเมืองหลวงมีไม่น้อยเลย”ท่านหลงพึมพำ

เฉินตงยิ้มอย่างคาดเดาไม่ได้

ฉินเย่ดูดเบียร์ไปหนึ่งอึก แล้วพูด:“แค่พริบตาเดียวตระกูลหลี่ก็ขึ้นตำแหน่งตระกูลที่รวยที่สุดในเมืองหลวงตั้งหลายปี มีกี่คนที่อยากได้ตำแหน่งนั้นมากมาย ครั้งนี้พี่ตงกับผู้นำตระกูลเฉินถลกหนังหน้าตระกูลหลี่ออกแล้ว คนพวกนั้นต้องอาศัยตอนที่ตระกูลหลี่ไม่สู้ดี เอาชีวิตพวกเขาแน่นอน”

เขาพูดพลางยักไหล่:“และซีสู่ตระกูลฉินก็มีคนอยากลากเขาลงจากตำแหน่งอย่างลับๆเช่นกัน”

ท่านหลงเบ้ปาก พลางมองท้องฟ้ายามค่ำคืน:“ฉันไม่สนใจเรื่องในเมืองหลวงหรอก แต่ตอนนี้เรื่องในเมืองหลวง ค่อยๆพัดมาถึงที่นี่อย่างช้าๆ”

เฉินตงขมวดคิ้วเป็นปม มองท่านหลงอย่างประหลาดใจ

เขาไม่สนใจว่าตระกูลหลี่จะเป็นตายร้ายดียังไง แม้เมืองหลวงจะวุ่นวายไปหมด แต่เขาก็ยังมั่นคง

แต่เรื่องสะพัดมาถึงทางนี้แล้ว สุดท้ายเขาและไท่ติงก็ต้องถูกพัดเข้าไปในกระแสน้ำวนอยู่ดี

จากอำนาจของเขาในตอนนี้ ยังไม่ใช่เวลาที่จะตีเสมอตัวเต็งของเมืองหลวง

ฉินเย่ก็มีท่าทีจริงจังขึ้นมา

ตนนั้นเป็นคนตระกูลฉิน มีความเกี่ยวข้องชัดเจนที่สุด

“การเคลื่อนไหวนั้นคืนนั้นเอิกเกริกเกินไป คนมีความสามารถที่ซ่อนอยู่ของเมืองหลวงตรวจสอบได้ง่ายมาก”

ฉินเย่ขมวดคิ้วพลางพูด:“พี่ตง เรื่องนี่พี่มีความคิดเห็นยังไง?”

“จับตาดูไว้”

เฉินตงหัวเราะกับตัวเอง:“เรื่องในเมืองหลวงแพร่สะพัดมา ไท่ติงที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ทำอะไรไม่ได้นอกจากจับตาดู”

“ที่จริงคุณชายก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ยังเบื้องหลังคุณชายยังมีท่านผู้นำตระกูล และตระกูลเฉิน”คุนหลุนพูดปลอบ

ฉินเย่ยักคิ้วพลางพูด:“ตระกูลหลี่รู้เบื้องหลังของพี่ตง แต่ก็ยังลักพาตัวคุณนะ?”

คุนหลุนไม่มีอะไรจะพูด

แต่ท่านหลงกลับยิ้มเบาๆ:“เอาเถอะ ดูสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ดีหรือร้ายก็แล้วแต่มุมมอง”

……

เช้าวันรุ่งขึ้น

หลังเฉินตงและคุนหลุนฝึกซ้อมปีศาจ กินอาหารเช้า ก็เตรียมตัวไปบริษัท

แต่รปภ.ของเขตวิลล่าเขาเทียนซาน ก็เอาจดหมายทักทายมาส่งหน้าประตู

พอเปิดจดหมายออกเฉินตงก็เศร้าใจทันที

“เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”

“จากเมืองหลวง?”ท่านหลงขมวดคิ้วถาม

เฉินตงพยักหน้า ถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้:“จากตระกูลจางในเมืองหลวง เชิญผมร่วมงานประมูลในเมืองคืนนี้”

“งานประมูล?”

ท่านหลงตกใจ จากนั้นพูดอย่างยิ้มๆ:“ในเมื่อเชิญไปงานประมูล งั้นคงมาด้วยเจตนาดี”

เฉินตงลังเลครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น:“ท่านหลง พูดเรื่องตระกูลจางนี่กันบนรถเถอะ”

เขาขลุกอยู่กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาเป็นเวลาสามปี รู้จักตระกูลที่เกี่ยวกับสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างดี

แต่นักธุรกิจรายใหญ่คนอื่นๆนอกวงการ ต้องถามท่านหลงแล้วล่ะ

ขับโรลส์รอยซ์ไปยังบริษัทไท่ติง

บนรถ ท่านหลงก็เล่าออกมา:“คุณชาย ตระกูลจางนี้นับได้ว่าเป็นตระกูลที่ไม่ค่อยมีทรัพย์สินอะไร ไม่ค่อยมีอำนาจในเมืองหลวงนักกิจการหลักก็เป็นในวงการบันเทิง หลังจากทำงานหนักมาสามชั่วอายุคน เขาได้กลายเป็นผู้มีอำนาจในวงการบันเทิง และได้ร่วมมือกับบริษัทภาพยนตร์นานาชาติแล้ว”

ไม่ค่อยมีอำนาจ

ไม่ค่อยมีทรัพย์สินอะไร

เฉินตงจับจุดสำคัญจากที่ท่านหลงพูดได้อย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็โล่งอก

ตระกูลจางคงเป็นอย่างที่ท่านหลงพูดจริงๆ มาด้วยเจตนาดี ต้องการคบค้าสมาคมกัน

ไม่งั้นตระกูล“อ่อนแอ”แบบนี้ กล้าจัดการเขางั้นเหรอ?

เฉินตงบิดขี้เกียจแล้วพูด:“คืนนี้ผมจะให้ฉินเย่ไปกับผม”

ท่านหลงพยักหน้า และไม่สงสัยว่าทำไม่เฉินตงถึงพาฉินเย่ไปไม่ใช่เขา

ความจริงเฉินตงก็คำนึงถึงอายุของท่านหลง เมื่อก่อนไม่มีคนอื่นให้เรียกใช้ ต้องพึ่งแต่ท่านหลง วันนี้มีฉินเย่จากตระกูลร่ำรวยอยู่ สามารถแบ่งเบาภาระท่านหลงได้แล้ว

ทำงานยุ่งมาทั้งวัน

ณ เวลา6โมงเย็น

เฉินตงเลิกงานตรงเวลา เดินลงไปชั้นล่างและรออยู่ครู่หนึ่ง

ได้ยินเสียงของเครื่องยนต์ดังกระหึ่มจากมุมถนนจากไกลๆ ดังไปทั้งถนน

ทันใดนั้นเฉินตงก็เห็นรถเคอนิกเส็กก์สีดำขับเข้ามา

บรื้น!

รถเคอนิกเส็กก์จอด แล้วเปิดประตูออก ฉินเย่เดินออกมา:“พี่ตง ไปกัน!”

เฉินตงหัวเราะออกมา

เห็นรถเคอนิกเส็กก์แล้วใจเต้นแรงนิดหน่อย

รถคันนี้แพงมากเลย!

“พี่ตง อย่าอึ้งอยู่ แค่รถคันเดียวตกใจอะไรเนี่ย?”ฉินเย่ยิ้มอย่างถากถาง

เฉินตงยู่ปาก พลางเข้าไปนั่งในรถ

เมื่อรู้สึกได้ถึงความหรูหราในรถ เขาก็งุนงงเล็กน้อย

เขาเป็นผู้สืบทอดตระกูลเฉิน ฉินเย่เป็นลูกที่ถูกทอดทิ้งของตระกูลฉิน

พวกเขาสถานะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่กลับทำให้เฉินตงรู้สึกเหมือนตอนนี้เขาต่างหากที่เป็นลูกที่ถูกทอดทิ้ง

“ฉินเย่ นายมีเงินออมส่วนตัวเท่าไหร่กันแน่เนี่ย?”

เฉินตงถามอย่างอดไม่ได้:“ตอนแรกก็ขายคฤหาสน์หลังข้างๆบ้านฉันก่อน ตอนนี้ซื้อถือรถที่แพงขนาดนี้ นายต่างหากที่เหมือนผู้สืบทอดตระกูลเฉิน?”

“มีไม่เท่าไหร่ๆ”

ฉินเย่ยิ้มอย่างมีลับลมคมใน ขับรถพลางมองเฉินตงอย่างดูถูกแวบหนึ่ง:“พ่อพี่ให้เงินพี่เยอะขนาดนั้น แต่พี่กลับเก็บไว้ไม่เอาออกมาใช้ หรือจะไม่อนุญาตให้ผมเอาออกมาใช้ได้วย?”

เฉินตง:“……”

รถเคอนิกเส็กก์ขับด้วยความเร็ว

เมื่อมาถึงงานประมูลก็เป็นเวลา1ทุ่มแล้ว

ตกกลางคืน

เห็นสิ่งปลูกสร้างโบราณที่อยู่ตรงหน้า เฉินตงก็เคลิบเคลิ้มไปเล็กน้อย

เขาเคยไปสถานที่ระดับหรูหรามาไม่น้อย แต่เขาเคยมางานประมูลเป็นครั้งแรก

ทำตัวไม่ถูก

แต่ฉินเย่เดินเข้าไปในงานประมูลอย่างราบรื่น

เขาเดินพลางแขวะเฉินตง:“พี่ตง ของประมูลนี่ของพี่ใช้ไม่ได้ หรือของประมูลของซีสู่มีสไตล์กัน พี่ดูชื่อของประมูลนี่สิ ศาลเทียนเป่า เชยเสียจริงๆ”

เฉินตงยิ้มออกมา

ทั้งสองเดินมาถึงทางเข้า ยื่นบัตรเชิญ ขยับเนคไทเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปในงานประมูล

ทันใดนั้นแสงไฟก็สลัวลง

เมื่อเดินไปตามทางเดินยาวไปจนถึงด้านในลานประมูล ไฟทั้งงานส่องไปแค่บนเวทีที่เดียว

“ท่านทั้งสอง กรุณาตามผมมา”

คนในลานประมูลเดินนำเฉินตงและฉินเย่ไปยังห้องส่วนตัวชั้นสอง

ขณะที่ทั้งสองขึ้นไปด้านบน

จู่ก็มีเสียงอันอ่อนโยนดังขึ้นในความมืดระยะไกลๆ:“คุณปู่ เฉินตงผู้นั้นดูไม่จริงจังกับอะไรทั้งสิ้น เหมือนคนไม่เอาถ่าน!”

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะแหบๆก็ดังขึ้น:“จางหยู่หลัน สายข่าวของตระกูลจางสามารถตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นได้ นับว่าสุดขีดความสามารถแล้ว แต่ยังสืบหน้าตาของเฉินตงไม่ได้ อีกเดี๋ยวเธอต้องปรับตัวไปตามสถานการณ์ ถ้าจำเฉินตงผิดคน ก็จะเสียกันไปหมด”

“ไม่ต้องห่วงค่ะ เป็นหมอนั่นแน่นอน ชายในชุดสูทรองเท้าหนังข้างๆเขา ท่าทางระมัดระวังมากเกินไป เป็นถึงผู้สืบทอดตระกูลเฉิน จะเสแสร้งกับงานเล็กๆแบบนี้ได้ยังไง?”น้ำเสียงที่อ่อนโยนเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“ก็จริง”

เสียงแหบๆจู่ๆก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม:“จางหยู่หลัน เธอจะโทษปู่ไหม?คืนนี้ตระกูลจางล้วนต้องพึ่งเธอแล้ว ถ้าเธอได้รับความเชื่อถือจากเฉินตง อนาคตของตระกูลจางก็เหลือทางรอดอีกทาง”

“ไม่โทษคุณปู่ค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นเฉินตงเป็นถึงผู้สืบทอดตระกูลเฉิน ต่อให้เขาอยู่ใต้กระโปรงทับทิมของหลาน หลานก็ไม่ได้เสียเปรียบนี่”

ในความมืด ร่างสูงในชุดกระโปรงยาวเดินไปที่ชั้นสองอย่างช้าๆ……

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset