บทที่ 13 แม่คุณเป็นคนบังคับ ผมไม่ได้เป็นคนบังคับ
หลังเลิกงานตอนค่ำ
เฉินตงก็รีบกลับบ้านอย่างรีบเร่ง หลังจากต้มน้ำซุปเสร็จ ก็รีบกลับไปยังโรงพยาบาลลี่จิง
พ่อเขาเดินไปถึงหน้าประตูห้องผู้ป่วย ก็เจอกับคุณหมอจางกับหมอท่านอื่นออกมาจากห้องตรวจพอดี
เมื่อเห็นเฉินตง คุณหมอจางก็โบกมือให้เพื่อนว่างงานออกไปก่อน จากนั้นก็เดินก้าวใหญ่เข้ามา ยิ้มกล่าวว่า:“คุณเฉินช่างกตัญญูจริงๆ ทำกับข้าวมันต้มน้ำซุปให้แม่ของคุณทุกวันเลย”
เฉินตงยิ้ม กล่าว:“คุณหมอจาง อาการแม่ผมเป็นยังไงบ้างครับ?”
“ท่านฟื้นสภาพได้ดีมาก อีกไม่กี่วันก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่ว่าการปลูกถ่ายตับจะมีช่วงอันตรายที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ในระยะสั้นก็ครึ่งปี ถ้าระยะยาวก็เป็นปี ถ้าผ่านพ้นไปด้วยดีซึ่งนับได้ว่าหายดีแล้ว”
คำพูดของคุณหมอจาง ทำให้เฉินตงรู้สึกเจ็บที่หัวใจ ทันใดนั้นคุณหมอจางก็ยิ้มกล่าวอีกว่า:“แต่ว่าคุณเฉินสบายใจได้เลย ท่านหลงได้กำชับไว้แล้ว ทางโรงพยาบาลจะช่วยรักษาแม่ของคุณให้หายดีอย่างสุดความสามารถ”
“ขอบคุณคุณหมอจากมากเลยนะครับ”เฉินตงกล่าวขอบคุณ
ถึงแม้ถ้าไม่มีท่านหลง เขาก็นับถือในคุณธรรมจริยธรรมของคุณหมอเฉินมาก กับการรักษาคุณแม่เมื่อไหร่ปีมานี้
“คุณเฉินเกรงใจเกินไปแล้ว แต่ว่าอาการของท่านในตอนนี้ ต้องห้ามได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจแม้แต่น้อย อารมณ์ต้องอย่าโมโหมาก สิ่งนี้ก็เคยพูดกับคุณเฉินไว้แล้วเมื่อครั้งก่อน ขอให้คุณเฉินระวังเรื่องพวกนี้ให้มากๆนะครับ”
คุณหมอจางยิ้มโบกมือ มองไปที่ห้องผู้ป่วยถ้าที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดที่จะเอ่ยพูด สุดท้ายก็ยิ้มกับเฉินตงอย่างแปลกๆ:“งั้นผมขอตัวไปตรวจห้องก่อนนะครับ”
เฉินตงมองคุณหมอจางที่เดินออกไปทีนึงอย่างรู้สึกสงสัย
เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย เฉินตงหยุดชะงัก
จู่ๆเขาก็เข้าใจว่าที่คุณหมอจางกำลังจะพูดอะไรแต่ก็หยุดลงไม่พูดนั่นเพราะอะไร
ในสายตาที่มองไป เห็นคุณแม่กำลังนอนบนเตียงผู้ป่วยใบหน้าที่พร้อมวางยังคงมีรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น
นั่นข้างเตียงผู้ป่วย มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่ง ก้มหน้าปอกเปลือกลูกแอปเปิล
“หลินเสว่เอ๋อ คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”เฉินตงเลิกคิ้ว
“คุณเฉิน คุณมาแล้วเหรอ?”
หลินเสว่เอ๋อเงยหน้าขึ้นมองเฉินตง ยิ้มอย่างสวยงาม :“ฉันเห็นคุณบอกว่าคุณป้าป่วยไงล่ะ?ก็เลยมาเยี่ยมคุณป้าหลังเลิกงานสักหน่อย”
พูดจบ ยังหั่นแอปเปิลให้คุณแม่ของเฉินตงอย่างสนิทสนม
เฉินตงมองกระติกข้าวเก็บความร้อนที่วางด้านบนตู้ที่อยู่ด้านข้างทีนึง ก็มีความเย็นชาเล็กน้อย
เขาไม่คิดเลยว่าหลินเสว่เอ๋อจะเล่นแบบนี้
ด้านหนึ่งคอยวางแผนเรื่องหวางเห้า อีกด้านก็วิ่งมา เยี่ยมแม่ของเขาถึงที่นี่ นี่มันอยู่ในสถานการณ์อะไรกัน?
“เสี่ยวตง คุณหลินดีมากเลยนะ”คุณแม่หลี่หลานมองเฉินตง สายตามองไปด้านหลังแล้วกล่าว:“หนันหนันล่ะ?”
เนื่องจากเพิ่งจะตื่นจากการผ่าตัดเสร็จไม่นาน น้ำเสียงของคุณแม่ยังคงไม่มีแรงเหมือนเดิม และสีหน้าก็ดูซีดเซียวมากด้วย
ใจเฉินตงเจ็บปวดมาก อาการของคุณแม่ในตอนนี้ คงทนไม่ไหวกับการสะเทือนอารมณ์แบบนี้ไม่ได้แน่ๆ
เพราะฉะนั้นตั้งแต่ที่คุณแม่ฟื้นมา เขาก็ปิดบังเรื่องหย่าเอาไว้ คิดว่ารอให้อาการของคุณแม่ดีแล้วค่อยบอกเรื่องนี้
แต่ว่า เฉินตงไม่ได้ตอบกลับไปทันที แต่กลับมองหลินเสว่เอ๋อทีนึงอย่างเยือกเย็น
หลินเสว่เอ๋อเต้นถึงสะใภ้ที่กำลังจะแต่งงานกับคนในตระกูลหวาง เธอยังวิ่งมาเยี่ยมแม่ของเขาในโรงพยาบาลได้เลย แล้วยังจะพูดอะไรมากอีกล่ะ?
หลินเสว่เอ๋อเหมือนจะรู้ถึงความคิดของเฉินตง จึงยิ้มใส่หน้าเล็กน้อย
เฉินตงวางใจแล้ว ถึงยิ้มกล่าวอธิบาย
“แม่ครับ ช่วงนี้หนันหนันยุ่งมากหน่อย ก็เลยไม่มีเวลาว่างสักที รอให้อาการของคุณแม่ดีขึ้นสามารถกลับบ้านได้แล้ว ก็จะได้เจอกันแล้วใช่ไหมล่ะ?”
“ก็ได้”หลี่หลานรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย กัดแอปเปิลกินเบาๆ
“ แม่ครับ แม่พักผ่อนก่อนนะครับ ผมมีอะไรจะคุยกับคุณหลิน”
เฉินตงเดินไปด้านหน้าหลินเสว่เอ๋ออย่างรวดเร็ว เรื่องคานของเธอกระชากให้ลุกขึ้น:“รบกวนคุณออกมากับผมหน่อย”
“โอ๊ย คุณทำฉันเจ็บแล้วนะ”หลินเสว่เอ๋อสำออยแกล้งทำเป็นเจ็บ
หลี่หลานขมวดคิ้ว:“เสี่ยวตง คุณหลินมาเยี่ยมแม่ เป็นแขกนะ ลูกทำแบบนี้มันไม่เหมาะ พี่ขอโทษซะ
“อิอิ ขอบคุณค่ะคุณป้า”หลินเสว่เอ๋อยิ้มพูดกับหลี่หลาน สีหน้าเอาใจมาก
พอหันหน้าไปอีกฝั่ง ในขณะที่เธอเห็นใบหน้าที่กำลังควบคุมความโมโหไว้ของเฉินตง เธอแลบลิ้นทีนึง:“เอาล่ะๆ ฉันเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ไม่ถือสาอะไรคุณก็ได้”
พูดจบ เธอหันหน้าไปกำชับหลี่หลาน:“คุณป้าคะ คุณป้าต้องพักผ่อนให้ดีๆ แล้วหนูจะมาเยี่ยมคุณป้าใหม่นะคะ”
จากนั้นจึงค่อยเดินตามเฉินตงออกจากห้องผู้ป่วย
“หมายความว่ายังไง?”
ยืนอยู่หน้าระเบียง เฉินตงกล่าวไถ่ถามไปตรงๆ
“ฉันก็แค่รู้ว่าคุณป้าไม่สบาย ก็เลยมาเยี่ยมคุณป้าไม่ได้หรือไง?”หลินเสว่เอ๋อที่ยิ้มเล่นเมื่อกี้นี้จู่ๆก็แสดงสีหน้าที่ดูน่าสงสาร ถึงขั้นดวงตาประกายไปด้วยน้ำตา:“ทำไม?ฉันทำดีคุณกลับไม่เห็นค่า?งั้นคุณมาแหย่ฉันทำไม?”
เฉินตงปวดหัวเลยทีนี้
เขาทำมือห้ามอย่างหงุดหงิดอารมณ์เสีย:“เชิญคุณไปซะ ต่อไปไม่ต้องมาเยี่ยมแม่ผมอีก”
“ไม่!”หลินเสว่เอ๋อส่ายศีรษะ กล่าวด้วยรอยยิ้มแปลกๆ:“ถ้าคุณไม่ให้ฉันมาเยี่ยมคุณป้า ฉันจะนำเรื่องที่คุณหย่าแล้วไปบอกให้คุณป้าฟัง”
ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้ เธอมีความสามารถในการใช้แผนของตน และรู้ถึงความคิดของผู้ชายดี ยิ่งรู้ว่าจะใช้วิธีอะไรเพื่อคุมผู้ชายคนนึงให้อยู่
ไม่งั้นก็คงจะไม่หันมาเยี่ยมแม่ของเฉินตงแทน หลังจากถูกเฉินตงเมินใส่
“นี่คุณกำลังคุกคามผมเหรอ?”เฉินตงสีหน้าบูดบึ้ง แววตาเต็มไปด้วยความดุ
“ใช่ ฉันกำลังคุกคามคุณ อยากแก้แค้นฉันมั้ยล่ะ?”หลินเสว่เอ๋อยิ้มอ่อย สายตาประกายความน่าค้นหาและมีเสน่ห์น่าดึงดูดมาก ในขณะเดียวกันยังยกมือขวาขึ้น ใช้นิ้วชี้กดหน้าอกขอเฉินตงเบาๆ
เฉินตงเดินถอยหลังก้าวหนึ่ง:“ผม บอกว่าไปให้พ้นซะ!”
หลินเสว่เอ๋อหยุดยิ้ม ไม่นึกว่าเฉินตงจะปฏิเสธทันทีทันใดแบบนี้
นี่มันคนละคนกับเฉินตงในคืนนั้นชัดๆ ไม่เหมือนคนคนเดียวกันสักนิด!
เธอเป็นผู้หญิงฉลาด หรือว่าควรหยุดในระดับที่เหมาะสม
หายใจเข้าลึกๆทีนึง หลินเสว่เอ๋อดึงมือขวากลับมา ใบหน้าสวยไปที่ประกายความน่าค้นหาและมีเสน่ห์น่าดึงดูดมากกลับกลายเป็นยิ้มอย่างสุภาพ
“ก็ได้ ถ้าฉันกลับล่ะ คุณสบายใจได้เลย เรื่องที่คุณหย่าฉันไม่บอกให้คุณป้าหรอก ฉันไม่ได้โง่แบบนั้น ถึงได้พูดอะไรที่สะเทือนจิตใจเธอในตอนนี้”
แลดูหลินเสว่เอ๋อที่เดินจากไป เฉินตงสับสนวุ่นวายใจมาก
แม่คือทุกอย่างในชีวิตของเขา
เขาจะไม่ยอมให้หลินเสว่เอ๋อเข้าใกล้แม่เด็ดขาด
หลินเสว่เอ๋อไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาต้องการ และการที่หลินเสว่เอ๋ออยู่ข้างกายคุณแม่ มันเป็นระเบิดเวลาที่อาจจะระเบิดได้ตลอดเวลาอย่างไม่ต้องสงสัย!
ซึ่งตอนนี้เขายังไม่รู้จะจัดการยังไงดี นี่ทำให้เขาอารมณ์เสียมาก
ในเวลาเดียวกัน
หวางหนันหนันนั่งที่นั่งข้างคนขับบนรถออดี้ มองดูรถที่วิ่งผ่านไปมาอย่างเหงาๆ ดวงตายังคงแดง และมีหยาดน้ำตาเป็นประกาย
หวางเห้าที่อยู่ด้านข้างกลับมีความสุขดีใจสุดๆ
ขอเพียงแค่พี่สาวนัดดูตัวเพื่อแต่งงานได้สำเร็จ ก็จะมีเงินค่าสินสอดที่เขาต้องให้หลินเสว่เอ๋อแล้ว
แลมองหวางหนันหนันทีนึง หวางเห้ายิ้มกล่าว:“พี่ พี่ดีกับผมที่สุดเลย ที่ผมได้แต่งงานกับเสว่เอ๋อ ก็เป็นเพราะพี่ที่ช่วยผม”
หวางหนันหนันไม่ได้ตอบอะไร รอยยิ้มของหวางเห้าทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดที่ใจ
แต่พ่อไม่ได้โต้เถียงกลับ และไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไงดี
เพราะเธอเป็นพี่สาวของหวางเห้า การที่น้องชายจะแต่งงานเรื่องใหญ่ขณะนี้ เธอควรช่วยจริงๆ
เพียงแต่ว่า คนที่นับดูตัวเป็นชายอายุ 40 กว่า ยังเป็นหัวหน้าของเฉินตงด้วย เธอรับไม่ได้เลยจริงๆ
เห็นหวางหนันหนันท่าทีดูไม่ค่อยมีความสุข จู่ๆหวางเห้าก็แกล้งพูดล้อถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลลี่จิง
“พี่ เช้าวันนี้ผมส่งเสว่เอ๋อไปทำงาน เจอเฉินตงในโรงพยาบาลลี่จิงด้วยนะ พี่รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?เสว่เอ๋อบอกว่าเฉินตงรวยมาก ฮ่าๆๆ……น่าขำจริงๆเลย”
แววตาหวางหนันหนันประกายความมีชีวิตชีวาขึ้นเล็กน้อย กล่าวอย่างเศร้าๆ:“เขาจะรวยได้ยังไงกัน?”
“ผมก็ว่าอย่างนั้น แต่เสว่เอ๋อกลับไม่เชื่อ ที่ว่าเธอโง่ไหมล่ะ?”
หวางเห้ากล่าวอย่างดูถูก:“ถ้าเขามีเงินที่แอบซ่อนไว้ใช้หลายแสนผมยังเชื่อ แต่ถ้ารวยอย่างที่เสว่เอ๋อบอก แว่นตาท้องฟ้าจะตกลงมา”
คำพูดที่ดูประชดลอยๆนี้
กลับทำให้หวางหนันหนันรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา ราวกับคว้าความหวังสุดท้ายเพื่อช่วยชีวิตไว้ได้
ถ้าเกิดว่า เฉินตงรวยจริงๆล่ะ?
เมื่อคิดแบบนี้ หวางหนันหนันรีบส่งข้อความไปให้เฉินตงทันที
“เฉินตง แม่ฉันบีบบังคับให้ฉันไปนัดดูตัวกับชายแก่อายุ 40 กว่า พวกเขาทำเพื่อสินสอดสำหรับให้เสี่ยวเห้าหาภรรยา ถ้ารวบรวมค่าสินสอดได้เพียงพอ ฉันก็ไม่ต้องไปนัดดูตัวกับชายแก่แล้ว คุณช่วยฉันหน่อย ได้ไหม?”
ข้อความส่งไปตั้งนาน กำลังจะขับรถไปถึงสถานที่นัดเจอแล้ว ยังไม่มีข้อความตอบกลับเลย
หวางหนันหนันเริ่มหัวร้อน จึงรีบส่งข้อความไปข้อความหนึ่ง :“เฉินตง!ไม่ว่ายังไงเราก็เป็นสามีภรรยากันมา3ปี สามีภรรยากันแค่คืนเดียวก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันอย่างไม่เลือนหาย ทำได้นำร่างกายของฉัน และทุกอย่างของฉันมอบให้คุณหมดแล้ว มีคุณจะไม่ยอมช่วยจริงๆเหรอ?ถึงขนาด ไม่พูดอะไรกับฉันเลยสักคำหรือยังไง?”
รอมา10กว่านาทีแล้ว รถยนต์อาวดี้ได้จอดลงที่ลานจอดรถในร้านอาหาร
พอจอดรถเรียบร้อย หวางเห้ากล่าว:“พี่ ถึงแล้ว”
หวางหนันหนันมองโทรศัพท์ทีนึงยังคงไม่มีข้อความตอบกลับ ก็รู้สึกร้อนใจทันที กำลังคิดจะส่งข้อความไปอีกครั้ง
ติ้ง!
การแจ้งเตือนข้อความเข้าในวีแชทดังขึ้น
หวางหนันหนันรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างตื่นเต้น พอเห็นเนื้อหาในข้อความแค่นั้นแหละ หดหู่ใจไปเลย
“แม่คุณเป็นฝ่ายบีบบังคับ ไม่ใช่ผมที่เป็นคนบีบบังคับคุณ”