Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 203 ขวางมีด ?

หลังจากคุนหลุนพูด

บรรยากาศภายในเทียนเก๋อเหมือนทุกสิ่งหยุดนิ่งในทันที

“ที่นี่คือเทียนเก๋อ จะมีกลิ่นเลือดได้อย่างไร ?”

คุณท่านใหญ่ตระกูลจางหัวเราะเสียงดังขึ้นมา จากนั้นจึงเหลือบไปมองเฉินตงด้วยความรู้สึกยินดีในใจ

ตอนนี้อ้อยมาอยู่ตรงหน้าแล้ว แค่รอให้เข้าปากช้างเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เฉินตงมีอาการมึนเมาหนักขึ้น จนรู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุน

เขาส่ายหัว จากนั้นเขาจึงเอ่ยปากพูดด้วยสติสัมปชัญญะที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย : “ลองไปดูซิ เชื่อคุนหลุน”

คุณหลุนเคยเป็นทหารรับจ้างฝีมือดีมาก่อน ตอนนี้ยังทำหน้าที่เป็น “หัวหน้าผู้ฝึกสอน” ของตระกูลเฉินอีก ดังนั้นเขาจึงมีประสาทสัมผัสในการรับรู้กลิ่นเลือดได้รวดเร็วกว่าใคร

กูหลังจึงเดินไปที่ประตูใหญ่อย่างระมัดระวัง

ส่วนคุนหลุนเองก็ขยับประชิดเข้ามาอีกหนึ่งก้าวเพื่อคอยคุ้มกันอยู่ข้างๆ เฉินตง

ภาพที่ปรากฏขึ้นนี้

ทำให้คุณท่านใหญ่ตระกูลจางและจางหยู่หลันขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความรำคาญใจ

ส่วนฉู่เจียนเจียที่นั่งอยู่ตรงข้ามกลับขมวดคิ้วแน่น แล้วพยายามสูดดมกลิ่น

ภายในเทียนเก๋อ นอกจากคุนหลุนและกูหลังแล้ว ก็มีเธอที่ดูจะมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนที่สุด แต่เมื่อลองพยายามดมกลิ่นดูแล้ว กลับยังคงไม่ได้กลิ่นของเลือดอยู่ดี

ขณะที่กูหลังเดินไปถึงประตูใหญ่

ทันใดนั้น

มีเงาสีดำพุ่งตรงเข้ามาจากด้านนอก

กูหลังหน้าถอดสีทันที เขายังไม่ทันได้ระวังตัว จึงไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทัน

“วิ่ง !”

กูหลังตะโกนด้วยความโกรธ แล้วชูมือทั้งสองข้างวิ่งออกไปเพื่อสกัดกั้น

ตุ๊บ !

มีเสียงดังอู้อี้เกิดขึ้น กูหลังเดินโซเซถอยร่นลงมา ตอนนี้ถึงได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่คว้าเอาไว้ได้ในมือคือคน

คนที่ตายแล้ว !

มีรอยเชือดตรงบริเวณคอ เลือดสีแดงสดไหลออกมาไม่หยุด และเขาไม่หายใจแล้ว

กลิ่นเลือดลอยคละคลุ้งไปทั้งเทียนเก๋อทันที

ตอนนี้เอง แม้กระทั่งคุณท่านใหญ่ตระกูลจางและจางหยู่หลันก็สร่างเมาในทันทีและตั้งสติได้

“กูหลังระวัง !”

คุนหลุนตะโกนด้วยความโกรธจัด

กูหลังตัวสั่นไปทั้งตัว ทันใดนั้นก็มีเงาสีดำปรากฏผ่านสายตาของเขาอีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน ภายใต้แสงสว่างของไฟสลัวๆ จู่ๆ ก็มีแสงสะท้อนแวววาวปรากฏขึ้น

ทันใดนั้นเอง

กูหลังเหงื่อกาฬแตกพล่าน ประสบการณ์ในการต่อสู้ที่ผ่านความเป็นความตายมา ทำให้เขารับรู้ได้ถึงภัยคุกคามที่หมายจะเอาชีวิตที่กำลังย่างกรายเข้ามาได้ในทันที

เขาออกแรงทั้งหมดที่มี ใช้เท้าเตะศพที่อยู่ในมือจนลอยกระเด็นออกไป

ศพลอยไปกระแทกเข้ากับเงาดำนั้น

แต่ดูเหมือนเงาดำจะคาดการณ์เอาไว้แต่ต้นแล้ว จึงสามารถปลีกตัวหลบได้อย่างง่ายดาย

ฟิ้ว !

กริชอันเย็นเฉียบและแหลมคม เชือดเข้าที่หน้าอกของกูหลัง

เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็น

กูหลังเดินโซเซถอยร่นไปด้านหลัง จากนั้นจึงจ้องมองบาดแผลตรงหน้าอกด้วยความหวาดกลัว

ถ้าไม่ใช่เพราะการตอบสนองที่รวดเร็ว อาศัยจังหวะที่โยนศพออกไปถอยร่นลงมา กริชเล่มนี้ก็คงพอที่จะเฉือนหน้าอกของเขาจนแยกออกได้

“ฆ่ามัน !”

หลังจากเสียงตะโกนที่เยือกเย็นเข้าไปถึงกระดูกสันหลัง

ทันใดนั้น นักฆ่าจำนวนสิบกว่าคน ก็กรูกันเข้ามาในเทียนเก๋อ

รวดเร็วปานสายฟ้า และเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง

นักฆ่าตรงเข้าไปล้อมเฉินตงที่ยังคงอยู่ในอาการมึนเมาเอาไว้

“ว้าย !”

ภาพที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันตรงหน้า ทำให้จางหยู่หลันกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจกลัวในทันที

ในระหว่างช่วงจังหวะชุลมุน จางหยู่หลันและคุณท่านใหญ่ตระกูลจางก็รีบวิ่งล้มลุกคลุกคลานไปหลบอยู่ด้านข้างทันที

แต่ทว่า นักฆ่าทั้งสิบกว่าคนนั้นทำราวกับมองไม่เห็นพวกเขาอย่างไรอย่างนั้น กลับเดินผ่านปู่หลานทั้งสองคนไป แล้วมุ่งตรงไปยังเฉินตง

เห็นได้ชัดว่า นักฆ่าทั้งสิบกว่าคนนี้ ต่างพุ่งเป้าไปที่เฉินตงเพียงคนเดียวเท่านั้น !

คุนหลุนหน้าถอดสี รูปร่างที่สูงใหญ่กำยำของเขาก้าวเดินไปข้างหน้า เขาใช้มือยกเก้าอี้ที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้น แล้วฟาดลงไปยังนักฆ่าที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“คุณชาย หนีเร็ว !”

เปรี้ยะ !

เสียงเก้าอี้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ

นักฆ่าสองคนเดินโซเซถอยหลังไป

แต่นักฆ่าที่เหลือ ยังคงพุ่งตรงเข้ามาราวกับหมาป่าและเสือที่ดุร้าย

คุนหลุนตะโกนด้วยความโกรธ แล้วพุ่งเข้าต่อสู้กับนักฆ่าจำนวนสิบกว่าคนนั้น

ส่วนกูหลังที่ได้รับบากเจ็บก็รีบกลับมาช่วยอย่างรวดเร็ว และเข้ามาต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับคุนหลุน

ทั้งสองไม่ใช่พวกอ่อนหัด ล้วนแล้วแต่ผ่านการต่อสู้ที่ใช้ชีวิตเป็นเดิมพันมาแล้วทั้งสิ้น

พวกเขาสามารถถ่วงเวลานักฆ่าสิบกว่าคนนี้เอาไว้ที่เดิมได้ชั่วขณะหนึ่ง

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาร้อนใจก็คือ เฉินตงยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ ค่อยๆ ส่ายหัว สายตายังคงพร่ามัว

“โถ่เว่ย ขยับ ขยับไม่ไหวแล้ว……”

เฉินตงสบถออกมา สติสัมปชัญญะที่ยังพอหลงเหลืออยู่ทำให้เขารู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าอันตรายแค่ไหน

เขาเองก็อยากจะวิ่ง แต่ทำไม่ได้ !

ร่างกายของเขาอ่อนปวกเปียกไปหมด มือเท้าชา สติสัมปชัญญะเลือนราง จนไม่อาจควบคุมแขนขาของตัวเองให้ขยับได้

“พาคุณชายหนีไป !”

คุนหลุนเตะนักฆ่าคนหนึ่งกระเด็นลอยออกไป จากนั้นจึงวิ่งเข้าไปหากูหลัง

กูหลังมีท่าทีหดหู่ : “ถ้าฉันไป นายรับมือไม่ไหมหรอก !”

ถ้าหากพวกเขามามือเปล่า หรือหากพวกเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาๆ สิบกว่าคนที่มีอาวุธอยู่ในมือ กูหลังจะไม่พูดอะไรเลยสักคำ

แต่เขารู้ดีว่า นักฆ่าสิบกว่าคนที่เป็นมืออาชีพและมีอาวุธครบมือน่ากลัวขนาดไหน

คุนหลุนคิดจะเผชิญหน้ากับนักฆ่าที่มีอาวุธครบมือด้วยมือเปล่าเพียงคนเดียว จุดจบคงน่าอนาถแน่นอน !

“ฉันตายไม่เป็นไร แต่ฉันต้องการให้คุณชายรอด !”

คุนหลุนแสดงท่าทีดุร้าย เขาคว้าคอเสื้อของกูหลัง และเตรียมที่จะโยนเขาออกจากวงล้อม

“ระวัง !”

กูหลังตะโกนเสียงดัง พร้อมกับเขามือทั้งสองข้างกอดแขนของคุนหลุนเอาไว้ จากนั้นจึงออกแรงเตะนักฆ่าที่อยู่ด้านหลังของคุนหลุน จนลอยกระเด็นออกไป

เขารู้สึกว่ามีความเย็นพัดผ่านหลังศีรษะของเขาไป ทำให้เขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

กูหลังกลับลงมายืนอยู่บนพื้น จากนั้นจึงสั่งเสียงเข้มว่า : “พวกคุณสามคน พาคุณชายหนีไป !”

เห็นได้ชัดว่าตะโกนบอกจางหยู่หลัน คุณท่านใหญ่ตระกูลจาง และฉู่เจียนเจีย

จากนั้น

สถานการณ์ก็ชุลมุนวุ่นวาย

จางหยู่หลันและคุณท่านใหญ่ตระกูลจางขดตัวหลบอยู่ตรงมุมห้องนานแล้ว

แววตาของจางหยู่หลันเป็นประกาย เธออยากที่จะใกล้ชิดกับเฉินคงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่กลับถูกคุณท่านใหญ่ตระกูลจางดึงเอาไว้

ตอนนี้เอง

“แย่แล้ว !”

คุนหลุนและกูหลังอุทานออกมาพร้อมกัน

มีนักฆ่าคนหนึ่งแอบฝ่าแนวป้องกันของพวกเขาเข้ามาได้ ในมือของเขาถือกริชอยู่ แล้ววิ่งตรงเข้าไปหาเฉินตงที่นั่งไม่ได้สติอยู่อย่างรวดเร็ว

ในช่วงเวลาคับขัน

ฟิ้ว !

ตุ้บ !

แก้วน้ำชาใบหนึ่งลอยมา กระแทกเข้ากับศีรษะของนักฆ่า

แก้วน้ำชาแตก ส่วนฆาตกรเองก็ศีรษะเอียง และเดินโซเซถอยร่นไปเช่นกัน

“ไป !”

ฉู่เจียนเจียปรากฏตัวขึ้นข้างๆ เฉินตง เธอออกแรงอย่างสุดกำลังจากร่างกายอันผอมบางของเธอ เพื่อยกเฉินตงขึ้นมา

ใบหน้าที่เย็นชาและภูมิฐาน บัดนี้เต็มไปด้วยความเยือกเย็น และไม่ปรากฏความกลัวขึ้นเลยแม้แต่น้อย

“ขอบ ขอบคุณ……”

เฉินตงตะโกนออกมาอย่างแผ่วเบา ค่อยๆ มีสีแดงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา และรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว

“ถ้าคุณตาย ก็ไม่มีใครเจรจาธุรกิจกับฉันนะสิ”

ฉู่เจียนเจียแบกเฉินตงขึ้น พลางตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ทั้งสองเดินโซเซไปมา แต่ก็สามารถเดินออกจากเทียนเก๋อไปได้ในที่สุด โดยมีคุนหลุนและกูหลังคอยเปิดทางให้

นักฆ่าสิบกว่าคนโบกสะบัดกริชที่อยู่ในมือ พร้อมกับตะโกนโห่ร้องออกมาด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง

เมื่อคุณท่านใหญ่ตระกูลจางเห็นว่าไม่มีใครสังเกตเห็นเขาและจางหยู่หลัน เขาจึงลากจางหยู่หลันแล้วค่อยๆ แอบย่องออกจากมุม และตรงออกไปด้านนอกเทียนเก๋อ

ตุ้บ !

ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังเกิดขึ้น

มีนักฆ่าคนหนึ่งลอยมาตกลงตรงหน้าของสองปู่หลานอย่างแรง

ตาทั้งหกข้างประสานกัน

แววตาของนักฆ่าเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง กริชที่ถืออยู่ในมือพุ่งตรงเข้าใส่จางหยู่หลันทันที

จางหยู่หลันตกใจจนหน้าถอดสี เธอกรีดร้องแล้ววิ่งตรงเข้าไปหาเฉินตงและฉู่เจียนเจียทันที

ขณะที่กำลังตกอยู่ในอาการหวาดกลัว จางหยู่หลันก็วิ่งเข้าไปที่ด้านหลังของคนทั้งสอง จากนั้นจึงใช้มือทั้งสองข้างผลักอย่างแรง

นี่คิดจะใช้ฉันบังมีดอย่างนั้นหรือ ?

เฉินตงหัวใจเต้นแรง

เขาและฉู่เจียนเจียถูกจางหยู่หลันผลักจนสูญเสียการทรงตัว ทำให้ตัวของเขาพุ่งตรงไปด้านหน้า

และสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็คือ นักฆ่าที่ถือกริชคมกริบกำลังวิ่งตรงเข้ามา

ทันใดนั้น

มีเงาหนึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเฉินตง

เป็นฉู่เจียนเจียที่เข้ามากอดเขาเอาไว้

เฉินตงตกใจ

เด็กสาวคนนี้ไม่ต้องการชีวิตแล้วหรืออย่างไร ?

เฉินตงในตอนนี้ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง สมองของเขาก็ลือนลางไปหมด ทุกอย่างดูเหมือนค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง

เขาเห็นกริชกำลังจะแทงเข้าที่ตัวของฉู่เจียนเจียที่อยู่ตรงหน้า

เฉินตงกัดฟันกรอด เขากอดฉู่เจียนเจียเอาไว้แน่น แล้วออกแรงหันตัวกลับในทันที

ซวบ !

เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นออกมา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset