Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 214 ร่วมเตียง

เฉินตงไม่ได้สนใจฉินเย่

เขาเดินเข้าประตูบ้านไป

หลายวันมานี้ เป็นเพราะทุกคนในบ้านช่วยเฉินตงปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ ทำให้หลี่หลานไม่รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เมื่อเห็นเฉินตง เธอก็รีบเดินเข้าไปหา แล้วพูดด้วยความเป็นห่วงว่า : “เด็กโง่ อยู่ที่บริษัทมาหลายวันเช่นนี้ ดูสิ ผอมลงไปตั้งเยอะ ถึงแม้งานจะหนัก แต่ก็ต้องรู้จักดูแลสุขภาพด้วยรู้ไหม”

“แม่ครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องเป็นห่วง”

เฉินตงยิ้มเล็กน้อย ท่าทางของเขาสงบ ไม่แสดงออกให้เห็นถึงความผิดปกติใดๆ

“รีบไปพักผ่อนสักเดี๋ยวสิ ถ้าแม่กับฟ่านลู่ทำอาหารเย็นเสร็จแล้วจะขึ้นไปเรียกลูกเอง”

หลี่หลานคิดเพียงแค่ว่าหลายวันมานี้เฉินตงมัวแต่ทำงานหนักอยู่ที่บริษัท เป็นเพราะงานยุ่งเกินไปจึงไม่สามารถกลับบ้านได้

ตอนนี้ในเมื่อลูกชายกลับมาได้แล้ว เธอจึงไม่อยากให้เฉินตงต้องเหนื่อยแม้สักวินาทีเดียว

เฉินตงมองดูแม่ของเขาเดินเข้าห้องครัวไป แล้วจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นจึงหันหลังเดินขึ้นบันไดไป

แต่ขณะที่เขากำลังจะก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดไป ก็มีเสียงของแม่ตะโกนดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง

“เสี่ยวหยิ่ง หนูเองก็ไม่ต้องเหนื่อยนักเลย รีบขึ้นไปพักผ่อนกับเฉินตงเถอะ”

เฉินตงเดินโซเซจนแทบจะตกจากบันได

แม่พูดตรงเกินไปหรือเปล่า ?

“หา ? คุณป้า……”

กู้ชิงหยิ่งเองก็รู้สึกตกใจเช่นกัน

“ก็แค่อยู่เป็นเพื่อนเขา อย่าคิดอะไรมาก !” หลี่หลานยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่เอื้ออาทรของผู้เป็นแม่

แต่ใบหน้าของกู้ชิงหยิ่งกลับแดงก่ำไปเรียบร้อยแล้ว

เธอลังเลอยู่สักครู่ แต่ในที่สุดก็เดินเข้าไปหาเฉินตง

เฉินตงยิ้มออกมาอย่างเก้อเขิน : “รู้สึกจะตรงเกินไปหน่อยใช่ไหม ?”

กู้ชิงหยิ่งตัวสั่นเล็กน้อย ใบหน้าอันงดงามที่เป็นสีแดงระเรื่ออยู่แล้ว กลับยิ่งแดงก่ำเข้าไปใหญ่

เธอคร่ำครวญออกมา : “นี่ เลิกพูดได้แล้ว รีบขึ้นไปเร็วเข้า”

เฉินตง : “……”

มองดูเฉินตงและกู้ชิงหยิ่งเดินขึ้นบันไดไป

ท่านหลงก็ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ : “บนโลกไปนี้ คนที่เป็นแม่ล้วนเหมือนกันหมด”

“ท่านหลง มัวแต่ยืนบ่นอะไรอยู่ได้ ยังไม่รีบมาช่วยกันอีก ?” หลี่หลานตะโกนออกมาอย่างเคร่งขรึม

ท่านหลงยิ้มแล้วเดินเข้าไปหา

หลี่หลานทำสีหน้าเบื่อหน่าย : “ท่านหลง ถึงจะรู้คุณก็ไม่ควรจะพูดออกมา ตงเอ๋อโตจนป่านนี้แล้ว ฉันในฐานะที่เป็นแม่ ก็อยากที่จะอุ้มหลานกับเขาบ้างไม่ได้หรืออย่างไร ?”

“แต่คุณผู้หญิง……” ท่านหลงรู้สึกว่าไม่เหมาะสม

“น้อยๆ หน่อย ตอนนั้นไม่เห็นเต้าหลินจะเป็นอย่างที่คุณพูดเลย”

คำพูดของหลี่หลานทำให้ท่านหลงพูดอะไรไม่ออก

แต่ทว่า เมื่อคิดทบทวนดูแล้ว เฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งเองก็หมั้นหมายกันแล้ว อีกไม่ช้าก็จะแต่งงานกันแล้ว

ดูเหมือนว่า……จะไม่มีอะไรเกินเลยหรอกใช่ไหม ?

ภายในห้อง

เฉินตงค่อยๆ นอนลงบนเตียงโดยมีกู้ชิงหยิ่งคอยประคองเอาไว้

เป็นเพราะพันบาดแผลเอาไว้ ทำให้เฉินตงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหายใจไม่ออก

กู้ชิงหยิ่งมองดูด้วยความสงสาร แล้วบ่นว่า : “ใครใช้ให้คุณรีบออกจากโรงพยาบาลกัน หลังจากนี้เวลาคุณนอนและลุกขึ้นในทุกๆ วัน ฉันจะคอยดูซิว่าคุณจะทำเช่นไร ?”

“ไม่ใช่ว่ามีคุณหรอกหรือ ?”

เฉินตงยิ้มอย่างเบิกบาน

“แต่ฉันไม่ได้อยู่ทุกวันสักหน่อย” กู้ชิงหยิ่งกล่าว

หลังจากพูดจบ

จู่ๆ เฉินตงก็ยื่นมือออกมา แล้วดึงมืออันเรียวงามของกู้ชิงหยิ่งเบาๆ

กู้ชิงหยิ่งอุทานออกมา แล้วสูญเสียการทรงตัวในทันที และล้มลงไปบนเตียง

ทันใดนั้นเอง อุณหภูมิบนร่างกายของเฉินตง ก็แผ่ซ่านไปทั่วตัวของเธอ

เดิมทีกู้ชิงหยิ่งคิดจะลุกขึ้น

แต่เฉินตงกลับโอบไหล่ของเธอเอาไว้ แล้วใช้มือใหญ่ของเขากอดเธอเอาไว้ : “ผมอยากให้คุณอยู่ที่นี่ทุกวัน”

ดวงตาของกู้ชิงหยิ่งเป็นประกาย ใบหน้าอันงดงามของเธอแดงก่ำขึ้นมาทันที

คำพูดของเฉินตง ทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็ว ราวกับกวางตัวน้อยๆ ที่กระโดดไปมา

“เฉินตง……” เสียงของกู้ชิงหยิ่งอ่อนปวกเปียกลงทันที

“เด็กโง่ ผมรู้ดี ผมไม่มีทางทำอะไรเกินเลยเด็ดขาด ขอแค่นอนอยู่อย่างนี้เท่านั้น”

เฉินตงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางใช้มือตบลงบนหลังของกู้ชิงหยิ่งเบาๆ

เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้ว ทำให้เขารู้ดีว่า กู้ชิงหยิ่งอยากจะเก็บคืนที่พิเศษที่สุดเอาไว้ในวันแต่งงาน ให้วันนั้นเป็นวันที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ดังนั้น เขาจึงเคารพการตัดสินใจของกู้ชิงหยิ่ง ไม่คิดที่จะทำอะไรเกินเลยเด็ดขาด

เมื่อทั้งสองฝ่ายเคารพซึ่งกันและกัน ถึงจะถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาความสัมพันธ์ให้ยืนยาว

เมื่อถูกลูบหลังเบาๆ กูชิงหยิ่งก็นอนหลับไปอย่างรวดเร็ว

ราวกับลูกแมวตัวน้อยๆ ที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเฉินตง แล้วค่อยๆ หลับไป

ตอนที่ตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว

กู้ชิงหยิ่งลืมตาขึ้นมองเฉินตง แต่กลับพบว่าเฉินตงกำลังมองดูเธออยู่

“คุณตื่นนานแล้วเหรอคะ ?” กู้ชิงหยิ่งสะดุ้ง และตั้งสติกลับมาได้

“อืม” เฉินตงตอบกลับอย่างอ่อนโยน

กู้ชิงหยิ่งเลิกคิ้ว : “แล้วทำไมคุณถึงไม่ปลุกฉัน ? ฉันนอนหนุนแขนของคุณอยู่ตลอดเช่นนี้ เดี๋ยวก็เจ็บแขนหรอก”

“พูดอะไรเหลวไหล ? ให้ภรรยาของตัวเองหนุนแขนนอนหลับพักผ่อน ทำให้ผมมีความสุขมากต่างหาก”

เฉินตงแสร้งทำเป็นกล่าวตำหนิ สักพัก เขาจึงพูดต่ออีกว่า : “อยู่ดูแลผมที่โรงพยาบาลตั้งหลายวัน ไม่ได้นอนหลับเต็มตื่นสักวัน ตอนนี้ผมออกจากโรงพยาบาลแล้ว แน่นอนว่าจะต้องปล่อยให้คุณได้นอนพักผ่อนเต็มที่สิ”

ช่วงที่อยู่โรงพยาบาล

ฟ่านลู่เองก็ต้องอยู่ดูแลแม่ที่บ้านและช่วยปกปิดความจริงไปด้วยในเวลาเดียวกัน

ดังนั้นคนที่อยู่ดูแลเขาที่โรงพยาบาล จึงมีเพียงแค่กู้ชิงหยิ่งและท่านหลงที่คอยสลับเวรกัน

ส่วนฉินเย่ที่วันๆ มัวแต่คิดเรื่องอย่างว่า ก็มาโรงพยาบาลน้อยมาก

กู้ชิงหยิ่งรู้สึกเห็นใจที่ท่านหลงอายุมากแล้ว ดังนั้นเวลาโดยส่วนใหญ่ จึงเป็นตัวเธอเองที่อยู่โรงพยาบาล

หญิงสาวที่เติบโตมาในตระกูลที่มั่งคั่งร่ำรวย ถูกชุบเลี้ยงมาราวกับไข่ในหินตั้งแต่เด็ก สามารถอดหลับอดนอนเพื่อดูแลเขาที่โรงพยาบาลได้หลายวันขนาดนั้น ทำให้เฉินตงรู้สึกซาบซึ้งใจมากจริงๆ

“คุณแค่อยากจะให้ฉันพักผ่อนแค่นั้นหรือ ?”

กู้ชิงหยิ่งมองด้วยแววตาลึกซึ้ง ริมฝีปากแดงระเรื่อของเธอปิดสนิท

แต่เมื่อพูดประโยคนี้ออกไป เธอก็รีบตบปากตัวเองทันที : “ไม่สิ ทำไมฉันจะต้องฟังคุณด้วย นี่มันแปลกๆ นะ ?”

ตอนที่พูดประโยคนี้ออกไป ใบหน้าขาวนวลเนียนของกู้ชิงหยิ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำอย่างรวดเร็ว

เฉินตงยิ้มอย่างประหลาด แล้วถามกลับว่า : “แล้วคุณนอนอิ่มหรือยัง ?”

กู้ชิงหยิ่งรู้สึกเขินจนหน้าแดง เธอตอบอะไรไม่ถูกอยู่พักใหญ่

นอนอิ่มแล้ว นอนอิ่มแล้วจริงๆ

แต่แววตาของเฉินตง แสดงให้เห็นชัดเจนว่า คำว่านอนอิ่มแล้วนั้นมีความหมายอื่นแฝงอยู่

ในที่สุด กู้ชิงหยิ่งก็ทำท่าทางทะเล้นออกมา แล้วรีบเด้งตัวลุกขึ้นจากอ้อมแขนของเฉินตง : “ไปล่ะ ลงไปกินข้าวข้างล่างแล้ว”

เฉินตงหัวเราะร่าออกมา แล้วลุกขึ้นเพื่อลงไปด้านล่าง โดยมีกู้ชิงหยิ่งคอยประคองลงไป

เสียงโทรทัศน์ดังก้องอยู่ภายในห้องรับแขก

หลี่หลาน ท่านหลง และฟ่านลู่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่

“แม่ครับ อาหารทำเสร็จรึยังครับ ?” เฉินตงเอ่ยถาม

“ทำเสร็จแล้ว ทำเสร็จตั้งนานแล้ว แต่กลัวจะรบกวนเวลาพักผ่อนของลูกก็เลยไม่ได้ขึ้นไปเรียก” หลี่หลานพูดไปพลางยิ้มไปพลาง

ทั้งครอบครัวนั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน

จู่ๆ หลี่หลานก็ถามขึ้นมาว่า : จริงสิ คุณหลุนไปไหนเสียแล้ว ? ทำไมช่วงที่ตงเอ๋อไม่กลับบ้าน เขาเองก็ไม่ได้กลับมาด้วย ?”

เฉินตงผงะไปชั่วครู่

อาหารบาดเจ็บของคุนหลุนและกูหลังก็ไม่ต่างอะไรจากเขานัก

ดังนั้นตอนที่ออกจากโรงพยาบาล เขาจึงกำชับทั้งสองคนให้อยู่รักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลให้หายดีเสียก่อน แล้วค่อยออกจากโรงพยาบาล

“คุณผู้หญิง คุนหลุนมีธุระต้องกลับไปทำที่ตระกูลเฉินครับ” ท่านหลงรีบตอบแทนทันที

หลี่หลานพยักหน้า และไม่ได้ถามอะไรต่อ

เฉินตงหันมองท่านหลงด้วยความตื่นเต้น จากนั้นบรรยากาศจึงกลับมาคึกคักอีกครั้ง

ขณะที่กำลังรับประทานอาหาร

จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเฉินตงก็ดังขึ้น

เป็นเบอร์ของฉินเย่โทรเข้ามา

เฉินตงอึ้งไปสักครู่ เวลานี้ไอ้หมอนั่นควรจะยุ่งอยู่ไม่ใช่หรือ ?

เขารับสายโทรศัพท์ด้วยความสงสัย

ขณะที่เพิ่งรับสาย

ปลายสายก็มีเสียงของฉินเย่ดังตะโกนออกมา

“ช่วยด้วย เฉินตง ช่วยฉันด้วย……”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ?” เฉินตงหน้าถอดสี น้ำเสียงฟังดูตื่นตระหนกขึ้นมา

พวกของหลี่หลานเองก็เงียบเสียงลงทันที

มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในโทรศัพท์

จากนั้นเสียงของฉินเย่ก็อ่อนแรงลง

“ช่วยด้วย พวกมัน พวกมันมาแล้ว พวกมันจะ จะฆ่าฉัน ! ฉันอยู่ที่……”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset